เราต้องสวมหน้ากากบนใบหน้าเป็นเวลาหลายชั่วโมงต่อวัน ในช่วงการระบาดของไวรัส COVID-19 เพื่อป้องกันการแพร่กระจายโรคและป้องกันตัวเองจากการติดเชื้อ
แต่การสวมหน้ากากก็เป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดผื่นบนใบหน้าได้บ่อยขึ้น โดยเฉพาะรอบจมูก รอบปาก โหนกแก้ม หรือคางได้ ซึ่งเกิดจากความชื้น ละอองไอน้ำจากลมหายใจ หรือน้ำลายที่จะติดอยู่พื้นผิวด้านในของหน้ากาก ทำให้เกิดการระคายเคือง เกิดเป็นผื่นหรือรอยแดง หรือเกิดเป็นสะเก็ดสีขาวลอกๆ บางคนอาจจะรู้สึกคันโดยที่ไม่มีผื่นก็ได้
สำหรับคนที่เป็นสิวง่าย การที่ผิวหน้าของเราถูกกดและเสียดสีโดยหน้ากากเป็นเวลานาน ทำให้รูขุมขนอุดตันได้ง่ายขึ้น เกิดสิวหรือตุ่มหนองขึ้นเป็นหย่อมได้ โดยเฉพาะคุณผู้หญิงที่อาจจะต้องทาครีมกันแดด หรือแต่งหน้าเป็นประจำ
นอกจากนี้ มีคนจำนวนหนึ่งที่เกิดการแพ้หน้ากาก ซึ่งเป็นผลจากสารเคมีบางชนิดที่เคลือบบนผิวหน้ากาก ดังนั้นก่อนนำมาใช้ก็ควรซักก่อนเสมอถ้าเป็นหน้ากากผ้า
📌หมอขอแนะนำให้ทำความสะอาดผิวหน้าด้วยคลีนเซอร์ (Cleanser) ที่อ่อนโยนต่อผิว ทั้งก่อนสวมหน้ากากและหลังจากถอดหน้ากากออก เพื่อกำจัดความมันส่วนเกินและเซลล์ผิวที่ตายแล้ว และไม่ควรแต่งหน้าหรือทาครีมกันแดดในบริเวณผิวที่ต้องสัมผัสกับหน้ากาก เพราะจะทำให้เกิดการระคายเคืองและอุดตันง่ายขึ้น
การทาครีมบำรุงผิวที่ปราศจากน้ำหอมและไม่เหนียวเหนอะหนะบ่อยๆ ก็ช่วยได้มาก ถ้าอาการไม่ดีขึ้นก็ควรไปพบแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนังเพื่อรับการวินิจฉัยและการรักษาที่ถูกต้อง เพราะผื่นที่เกิดขึ้นบนใบหน้าอาจเกิดจากสาเหตุอื่นก็ได้
อย่างไรก็ตาม ทุกคนต้องสวมหน้ากากก่อนออกจากบ้านหรือเมื่อไปที่สาธารณะทุกครั้งเพื่อลดการสัมผัสและกระจายโรค และเปลี่ยนหรือซักหน้ากากอนามัยทุกวันด้วย พยายามหาช่วงเวลาในแต่ละวันเพื่อถอดหน้ากากออกบ้าง เช่น เวลาขับรถยนต์ส่วนตัว หรืออยู่ในห้องส่วนตัว และถ้ารู้สึกอับชื้นก็ให้เปลี่ยนหน้ากากพร้อมกับทำความสะอาดผิวหน้าและทาครีมบำรุงตามที่แนะนำ