เที่ยวปักกิ่ง3
เที่ยวปักกิ่ง2 คลิกที่นี่
วันที่ 3 วันนี้ต้องพิชิตกำแพงเมืองจีน กินข้าวเช้าที่โรงแรม ไลน์อาหารเหมือนเดิมเด๊ะ สงสัยตัวเองเหมือนกัน ว่าทำไม ไม่ถ่ายภาพไลน์อาหารมาบ้าง คงเพราะไม่อยากกินเลยไม่ถ่ายดีกว่า กินแบบเดิม คือ ไข่ต้มซี่อิ๊ว 2 ฟอง มันม่วงหัวเล็กๆกลมๆ 1 หัว ไหลบัว 2 ชิ้น ผัดผักกาด และผัดหมี่นิดหน่อย น้ำเต้าหู้ร้อนๆ กาแฟ น้ำส้มร้อน ผลไม้มีแอปเปิ้ล มะเขือเทศลูกเล็ก และสาลี่ หยิบมาอย่างละ3ชิ้น ขนมปังปิ้งทาเนย 1 ชิ้น
ออกเดินทาง 8.30 น. ไปกำแพงเมืองจีน อากาศวันนี้ 14 องศา ไม่หนาวเพราะแดดแรงมาก ขึ้นทางด่านจวีหยงกวน ตอนเช้า ทัวร์ยังไม่ค่อยมา ขึ้นสบายถ่ายรูปไปเรื่อยๆ เดินไปพักไป ไม่โหม ไม่ทุ่ม เพราะรู้กำลังตัวเองดี ได้แค่ 2 ป้อม จอดสนิท ด้วยจำกัดเรื่องเวลาแค่ 1 ชั่วโมง..โวะ ใครจะอยากรีบขึ้นรีบลงให้หัวใจวาย
เริ่มต้นยังสวยอยู่ สบายๆ อากาศเย็นๆ คนยังไม่แยะ ทัวร์ยังไม่เข้า
เอาละ ถึงสูงชัน ต้องแหงนคอ เริ่มไม่สนุกแระ
ขอยืนหลบทำสวย ว่าไม่เหนื่อยก่อน แล้วก็ปีนต่อไป
อีกนิดเดียวเองน่า..ไป
และแล้วได้ขึ้นมาถึงป้อมแรกแล้ว ขอนั่งหอบแฮ่กสักแป๊บ ตากล้องประจำตัวเขาเก่ง เพราะขี่จักรยานขึ้นเขาลงเขาทุกเช้าเย็น เดินขึ้นเฉยเลย ไม่หอบหมา เราขี่แค่ 12 กิโลก็หอบขึ้นตาแระ บางช่วงเลยต้องคลานเอา...เว่อร์น่า แต่จริง
อยากไปถึงเก๋งจีนนี้แหละ แต่....เฮ้อ!!!!หมดสภาพ เพราะเวลาจำกัด จึงต้องหันหลังกลับลงมาถ่ายวิวข้างล่างดีกว่า
อยู่ไกลกันคนละฝั่ง ต่างยิงภาพใส่กันไป
โน่น คุณตากล้องเขาอยู่บนหอคอย
ลงมาหากาแฟกินที่ร้านเชิงกำแพง รสชาติไม่อร่อย แต่ก็ดีกว่าไม่ได้กิน
ไปกินข้าวเที่ยงกันก่อน ระหว่างทางเก็บภาพบนรถ อนุสาวรีย์ของ หลี่จื้อเฉิง
อาหารเกือบทุกมื้อ จะประมาณนี้ ต้มแป้งเปียกใสๆในชามกลางนั่นไม่มีใครแตะ เป็นหนที่2เลยสักคน ครั้งแรก ชิมแล้ววางแผล่ะทุกคน แต่มีมาทุกมื้อ มีที่กินได้คือหมูพะโล้มีผักกาดเค็มๆผสมเต้าเจี้ยวรองมาข้างใต้ อร่อยสุดแล้วละ จะว่าอาหารเมืองเขาไม่อร่อยก็พูดไม่ได้ บ้านใครก็บ้านใคร เราไปเมืองเขาก็ต้องกินอย่างเขา (แต่เรากินไม่ค่อยได้ มันไม่อร่อยสำหรับเราเลยอ่ะ..)
ไกด์พาแวะร้านเซรามิคอีกแล้ว เอาเข้าก็เข้า ไงๆก็ต้องเข้าเพราะเป็นร้านเดียวกับร้านอาหาร อาหารชั้นบน เซรามิคชั้นล่าง
ไม่น่าเรียกเซรามิค เพราะทำด้วยทองแดง แล้วจึงเขียนลายด้วยมือเคลือบทับลงยา ไม่แตกและเบาดี ดูเซรามิคเสร็จไปต่อกันที่สวนสตรอเบอรี่ ไกดืหารายได้อีกตามเคย ค่าเข้า คนละ 10หยวน เก็บได้คนละ 6 ลูก คุ้มแระ ลูกโตๆหวานฉ่ำ กินได้ใจมาก
แบบกล่องขาย 50หยวน ไม่แพง
ดอกผักกาดสวยดี
ล้างแล้วกินหมดภายในเวลาแป๊บเดียว อืม...ฉ่ำ
ไปต่อที่สุสานราชวงศ์หมิง "หมิงสือซานหลิง" เป็นสุสานหลวง ที่เก็บพระศพจักรพรรดิ 13 พระองค์ จาก 16 พระองค์ ที่นี้เราเข้าไปดูแค่สุสานเดียว โลงพระศพทุกอย่างล้วนทำขึ้นใหม่ ยกเว้นอุโมงค์ และประตูหินอ่อนหนาหนัก ทรัพย์สมบัติไม่เหลือให้ดูแล้ว เสื้อผ้ารองเท้าของศพเปื่อยยุ่ยเป็นผุยผงหมด มีให้ดูแต่วิดิโอ เราต้องเดินลงๆๆๆๆๆไปสัก5ชั้น แล้วก็ขึ้นๆๆๆๆๆๆ เดินไปก็นึกไป....คืนนี้สลบแน่ตรู
ระหว่างทางขึ้น มีต้นสนเอนลงมา เขาก็เว้นที่ไว้ให้ไม่ตัดโค่น
มองออกไปไกลลิบ รอบๆนั้นคือสุสานทั้งหมด อยู่ไกลกันแต่ละแห่ง
สิ่งของเครื่องใช้ทองคำส่วนหนึ่งจากสุสาน แสดงอยู่ในนี้
หมดสิ่งที่จะดู ก่อนก้าวเท้าออกจากประตู มีเคล็ดลับให้ หญิงก้าวซ้าย ชายก้าวขวาข้ามธรณีประตูออก แล้วพูดว่า กลับบ้านแล้วนะ ไม่ได้อยู่ที่นี่
ลานจอดรถแถวนั้นมีร้านขายผลไม้แห้ง สด เพื่อนซื้อแอปเปิ้ล เลือกลูกดีๆ แม่ค้าเอาไปใส่ถุงให้หลังแผง แต่พอรับถุงมา ผลไม้เน่า บางลูกเจอมีเฉือนแหว่งไปก็มี เพื่อนโวยวายขอเปลี่ยน เอาลูกใหม่ แล้วตั้งให้เห็นๆ จับใส่ถุงเอง แม่ค้าฟึดฟัดจะไม่ให้เปลี่ยน แต่เรามีหลายคน เลยต้องให้เปลี่ยน ....เวรกรรมจริงๆ มีทุกที่ ดีนะอ่านเรื่องแบบนี้ ก่อนมาเที่ยว เลยไม่ต้องกินแอปเปิ้ลเน่าในราคาแพง เจ้านี้แหละ แย่สุด
จากจุดนี้แวะไปกินอาหารเย็น เมนูเดิมๆ เริ่มนั่งมองและเขี่ยๆเอาแล้ว บางคนไม่กินเลย งัดเอาน้ำพริกตะไคร้ น้ำพริกปลาร้ามาคลุกข้าวกิน
จบทริปที่ได้เที่ยวครบ 3 วัน วันพรุ่งนี้ไปแวะร้านขายหมอนที่นอนยางพาราอีกแล้ว ที่บ้านเรามีกะเอ..จะเอาแบบไหน ยางก็ปลูกเอง วัสดุก็ผลิตเอง บ้านเมืองเขาปลูกยางได้ซะที่ไหน...เฮ้อ ไกด์ยังจะพาไปดูอีก แต่ก็มีคนซื้อจนได้ แล้วไปเดินดูเดินซื้อของเลียนแบรนด์ที่ตลาดรัสเซีย เราไม่ซื้อเด็ดขาด เดินดูได้ ของก็เหมือนๆกันไปหมดเกือบทุกร้าน รถบัสไปส่งที่สนามบินช่วงบ่ายแก่ๆ หลังกินข้าวเที่ยงแล้ว พอขนกระเป๋าลงจากรถ มีลูกค้าหากระเป๋าเดินทางตัวเองไม่เจอ เอาละซิ เกิดเรื่องโกลาหลอีกแระ ถามไปถามมา หวังพึ่งหัวหน้าทัวร์ให้ช่วยลากให้ แต่หัวหน้าทัวร์ก็พะรุงพะรังหอบกระเป๋าของตัวเอง เต็มแขนเต็มมือ บอกให้ลูกทัวร์ช่วยลากไปที่รถบัสเพื่อจะให้คนขับเอาขึ้นให้ แต่ลูกทัวร์คงไม่ได้ยิน เลยเดินขึ้นรถโดยมิได้ดูแล กระเป๋าตอนที่คนขับเอาขึ้น จึงตั้งค้างอยู่ที่ล็อบบี้นั่นเอง เดือดร้อนไกด์ต้องประสานโรงแรมและให้แท็กซีเอามาส่ง ใช้เวลาจากโรงแรม 40นาทีกว่าที่เดียว เสียค่าแท็กซี่ไปโขอยู่ เรื่องนี้สอนให้รู้ว่า จงดูแลทรัพย์สมบัติของตนเอง อย่าให้เป็นภาระคนอื่น เพราะทุกคนล้วนมีภาระแล้วทั้งนั้น
สวัสดี
Create Date : 21 มีนาคม 2562 |
Last Update : 22 มีนาคม 2562 13:36:36 น. |
|
13 comments
|
Counter : 1569 Pageviews. |
|
|
|
|
ผู้โหวตบล็อกนี้... |
คุณไวน์กับสายน้ำ, คุณSai Eeuu, คุณhaiku, คุณสายหมอกและก้อนเมฆ, คุณสองแผ่นดิน, คุณSweet_pills, คุณธนูคือลุงแอ็ด, คุณmcayenne94, คุณสันตะวาใบข้าว, คุณภาวิดา คนบ้านป่า, คุณเกศสุริยง, คุณหอมกร, คุณtuk-tuk@korat, คุณเรียวรุ้ง |
โดย: mcayenne94 วันที่: 22 มีนาคม 2562 เวลา:19:25:50 น. |
|
|
|
โดย: สองแผ่นดิน วันที่: 22 มีนาคม 2562 เวลา:23:00:24 น. |
|
|
|
โดย: Sweet_pills วันที่: 23 มีนาคม 2562 เวลา:0:03:00 น. |
|
|
|
โดย: Kavanich96 วันที่: 23 มีนาคม 2562 เวลา:3:24:48 น. |
|
|
|
โดย: mcayenne94 วันที่: 23 มีนาคม 2562 เวลา:10:49:37 น. |
|
|
|
โดย: เกศสุริยง วันที่: 25 มีนาคม 2562 เวลา:9:09:52 น. |
|
|
|
โดย: หอมกร วันที่: 26 มีนาคม 2562 เวลา:8:12:50 น. |
|
|
|
โดย: เรียวรุ้ง วันที่: 26 มีนาคม 2562 เวลา:12:07:04 น. |
|
|
|
| |
เห็นภาพแล้ว น่าทึ่งที่เขาสร้างกำแพงได้สูงยาว ไกลขนาดนั้น
ถ้าเป็นผมคงต้อง หยุดถ่ายภาพบ่อยหน่อย คนจะได้ไม่สงสัย ฮ่า