|
|
|
| 1 | 2 | 3 | 4 | 5 | 6 | 7 |
| 8 | 9 | 10 | 11 | 12 | 13 | 14 |
| 15 | 16 | 17 | 18 | 19 | 20 | 21 |
| 22 | 23 | 24 | 25 | 26 | 27 | 28 |
| 29 | 30 | |
|
 |
|
|
พยากรณ์อากาศ (หลักความสมมาตร) ลงวันที่ 28 กันยายน 2562 |
|
28กันยายน2562แรม15ค่ำเดือน10 มาคุยเรื่องของอากาศช่วงนี้กัน ว่ามันยังเป็นไปตามความสมมาตรอยู่ไหม ก่อนอื่นก็ต้องขออภัยที่วิเคราะห์อากาศช่วงนี้ผิดคาดเอามากๆ แต่การมาของความกดอากาศสูงผมไม่พลาด มาพลาดตรงที่ผลต่อเนื่องที่ตามมาของการมาของความกดอากาสูงเท่านั้นแหละ เพราะว่าปกติครับ ที่เดือนกันยายนความกดอากาศสูงแผ่ลงมาในช่วงนี้ มันจะต้องสร้างฝน อย่างน้อยมันก็ต้องมีฝนตกสั่งลา มีฟ้าร้องสั่งฟ้ากันบ้างละ แต่ดูเหมือนว่าลมมรสุมชุดนี้มันแน่มาก สามารถพัดทะลุท่ามกลางแสงแดดตั้งฉากเหนือประเทศไทย โดยไม่ได้เกรงอกเกรงใจ เส้นทางเดินของดวงอาทิตย์เลยแม้แต่น้อย สิ่งที่ผมสงสัยตอนนี้คือ ทำไมพลังงานจากรังสีของดวงอาทิตย์ ช่วงของระหว่างกลางเดือนกันยายนเป็นต้นมา ทำไมมันมีพลังที่น้อยลง จุดดับบนดวงอาทิตย์ มันกำลังเกิดขึ้นหรือหันหน้าทำมุมกับพื้นโลกของเราใช่หรือไม่ .....
ทำไมผมถึงสนใจเรื่อง จุดดับ จุดเจิดจ้า และการระเบิดบนดวงอาทิตย์ คำตอบคือเพราะมันส่งผลต่อบรรยากาศบนพื้นผิวของโลกเราซิครับ เช่นลมที่มันพัดหมุนเป็นไซโคลนิก หรือลมที่พัดหมุนทวนเข็มนาฬิกาในซีกโลกเหนือ ที่ระดับความสูง5กิโลเมตรหรือ500Hpa ปกติแล้วลมที่มันสามารถพัดหมุนทวนเข็มนาฬิกาได้ มันจะต้องเป็นอากาศที่ร้อนชื้นทำให้เกิดความกดอากาศต่ำและยกตัวขึ้นในแนวดิ่ง แล้วหมุนทวนเข็มนาฬิกายกขึ้นไปสูงระดับความกดอากาศที่เท่ากัน กับบรรยากาศด้านบน แต่มีใครสงสัยเหมือนผมหรือไม่ว่า ในบรรยากาศที่มีความสูง5.5กิโลเมตร เกิดลมหมุนทวนเข็มนาฬิกานั้น มันได้รับพลังงานความร้อนมาจากแหล่งไหน... ดังนั้นแหล่งพลังงานที่ผมสงสัยมาตลอด นั้นคือพลังงานที่มาจากดวงอาทิตย์ อย่างเช่นมีการระเบิดบนดวงอาทิตย์ ทำให้ เกิดพายุสุริยะมีรังสีแกมมา ที่มีพลังงานสูงมากเดินทางข้ามอวกาศ มายังโลกของเรา ในชั้นบรรยากาศของโลกเรา มันจะประกอบด้วยไอน้ำเป็นส่วนประกอบ ที่มันมีความสามารถ ในการกรองรังสีแกมมาไว้ เพราะรังสีแกมมามันเป็นอันตรายต่อสิ่งมีชีวิตบนพื้นโลก ดังนั้นเมื่อรังสีแกมมา เข้ามาชนกับชั้นบรรยากาศ ที่มีไอน้ำในชั้นบรรยากาศ ไอน้ำมันจะช่วยดูดซับรังสีแกมมา ให้เปลี่ยนสภาพไป จากที่มีคลื่นความถี่ที่สูง(สั้นมาก) ให้เหลือความถี่ที่ต่ำลง(หรือยาวขึ้น) เหลือเพียงแค่คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าที่วิ่งสวนกันไปมาในชั้นบรรยากาศ ซึ่งมันจะมีความเข้มที่ขั้วโลกเหนือใต้ การเกิดลมกรด ที่พัดเหนือละติจูดที่30องค์ศา เหนือใต้ ลมที่พัดเป็นไซโคลนิก ในบรรยากาศชั้นกลาง ผมคิดว่า เกิดจากรังสีแกมมาที่มาชนกับบรรยากาศโลกที่ใช้กรองรังสีอันตรายที่ข้ามอวกาศจากนอกโลกมาสู่โลก ของเรา ถ้าหากโลกของเราไม่มีชั้นบรรยากาศช่วยดูดซับรังสีที่อันตราย อย่างรังสีแกมมานี้ไว้ โลกเราจะไม่มีสิ่งที่มีชีวิตเหลืออยู่บนโลกใบนี้เลย
ไหนๆก็พูดถึงเรื่องรังสีแกมมา ผมอยากตั้งข้อสมมุติฐานการสูญพันธ์ของไดโนเสาร์เอาไว้ ในเรื่องของการทะลุมาของรังสีแกมมาจากนอกโลก ผมยังนึกว่าการสูญพันธ์ของสัตว์พวกนั้นน่าจะมาจากะทบที่รุนแรงจากพายุสุริยะหรือเกิดการพุ่งชนที่ทำให้บรรยากาศของโลกสามารถกรองรังสีที่เป็นอันตรายไว้ได้ กรองไว้ไม่หมด เพราะมันเป็นการมาแบบพายุ จึงทำให้สัตว์และสิ่งมีชีวิตบนโลกตายหมด รังสีแกมมา มันมีคุณสมบัติอีกอย่างที่หลายคนอาจยังไม่รู้ มันสามารถเปลี่ยนแปลงโครงสร้างด้านพันธุกรรมได้ด้วย พูดง่ายคือ ทำให้เกิดการกลายพันธ์นั้นเอง ทางการแพทย์เขาใช้ในการฆ่าเซลมะเร็ง ใช้ฉายรังสีในการถนอมอาหาร เก็บอาหารไว้นาน ผมว่าชักเลอะเทอะแล้ว กลับ มาว่ากันต่อเรื่องถามว่า ทำไมบรรยากาศชั้นกลาง ต้องหมุนเป็นไซโคลนิกด้วย เพราะว่าไอน้ำมันสามารถกรองรังสีแกมมา ดูดซับ แปลงคลื่นที่ความถี่สูงให้กลายเป็นคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าที่มีความถี่ต่ำ เมื่อรังสีแกมมามีจำนวนมาก มันจึงทำให้การหมุนทวนเข็มของบรรยากาศชั้นกลางแรงขึ้น เมื่อมันมีการพัดวนที่แรงขึ้นมันจึงดูด ไอน้ำจากอากาศที่อยู่พื้นผิวไปเสริม เพื่อให้มันมีจำนวนไอน้ำ ที่เพียงพอต่อการป้องกันและกรองรังสีที่มาจากนอกโลก เพื่อปกป้องโลกของเราไว้ นี้คือระบบป้องกันของโลกเรา สิ่งที่ได้จากระบบป้องกันภัยทางอากาศของโลก นั้นก็คือการเกิดฝนนั้นเอง ผมว่าวันนี้ผมโม้เยอะไปครับ และเหตุผลที่ผมคิดไว้และตั้งสมมุติฐานขึ้นมาเอง จะผิดหรือถูก ผมไม่ใช่นักวิทยาศาสตร์ เป็นเด็กเลี้ยงควายจบแค่ชั้นประถม ผมหวังว่าคงไม่มีใครถือสา ให้คิดเสียว่าเป็นการพราม ของคนที่มีความคิดไม่สมประกอบก็แล้วกัน สมมุติว่าข้อสมมุติฐานของผมเป็นจริงขึ้นมา เราจะพบอะไรใหม่ๆอีกเยอะแยะเกี่ยวกับการพยากรณ์อากาศ เพราะทฤษฎีจับคู่หาสัญญาณความสมมาตรของอากาศที่ผมค้นพบ มันเกี่ยวข้องกับ การเกิดเหตุกาลบนพื้นผิวบนดวงอาทิตย์ ถ้าเราเปรียบดวงอาทิตย์ เป็นประหนึ่งดั่งไมโครชิป ที่เก็บข้อมูลและโลกเราก็คือตัวแปลสัญญาณของข้อมูล ดังนั้นการเกิดสภาวะอากาศที่เกิดขึ้นทุกวันๆๆส่งมาจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นบนดวงอาทิตย์
การที่ลมเย็นจากประเทศจีนมันสามารถอวดกำแหง ยึดครองพื้นที่ภูมิอากาศเขตร้อน ทั้งที่ไม่ใช่ช่วงของมัน ผมว่ามันเกิดอะไรบางอย่างขึ้นบนพื้นผิวของดวงอาทิตย์ ผมเคยอ่านบทความหนึ่งนะ แต่จำไม่ได้ว่ามาจากแหล่งไหน ที่บอกว่าโลกของเรากำลัง เดินทางเข้าสู่ภาวะหลับไหล เพราะจุดดับบนดวงอาทิตย์เริ่มขยายใหญ่ขึ้น ทำให้พลังงานที่มายังโลกของเราลดน้อยลง หมายถึงว่ารังสีแกมมา ที่มาสร้างความร้อนในชั้นบรรยากาศเรา ลดน้อยถอยลงไป สิ่งที่นักวิทยาศาสตร์คาดเอาไว้คือ โลกเราจะกลับเข้าสู่ยุคน้ำแข็งเล็กๆอีกครั้ง ซึ่งมันจะส่งผลให้อากาศในฤดูหนาวจะกลับมาหนาวเพิ่มสูงขึ้น ผมมองว่าเหตุผลที่เขาว่ามามันน่าเชื่อถือ
มาคุยกันเรื่องลมฟ้าอากาศกันต่อ คุยเรื่องไม่เป็นเรื่องที่หลายคนอาจรำคาญ นึกหมั่นไส้ในความขี้โม้ ทำโง่อวดฉลาดแต่ปราชญ์ป.4 ผมมองว่าไม่ดี แต่ไม่น่าอาย เพราะการเป็นคนไม่ได้เรียนสูง ถึงพูดผิด คงไม่มีใครถือสา ไม่ใช่เรื่องที่น่าอาย หรือจะต้องมาขอโทษมากมาย เพราะคุยแบบเท่าที่รู้ และความรู้เท่าที่มี ที่นำมาพูดคือพูดในสิ่งที่ไม่มีใครคิดถึงหลักเหตุผล ที่มันจะมามีผลกระทบต่อดินฟ้าอากาศไง ผมวิจัยมาด้านนี้ผมมีสิทธิตั้งข้อสงสัย เลยมีสิทธิในการนำเสนอ แนวคิด ถ้าผมไม่คิดแนวทางแบบนี้ ผมไม่สามารถหาคำอธิบายได้เลยว่า การพยากรณ์แบบจับคู่ตามทฤษฎีความสมมาตรมันเกิดขึ้นได้อย่างไร เราต้องหาทฤษฎีและคำอธิบายไว้รับรอง ในสิ่งที่เราเชื่อว่ามันเกิดขึ้นจริง เพราะมันเป็นอย่างงี้ๆๆๆ แล้วมันจะเกิดอย่างงั้นๆๆๆ ผมว่าหากจะมีคนมาตามพิสูจน์ในสิ่งที่ผมพูด คงใช้เวลาหลายสิบปี แต่ผมไม่รอให้ใครมารับรอง ผมสามารถนำสิ่งที่ผมคิดมาใช้งานได้เลย ไม่มีการมัวรอการพิสูจน์ เพราะมันไม่ทันการ หาคนมาพิสูจน์ตามหลังก็แล้วกัน อย่างไอสไตน์ ทฤษฎีถูกยอมรับภายหลัง แรกๆไม่มีใครเชื่อสิ่งที่เขาพูด
ตอนนี้กำลังมีพายุก่อตัวทางด้านตะวันออกของหมู่เกาะประเทศฟิลิปปินส์ ปกติครับ ทุกๆปลายเดือนที่ผ่านมา พายุที่เกิดมาในช่วงนี้ มันมีเส้นทางเข้ามาทางประเทศไทยของเรา เพราะช่วงปลายเดือนของทุกเดือนเหมือนมันมีความสมมาตรกัน มันจะมีการหมุนของลมบรรยากาศชั้นกลาง พัดเป็นแอนตี้ไซโคลนิก หรือการพัดหมุนตามเข็มนาฬิกาของซีกโลกเหนือ ด้านทะเลญี่ปุ่น ทำให้พายุหมุนเขตร้อน ที่เกิดปลายเดือนชนต้นเดือน มีทิศทางเข้าสู่ประเทศไทย เช่น พายุมูนในช่วงปลายเดือนมิถุนายน พายุวิภาในช่วงปลายเดือนกรกฎาคม พายุโพดุลในชาวงปลายสิงหาคม พายุที่กำลังก่อตัวลูกนี้ที่กำลังเกิด สังเกตครับ มันจะมีลมที่พัดเป็นแอนตี้ไซโคลนิก รูปแบบคล้ายกัน เป๊ะในช่วงความสมมาตรของปลายเดือน แต่แบบจำลองเขาไม่ให้มันมาไทยเลยสักแบบจำลอง เขาให้มันออกทะเลญี่ปุ่นกันทุกค่ายพยากรณ์ แต่ให้สังเกตครับ พายุทุกลูกที่มาทางไทย แรกๆแบบจำลองค่ายไหน ไม่ได้ให้ว่าจะมาทางนี้เลยสักค่ายเดียว จนใกล้ๆแล้วถึงจะเปลี่ยนแทคของพายุที่หลัง ผมว่าไม่แน่นะพายุนี้มันอาจมาตามหลักความสมมาตรที่เคยเกิดขึ้นมาตามโพดุล วิภา
มองขึ้นไปรู้สึกบทความเริ่มยาวแล้วผมว่าพอแค่นี้ก่อนวันนี้คงได้เนื้อหาที่หลายคนต้องการอยากจะทราบน้อยไปนิดนึง เพราะไปหลงอธิบายความคิดส่วนตัวเยอะไปหน่อย ใครคิดว่าจะอยากให้ผมเน้นเรื่องอะไร แนะนำมาได้ครับ ไม่ต้องเกรงใจ ผมตอบทุกคอมเม้น เรื่องขี้โม้ ไม่มีวันหมด เพราะผมคิดอะไรไว้เยอะแยะที่ไม่มีใครเขาค่อยคิดกัน บางที่อยากระบายออกๆๆไปบางจะได้ไม่รกสมอง555วันนี้พอเท่านี้ก่อนสวัสดี
| Create Date : 29 กันยายน 2562 |
| Last Update : 29 กันยายน 2562 17:19:01 น. |
|
0 comments
|
| Counter : 1209 Pageviews. |
 |
|
|
|
|
|
|
|
|
