9.3.18
เข้าวันใหม่ เราตื่นตี5กว่า เพราะได้ยินเสียงคุยกันที่หน้าแคปซูล ฟังๆไป นั่นเสียงเพื่อนเรานี่หว่า กำลังคุยว่า เราตื่นหรือยัง ปลุกตอนนี้เลยดีไหม เลยเปิดม่านออกไป เพื่อนบอกไปอาบน้ำเถอะ จะได้ไม่เร่งเกิน โอเค ดีเหมือนกัน ตอนแรกตั้งใจจะตื่นสัก 6 โมง ออกก่อน 7 โมง ถึงสถานี 7 โมง อะไรงี้ เวลาจะได้ไม่บีบ สรุปเก็บของช้า กว่าจะได้ออก เกือบ 7 โมง เออ ดีนะที่ตื่นเร็ว
ฝากกระเป๋าโดยใช้ suica สะดวกและง่ายมาก
มีชื่อของเราบนบัตรด้วยนะ เก๋ป่าวล่ะ
ฝากกระเป๋าด้วยความเร็วรี่ (แถมอัดคลิปด้วย 555) แล้วรีบไปแทร็ก 10 เพราะเหลืออีก 10 นาที รถไฟจะออกแล้ว
เหนื่อยและร้อน จนต้องถอดเสื้อโค้ท
รถไฟออก 7.30 น. บรรยากาศในรถสบาย ๆ ที่นั่งว่างเยอะแยะ (เรานั่งตู้จอง)
กินมื้อเช้าบนรถไฟ
เห็นอะไรก็หยิบ ๆ มาด้วยความรีบ ข้าวปั้นกลม ๆ นั่น กว่าจะได้กินก็ค่ำแล้ว
นั่งไปเรื่อย ๆ มีฝนตกมาเป็นระยะ จนถึงสถานี Otsuki ต้องวิ่งอีกแล้ว เพราะเหลืออีก 4 นาที รถไฟที่จะไปคาวาฯ จะออก ตอนแรกก็เดินกันดี ๆ นี่แหละ จนมีเจ้าหน้าที่มาถือป้ายบอกรถไฟกำลังจะออก เท่านั้นแหละ วิ่งสิวิ่ง วิ่งเร็ว โอยยย สุด ๆ ทั้งวิ่งขึ้นบันได วิ่งลงอีก เล่นเอาหอบ (แต่จริง ๆ ช่วงเวลาการเปลี่ยรถก็กระชั้นนะ มีเวลาแค่ 5 นาทีเอง แต่ถ้ามาจากชินจูกุ ตอน 7 โมง จะมีเวลาเปลี่ยนรถไฟประมาณ 15 นาที มันก็ต้องเลือกอ่ะ ออกเร็ว เปลี่ยนรถแบบไม่ต้องรีบ ออกช้า ก็จะเร่ง ๆ หน่อย )
ระหว่างทาง มีทั้งฝนและหิมะลงเบา ๆ
นั่งไปด้วยจิตใจห่อเหี่ยวเล็ก ๆ ฝนตก ฟ้ามืดขนาดนี้ คงไม่เห็นฟูจิแน่ ๆ แต่ทำยังไงได้ จองที่พักไว้แล้วนี่
อากาศเหนือคำบรรยายจริง ๆ
แต่แผนเที่ยวก็ต้องไปต่อ เพราะจะให้นั่ง ๆ รอ ๆ อยู่ที่สถานีก็คงไม่ใช่ เราเดินทางไปหมู่บ้านน้ำใส แม้รู้ว่า ไปแล้วก็ไม่เห็นฟูจิ
เข้าไปซื้อตั๋วที่ห้องขายตั๋ว (หน้าห้องจะมีตู้ซื้อตั๋วอัตโนมัติ) แล้วบอกเจ้าหน้าที่ว่า โอชิโนะ ฮักไก เขาจะพริ้นต์ตั๋วให้และบอกป้ายที่จะให้ไปรอพร้อมเวลา คือ 10.00 น. ซื้อตั๋วเสร็จก็วิ่งไปฝั่งตรงข้ามก่อน เพื่อซื้อถุงมือและหมวก เพราะมันหนาวมากจริง ๆ หมวก 2 ใบและถุงมือ 1 คู่ จ่ายไป 5,600Y กว่า ๆ หรือ 6,500ํY ก็ไม่รู้ จำไม่ได้แล้ว
รถบัสมาตรงเวลา ค่ารถคนละ 550Y
นั่งไปเรื่อย ๆ ทางค่อนข้างคดเคี้ยวและถนนแคบ นับถือคนญี่ปุ่นเลย ขับคล่องมาก บางช่วงเป็นโค้ง+ทางลาดลง หรือโค้ง+ขึ้นเนิน แต่ก็ยังขับได้ปกติ ไม่ต้องเร่งมากหรือรู้สึกว่าเครื่องกระตุกเลย
ในตารางเวลาบอกว่า รถบัสใช้เวลา 23 นาที แต่ตอนที่เรา วิ่งเกือบ 30 นาที จนคิดว่าเลยป้ายหรือเปล่า เลยเดินไปบอกคนขับว่า โอชิโนะ ฮักไก คนขับพูดไรไม่รู้ แต่คิดว่าเขาน่าจะเข้าใจที่เราบอก แต่พอถึง เขาก็บอกนะว่าโอชิโนะ ฮักไก คิดว่าที่มาถึงช้า ส่วนหนึ่งอาจเพราะฝนตก มีหิมะ เลยต้องขับช้านิดหนึ่ง
พอถึงแล้ว ก็แวะซื้อร่มอีก 55 เพราะฝนเริ่มตกหนักแล้ว แค่หมวกคงเอาไม่อยู่ ยืนถ่ายรูปหน้าร้านตรงปากทางและซื้อสตรอเบอร์รี่ของเขาอีกสักใหญ่ ๆ จึงเดินเข้าซอย
เดินไปก็ไลฟ์สดไป เดินเลยทางเข้าอีก 5555 ทางเข้ามีป้ายขาว ๆ เขียนภาษาญี่ปุ่น ซึ่งเราอ่านไม่ออก เห็นคนเดินออกมาแล้ว แต่มองเข้าไป มันโล่ง ๆ ว่าง ๆ เลยเดินต่อไป (ขากลับ กลับทางนี้เลยเห็นว่าร้านค้าปิดหมด) จนเริ่มรู้สึกว่า มันไกลไปแล้วนะ 555 อ่านรีวิว เขาบอกเดินเข้าไปนิดเดียวเอง เลยต้องพึ่งกูเกิ้ลแมพ ถึงได้รู้ว่าเดินอ้อม
เราเป็นคนที่ชอบอ่านรีวิว ชอบเดินในแมพ แต่...บางสิ่งบางอย่าง เราจะเว้นไว้ เพื่อไปเจอด้วยตัวเอง ถ้าเป็นสถานที่เที่ยว เราจะไม่ค่อยไปเดินก่อน เพราะเดี๋ยวมันจะหมดความน่าสนใจ แต่ถ้าเป็นพวกทางเข้าลึก ๆ มีทางเข้าหลายทาง เดินไกล เราจะลองไปเดินดูสถานที่จริงก่อน หรือพวกที่พัก อันนี้เราต้องเดินแน่ ๆ อยู่แล้ว เราจะไม่ไปหาเอาดาบหน้า หรือร้านที่เขาตั้งใจจะไปกิน อันนี้เราก็ไปเดินก่อนเหมือนกัน)
ถึงหมู่บ้านน้ำใสแล้ว ความตั้งใจะถ่ายรูปฟิน ๆ กับฟูจิพังหมดเลย ไม่เห็นอะไรเลย นอกจากฟ้าหม่น ๆ และเกล็ดน้ำแข็งที่เกาะปลายร่ม 5555
ตอนที่อยู่หมู่บ้านน้ำใส ลืมซื้ออะไรย่าง ๆ ของเขามากิน เพราะมัวแต่บ่น ทำไมฝนถึงตก จะหยุดเมื่อไหร่ อดเห็นฟูจิเลย หนาวมาก ไม่มีอะไรน่าสนใจ กลับดีกว่า 555 ได้กินแต่ปลาหมึก ปลาแผ่นอะไรที่ขายอยู่หน้าทางเข้าอาคาร
กินเสร็จก็เดินเข้าไปดูนั่นดูนี่อีกเกือบครึ่งชม. ก็กลับ
ชักภาพเป็นที่ระลึกหน่อย ว่าได้มายืนตรงนี้แล้ว
ได้เวลากลับคาวากูชิโกะแล้ว หนาวหน้าตึงเลยทีเดียว
ดูรอบรถมาเรียบร้อยแล้ว ช้ากว่าตารางประมาณ 5 นาที ถือว่าใกล้เคียงมาก เรากลับรอบ 12.30 น. ถึงสถานีคาวาฯ ตอนบ่ายโมง
เดินไปเดินมา จะหาอะไรกิน เหลือบไปเห็นชื่อร้าน Hoto ตรงมุมถนน ใกล้ ๆ ป้ายบอกเวลาและอุณหภูมิ จำได้ว่าเป็นร้านดัง เลยต้องแวะซะหน่อย
ได้นั่งกับพื้นบนเสื่อ ได้อารมณ์แบบคนญี่ปุ่น
สั่งอุด้งผักมาเลย คนละถ้วย
เห็นขนาดแล้วตกใจ นี่ยกมาเป็นหม้อให้เลยเหรอ แล้วใช้จวักแทนช้อนนี่นะ
โอเค เราพลาดแล้ว 555 ที่จริง สั่งมา 1 ถ้วย/คน ก็ได้นะ บังเอิญว่าตอนที่เขาไปในร้าน ในเป็นกลุ่มเดียวที่ได้นั่งบนเสื่อ และลูกค้าคนอื่นก็เหมือนจะกินใกล้เสร็จแล้ว เลยไม่รู้จะไปดูตัวอย่างจากไหน
1,080Y ควรจะหารกันนะ ไม่ใช่จ่ายเต็ม 555
ใช้เวลาในร้านนานมาก เข้าไปตั้งแต่เสื่อยังไม่มีใครนั่ง ยันคนนั่งเต็มอ่ะ อิ่มจนจุกก็กลับ ก่อนเข้าที่พัก แวะซื้อของก่อน เพราะที่พักไม่มีอาหารให้ มีแต่ครัว เดินไป 7/11 ที่อยู่ไม่ไกล ก็เดินวนเวียนอยู่ในร้านนานพอสมควร เข้าไปตั้งแต่ยังไม่มีคน จนคนเต็มร้านอ่ะ ของในตะกร้าก็หยิบใส่ หยิงวางตั้งหลายรอบ พอดีว่า เหลือบไปเห็นของในถาดที่เพิ่งมาส่ง มีข้าว มีอะไรเยอะแยะ เลยอยากเอาในนั้นมากกว่า ติดตรงที่พนักงานยังไม่คีย์ เลยต้องรอ
นี่แค่ส่วนหนึ่ง มีข้าวปั้นจากเมื่อเช้าด้วย
ใช้บัตร suica แตะไป น่าจะ 1,200Y++
จากนั้นก็เดินกลับไปที่สถานี แล้วไปที่ information ให้เขาโทรหาที่พักให้ ระหว่างยืนรอ น้องสาวก็ถามหาถุง 7/11 เราบอกไม่ได้ถือมา เอ้า มันลืมไว้ที่ร้าน
=,= ละเหี่ยใจจริง ๆ ตอนนั้นเรายืนอยู่หน้าร้าน เพราะด้านในคนเยอะ เพื่อนกำลังจ่ายเงิน น้องบอกหนาว เลยเข้าไปนั่งด้านใน (มีโต๊ะ เก้าอี้ให้) แล้วมันก็เอาถุงวางไว้บนโต๊ะ พอกลับก็เดินออกมาตัวเปล่า
พอจำได้ ตอนนี้รถยังไม่มา น้องเลยวิ่งไปเอา ตอนที่รอ เพื่อนบอกว่าให้น้องรอที่ร้านเลยก็ได้นะ เดี๋ยวให้รถไปรับ ไม่ต้องวิ่งไปวิ่งมา แต่...น้องไม่มีเนต เพราะแชร์ฮอตสปอร์ตจากเรา เราเลยวิ่งไปหาน้อง พอถึงหน้าร้าน เพื่อนโทรมาบอกว่า น้องกลับมาแล้ว มึงไม่สวนกันเลย 5555 เออ ไม่สวนอ่ะ เราไปทางหน้าสถานีแล้วข้ามถนนหน้า 7/11 แต่น้องเดินเลียบ 7/11 แล้วข้ามถนนหน้าสถานี โอเค วิ่งกลับไปที่ information ต่อ...เหนื่อยเบา ๆ
รอประมาณ 10 นาที เจ้าของบ้านก็มารับ เป็นกึ่ง ๆ รถตู้ แต่ทรงเหมือนรถเก๋ง ประตูเปิดเลื่อนได้ 2 ฝั่ง มีที่นั่ง 1 แถว ด้านหลังโล่ง ๆ ไว้ใส่กระเป๋า
ตอนหน้าจะพาไปชมบ้านพักค่ะ
เราพักที่ Cottage Pastorale ใกล้ bus stop no. 18