No. 1176 เที่ยวแม่ขะจาน เชียงราย |
 |
บ้านแม่ขะจาน กับ บ้านแม่ห่างใต้ ตั้งอยู่ดอยสูงปานกลางมีถนนสาย 118 เชียงใหม่เชียงราย..พาดผ่าน.อากาศเย็น |
สบายตลอดปีตื่นมากลางคืนก็เช้ามืดกลับเย็นลงจนต้องดึงผ้านวมให้กระชับตัว |
ลืมตา รอบกายยังมืดมีเพียงแสงไฟจากชายคาบ้านสาดส่องเห็นในห้องเพียงลางเลือนเสียงรถยนต์วิ่งผ่านอย่างเร็วคงจะรีบ |
ไปเชียงรายกว่าร้อยกิโลเมตร และแล้วก็เงียบหายไป |
|
เสียงไก่ร้องจากหลังบ้านเป็นระยะนอนนึกถึง สภาพบ้านที่มาพักผ่อนเป็นบ้านติดถนนเลยตลาดแม่ขะจานสองกิโลเมตรกว่า |
หลักกิโลที่ 80 อยู่ในบ้าน แม่ห่างใต้ อ.เวียงป่าเป้า |
บ้านหลังนี้เห็นมาหลายสิบปี ปลูกตั้งแต่แถวนี้ยังไม่ค่อยมีตัวบ้านอยู่ลึกเข้าไปทำให้ได้ยินเสียงรถวิ่งเบาลง |
ฤดูฝนเช่นตอนนี้ มักจะมีหมอกปกคลุมท้องนาจนถึงตอนสาย เช้านี้กะว่าจะปั่นจักรยานเสือภูเขาลัดเลาะไปตามหมู่บ้าน |
ลุกล้างหน้าแปรงฟัน แต่งตัวกางเกงขาสั้นเสื้อ สวมหมวกปั่นจักรยานใส่ถุงมือหนัง |
เปิดประตูบ้าน เห็นแสงไฟที่ขายอาหาร เปิดสว่างเรืองรอง น้องชายกำลังเติมน้ำต้มน้ำลวกก๊วยเตี๋ยวปล่อยเขาเถอะ 555  |
อากาศยามเช้า มืด เย็นค่อนข้างมาก จูงเสือภูเขาไปอีกฝั่งขี่มุ่งไปทางเชียงรายคือ นักปั่นจักรยานจะขี่สวนทางกับรถยนต์ |
ก็เผื่อรถวิ่งถื่อเข้าใส่ จะได้หักหลบหนีลงข้างทาง  |
แต่ไม่ลืมเปิดไฟหน้า กับท้ายจักรยาน ไม่ได้ส่องสว่างอะไรมากนักเพียงแต่ให้พี่ใหญ่แห่งท้องถนนมองเห็นว่า น้องเสือตัวติ๊ด |
อยู่ข้างทางนะ หลบหน่อย......ฟ้าเริ่มสว่างเห็นชัดขึ้น |
 |
ปั่นไปได้กิโลเมตรกว่า ก็ถึง สี่แยก ขวามือไป บ้านเวียงกาหลง ถ้าเลี้ยวซ้ายไปบ้านป่าจั่น ถนนเส้นนี้เป็นถนนในหมู่บ้านสอง |
ข้างทางเรียงรายไปด้วย บ้านชาวบ้าน ตลอดทาง ส่วนใหญ่เป็นบ้านชั้นเดียวผสมปูนนิดหน่อยมีรั้วรอบขอบชิด |
ชาวบ้านกำลังสุมไฟอยู่ ลานบ้าน ไฟวับแวม ท่ามกลางหมอกบาง ๆ จนอด ลงถ่ายไม่ได้ |
ชาวบ้านเกิดจำได้ว่าผมเคยจ้างเขาไปทำงานไร่บนดอยทำไร่ขิงเมื่อหลายปีก่อนเลยหยุดคุยนานหน่อย อ้ายปันเปิ้น |
เลยยกป้านน้ำชาหอมจากดอยแม่สะลองมาให้จิบชาร้อน ๆ หอมคำว่า"เปิ้น" ภาคเหนือใช้แทนคำว่า "เขา" |
เช่นอ้ายปันเปิ้น |
แต่บางที ผมใช้พูดกับพี่ น้องว่า เปิ้นอยากกิ๋น ข้าวหนมเส้นก็หมายความว่า "ผมอยากกินขนมจีน" ใช้ได้ทั้งสองอย่าง |
คือใช้แทนตัวเองว่า "เปิ้น" ก็ได้ หรือเรียกบุคคลที่ 3 ก็ได้ |
ข้างหน้า จะมีมอไซค์ขี่สวนทาง บางทีก็มีคนปั่นจักรยานนำหน้าไปสู่ถนนผ่านท้องนา หมอกที่หนาเริ่มจางเห็นต้นข้าว.. |
น้ำในร่อง ไหล เอื่อย ๆ ทำความชุ่มชื้นแก่ต้นข้าว |
 |
เขาปลูกบ้านอยู่ห่างกันพอสมควรสองข้างทางมีน้ำร่องน้ำไหล ปั่นเข้าหมู่บ้านป่าจั่นผ่านท้องนา โรงเพาะเห็ด ลอมฟางสีเหลือง |
ตัดกับสีเขียวของต้นข้าว  |
หลังจากปั่นจักรยานมาได้เกือบ 5 กม.. อากาศที่เย็นไปทั่วท้องเหงื่อเริ่มซึม อบอุ่นผ่านตลาดที่ว่างเปล่า เขาเปิดตลาดเย็น  แสงตะวันสาดทะแยงมาสวย  ..  |
ปั่นเลยตลาดไปเกือบสองกิโลเมตรเห็นป้ายหมู่บ้านจัดสรรที่ร้างผู้คนหญ้าขึ้นปกคลุมเสาใหญ่ซุ้มประตูดูแล้วเศร้า |
จากการเก็งกำไรหรือ าดหวังจะไปพักผ่อนเป็นบางช่วงของชีวิตตามเศรษฐกิจเฟื่องฟู  |
ป่านนี้ เจ้าของโครงการณ์อาจะนอนไม่หลับ ธนาคารผู้ปล่อยเงินกู้ให้ลงทุนสร้างหมู่บ้านคงจะรอจัดจำหน่ายขายทอดตลาด  |
ข้างหน้าเป็นทาง หรือถนนดินแดงพรุ่งตรงไปสู่ผาสามเส้าคงจะยังอีกหลายกิโลเมตร |
มีคนที่ชักชวนชาวพุทธที่มีเงินไปซื้อที่ดินจับจองไว้โดยอาศัยวัดบางแห่งดำเนินการเจ้าอาวาสดู ๆ แล้วเห็นว่าไม่ใช่กิจ |
ของสงฆ์ไม่ชอบมาพากลจึงปฏิเสธมิให้เข้าวัดอีก... มีจำนวน 2 แห่งที่ผมทราบ...ท่านหนึ่งเล่าให้ผมฟัง  |
งั้นผมขี่จักรยานเลี้ยวซ้าย ไปตรงนี้ดีกว่าเห็นแผนที่ดาวเทียมเพื่อนบางคนอาจจะมองออกว่าเป็นถนนไปบ้านนักร้องดัง |
ผมไม่ได้ไปที่นั่นหรอกไม่รู้จักเป็นการส่วนตัวเพียงแต่ถนนที่ผ่านมีภูมิประเทศสวยงาม  |
ก็ผมจะพาไปดูบ้านป่าซางพัฒนา  |
สามศาลานี้เลยบ้านนักร้อง...มาแล้วเกือบ 300 เมตรอยู่ตรงถนนโค้งมีลำเหมืองกว้างประมาณ 3 เมตรมีน้ำไหลตลอด |
ฝั่งตรงข้ามเป็นไร่ข้าวโพด เลยไปอีกเป็นสวนลำใย |
|
ต่อจากนี้ก็ตรงดิ่งไปบ้านป่าซางพัฒนาเป็นถนนโค้งอีกแล้ว สองข้างทางเป็นท้องนาขวามือเป็นโรงเพาะเห็ด(อีกแล้ว) |
เยอะจริง ๆ ก็เห็ดแชมปิยอง  |
โรงเพาะเห็ดส่วนใหญ่จะมีหลังคาใช้หญ้าคา ผนังฟางข้าวสีเหลืองทองคล้าย ๆ กันเห็ดที่ว่าเรียกว่า เห็ดกระดุม..  |
พอเลยถนนโค้งนี้ไปแล้ว จะเริ่มมีบ้านชาวบ้าน แหะ ๆ ก็แหง..เนาะส่วนใหญ่เป็นไม้ชั้นเดียวหลังคามุงกระเบื้อง ฝาบ้านจะ |
ตัดมุม ไม่มีไม้โผล่โด่เด่ให้เห็น ฝีมือค่อนข้างดี |
 |
คนภาคเหนือมักจะปลูกบ้านน่ารักสวยมีรั้วไม้ไผ่หรือไม้จริงรอบตัวบ้านจะปลูกพืชสวนครัวเขียวสดใส |
ปั่นจักรยานไปเรื่อย ๆ แวะดูต้นพืชข้าวโพดสายน้ำไหลบ้านหลังนี้น่ารัก |
 |
ใกล้บ้านมีกอไผ่น้ำในลำห้วยไหลถนนจะลัดเลาะโค้งไปมาดูสงบสวย มีตุ๊เจ้าก็ภิกษุเดินบิณฑบาตมีเณร เดินล่วงหน้า |
เคาะกังสดารนำหน้าให้ชาวบ้านรู้ล่วงหน้าจะได้เตรียมอาหารไว้ใส่บาต  ...  |
ปั่นจักรยานไปได้เยอะเหมือนกันเหงื่อซึมและแล้วก็เป็นถนนเส้นตรงผ่านท้องนาสีเขียวจะบรรจบถนนหมายเลข 118 |
ไปตลาดสดแม่ขะจาน  |
ข้างหน้ายังคงเจอนาข้าวเขียวสายน้ำไหลรินมีบ้านชาวบ้านคงมีฐานะมีตังค์เยอะหน่อยปลูกเป็นตึกสีขาว |
เลยไปไม่มากจะเจอถนนสายแม่ขะจานไปเชียงรายเลี้ยวขวาประมาณ 300 เมตรก็ถึงตลาดสดแวะเข้าไปซื้อของหน่อย  |
นี่มีอาหารสำเร็จรูปขายอาหารสดแบบชาวบ้าน  ..  |
ข้างบนนี้เมี่ยงหมัก....ก็ใบชาชนิดหนึ่งชาวบ้านใช้อมจิบน้ำ...เขาจะซอยมะพร้าวแก่คั่วไฟหอมใส่ผสมน้ำส้มไปด้วยกินแทนชา  |
ขนมด้วงไปที่นี่ทีไรอดซื้อไปกินไม่ได้อร่อยกว่า พิซซ่า 555  |
พวกห่อหมก อ่องออ หมู เพื่อน ๆ รู้จักกันหรือเปล่าครับ อ่องออคือสมองหมูเขาทำเป็นห่อหมกอร่อยมาแต่ไม่ค่อยกล้ากิน |
ไขมันเยอะกินห่อหมกหรืองบกุ้งดีกว่า  |
ข้างบนนี่งบกุ้งฝอยแบบภาคเหนือ |
|
ที่ขาดไม่ได้ก็ข้าวเหนียวนึ่งร้อน ๆ นิ่ม 1 กก. กับพวกใส้อั่วแคบหมูน้ำพริกหนุ่มไก่ทอดเห็นแล้วทำใจมาเที่ยวภาคเหนือ |
น้ำหนักต้องขึ้นกลับ กท. ค่อยลดกว่า 2 กิโล หุ หุ  |
เสร็จแล้วก็ปั่นจักรยานไปที่บ้านน้องสาวก็ร้านก๊วยเตี๋ยวต้มยำพิษณุโลกนั่นแหละครับน่าจะไม่เกิน 2 กม.  |
ถนนหน้าบ้าน มี ร่องน้ำไหล หน้าบ้านเป็นแบบนี้ครับพนักงานสาวค่อนข้างท้วมนิด ๆ สงสัยน้องสาวผมจะเลี้ยงดีมั้งกำลัง  |
จัดการกวาดพื้นคัดผักทำหมูแดงคั่วถั่วพริก โอ้ยเยอะแยะไปหมด |
ส่วนผมรีบอาบน้ำอุ่น.. เตรียมกินข้าวเช้ากับน้อง ๆ...แล้ว ไปช่วยเขาทำงาน(บ้างนิดหน่อย) หุ หุ |
|
ขอบคุณเพื่อนผู้เอื้อเฟื้อภาพ (re 211) |
st ผู้เข้าชม 2,490,777. |
ขอบคุณเพื่อนผู้แวะมาเยือน กรุณาเม้นท์/ทิ้งร่องรอยนิด ผมจะได้กลับไปเยี่ยมตอบแทนถูกครับ |
|
Diarist |
|
อรุณสวัสดิ์ครับพี่ไวน์
เวลาไปบ้านมาดาม
ได้ขับผ่านแม่ขะจานทุกครั้ง
แต่ไม่มีโอกาสได้แวะเที่ยวเลยครับ
บรรยากาศยามเช้าที่พี่ไวน์ถ่ายภาพมา
สวยงามมากเลยนะครับ