สนข.ปักหมุดพิษณุโลกฮับโลจิสติกส์เชื่อมเหนือ-อีสาน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันที่ 21 ก.ค. 2560สำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.)จัดสัมมนาโครงการและรับฟังความคิดเห็น ครั้งที่ 1โครงการศึกษาความเหมาะสมการบริหารจัดการและกระจายสินค้าจ.พิษณุโลก (Logistics Hub)
นายชัยวัฒน์ ทองคำคูณผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) กล่าวว่ารัฐบาลให้ความสำคัญกับการพัฒนาระบบโลจิสติกส์ ซึ่งตามกรอบยุทธศาสตร์ชาติ ระยะ 20ปี ( 2560 2579) มีประเด็นที่เน้นการขยายขีดความสามารถและพัฒนาคุณภาพการให้บริการธุรกิจโลจิสติกส์เพื่อรองรับการขยายตัวของเมืองและพื้นที่เศรษฐกิจใหม่โดยสนับสนุนให้เกิดความเชื่อมโยงในภูมิภาคและในอาเซียนอย่างเป็นระบบ
รวมทั้งแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 12 (2560 2564)กำหนดเป้าหมายด้านยุทธศาสตร์ความร่วมมือระหว่างประเทศเพื่อการพัฒนาให้ประเทศไทยมีบทบาทหลักในภูมิภาคทั้งด้านโลจิสติกส์การค้า การบริการ และการลงทุน เป็นศูนย์กลางการกระจายความเจริญในภูมิภาคเอเชียกลุ่มอาเซียน และอนุภูมิภาคและเป็นระบบห่วงโซ่มูลค่าในอนุภูมิภาคและภูมิภาคอาเซียนให้มีความเชื่อมโยงกัน
เพื่อรองรับการพัฒนาเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่องโดยมีแนวทางการพัฒนาสร้างความพร้อมภายในประเทศเพื่อให้สามารถใช้ประโยชน์จากความเชื่อมโยงระหว่างประเทศได้อย่างเต็มศักยภาพดังนั้นการพัฒนาประเทศตามยุทธศาสตร์ที่กำหนดไว้จะต้องสร้างความแข็งแกร่งของโครงสร้างภายในประเทศทั้งระดับประเทศ และภูมิภาค ควบคู่กับการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมอย่างเป็นระบบ
นายธัชชัย สีสุวรรณรองผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลก กล่าวว่า จังหวัดพิษณุโลกถือเป็นจุดยุทธศาสตร์สำคัญของประเทศไทย มีความพร้อมในด้านภูมิประเทศเป็นศูนย์กลางของภาคเหนือตอนล่างเชื่อมภาคเหนือ ภาคกลาง และภาคตะวันออกเฉียงเหนือและมีโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่งที่สำคัญอยู่ในแนวเส้นทางระเบียงเศรษฐกิจแนวเหนือ-ใต้North South Economic Corridor (NSEC) และตะวันออก-ตะวันตก East West EconomicCorridor (EWEC) สามารถเชื่อมต่อไปยังสาธารณรัฐแห่งสหภาพพม่าสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว สาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนามและสาธารณรัฐประชาชนจีนตอนใต้
จึงทำให้จังหวัดพิษณุโลกมีบทบาทสำคัญในการเป็นศูนย์กลางเชื่อมโยงความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจการค้าการบริการในภูมิภาคและประเทศเพื่อนบ้านได้และเกิดการยกระดับศักยภาพของจังหวัดพิษณุโลกให้มีการเติบโตอย่างยั่งยืน
ดังนั้น จังหวัดพิษณุโลกและสนข.จึงร่วมกันดำเนินการศึกษาความเหมาะสมการบริหารจัดการและกระจายสินค้าจ.พิษณุโลก(Logistics Hub)เพื่อศึกษาศักยภาพการพัฒนาและปัจจัยที่เอื้อต่อระบบเศรษฐกิจของจังหวัดเพื่อเป็นศูนย์กลางโลจิสติกส์อย่างแท้จริงและสอดคล้องกับแผนยุทธศาสตร์ของจังหวัดพิษณุโลกที่ว่าเมืองบริการเศรษฐกิจและสังคมสี่แยกอินโดจีน
นายชัยวัฒน์กล่าวเพิ่มเติมว่าจากกรอบแนวคิดเบื้องต้นของการศึกษาสามารถแบ่งรูปแบบ Logistics Hub ออกเป็น 4 ประเภท ได้แก่
1) ศูนย์กลางการขนส่งและโลจิสติกส์ (Transport Logistics Hub)เป็นพื้นที่ดำเนินการบรรจุภัณฑ์รับฝากและกระจายสินค้ารวมถึงการขนส่งต่อเนื่องหลายรูปแบบ
2) ศูนย์การค้าส่งค้าปลีกและโลจิสติกส์ (Trade Logistics Hub) เป็นพื้นที่ดำเนินการซื้อขายสินค้าทั้งค้าปลีกและค้าส่งควบคู่ไปกับการกระจายสินค้า
3) ศูนย์ผลิตอุตสาหกรรมและโลจิสติกส์ (Industrial Logistics Hub) เป็นพื้นที่ให้บริการโลจิสติกส์ภายในเขตนิคมอุตสาหกรรมเพื่อสนับสนุนการขนส่งและกระจายสินค้าให้แก่โรงงานอุตสาหกรรมในพื้นที่โดยรอบมีบริษัทเอกชนเป็นผู้ดำเนินกิจกรรมทางโลจิสติกส์
4) เขตอุตสาหกรรมโลจิสติกส์ (Logistics Park /Freight Village) รัฐเป็นผู้กำหนดพื้นที่ในการทำกิจกรรมโลจิสติกส์ภายในมีการแบ่งพื้นที่ให้ผู้ประกอบการเช่าหรือซื้อโดยผู้บริหารศูนย์ฯ เป็นผู้รับผิดชอบการบริหารและทำการตลาดรวมถึงติดต่อให้มีหน่วยงานภาครัฐและเอกชนเข้ามาในพื้นที่
นายชัยวัฒน์ฯ กล่าวว่า การพัฒนาเป็นศูนย์กลางโลจิสติกส์เป็นกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจในท้องถิ่นและภูมิภาคคาดว่าจะส่งผลให้รายได้มวลรวมของจังหวัด GDPมีอัตราสูงขึ้นมากกว่าอัตราการขยายตัวร้อยละ3.7 และคาดว่าเศรษฐกิจของจังหวัดจะเติบโตขึ้นเป็น 2 เท่า เกิดการจ้างงาน สร้างรายได้สู่จังหวัดประมาณ4,000 ล้านบาท ภายในปี 2566
รวมถึงเพิ่มศักยภาพของจังหวัดให้เป็นศูนย์กลางทางเศรษฐกิจในภูมิภาคซึ่งเป็นรากฐานสำคัญของการพัฒนาอย่างยั่งยืนและภายหลังการสัมมนาฯ ครั้งที่ 1 สนข.จะนำความคิดเห็นและข้อเสนอแนะที่เป็นประโยชน์ไปประกอบการศึกษาความเหมาะสมการบริหารจัดการและกระจายสินค้าจังหวัดพิษณุโลก(Logistics Hub)ต่อไป
ขอขอบคุณ เครดิตบทความ ประชาชาติธุรกิจออนไลน์
https://www.prachachat.net/property/news-8348