[ ทริปนี้เพื่อฟูจิ ] วันที่ 5-7 เที่ยวในเมืองและกลับบ้าน
ปล่อยทิ้งบล็อกไว้นานมาก นานจนไปเที่ยวญีปุ่นอีกครั้งก็ยังอัพบล็อกไม่เสร็จ 55555
ตอนแรกกะจะอัพทริปเที่ยวล่าสุด แต่คิดไปคิดมา มันคงดูไม่ดีที่ปล่อยทริปเก่าไว้กลางทาง เลยต้องมาอัพให้จบก่อน
ก็ขอรวบยอดเลยละกัน
วันที่ 11.3.61
สองวันนี้ เราไม่มีอะไรมากแล้ว เพราะเน้นเที่ยวในเมือง จุดหมายคือตลาดปลา วัดอาซากุสะ ชิบูย่า ชินจูกุ และพรุ่งนี้กะว่าจะไปอากิฮาบาระ และเก็บตกที่เหลือ ๆ แต่แผนเราก็รวนหมด เพราะเพื่อนทำกระเป๋าตังค์หาย T^T เงิน 80,000 เยน หายเกลี้ยงเลยที่ตลาดปลา เลยต้องวุ่นวายไปแจ้งความที่สถานีกินซ่า แต่ก็เหมือนจะไม่ได้อะไร เพราะการหายแบบนี้ ต้องรอให้คนเจอเอามาคืน ทั้ง ๆ ที่เพื่อนรู้ว่าน่าจะหายตรงไหน มันเป็นระยะทางไม่ถึง 100 เมตรเอง และเราดูแล้ว แถวนั้นมีกล้องด้วย แต่ตำรวจก็ไม่ได้ช่วยอะไร บอกแค่ว่ารอคนเอามาคืน T_T
แต่ก่อนที่เงินเพื่อนจะหาย เราก็ได้กินอะไรไปบ้างนิดหน่อยเหมือนกัน
ไข่หวาน มาแล้วต้องซื้อกิน
ปลาไหลก็ด้วย เราชอบกินปลาไหล
อาหารทะเล และโมจิสตรอเบอร์รี่
หลังจากนั้นเรากับเพื่อนก็วุ่นวายเรื่องเงินหาย มันหายตั้งแต่หน้าร้านโมจินี่แหละ เพืื่อนแวะกินฝั่งตรงข้าม ก่อนจะเดินเข้าซอยเพื่อตัดไปอีกฝั่ง มารู้ตัวอีกทีว่ากระเป๋าหายตอนที่ยืนดูการแสดงหลอกเด็ก ขายตุ๊กตากระดาษ 555 กว่าจะเสร็จเรื่องก็เกือบ 4 โมงเย็นแล้ว หิวมาก
เรานั่งใต้ดินไปที่อาซากุสะ เพื่อไปกินที่ร้าน Isomaru suisan
กินของเด็ดประจำร้าน คือ มันปูในกระดอง อร่อยมาก
อิ่มแล้วก็กลับไปที่วัด แต่ตอนนี้ 5 โมงกว่าแล้ว ก็มืด ๆ แล้ว และตั้งใจจะไปกินชาเขียวด้วย แต่ร้านปิดแล้ว เลยต้องกลับมาซ้ำพรุ่งนี้อีกวัน
จากนั้นเราก็แวะที่ร้านดองกี้ สาขาอาซากุระ ก็เดินได้แปบเดียว เพราะเพื่อนอยากซื้อรองเท้ามากกว่า เลยไปกันต่อที่ชิบูย่า เพราะที่นั่นมีช้อป Adidas
แวะถ่ายรูปผู้คนสักหน่อย แต่ไม่ค่อยชัดเท่าไหร่ 555
เพื่อนช้อปรองเท้า ส่วนเรากับน้องและเพื่ออีกคนก็แวะเข้าร้านมัตซึโมโต้ที่อยู่ติดกัน เพลิน ๆ กันไป
ก่อนกลับ แวะกินข้าวกันต่อ เข้าร้าน Yoshinoya สาขาชิบูย่า ขาว ๆ ในถ้วยแดงนั่น ไม่น่ากินเลย ยืด ๆ เย็น ๆ กินแล้วนึกถึงขี้มูก 555 แทบอ้วกเลย
แวะซื้ออะไรเปรี้ยว ๆ กลับไปกินที่ห้องต่อ
หมดไป 1 วัน วันนี้เราต้องเก็บกระเป๋ากันแล้ว เพราะเรากลับวันที่ 13 ตอนเช้า คืนวันที่ 12 เลยต้องไปนอนที่สนามบิน
# # # # # # # # # # # # # # # #
12.3.61
ตื่นและจัดการตัวเองต่าง ๆ กว่าจะได้ออกจากห้องก็เกือบ 11 โมง
ก่อนกลับแวะร้าน 100 เยนซะหน่อย อยู่ใกล้ที่พัก ทางไปสถานีรถไฟ
หมดไปหลายพันเยนเหมือนกัน
จากนั้นเดินทางไปที่อูเอโนะเพื่อฝากกระเป๋าและเดินเที่ยว ล็อกเกอร์เต็มหมดทุกที่เลย ต้องเข้าไปฝากที่สถานี JR เสียเวลาเดินรอบสวนอูเอโนะตั้งนาน เห็นต้นซากุระออกดอกสีชมพูสดด้วย แต่ไม่ได้ถ่ายมา เพราะมัวแต่กังวลเรื่องฝากกระเป๋า
พอฝากกระเป๋าเรียบร้อยแล้ว ก็ต้องหาอะไรกิน เพราะหิวแล้ว 555 นี่หิวตลอดเลยนะ
ตอนแรกกะจะไปกินซูชิหน้าล้น แต่คิวเยอะ ขี้เกียจรอ เลยเข้าร้านข้าง ๆ จานละ 150Y รสชาติดี ของสดและหลากหลาย ได้เยอะด้วย
2 คนกับน้องสาว อิ่มเลย
ก่อนไปอาซากุสะ เราแวะเข้าร้านของเล่นที่อยู่ตรงสถานีอีกนิดหน่อย เพื่อดูของ เผื่อมีอะไรน่าซื้อ ก็ถ่ายรูปของเล่นน่ารัก ๆ มาเยอะเยอะเลย
จากนั้นก็กลับไปที่วัดอาซากุสะกันต่อ เพื่อเช่าเครื่องรางและแวะไปกินไอศกรีมชาเขียว
หาง่ายและไปง่ายมาก อยู่ด้านหลังวัดเลย ออกทางด้านข้างที่เป็นโบถส์หรือวิหารอะไรสักอย่าง หรือถ้าไปไม่ถูก ค้นหา suzukien Asakusa ในกูเกิ้ล อยู่ด้านหลังวัด ตรงข้ามโรงพยาบาล Sensoji
เราเลือกระดับ 7(เข้มสุด)กับระดับ 4 อร่อยทั้ง 2 แบบเลย
ได้กินชาเขียวสมใจก็ได้เวลากลับไปช้อปที่อูเอโนะกันต่อ แวะช้อปที่ตึกม่วง ของถูกมาก เยอะแยะเต็มไปหมด แล้วก็แวะช้อปรองเท้าโอนิซึกะ ค้นหาตำแหน่งจากกูเกิ้ล ร้านอยู่ในห้าง เลยสถานีรถไฟไปนิดหน่อย
ถือของเต็มที่แต่ก็ยังแวะช้อปที่ตลาด Ameyoko ต่อ ได้กระเป๋ามาอีก 2-3 ใบ 5555
3 ทุ่มกว่าละ เราคงต้องเข้าสนามบินซะที เพื่อไม่ให้ดึกเกินไป
ซื้อตั๋ว 10 นาทีก่อนรถไฟออก เป็นอะไรที่เร่งรีบมาก
ขั้นตอนคือ เราต้องกดซื้อ 2 ครั้ง คือ กดซื้อตั๋วปกติ ราค 1,030 Y อันนี้เหมือนว่าจะขึ้นขบวนไหนก็ได้ เหมือนตั๋วรถไฟทั่วไป เพราะไม่ได้ระบุเวลา เป็นราคาพื้นฐานของรถไฟที่วิ่งจากอูเอโนะเข้าสนามบิน
แต่ถ้าอยากนั่งตัวรถด่วน ต้องจองที่นั่งด้วย ราคา 410 Y ก็ต้องไปที่ตู้จองเพื่อทำการจองที่นั่งอีกที ได้ตั๋วมาแล้วก็สอดใบเล็กเข้าเครื่อง ส่วนใบใหญ่ เอาไว้ให้เจ้าหน้าที่ดู กว่าจะกดซื้อตั๋วเสร็จก็เหลือเวลาอีก 5 นาที เอ้า วิ่ง วิ่งอีกแล้ว เห็นขบวนปุ๊บ โดนขึ้นเลย กลัวไม่ทัน โชคดีที่ได้ตู้ 2 เดินไม่ไกล โอยย โคตรเหนื่อยเลย
เดินไปที่ T3 เพื่อหาที่นอน แต่เต็ม แถมยังปรับพื้นที่ให้เล็กลงด้วย เลยต้องกลับมานอนในอาคารก็เลือกนอนแถวที่ว่าง ๆ กันไป
แวะลงไปหมุนกาชาปองสักหน่อย ใครไม่มีเหรียญไม่ต้องนอยด์ เพราะเขามีตู้ให้แลก เราหมดไปหลายพันเยนอีกเช่นเคย แต่เห็นตู้เยอะ ๆ แบบนี้ แต่ตู้ซ้ำก็เยอะเหมือนกัน
เที่ยงคืนกว่า ขึ้นไปกินข้าวที่ ร้าน Yoshinoya เลือกข้าวปลาไหลมากินเลย กินไปแบบมึน ๆ และง่วง ๆ อยากนอนมากแต่ก็อยากกินเหมือนกันเพราะหิว 555 รู้สึกสับสน กินอิ่ม ก็กลับมานอน ก็ไม่ค่อยหลับเท่าไหร่ เพราะคันหัว นี่ไม่ได้สระผมมาหลายวันแล้ว หัวเหนียวมาก หิมะตกใส่เสื้อเต็มเลย โอยยย ชีวิต T^T
# # # # # # # # # # # # # # # # # # # # #
13.3.61
วันนี้ได้กลับบ้านแล้ว ตื่นกันตั้งแต่ตี 5 ครึ่ง เพราะจะไปเช็คอินตั้งแต่ 6 โมงครึ่ง คือเอาตั้งแต่เปิดเคาน์เตอร์เลย ตอนนั้นไปถึง 6.20 น. มีคนไปก่อนเราด้วย แต่ก็ไม่ได้รออะไร เพราะมี 2 เคาน์เตอร์ เช็คอินเรียบร้อย ก็ออกมานั่งรอ ตม.เปิด รู้สึกจะเปิดตอน 7.30 น. ตอนนั้นรู้สึกเพลียมาก ท้องไส้ปั่นป่วนไปหมด ไม่สบายตัวมาก ๆ เลยตัดสินใจไปอ้วก T^T เฮือก โล่งท้องสบายตัวไปตั้งเยอะ แล้วก็ซื้อน้ำโซดามากิน ก็รู้สึกดีขึ้นนิดหน่อย พอ ตม.เปิด ก็แวะช้อปดิวตี้อีก ซื้อขนมมากหลายอย่าง ที่ขาดไม่ได้คือ royce และคุ๊กกี้นมจากฮอกไดโก
ข้าวของประดามีของเรากับน้องสาว
เรากลับแอร์เอเชีย รอบ 9 โมงกว่า เขาจะเรียกขึ้นเครื่องก่อน 9 โมง เวลาก็ยังเหลือ ๆ ก็ไม่ต้องรีบอะไรมาก ขึ้นเครื่องปุ๊บ หลับเลย Zzzzz
อ้อ ขากลับ เจอแอร์ที่ตลก ๆ ด้วย ก็ขำแบบง่วง ๆ กันไป 5555
ถึงดอนเมืองก็ต้องนั่งรอเพื่อต่อเครื่องกลับหาดใหญ่ แวะไปกินข้าวที่ชั้น 2 หรือ 3 ที่เป็นศูนย์อาหาร รสชาติโอเคเลย แต่ราคาแพงไปนิด
ขึ้นเครื่องกลับหาดใหญ่ก็หลับอีก เครื่องยังไม่ทันขึ้นเลย เราไปเฝ้าพระอินทร์แล้ว
# # # # # # # # # # # # # # # # # # # # # # #
จบทริปตามหาฟูจิด้วยความฟิน อยากไปซ้ำ ต้องหาเวลาไปอีกให้ได้
Create Date : 29 พฤศจิกายน 2561 |
Last Update : 29 พฤศจิกายน 2561 13:09:01 น. |
|
0 comments
|
Counter : 550 Pageviews. |
|
|