เป็นธรรมเนียมของการเขียนบล็อกของผม ถ้าเปลี่ยนปี

ก็จะต้องเปลี่ยนกลุ่มบล็อกใหม่ จะได้อัพเดทแยกเป็นปีๆ ไป

สำหรับใครที่เพิ่งมาเจอผมในบล็อกนี้ และสนใจอยากจะฝึก

เคนดามะ ก็สามารถย้อนกลับไปศึกษาได้ในกลุ่มบล็อก

"ยอดนักเสียบ 2017" ผมได้รวบรวมข้อมูลต่างๆ เกี่ยวกับ

เคนดามะ รวมทั้งวิธีการฝึก ตั้งแต่ท่าพื้นฐาน จนถึงท่าใน

ระดับกลาง พร้อมพาทำข้อสอบด้วย จนกระทั่งสอบได้

ระดับแดน 2

ในปี 2018 นี้ ผมก็จะอัพเดทการฝึกเคนดามะต่อ ในกลุ่ม

บล็อก "ตำบอล 2018" ต่อเนื่องจากปีที่แล้ว เพราะเรายัง

มีการสอบระดับแดน 3 รออยู่ และมีท่าที่น่าสนใจอีกมาก

มาย รอให้เราพิชิตมันให้ได้

ปกติ เวลาผมหาอะไรมาเล่น ก็อยากจะเล่นให้ได้ประโยชน์

และอยากมีเอกลักษณ์เป็นของตนเอง วิธีก็คือ เล่นไปด้วย

ทำคลิปไปด้วย เขียนบล็อกไปด้วย เปิดเพจขายไปด้วย (

แม้จะยังขายไม่ออกก็ตาม) ก็จะทำให้เรามีกำลังใจในการฝึก

ชื่อ "ยอดนักเสียบ" ก็เป็นชื่อที่ผมชอบนะ มันสื่อถึงการเล่น

เคนดามะได้ดี เพราะหัวใจสำคัญของเคนดามะคือการเสียบ

แต่ชื่อ "ยอดนักเสียบ" ค่อนข้างมีคนใช้พอสมควร อาจจะ

ใช้ในเชิงสองแง่สองง่าม และก็มีใช้ในเชิงการเกษตรด้วย

(ประมาณติดตา ทาบกิ่ง เสียบยอด ทำนองนั้น) เท่าที่ผม

หาๆ ดูในโลกออกไลน์ ชื่อนี้จึงยังไม่เป็นเอกลักษณ์พอ

เนื่องจากเคนดามะมันมีหนาม แล้วคำกิริยาของหนาม

ก็คือมี เสียบ แทง ทิ่ม ตำ ทำนองนี้ ผมเคยคิดจะใช้ชื่อ

"แทงบอล" แต่ว่ามันมีคนใช้เยอะมาก ในเชิงการพนัน

เลยไม่น่าจะเหมาะเท่าไหร่

จึงมาลงที่ "ตำบอล" เออ ผมว่ามันเป็นคำที่น่าจะเป็น

เอกลักษณ์ของเราได้ ไม่ซ้ำกับใคร ฟังดูก็ไทยๆ บ้านๆ ดี

เพราะผมอยากได้ชื่อไทยๆ อยู่แล้ว ให้คนไทยได้เข้าถึง

เนื่องจากยังไม่มีคนไทยที่ทำเรื่องเคนดามะแบบละเอียด

มาก่อน ผมก็จะได้เป็นคนทำ ถึงแม้จะเล่นไม่เก่ง ก็เน้น

โม้เอาครับ

คนเจอครั้งแรกก็อาจจะงงๆ "ตำบอล" มันจะคล้ายๆ ส้มตำ

หรือเปล่า ตำไทย ตำลาว ก็ไม่ใช่ มันคล้ายๆ คำด่าด้วย

"ระยำตำบอน" แต่ของเราคนละบอน ก็ขำๆ ดี ที่มาของมัน

ก็คือ หนามของเคน ตำเข้าที่บอลนั่นเองครับ

ผมก็เลยใช้ชื่อ "ตำบอล" เป็นเอกลักษณ์ของตนเอง และทำ

เป็นโลโก้ของเพจ "ตำบอลบริการ" ด้วย อย่างน้อยๆ ก็ได้

เป็นส่วนหนึ่งวงการเคนดามะไทย

และแน่นอนครับ เรายังต้องกระหน่ำตำบอลกันต่อ เพราะหนทาง

ยังอีกยากไกล ถึงแม้จะหมดการสอบระดับแดนแล้ว ก็ยังมีท่า

ต่างๆ ที่ยากๆ รอเราอยู่อีกมากมาย ผมก็เป็นตัวแทนคนธรรมดา

ที่จะลองดูว่า เราจะสามารถฝึกไปได้ถึงขั้นไหน

เป้าหมายต่อไปของผม คือการสอบในระดับแดน 3 ตามตาราง

ดูๆ ไปแล้ว จะมี 3 ช่องที่ต้องฝึกเพิ่มจากระดับแดน 2 นั่นคือ

1) ท่าเครื่องบินหมุนตก (1 Turn Aeroplane)

2) ท่าประภาคารหมุนตั้ง ( 1 Turn Lighthouse)

3) 10 กระบวนท่าทำไว (Speed Trick B)

ซึ่งผมจะกล่าวในรายละเอียดต่อไป พร้อมพาฝึก ส่วนท่าเดิมที่

เราฝึกไว้แล้ว ก็ยังได้ใช้ต่อไป แต่เอาปริมาณให้มากขึ้น ตาม

ตารางที่ผมจะตัดออกมาให้ดูง่ายๆ ดังนี้ครับ

ในการสอบระดับ แดน 3 และ 4 ใช้ท่าเหมือนกัน ต่างที่ประมาณอีกแล้ว

จะสอบแดน 4 เลยก็ได้ แต่ผมว่าสองระดับนี้ยากต่างกันอยู่ เพราะ

Speed Trick B ที่มีเวลาบีบ และท่าจับปากกาเดาะบอล ที่จำนวนการ

เดาะต่างกันถึง 500 ครั้ง ผมจึงมองว่า สอบแดน 3 ก่อนน่าจะเหมาะกว่า

แต่ในทางปฏิบัติจริงๆ เวลาไปสอบ ผมเชื่อว่าทุกคนยื่นขอสอบแดน 4

อยู่แล้วครับ ส่วนจะไปพลาดตรงไหน ก็ค่อยว่ากัน อาจจะพลาด แล้วยัง

เหลือโอกาสพอให้ได้รับยศแดน 3 ก็ได้

เช่นใน 10 ท่าแรก เราทำได้ตามเป้าที่เขากำหนดของแดน 4 ภายใน

โอกาส 10 ครั้งที่เขาให้ แต่อาจจะมาพลาดใน Speed Trick B ใช้เวลา

เกิน 60 วินาที แต่ไม่เกิน 120 วินาที ก็ยังเหลือได้ลุ้นติดยศแดน 3 เป็นต้น

แต่ถ้าสอบๆ ไปแล้ว ทำได้ไม่เข้าเป้าตามที่แดน 3 กำหนด ก็คือสอบตก

ก็ต้องมาสอบใหม่ โดยเริ่มใหม่แต่ต้นเช่นเคย

ดูๆ ไปแล้ว มีโอกาสเป็นไปได้ครับ ที่ผมจะสอบผ่านแดน 3 และ 4 ได้

แล้วเจอกันบล็อกต่อไปครับ กับบทที่ 19 ของการตำบอล