"ความรู้" คู่ "ความงาม"
Group Blog
 
<<
ตุลาคม 2551
 1234
567891011
12131415161718
19202122232425
262728293031 
 
12 ตุลาคม 2551
 
All Blogs
 
Skincare Basic #9-1 : Antioxidants


ถามคนที่เดินไปเดินมาตามท้องถนนว่าเคยได้ยินคำว่า “อนุมูลอิสระ” (Free-Radical) กับ “สารต้านอนุมูลอิสระ” (Antioxidant) กันบ้างรึเปล่า กระผมคาดว่ากว่า 90% ต้องบอกว่า “เคย”

แต่ถ้าถามคนเหล่านั่นต่อว่า “อนุมูลอิสระ” (Free-Radical) มันคืออะไร ก่อผลเสียกับร่างกายยังไง แล้ว “สารต้านอนุมูลอิสระ” (Antioxidant) มีประโยชน์อย่างไร? คงเหลือไม่ถึง 10% ที่ตอบคำถามเหล่านี้ได้

Photobucket


ดังนั้นเรามาทำความเข้าใจกันก่อนดีกว่าว่า “อนุมูลอิสระ” หรือ “Free-Radical” มันคืออะไร โดยจะพยายามอธิบายให้เข้าใจง่ายที่สุดเท่าที่จะทำได้





Free Radical & Reactive Oxygen Species (ROS) คืออะไร



“อะตอม” หรือ “โมเลกุล” ที่เสถียรเป็นปกตินั้นจะประกอบไปด้วย “อิเลคตรอน” 2 ตัว หรือ 8 ตัวเสมอ

ถ้าอิเลคตรอนหายไปสักตัว อะตอมหรือโมเลกุลตัวนั้นก็จะไม่เสถียร โมเลกุลที่ไม่เสถียรเหล่านี้ก็คือ “อนุมูลอิสระ” หรือ “Free-Radical” นั่นเอง

(ขอบคุณ คุณ tt ที่ช่วยแก้ไขข้อมูล)

Photobucket


ตามธรรมชาติแล้ว อะตอมหรือโมเลกุลจะพยายามทำให้ตัวเองเถียร ด้วยการ “แย่ง” อิเลคตรอน จากอะตอมหรือโมเลกุลที่อยู่ข้างเคียง โมเลกุลที่ถูกแย่งอิเลคตรอนไปก็จะไม่เสถียรและทำการแย่งอิเลคตรอนจากโมเลกุลข้างเคียงมาแทนที่ เป็นวงจรอุบาว์ทที่เกิดขึ้นเป็นลูกโซ่ไปเรื่อย ๆ ไม่สิ้นสุด

Reactive Oxygen Species ก็คือโมเลกุลของออกซิเจนที่ไม่เสถียรเนื่องจากมีจำนวนอิเลคตรอนไม่ครบคู่ ในบางกรณี Free Radical อาจจะเหมารวมว่าเป็น Reactive Oxygen Species (ROS) ไปเลยก็ได้ เพราะอนุมูลอิสระที่เกิดขึ้นส่วนใหญ่เป็นเพราะ “ออกซิเจน”





เราหลีกเลี่ยงอนุมูลอิสระได้รึเปล่า?


ไม่ได้... เพราะอนุมูลอิสระเกิดขึ้นได้ทั้งจากภายในและภายนอกร่างกาย

คนส่วนใหญ่คิดว่าอนุมูลอิสระเกิดขึ้นจากปัจจัยภายนอกอย่าง ออกซิเจน, มลพิษ, ควันบุหรี่, แสงแดด, หรือสารก่อการระคายเคืองเช่น แอลกอฮอล์น้ำหนักโมเลกุลต่ำ (อย่าง Alcohol Denat. เป็นต้น) แต่จริง ๆ แล้วร่างกายของเราเองก็สร้างอนุมูลอิสระขึ้นมาเองด้วยเหมือนกัน

ภายในเซลล์ของเราจะมีแหล่งพลังงานที่เหมือนเครื่องกำเนิดไฟฟ้าที่เรียกว่า ไมโทคอนเดรียล (Mitochondrial) ซึ่งใช้สารอาหารและออกซิเจนในการผลิตพลังงานให้กับเซลล์ ของเสียที่ออกมาจากกระบวนการนี้ก็คือ Reactive oxygen species หรืออนุมูลอิสระนั่นเอง





เรื่องขำ ๆ เกี่ยวกับออกซิเจน...


Photobucket


เรื่องมีอยู่ว่า...

ครั้งหนึ่งเหมือนกระผมกำลังเดินเหล่เครื่องสำอางแบรนด์ P อยู่ดี ๆ คุณ BA ก็รีบปรี่เข้ามาต้อนรับพร้อมกับเริ่มแนะนำผลิตภัณฑ์อย่างกระตือรือร้น ถึงใจจริงอยากจะเดินดูด้วยตัวเองมากกว่า แต่ด้วยความเกรงใจก็ทำเป็นโง่ไม่รู้เรื่องให้เขาลองแนะนำดูซะบ้างก็ได้

ทุกอย่างก็ดูปกติดีจนกระทั่งประโยคนี้ลอยมากระแทกหูของกระผม…

“สครับตัวนี้จะช่วยผลัดเซลล์ผิวที่ตายแล้วออกไป ลดการอุดตันผิว ทำให้ผิว ‘หายใจ’ ได้สะดวกขึ้น หลังจากนั้นก็ต้อง ‘เติมออกซิเจนให้ผิว’ ด้วยครีมกระปุกนี้ ผิวจะได้ทำงานอย่างเต็มประสิทธิภาพและลดการเกิดสิวได้”

ปูเป้รู้สึกตกใจแต่ก็ไม่ได้แสดงออก หูก็ฟังเขาพล่ามต่อไปแต่ในใจก็คิดว่า “ไม่ทราบพ่อเป็นคางคกรึไง ถึงได้หายใจแลกเปลี่ยนออกซิเจนทางผิวหนังได้... แล้วการทาผลิตภัณฑ์ที่ปล่อยออกซิเจนใส่ผิวก็ทำให้เกิดความเสียหายจากอนุมูลอิสระ ไม่ได้ช่วยบำรุงผิวตรงไหนเลย ”

ความเชื่อบ้าบอที่ว่า “การเติมออกซิเจนให้ผิวเป็นสิ่งที่ดี” นี้เกิดขึ้นจากไหนกระผมก็ไม่ทราบได้ แต่ก็หวังว่าทุกท่านที่ได้อ่านบทความนี้จะเลิกเชื่อเรื่องไร้สาระแบบนี้นะขอรับ





ผลเสียที่เกิดขึ้นจากอนุมูลอิสระ


Photobucket


อนุมูลอิสระก่อความเสียหายให้กับเซลล์ โดยทำให้เซลล์อ่อนแอลงหรือถึงขั้นเซลล์ตายได้ นักวิทยาศาสตร์จึงเชื่อว่า อนุมูลอิสระ เป็นสาเหตุที่ก่อให้เกิดริ้วรอยก่อนวัย นอกจากนี้ยังเชื่อว่าอนุมูลอิสระอาจทำให้ DNA เสียหาย ส่งผลให้เซลล์เกิดการแบ่งตัวไม่สมบูรณ์และอาจเป็นสาเหตุของมะเร็งได้

เมื่ออนุมูลอิสระเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ แต่เหตุใดทำไมเราจึงยังมีชีวิตอยู่ได้ล่ะ... ก็ในเมื่อรอบด้านเรามีแต่อนุมูลอิสระ อากาศที่เราหายใจก็มีออกซิเจน... คำตอบก็คือ เพราะเรามี “สารต้านอนุมูลอิสระ” หรือ “Antioxidant”





Antioxidant ผู้ใจบุญ


Photobucket


"สารต้านอนุมูลอิสระ" หรือ "Antioxidant" จะทำการบริจาคแจกจ่าย อิเลคตรอน ของตัวเองให้กับ อนุมูลอิสระ หรือโมเลกุลที่มีอิเลคตรอนไม่ครบคู่ ผลก็คือ Antioxidant จะช่วยหยุดกระบวนการลูกโซ่ของอนุมูลอิสระ ปกป้องผิวไม่ให้ได้รับความเสียหายส่วนใหญ่ที่จะเกิดขึ้น

ในแง่ของความงาม การปกป้องผิวจากอนุมูลอิสระก็เท่ากับการชะลอความแก่นั่นเอง (ย้ำว่าแค่ “ชะลอความแก่” ไม่ได้ “หยุดยั้งริ้วรอยไม่ให้เกิด"”หรือ “ย้อนวัยให้ผิว” ได้)

สำหรับอนุมูลอิสระที่เกิดขึ้นภายในร่างกาย ร่างกายของเรามีกลไกปกป้องตนเองตามธรรมชาติโดยสร้างเอมไซม์ที่มีคุณสมบัติเป็น Antioxidant อย่าง Superoxide Dismutase แต่เมื่ออายุเพิ่มขึ้น ร่างกายก็ผลิตเอมไซม์เหล่านี้ได้น้อยลง จึงจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องรับประทานอาหาร ผัก ผลไม้ ที่มีสาร Antioxidant ไปช่วยเสริม

สำหรับภายนอก การทา Skincare ที่มีส่วนผสมของสาร Antioxidant เป็นประจำจะช่วยปกป้องผิวจากความเสียหายที่จะเกิดขึ้นจากอนุมูลอิสระ ช่วยชะลอการเกิดริ้วรอยและเสริมประสิทธิภาพของครีมกันแดด





หมั่นทำบุญให้ผิวเป็นประจำ


Photobucket


การทา Antioxidant เป็นประจำทุกวันก็เหมือนกับการ “ทำบุญ” คือจะไม่เห็นผลในเวลาอันสั้น แต่ยิ่งระยะเวลาผ่านไปนานเท่าไหร่ ก็จะเห็นผลบุญที่สั่งสมได้ชัดเจนขึ้นเท่านั้น (ก็ยังดีที่ไม่ต้องรอถึงชาติหน้าถึงจะเห็นผล)

ถ้าเราบำรุงผิวด้วย Antioxidant เป็นประจำ อาจจะไม่สังเกตเห็นความแตกต่างเมื่อเปรียบเทียบกับคนอายุรุ่นราวคราวเดียวกันในวันนี้ แต่ถ้าเวลาผ่านไปสัก 10 ปี จะสังเกตได้อย่างชัดเจนว่าผิวของเราดูอ่อนเยาว์กว่าคนรุ่นราวคราวเดียวกันที่ไม่ได้บำรุงผิวด้วย Antioxidant

มีหลายคนที่เลิกใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีสาร Antioxidant เข้มข้นเพียงเพราะรู้สึกว่าไม่เห็นผลในระยะเวลาอันสั้น เลยไปเสาะแสวงหาผลิตภัณฑ์ที่ให้ความรู้สึกว่ามีการเปลี่ยนแปลงในเวลาอันสั้น ซึ่งส่วนใหญ่เป็นผลทางคอสเมติคชั่วครั้งชั่วคราวไม่ได้มีประโยชน์กับผิวในระยะยาวแต่อย่างใด

การป้องกันไม่ให้เกิดความเสียหาย ดีกว่า การมาแก้ไขความเสียหายที่เกิดขึ้นแล้ว อย่างไม่ต้องสงสัย ดังนั้นเราจึงควรใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีสาร Antioxidant มาบำรุงผิวแต่เนิ่น ๆ และใช้อย่างเป็นประจำตลอดไป





สาร Antioxidant ที่ทรงประสิทธิภาพที่สุด?


Photobucket


ทุกแบรนด์ต่างก็โฆษณาว่า สาร Antioxidant ที่เขาใช้นั้นดีเลิศที่สุดในจักรวาล มีประสิทธิภาพมากกว่าวิตามินอีแปดร้อยล้านเท่าหรืออะไรก็ว่ากันไป แต่จริง ๆ แล้วไม่มี Hero สำหรับในหมู่ Antioxidant

สาร Antioxidant แต่ละตัวก็มีคุณสมบัติที่แตกต่างกันไป บ้างก็มีความสามารถพิเศษช่วยต้านการระคายเคือง บ้างก็สามารถลดความเสียหายจากรังสี UV บ้างก็ช่วยลดการอักเสบของผิว และอื่น ๆอีกมากมาย

เราจึงไม่ควรหวังกับสาร Antioxidant ตัวใดตัวหนึ่งเป็นพิเศษ เพราะทุกตัวต่างก็มีประโยชน์ที่หลากหลายแตกต่างกันไป





ผลิตภัณฑ์ Antioxidant ที่ดีควรมีลักษณะอย่างไร?


ผลิตภัณฑ์ที่อุดมไปด้วยสารแอนติออกซิแดนท์หาได้ไม่ยากในปัจจุบัน และมีตัวเลือกที่ราคาไม่แพงอยู่หลากหลาย แต่ราคาแพงมากมายก็มีให้เลือกใช้ตามกำลังทรัพย์ (แต่ไม่ได้หมายความว่าของแพงจะดีกว่าของถูกนะ)

แต่หลัก ๆ แล้วผลิตภัณฑ์ Antioxidant ที่ดีควรจะ

- มีสาร Antioxidant อยู่หลายชนิดผสมกันอยู่ในผลิตภัณฑ์ตัวเดียวกัน

-มีสาร Antioxidant ผสมอยู่ในความเข้มข้นที่เหมาะสมด้วย โดยดูใน Ingredients List ว่าสาร Antioxidant เหล่านั้นต้องอยู่เป็นอันดับต้น ๆ หรือมีมากกว่าน้ำหอมและสารกันเสีย

- ปราศจากสารก่อการระคายเคือง

- อยู่ในบรรจุภัณฑ์ที่เหมาะสม อย่าง หลอดบีบทึบแสง หรือขวดปั้มทึบแสง เพราะสาร Antioxidant มักเสื่อมประสิทธิภาพได้ง่ายเมื่อเจอออกซิเจนและแสง





สาร Antioxidant ที่พบบ่อย ๆ


Vitamin Base Antioxidant : Vitamin A, B3 , C ,E (ข้อมูลโดยละเอียดมีเสนอในบทถัดไป)

Plant Base Antioxidant : Greean Tea, Pomegranate, Grape Seed, Soy Isoflavones / Soy Extract, Ginkgo Biloba

Enzyme Base Antioxidant : Superoxide Dismutase, Ethylbisiminomethylguaiacol Manganese Chloride





ตัวอย่างผลิตภัณฑ์ Antioxidant ที่น่าสนใจ


นี่เป็นเพียงผลิตภัณฑ์บางส่วนที่กระผมเลือกมาเป็นตัวอย่างเนื่องจากมีคุณลักษณะที่ของผลิตภัณฑ์ที่ดีตรงตามมาตรฐานของปูเป้นั่นก็คือ

- มีปริมาณสารแอนติออกซิแดนท์เยอะหรือหลากหลายน่าประทับใจ

- บรรจุภัณฑ์เหมาะสม สามารถเก็บรักษาสารแอนติออกซิแดนท์ให้คงทนได้นาน

- มีสารก่อการระคายเคืองต่ำ หรือแทบไม่มีเลย (บางตัวก็มีน้ำหอม บางตัวก็ไม่มีนะขอรับ)

- มีเนื้อผลิตภัณฑ์แบบ น้ำ / เจล / เซรั่ม ที่บางเบาและใช้ได้กับเกือบทุกสภาพผิว

ยังมีผลิตภัณฑ์ที่น่าสนใจอยู่อีกมากมายที่ไม่ได้อยู่ใน List ที่นำมาเสนอนี้ ซึ่งทุกท่านสามารถตรวจสอบ Ingredient List และเลือกใช้ได้ตามความเหมาะสม

Photobucket


ชื่อผลิตภัณฑ์ รีวิว และส่วนผสม เรียงลำดับจากซ้ายไปขวา


Paula’s Choice : Skin Balancing Super Antioxidant Mattifying Concentrate

Price: $22.95 / 30 ml.

อัดแน่นไปด้วยสารแอนติออกซิแดนท์มากมายหลากหลายชนิด ซึ่งทุกตัวนั้นมีข้อมูลการวิจัยมาพิสูจน์ประสิทธิภาพแล้วทั้งนั้น

เนื้อผลิตภัณฑ์เป็นแบบซิลิโคนล้วน ให้ความรู้สึกลื่นผิวทันทีที่ใช้ (แต่การต้องมาเขย่าหลอดทุกครั้งก่อนใช้นี่ก็เสียเวลาอยู่นะ) แถมชนิดซิลิโคนที่ใช้ก็เป็นแบบแห้งเร็วและช่วยดูดซับความมันได้ด้วย นี่จึงเป็นผลิตภัณฑ์ที่น่าสนใจสำหรับผิวมันผู้ต้องการได้รับประโยชน์จากสารแอนติออกซิแดนท์แต่ไม่ชอบความรู้สึกเหนอะหนะ

Tips : เบสซิลิโคนของผลิตภัณฑ์ตัวนี้สามารถใช้แทน Foundation Primer ไปได้เลยในตัว

Ingredients :
Dimethicone Crosspolymer (silicone slip and absorbent agent), Cyclomethicone (silicone slip agent), Isododecane (matte finish solvent), Neopentyl Glycol Diheptanoate (non-aqueous thickener), Cyclopentasiloxane, Cyclohexasiloxane (silicone slip agents), Tocopherol Acetate (vitamin E/antioxidant), Chamomilla Recutita (Matricaria) Flower Extract, Epilobium Angustifolium (Willow Herb) Extract (anti-irritants), Camellia Oleifera (White Tea) Leaf Extract, Camellia Oleifera (Green Tea) Leaf Extract (antioxidants/anti-irritants), Vitis Vinifera (Grape Seed) Extract (antioxidant), Bisabolol (anti-irritant), Tetrahexyldecyl Ascorbate (vitamin C/antioxidant), Retinol (antioxidant/cell-communicating ingredient), Astaxanthin Extract, Ginkgo Biloba Leaf Extract, Calluna Vulgaris (Heather) Extract, Vaccinium Macrocarpon (Cranberry) Seed Extract, Rubus Idaeus (Raspberry) Seed Extract, Betula Alba (White Birch) Extract (antioxidants), Caprylic/Capric Triglyceride (thickener), Silica (absorbent), Phenoxyethanol (preservative)


Paula’s Choice : Healthy Skin Refreshing Toner

อาจจะงงว่าทำไมถึงแนะนำโทนเนอร์ให้เป็น Treatment แต่ Healthy Skin Refreshing Toner มีสารแอนติออกซิแดนท์ในปริมาณที่ทำให้เซรั่มราคาแพง (แต่ส่วนผสมห่วย) บางตัวต้องอับอาย

นี่เป็นสินค้า Must-Try สำหรับผู้ที่มีผิวมันและต้องการได้รับประโยชน์จากสารแอนติออกซิแดนท์โดยไม่ต้องทรมานกับความเหนอะหนะบนใบหน้า

Ingredients :
Water, Camellia Oleifera (Green Tea) Leaf Extract (antioxidant), Epilobium Angustifolium (Willow Herb) Extract (anti-irritant), Vitis Vinifera (Grape) Seed Extract (antioxidant), Sodium Hyaluronate (water-binding agent), Glycerin (water-binding agent), Methyl Gluceth-20 (humectant), Sodium PCA (water-binding agent), Allantoin (anti-irritant), Butylene Glycol (water-binding agent), Caprylyl Glycol, Hexylene Glycol (preservatives), Bisabolol, Panthenol (anti-irritants), Polysorbate 20 (emulsifier), PEG-90M (stabilizer), Sodium Chloride, Sodium Citrate, Citric Acid, Potassium Phosphate (pH adjusters), Phenoxyethanol (preservative)


Clinique : Advanced Stop Signs Serum

Price: $38.50 / 50 ml.

เซรั่มตัวนี้ไม่สามารถหยุดยั่งการเกิดริ้วรอยได้อย่างที่เขาพยายามโฆษณา แต่ก็ต้องยอมรับว่านี่เป็นผลิตภัณฑ์ที่อุดมไปด้วยสารแอนติออกซิแดนท์นานาชนิด พ่วงมาด้วยสารต้านการระคายเคือง ให้ความชุ่มชื้น บรรจุในขวดปั้มทึบแสง และมีราคาไม่แพงโอเว่อร์เกินไปนัก

เนื้อผลิตภัณฑ์ตัวนี้ค่อนข้างบางเบาทีเดียวทำให้เหมาะกับทุกสภาพผิว โดยเฉพาะอย่างยิ่งผิวธรรมดาถึงผิวมัน

Ingredients :
Water, Cyclopentasiloxane, Butylene Glycol, Bis-Peg-18 Methyl Ether Dimethyl Silane, Glycerin, Peg-60 Hydrogenated Castor Oil, Silica, Methyl Gluceth-20, Yeast Extract, Squalane, Camellia Sinensis (Green Tea) Leaf Extract, Acetyl Carnitine Hcl, Bifida Ferment Lysate, Hordeum Vulgare (Barley) Extract, Triticum Vulgare (Wheat) Germ Extract, Tocopheryl Acetate, Anthemis Nobilis (Chamomile), Micrococcus Lysate, Morus Bombycis (Mulberry) Root Extract, Magnesium Ascorbyl Phosphate, Caprylyl Glycol, Sodium Hyaluronate, Betula Alba (Birch) Extract, Scutellaria Baicalensis Root Extract, Glycine Soja (Soybean) Seed Extract, Lecithin, Palmitoyl Oligopeptide, Dimethicone, Polymethylsilsesquioxane, Caffeine, Cholesterol, Linoleic Acid, Glyceryl Polymethacrylate, Peg-8, Polymethyl Methacrylate, Carbomer, Tromethamine, Xanthan Gum, Sodium Metabisulfite, Sodium Sulfite, Disodium Edta, Bht, Phenoxyethanol, Mica, Red 33, Yellow 5, Titanium Dioxide


Prescriptives : Super Line Preventor Xtreme

Price : $48 / 30 ml.

ใครที่ไม่ชอบเซรั่มเนื้อซิลิโคนลื่นๆ เพราะรู้สึกว่ามัน Ball up หรือลอกเป็นขุยได้ง่ายเวลาทาครีมกันแดดหรือลงรองพื้น คงจะถูกใจกับเนื้อผลิตภัณฑ์ของ Super Line Preventor Xtreme ขวดนี้เพราะว่าเบสเซรั่มเป็น น้ำ + Slip Agent

ผลิตภัณฑ์ตัวนี้ไม่สามารถป้องกันการเกิดริ้วรอยได้สมชื่อ (เพราะไม่มีอะไรสามารถหยุดยั้งการเกิดริ้วรอยได้) แต่ถ้าเรื่องชะลอการเกิดริ้วรอยแต่เนิ่น ๆ ล่ะก็สบายมาก ต้องขอบคุณ Prescriptives ที่นำเสนอสูตรผสมอันแสนยอดเยี่ยมที่อุดมไปด้วยสารแอนติออกซิแดนท์นานาชนิด แถมปราศจากน้ำหอมด้วย!!!

น่าเสียดายจริง ๆ ที่แบรนด์นี้เลิกทำการตลาดในภูมิภาคเอเชียไปแล้ว (มีคนเขาบอกมา) ใครที่สนใจก็คงต้องฝากซื้อจากอเมริกานะขอรับ

Ingredients :
Water, Butylene Glycol, Methyl Gluceth-20, Peg-75, Glycereth-26, Dipropylene Glycol, Peg-8 Dimethicone, Ascorbyl Tocopheryl Maleate, Ethylbisiminomethylguaiacol Manganese Chloride, Acetyl Hexapeptide-8, Decarboxy Carnosine Hcl, Aminoguanidine Hcl, Citrus Reticulatae Peel Extract, Acetyl Glucosamine, Humulus Lupulus (Hops) Extract, Vitis Vinifera (Grape) Seed Extract, Selaginella Tamariscina (Spike Moss) Extract, Polygonum Cuspidatum Root Extract, Rosmarinus Officinalis (Rosemary) Extract, Punica Granatum (Pomegranate) Juice Extract, Curcuma Longa (Turmeric) Root Extract, Sodium Grape Seed Extract Phosphate, Perilla Ocymoides Seed Extract, Citrus Grandis (Grapefruit) Peel Extract, Plankton Extract, Creatine, Aminopropyl Ascorbyl Phosphate, Linoleic Acid, Yeast Extract, Oleth-3 Phosphate, Linolenic Acid, Cyclopentasiloxane, Oleth-3, Adenosine Phosphate, Hydrogenated Polyisobutene, Oleth-5, Dimethicone, Caffeine, Tocopheryl Acetate, Polysilicone-11, Sodium Pca, Caprylyl Glycol, Ppg-6 Decyltetradeceth-30, Allyl Methacrylates Crosspolymer, Peg/Ppg-20/20 Dimethicone, Glycerin, Dextrin, Sodium Hyaluronate, Mannitol, Anthemis Nobilis (Chamomile), Urea, Lecithin, Polyquaternium-51, Nordihydroguaiaretic Acid, Cyclodextrin, Acetyl Carnitine Hcl, Trehalose, Ethylhexyl Methoxycinnamate, Xanthan Gum, Hexylene Glycol, Potassium Carbomer, Carbomer, Disodium Edta, Bht, Phenoxyethanol, Yellow 5, Green 5, Red 33


Bobbi Brown : Intensive Skin Supplement

Price : $60.00 / 30 ml.

นี่เป็นผลิตภัณฑ์ที่อุดมไปด้วยสารแอนติออกซิแดนท์ สารต้านการระคายเคือง Natural Moisturizing Factors และ Cell-Signaling Substance ซึ่งเป็นประโยชน์ต่อผิวคุณในระยะยาว แต่มันไม่ได้วิเศษขนาดป้องกันริ้วรอยไม่ให้เกิดขึ้น หรือทำให้ผิวขาวขึ้นได้อย่างที่เขาโฆษณาหรอกนะขอรับ

Ingredients :
Water, Butylene Glycol, Peg-8 Dimethicone, Methyl Gluceth-20, Glycerin, Polymethylsilsesquioxane, Sucrose, Peg-60 Hydrogenated Castor Oil, Tocopheryl Acetate, Vitis Vinifera (Grape) Fruit Extract, Acetyl Glucosamine, Scutellaria Baicalensis Root Extract, Magnesium Ascorbyl Phosphate, Morus Bombycis (Mulberry) Root Extract, Camellia Sinensis (Green Tea) Leaf Extract, Caffeine, Sodium Hyaluronate, Acetyl Hexapeptide-3, Ceramide 2, Linoleic Acid, Retinyl Palmitate, Betula Alba (Birch) Extract, Cholesterol, Isopentyldiol, Caprylyl Glycol, Xanthan Gum, Oryzanol, Sodium Sulfite, Sodium Metabisulfite, Edta, Disodium Edta, Bht, Sodium Dehydroacetate, Phenoxyethanol, Methylparaben, Ethylparaben, Propylparaben, Butylparaben, Isobutylparaben


Estee Lauder : Advanced Night Repair Concentrate Recovery Boosting Treatment

Price : $85 / 30 ml.

ไม่มีเหตุผลที่จะใช้ผลิตภัณฑ์ตัวนี้เฉพาะตอนกลางคืน เพราะสารแอนติออกซิแดนท์ที่มากมายและหลากหลายในนี้สามารถเสริมประสิทธิภาพของครีมกันแดดได้อย่างไม่ต้องสงสัย เนื้อผลิตภัณฑ์เบสน้ำ+ซิลิโคนก็ให้ความรู้สึกนุ่มลื่นเมื่อทา

ขอยืนยันการันตีว่าผลิตภัณฑ์ตัวนี้สามารถใช้ได้ทั้งกลางวันและกลางคืนตลอดทั้งปี (ถ้าจ่ายไหว...เพราะว่ามันแพงใช่ย่อยเลยล่ะ....

Ingredients :
Water, Cyclopentasiloxane, Butylene Glycol, Bifida Ferment Lysate, Bis-Peg-18 Methyl Ether Dimethyl Silane, Glycerin, Peg-60 Hydrogenated Castor Oil, Silica, Methyl Gluceth-20, Tocopheryl Acetate, Glycine Soja (Soybean) Seed Extract, Olea Europaea (Olive) Fruit Extract, Triticum Vulgare (Wheat Bran) Extract, Polygonum Cuspidatum Root Extract, Vitis Vinifera (Grape) Seed Extract, Selaginella Tamariscina (Spike Moss) Extract, Cola Nitida (Kola) Nut Extract, Humulus Lupulus (Hops) Extract, Ascorbyl Tocopheryl Maleate, Nordihydroguaiaretic Acid, Citri Reticulate Peel Extract, Punica Granatum (Pomegranate) Juice Extract, Cholesterol, Sea Whip Extract, Sodium Hyaluronate, Micrococcus Lysate, Caffeine, Alteromonas Ferment Extract, Sodium Rna, Pantethine, Arabidopsis Thaliana Extract, Yeast Extract, Ethylbisiminomethylguaiacol Manganese Chloride, Anthemis Nobilis (Chamomile), Linoleic Acid, Lecithin, Hydrogenated Lecithin, Rosmarinus Officinalis (Rosemary) Extract, Linolenic Acid, Xanthan Gum, Polymethylsilsesquioxane, Tromethamine, Carbomer, Dimethicone, Caprylyl Glycol, Lauryldimonium Hydroxypropyl Hydrolyzed Soy Protein, Potassium Sulfate, Cyclodextrin, Peg-9 Dimethicone, Simethicone, Caprylic/Capric Triglyceride, Disodium Edta, Bht, Potassium Sorbate, Phenoxyethanol, Caramel, Titanium Dioxide


Estee Lauder : Nutritious Vita-Mineral Radiance Serum

Price : $40 / 30 ml.

ถ้าซื้อผลิตภัณฑ์ตัวนี้เพราะหวังว่าจะเห็นผลชัดเจนหรือมีอะไรเปลี่ยนแปลงในระยะเวลาอันสั้น ปูเป้ว่ามีสิทธิ์ได้เขวี้ยงทิ้งลงถัง เพราะผลิตภัณฑ์ตัวนี้ไม่สามารถผลัดเซลล์ผิวได้อย่างที่เขาโฆษณา สิ่งที่คุณได้จริง ๆ ก็คือสารแอนติออกซิแดนท์จากพืชหลากหลายชนิด (แน่นอนว่ามีน้ำมันสกัดจากเมล็ดทับทิมด้วย)

ก็ถือเป็นเซรั่มแอนติออกซิแดนท์ราคาแพงหนึ่งตัว ซึ่งเป็นทางเลือกสำหรับผู้ที่ไม่รู้จะเอาเงินไปถลุงเล่นยังไง

(ส่วนผสมคล้าย ๆ กับ Prescriptives : Super Line Preventor Xtreme )

Ingredients :
Water, Butylene Glycol, Methyl Gluceth-20, Peg-75, Glycereth-26, Peg-8 Dimethicone, Oryza Sativa (Rice) Bran Extract, Hydrolyzed Soy Protein, Saccharomyces/Zinc Ferment Extract, Hydrolyzed Yeast Protein, Passiflora Alata (Passionfruit) Fruit Extract, Saccharomyces Ferment Lysate Filtrate, Sigesbeckia Orientalis (St. Paul's Wort) Extract, Camellia Sinensis (Green Tea) Leaf Extract, Punica Granatum (Pomegranate) Seed Oil, Saccharomyces/Magnesium Ferment Extract, Punica Granatum (Pomegranate) Fruit Juice, Saccharomyces Lysate Extract, Hydrolyzed Corn Protein, Sodium Hyaluronate, Centella Asiatica (Hydrocotyl) Extract, Saccharomyces/Calcium Ferment Extract, Creatine, Hydrolyzed Wheat Protein, Dimethicone, Prunus Mume Fruit Extract, Calluna Vulgaris (Heather) Extract, Pyrus Malus (Apple) Fruit Extract, Oleth-3 Phosphate, Cyclopentasiloxane, Oleth-3, Ethylhexylglycerin, Dipropylene Glycol, Hydrogenated Polyisobutene, Oleth-5, Tocopheryl Acetate, Sucrose, Caffeine, Polysilicone-11, Glycerin, Pantethine, Acetyl Carnitine Hcl, Acetyl Glucosamine, Phytantriol, Ppg-6 Decyltetradeceth-30, Fragrance, Peg/Ppg-20/20 Dimethicone, Adenosine Phosphate, Cyclodextrin, Potassium Carbomer, Carbomer, Ethylhexyl Methoxycinnamate, Ethylbisiminomethylguaiacol Manganese Chloride, Xanthan Gum, Bht, Disodium Edta, Phenoxyethanol, Red 33, Yellow 5


MD Formulations : Moisture Defense Antioxidant Hydrating Gel

Price: $45.00/1 ounce

ไม่มีอะไรมากไปกว่า น้ำ + สารให้ความชุ่มชื้น + สารแอนติออกซิแดนท์แบบเอมไซม์และจากพืช แล้วก็ Lipid ที่ช่วยเสริมชั้นเคลือบผิว

เป็นตัวอย่างที่ดีที่จะชี้ให้เห็นว่า ผลิตภัณฑ์ที่อวดตัวเป็น “เวชสำอาง” ก็ไม่ได้มีอะไรที่แตกต่างจาก “เครื่องสำอาง” เพราะคุณสามารถหาส่วนผสมพวกนี้ได้ไม่ยากหรอก

แต่ถ้าคุณรู้สึกสบายใจกว่ากับการจ่ายเงินแพง ๆ เพื่อผลิตภัณฑ์ที่มีแพทย์ผิวหนังเป็นคนโฆษณา นี่ก็ถือเป็นตัวเลือกที่ดีใช้ได้ และมันก็เหมาะกับทุกสภาพผิว โดยเฉพาะกับผิวมันที่เสาะแสวงหามอยซืเจอไรเซอร์แบบเจลที่ไม่หนักผิว

Ingredients :
Purified Water, Sodium Hyaluronate, Superoxide Dismutase, Camellia Oleifera (Green Tea) Extract, Glycyrrhiza Glabra (Licorice) Extract, Yeast Extract, Glycosphingolipids, Phospholipids, Cholesterol, Butylene Glycol, Xanthan Gum, Disodium Edta, Methylparaben, Imidazolidinyl Urea


Boots : Botanics Radiance Renewal Night Serum

Price: $15.99 / 30 ml.

เซรั่มเนื้อบางเบาตัวนี้มีสาร Antioxidant ในรูปของ Vaccinium Myrtillus หรือ Bilberry มาเป็นอันดับที่สาม และก็มีวิตามินอีแถมมาให้ด้วย บรรจุภัณฑ์ก็เหมาะสม ส่วน Sugar Cane Extract นั้นไม่สามารถ Exfoliate ผิวได้เหมือนกับ Glycolic Acid ตามที่เขาโฆษณา อย่างไรก็ดี Sugar Cane Extract ก็สามารถช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิวได้

ส่วนผสมของ Orange Flower Extract นั้นใช้เป็นน้ำหอมและอาจก่อการระคายเคืองได้ แต่ในปริมาณไม่มากนักก็ยังถือว่าพอหยวน ๆ กันได้ ถ้าคุณมีผิว Sensitive จริงๆ ก็มองข้ามตัวนี้ไปดีกว่า

Ingredients :
Water, Glycerin, Vaccinium Myrtillus Extract, Glyceryl Polymethacrylate, Polysorbate 20, Hydroxyethylcellulose, Saccharum Officinarum (Sugar Cane) Extract, Xanthan Gum, Phenoxyethanol, Tocopheryl Acetate, Citrus Aurantium Dulcis (Orange) Flower Extract, Citrus Medica Limonum (Lemon) Peel Extract, Panthenol, Methylparaben, Ginkgo Biloba Leaf Extract, Fragrance, Acer Saccharum (Sugar Maple) Extract, Retinyl Palmitate, Propylene Glycol, Tetrasodium Edta, Dipropylene Glycol, Silica, Propylparaben, Tocopherol


Good Skin : All Firm Rebuilding Serum

Price : $26.00 / 30 ml.

คงต้องรอถึงชาติหน้าถ้าหวังจะเห็นผิว Firm กระชับขึ้น เพราะสารแอนติออกซิแดนท์จากพืชและวิตามินหลายชนิด รวมถึงเปปไทด์ในเซรั่มตัวนี้ไม่สามารถยกกระชับผิวที่หย่อนคล้อยได้

แต่ถ้าคุณไม่คาดหวังในสิ่งที่เป็นไปไม่ได้อย่างการลดริ้วรอยหรือกระชับผิว นี่ก็ถือเป็นผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพทีเดียวล่ะ

Ingredients :
Water Purified, Butylene Glycol, Methyl Gluceth-20, Peg-75, Glycereth-26, Yeast Extract, Peg-8 Dimethicone, Dimethicone, Green Tea Leaf Extract, Saccharomyces / Magnesium Ferment Extract, Sunflower Seed Extract, Saccharomyces Lysate Extract, Plankton Extract, Saccharomyces / Zinc Ferment Extract, Algae Extract, Saccharomyces / Calcium Ferment Extract, Acetyl Carnitine Hcl, Sodium Rna, Palmitoyl Oligopeptide, Sodium Hyaluronate, Acetyl Glucosamine, Magnesium Ascorbyl Phosphate, Tocopheryl Acetate, Pantethine, Ethylhexylglycerin, Glycerin, Matricaria, Lecithin, Chamomile, Peg/Ppg-20/20 Dimethicone, Cyclopentasiloxane, Dipropylene Glycol, Ppg-6 Decyltetradeceth-30, Hydrogenated Polyisobutene, Xanthan Gum, Oleth-3, Oleth-5, Peg-8, Oleth-3 Phosphate, Glyceryl Polymethacrylate, Potassium Carbomer, Disodium Edta, Bht, Phenoxyethanol, Methylparaben






จากข้อมูลทั้งหมดนี้ กระผมหวังว่าทุกท่านจะเข้าใจเรื่อง Free Radical กับ Antioxidant เพิ่มขึ้นไม่มากก็น้อยนะขอรับ

วิตามินบางชนิดเช่นไวตามิน A, B3, C, E นอกจากจะมีประโยชน์เป็นสารแอนติออกซิแดนท์แล้ว ยังมีคุณสมบัติพิเศษอื่น ๆ ที่ดีกับผิวอีกมากมาย ซึ่งนำเสนอเรื่องราวของวิตามิน A เป็นอันดับแรก โดยทุกท่านสามารถคลิกอ่านได้ที่ Skincare Basic #9-2 : Vitamin A




Create Date : 12 ตุลาคม 2551
Last Update : 2 กรกฎาคม 2552 13:14:28 น. 47 comments
Counter : 23646 Pageviews.

 
ขอบคุณมาก ๆ ค่ะ สำหรับความรู้


โดย: คุณย่าเซ็กซี่ วันที่: 12 ตุลาคม 2551 เวลา:1:12:55 น.  

 
ประโยคนี้โดนใจอย่างแรงค่ะ... “ไม่ทราบพ่อเป็นคางคกรึไง ถึงได้หายใจแลกเปลี่ยนออกซิเจนทางผิวหนังได้...
ขอจำไปใช้นะคะ เผื่อเจอ BA ตระกูลกบ


โดย: kissiekee วันที่: 12 ตุลาคม 2551 เวลา:1:25:39 น.  

 
มาแปะไว้ก่อนนะคะพี่เป้ ขอนอนก่อน
เดี๋ยวพรุ่งนี้มาตามเก็บ อิอิ
ขอบคุณทุกคำแนะนำนะค้า

ฝันดีเด้อ


โดย: หนึ่ง IP: 116.58.231.242 วันที่: 12 ตุลาคม 2551 เวลา:1:26:26 น.  

 
แวะมาให้กำลังใจให้ค่ะ ^^

คำแนะนำของคุณปูเป้ทำให้เราฉลาดขึ้นเยอะเรยค่ะ ต้องขอบคุณมาก ๆเรยที่สละเวลามาทำBlogที่ให้ความรู้และมีประโยชน์มากขนาดนี้

อยากจะบอกว่าตอนนี้เราติดBlogของคุณปูเป้มาก ๆเรยหล่ะ แบบต้องเข้ามาอ่านทุกวันไม่งั้นนอนไม่หลับ อิอิ.. เสียดายที่ตอนนี้เรากำลังจะสอบเรยอ่านได้แค่คร่าว ๆ ไว้สอบเส็ดเมื่อไหร่จะมาอ่านใหม่ทั้งหมดอีกรอบอย่างละเอียดเรยยย.. ^______^


โดย: แพร IP: 58.9.135.200 วันที่: 12 ตุลาคม 2551 เวลา:2:00:33 น.  

 
ขอบคุณมากค่ะสำหรับความรู้

เราก็ชอบ Toner ของ ป้าพรหล้า เหมือนกัน คือ ใช้แล้ว นอกจากบำรุงหนังหน้า แล้วยัง บำรุงสมองด้วย คือ ไม่ต้องไปจ่ายแพงๆ แล้วได้ของไม่ดี เหมือนอย่างบางยีห้อ



โดย: ลูกแพร แช่อิ่ม วันที่: 12 ตุลาคม 2551 เวลา:4:47:47 น.  

 
ได้ความรู้เยอะเลยค่ะ
ขอบคุณมากนะคะ...


โดย: tiktoth วันที่: 12 ตุลาคม 2551 เวลา:6:31:47 น.  

 
add เก็บไว้ก่อนเดี๋ยวช่วงบ่ายมาอ่านต่อนะคะ
น่าสนใจมากเลยค่ะ เพราะถึงวัยแล้ว อิอิ


โดย: ชิฟฟอนคาปูชิโน่ วันที่: 12 ตุลาคม 2551 เวลา:7:33:02 น.  

 
ขอบคุณสำหรับข้อมูลค่ะ
มีประโยชน์มากๆ เลย


โดย: Almost Unreal วันที่: 12 ตุลาคม 2551 เวลา:9:48:58 น.  

 
โอ้...........มาไวทันใจ

รออ่านตอนต่อไปด้วยความระทึกในหทัยพลัน



โดย: AntiSpam (อันตราคนี ) วันที่: 12 ตุลาคม 2551 เวลา:9:59:40 น.  

 
ชอบๆๆๆๆๆๆๆๆ ที่สุด


โดย: dera IP: 125.25.18.215 วันที่: 12 ตุลาคม 2551 เวลา:11:11:08 น.  

 

รออ่านบทต่อไปอย่างตั้งใจ


โดย: อย่าิไปคิดมากกับชีวิต วันที่: 12 ตุลาคม 2551 เวลา:13:25:20 น.  

 
พี่ก็เคยได้ยินบีเอพูดอย่างนี้เหมือนกันนะคะ แต่ตอนนั้นยังไม่ได้คิดอะไร พออ่านเรื่องนี้แล้ว โอ...มันผิดมหันต์เลยนะที่บีเอพูดเนี่ย


โดย: sriwis IP: 125.26.165.159 วันที่: 12 ตุลาคม 2551 เวลา:14:50:09 น.  

 
ขำคางคกคุณปูเป้จัง
อิอิ


โดย: ชาช่า IP: 222.123.79.53 วันที่: 12 ตุลาคม 2551 เวลา:14:55:11 น.  

 
อันนี้ไม่เกี่ยวกับแอนไทอ๊อกซิแดนท์เท่าไหร่

วันนี้เดินผ่านบูธของสกินแคร์ยี่ห้อ E บีเอก็เข้ามาคุยด้วย ไถ่ถามว่ามีปัญหาผิวประเภทไหนคะ

ก็ตอบไปว่า คง aging ล่ะมั้ง เพราะอย่างอื่นก็ไม่มีอะไร (เรื่อง aging มันห้ามไม่ได้เนาะ 555) เห็นบีเอเขากระตือรือร้นดี เราก็อยากคุยด้วย

เขาก็เอาซีรั่มมาทาให้ ก็แห้งเร็วดี ที่ชอบคือบีเอบอกว่า ผลิตภัณฑ์ตัวนี้ ใช้คอลลาเจนเข้มข้นม้ากมากกกกกกนะเคอะ (จ๋าจ้ะ) ซึ่งมีการศึกษาพิสูจน์แล้วนะคะว่า ทำให้ผิวคืนสภาพจากริ้วรอยที่หย่อนคล้อยอันเกิดจากแรงโน้มถ่วงของโลก

(อ่าว ไม่ใช่เพราะเราแก่ลง ผิวเสื่อมไปตามอายุขัยหรอกรึ)

ก็ชวนให้คิดว่าในอนาคตข้างหน้า บริษัทสกินแคร์คงไปสร้าง Anti-Aging Dormitory ที่ดวงจันทร์ สำหรับสาวๆ ที่ต้องการรักษาผิวพรรณให้เต่งตึง ไม่หย่อนคล้อยเพราะแรงโน้มถ่วงของโลก


โดย: AntiSpam (อันตราคนี ) วันที่: 12 ตุลาคม 2551 เวลา:19:28:43 น.  

 
ความรู้เพียบ เล็งพอลล่าไว้แล้วค่ะ


โดย: อุ้ม (vigannda ) วันที่: 12 ตุลาคม 2551 เวลา:20:16:26 น.  

 
เข้ามาเก็บข้อมูลค่า


โดย: pook_sb วันที่: 12 ตุลาคม 2551 เวลา:23:35:59 น.  

 

เพราะคำแนะนำดีมีประโยชน์ของน้องปูเป้ จึงทำให้สาวๆหน้าใส ตาสว่าง ฉลาด สวยพร้อมสรรพ ขอบคุณมากค่ะ

เดี๋ยวนี้..พี่เป็นสาวกป้าพอลล่าแบบครบวงจรไปเรียบร้อยแล้วค่ะ ทั้งใช้ ทั้งรับฝากหิ้ว สนุกสนาน

อ้อล็อตนี้..เพื่อนๆจะได้รับของ 20 ตุลาคมนี้ค่ะ

สำหรับล็อตหน้า เปิดให้เพื่อนๆสั่งแล้วถึง 20 ตุลาคมนี้
จะได้รับของ 12 พฤศจิกายนค่ะ


โดย: ซินดี้ IP: 58.136.203.212 วันที่: 13 ตุลาคม 2551 เวลา:22:31:10 น.  

 

พี่ซินดี้ sync2u@hotmail.com


โดย: ซินดี้ IP: 58.136.203.212 วันที่: 13 ตุลาคม 2551 เวลา:22:36:17 น.  

 
มาติดตามพี่ปูเป้เหมือนเคยค่ะ
อ่านของพี่ปูเป้แล้ว เข้าใจง่ายค่ะ
ตอนนี้แนะนำเพื่อนที่รู้จักให้มาอ่านของพี่ปูเป้เกือบหมด
ทุกคนลงความเห็นว่า พี่ปูเป้ คือGUruตัวจริงเสียงจริงเลยค่ะ เป็นประโยชน์มากๆ ค่ะ จะติดตามตลอดไปนะคะ

พี่ปูเป้คะ น้องขอ เมลล์พี่ปูเป้ได้มั้ยคะ พอดีไปหลังไมค์ไม่ได้ คือมีเรื่องอยากบอกค่ะ

noot_toon61@hotmail.com


โดย: aey IP: 124.121.143.142 วันที่: 19 ตุลาคม 2551 เวลา:1:28:11 น.  

 
ได้ความรู้เยอะเลยค่ะ....เมื่อก่อนนไม่เคยสนใจเรื่องพวกนี้เลยอ่ะ แต่ว่าตอนนี้อ่านจากบล็อคของคุณปูเป้ ยิ่งอยากบำรุงยิ่งขึ้นเลยอ่ะ
สงสัยต้องเสียสรัพย์กับเจ้าตัวนี้ซะแว้ว Skin Balancing Super Antioxidant Mattifying Concentrate


โดย: lady IP: 58.8.143.236 วันที่: 20 ตุลาคม 2551 เวลา:9:25:06 น.  

 
คุณปูเป้อยู่ไหม

Clinique : Advanced Stop Signs Serum
มันมีขายในไทยไหมครับ


โดย: vip IP: 58.9.164.88 วันที่: 22 พฤศจิกายน 2551 เวลา:10:17:00 น.  

 
กระผมเคยซื้อที่เคาเตอร์ไทยเมื่อประมาณปีก่อน แต่ตอนนี้ไม่ได้แวะไปเลยขอรับ ในเวป //www.clinique.co.th ก็พึ่งถอดออกไปได้สักพัก ไม่ทราบเหมือนกันว่าจะเลิกขายรึยัง

ก็ไม่แน่ขอรับ เพราะว่า Toner สูตร Mild ในเวปไม่มีแต่ไปถามเคาเตอร์แล้วมีขอรับ (แต่ที่เคาเตอร์ก็ไม่โชว์บนชั้นนะ)


โดย: PuPe_so_Sweet วันที่: 22 พฤศจิกายน 2551 เวลา:13:00:01 น.  

 
ไปถามที่เซ็นปิ่นเขาบอกไม่นำเข้าแล้วครับแป่วเลย

ขอบคุณครับ

สงสัยต้องไปพึ่งป้าพอลล่า


โดย: vip IP: 58.9.161.216 วันที่: 26 พฤศจิกายน 2551 เวลา:9:07:10 น.  

 
ว๊า... ไม่เอามาขายแล้วรึนี่

กระผมว่าเจ้าตัวนี้เป็น Antioxidant Serum ที่ถูกที่สุดของแบรนด์นี้ แล้วล่ะขอรับ (ก็ขวดนึงตั้ง 50ml แน่ะ)


โดย: PuPe_so_Sweet วันที่: 28 พฤศจิกายน 2551 เวลา:2:41:10 น.  

 
คุณปูเป้คะ

Skin Balancing Super Antioxidant Mattifying Concentrate

สมารถล้างทำความสะอาดออกด้วย cleansing ตามปกติหรือป่าวเอ่ย



โดย: กี้ IP: 58.8.64.155 วันที่: 3 ธันวาคม 2551 เวลา:19:27:43 น.  

 
ออกขอรับ


โดย: PuPe_so_Sweet วันที่: 3 ธันวาคม 2551 เวลา:20:44:37 น.  

 
เคยใช้สาร Antioxidant แล้วค่ะ แต่ทำไมรู้สึกระคายเคื่องผิว คือใช้กลางวัน และก่อนนอน เป็นคนผิวผสมโทนแห้ง กลายเป็นคัน ผื่นขึ้นค่ะ ทำไมเป็นเช่นนั้นค่ะ


โดย: M IP: 124.121.148.219 วันที่: 8 มกราคม 2552 เวลา:2:46:07 น.  

 
สารแอนติออกซิแดนท์มีเยอะมากมายหลายตัวขอรับ (เป็นร้อยเลยล่ะ) และอาจจะแพ้ส่วนผสมของสารก่อการระคายเคืองตัวอื่น ๆใน เนื้อครีมก็เป็นไปได้ขอรับ

การบอกว่าแพ้สารแอนติออกซิแดนท์ดูจะกว้างไปหน่อย ต้องพยายามหาว่าเราแพ้สารตัวไหนดู เพราะว่าในครีมปกติก็จะมีสารแอนติออกซิแดนท์อยู่แล้ว (อย่างน้อยก็วิตามินอี)

สารแอนติออกซิแดนท์ที่ทำงานได้ดีมาก ๆ บางชนิดอย่างพวก Idebenone นั้นก่อให้เกิดอาการแพ้ได้ง่ายขอรับ ถ้าคิดว่าเป็นเพราะสารแอนติออกซิแดนท์จริง ลองหาสารแอนติออกซิแดนท์ที่ร่างกายผลิตได้เองตามธรรมชาติอย่าง Co-Q10 / Superoxide Dismutase เพื่อลดโอกาสที่แอนติบอดี้จะ detect ว่าเป็นสิ่งแปลกปลอมอันตรายจนก่อให้เกิดอาการแพ้ขอรับ


โดย: PuPe_so_Sweet วันที่: 8 มกราคม 2552 เวลา:11:58:54 น.  

 
ผมว่าคุณปูเป้น่าจะศึกษาว่าระหว่าง Reactive Oxygen Species กับ Oxygen นั้นแตกต่างกันอย่างไร

Reactive Oxygen Species นั้นไม่ใช่ Oxygen

Reactive Oxygen Species เกิดจากการที่ออกซิเจนถูก reduced อย่างไม่สมบูรณ์ จะประกอบไปด้วย singlet oxygen, superoxides, peroxides, hydroxyl radical และ hypochlorous acid

แต่ Oxygen (O2) ไม่ใช่อนุมูลอิสระแน่นอนครับ

ดังนั้นการที่คุณบอกว่า "คนส่วนใหญ่คิดว่าอนุมูลอิสระเกิดขึ้นจากปัจจัยภายนอกอย่าง ออกซิเจน..." จึงเป็นการที่ไม่รู้จริงแล้วเอามาพูด

หรือแม้กระทั่งคำพูดที่ว่า "ไม่ทราบพ่อเป็นคางคกรึไง ถึงได้หายใจแลกเปลี่ยนออกซิเจนทางผิวหนังได้... แล้วการทาผลิตภัณฑ์ที่ปล่อยออกซิเจนใส่ผิวก็ทำให้เกิดความเสียหายจากอนุมูลอิสระ ไม่ได้ช่วยบำรุงผิวตรงไหนเลย ” ก็เป็นการด่าว่าผู้อื่นโดยที่ตัวเองก็ไม่รู้จริง

เพราะการปล่อยออกซิเจนใส่ผิว (ไม่ใช่ Reactive Oxygen Species) ไม่ทำให้เกิดความเสียหายจากอนุมูลอิสระแน่นอนครับ """"เพราะออกซิเจนไม่ใช่อนุมูลอิสระ"""

ผมว่าคุณน่าจะอ่านข้อมูลให้ดีก่อนนำมาเขียน เพราะหลายๆสิ่งที่คุณเขียนมานั้นไม่ตรงกับความจริง

มีเวปมากมายให้ศึกษาครับ
//en.wikipedia.org/wiki/Reactive_oxygen_species
//ghr.nlm.nih.gov/glossary=reactiveoxygenspecies

หรือถ้าไม่แตกฉานภาษาแล้วแปลผิดๆถูกๆแบบนี้ ก็แนะนำเวปภาษาไทยครับ
//www.pharm.su.ac.th/thai/Organizations/DIS/Webboards/showQAnswer.asp?qNo=179





โดย: ไม่รู้จริง IP: 125.27.184.7 วันที่: 23 มกราคม 2552 เวลา:1:49:20 น.  

 
อีกประการหนึ่ง คุณควรจะเปลี่ยนความเชื่ออันไร้สาระของคุณทีเขียนมาว่า
""""ความเชื่อบ้าบอที่ว่า “การเติมออกซิเจนให้ผิวเป็นสิ่งที่ดี” นี้เกิดขึ้นจากไหนกระผมก็ไม่ทราบได้ แต่ก็หวังว่าทุกท่านที่ได้อ่านบทความนี้จะเลิกเชื่อเรื่องไร้สาระแบบนี้นะขอรับ""""

เพราะการเติมออกซิเจนให้แก่ร่างกายและผิวหนังนั้นเป็นประโยชน์ต่อร่างกายแน่นอนครับ แต่ด้วยการใช้วิธีทางการแพทย์ที่เรียกว่า "Hyperbaric oxygen therapy" โดยให้ผู้ป่วยนอนในตู้ที่มีความดันของออกซิเจนที่มากกว่าปกติ

ซึ่งการแพทย์ใช้ในการรักษาผู้ป่วยในหลายๆโรค เช่น การเกิดฟองก๊าซในกระแสเลือดจากการดำน้ำ แผลเบาหวาน แผลไฟไหม้ ช่วยในการหายของแผลต่างๆของผิวหนัง โรคทางผิวหนังอีกหลายโรค มีผลการวิจัยสนับสนุนยืนยันชัดเจน

//en.wikipedia.org/wiki/Hyperbaric_medicine
//emedicine.medscape.com/article/1297731-overview
//www.drcranton.com/hbo/hbobib.htm

ถึงแม้ว่าการเติมออกซิเจนให้กับร่างกายและผิวหนังที่ได้ผลนั้นจะต้องทำด้วยวิธี Hyperbaric oxygen therapy แต่การที่ให้ผิวหนังของเราได้รับออกซิเจนจากอากาศที่บริสุทธิ์ ก็เป็นสิ่งที่ดี

และแม้แต่การที่ผิวหนังจะได้ออกซิเจนจากเครื่องสำอางนั้น ถึงแม้จะไม่น่าจะช่วยอะไรได้มากมาย แต่ก็ไม่ทำให้เกิดความเสียหายจากอนุมูลอิสระแน่นอนครับ
""""เพราะออกซิเจนไม่ใช่อนุมูลอิสระ""""
""""เพราะออกซิเจนไม่ใช่อนุมูลอิสระ""""
""""เพราะออกซิเจนไม่ใช่อนุมูลอิสระ""""

ก็หวังว่าทุกท่านที่ได้อ่านบทความนี้เชื่อเรื่องที่ว่า"การเติมออกซิเจนให้ผิวเป็นสิ่งที่ดี"นะขอรับ



โดย: ไม่รู้จริง IP: 125.27.184.7 วันที่: 23 มกราคม 2552 เวลา:2:19:41 น.  

 
น่าแปลกนะขอรับ ที่แหล่งข้อมูลที่แนบมานั้นก็เป็นส่วนหนึ่งกับที่ปูเป้หามาเพื่อทำบทความนี้เหมือนกัน แต่สิ่งที่เราสรุปออกมานั้นเป็นคนละเรื่องกัน

ไม่เป็นไรขอรับ กระผมขออธิบายให้ทีละประเด็นดีกว่า

- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -


ประเด็นเรื่องภาษาไม่แตกฉาน แปลผิด ๆ ถูก ๆ นี่คงไม่ใช่ปัญหาของปูเป้นะขอรับ เพราะอะไรนั้นปูเป้ขออธิบายให้ทราบอย่างชัดเจนจะดีกว่า


ในบทความของปูเป้บอกว่า

"Reactive Oxygen Species ก็คือโมเลกุลของออกซิเจนที่ไม่เสถียรเนื่องจากมีจำนวนอิเลคตรอนไม่ครบคู่"

ไม่ได้บอกว่า Oxygen คือ Reactive Oxygen Species

ก็ถูกต้องแล้วไม่ใช่รึขอรับ....


นอกจากนี้ประโยคที่ว่า

"คนส่วนใหญ่คิดว่าอนุมูลอิสระเกิดขึ้นจากปัจจัยภายนอกอย่าง ออกซิเจน, มลพิษ, ควันบุหรี่, แสงแดด"

ช่วยอ่านเน้นคำว่า "ปัจจัย" หน่อยนะขอรับ ปุเป้จะแปลไทยเป็นไทยให้อีกทีละกัน ประโยคนี้มีความหมายว่า "ออกซิเจน มลพิษ ควันบุหรี่ แสงแดด เป็น "ปัจจัย" ที่ก่อให้เกิดอนุมูลอิสระ ไม่ใช่บอกว่า ออกซิเจน มลพิษ ควันบุหรี่ แสงแดด เป็นอนุมูลอิสระเสียหน่อย...

แล้วมันผิดตรงไหนรึขอรับ?



ถ้าอ่านประโยคง่าย ๆ แบบนี้แล้วไม่เข้าใจ ตีความภาษาไทยไม่ถูก ไม่แตกฉาน ก็ถามกันดี ๆ ได้ขอรับ ปูเป้ใจดีตอบให้อยู่แล้ว

เรื่องแปลภาษาอังกฤษปูเป้ก็ไม่มีปัญหาอะไรนะขอรับ ก็ไม่เห็นว่าปูเป้จะแปลผิดตรงไหน เพราะเนื้อหาใน Blog นี้ก็ไม่ได้ผิดหลักความจริงแต่อย่างใด คงไม่ใช่ปูเป้แล้วล่ะขอรับที่ควรจะกลับไปทบทวนเรื่องความสามารถในการแปล


ไหน ๆ ก็ตอบให้แล้ว ใจดีขยายความเรื่องอื่นให้ด้วยเลยละกัน

- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -

เห็นท้วงมาว่า

"และแม้แต่การที่ผิวหนังจะได้ออกซิเจนจากเครื่องสำอางนั้น ถึงแม้จะไม่น่าจะช่วยอะไรได้มากมาย แต่ก็ไม่ทำให้เกิดความเสียหายจากอนุมูลอิสระแน่นอนครับ"

บอกมาแบบนี้แปลว่าอาจจะยังไม่ทราบนะขอรับ เลยจะขอแชร์ข้อมูลให้หน่อย หวังว่าจะเป็นประโยชน์ไม่มากก็น้อย...


เครื่องสำอางที่อวดอ้างว่าเติมออกซิเจนให้ผิวได้ จะมักใช้สารจำพวก Oxygen-Releasing Compound อย่าง Hydrogen Peroxide ซึ่งจะปลดปล่อย ROS (Reactive Oxygen Species) ลงบนผิว ผลเสียแน่นอนคือเพิ่มอนุมูลอิสระ ทำร้ายคอลาเจน

แต่ใช่ว่า ROS จะมีแต่ผลเสีย

เครื่องสำอางที่ผสม Oxygen Releasing Compound จะมีประโยชน์ก็ต่อเมื่อผู้ใช้มีปัญหาสิวเนื่องจาก ROS สามารถฆ่าเชื้อได้ จึงสามารถช่วยลดปัญหาสิว แต่ Oxygen Releasing Compound ที่อ่อนโยนและเสถียรกว่าอย่าง Benzoyl Peroxide ก็เป็นตัวเลือกที่ดีกับผิวมากกว่าอย่างไม่ต้องสงสัย

แล้วการใช้ครีมที่โฆษณาว่าปล่อยออกซิเจนลงผิวมันเป็นการบำรุงผิวตรงไหน? เพราะในเมื่อออกซิเจนที่ว่ามันปล่อยอกมา มันไม่ใช่ออกซิเจนบริสุทธิ์ แต่เป็น ROS


แล้วออกซิเจนบริสุทธุ์ไม่มีผลเสียต่อร่างกายเลยงั้นหรือ คำตอบคือมีขอรับ เพราะถึงออกซิเจนจะไม่ใช่อนุมูลอิสระ แต่มันเป็นปัจจัยที่ก่อให้เกิดอนุมูลอิสระอย่างที่ได้บอกในบทความอันนี้เป็นอย่างดีแล้ว

ปูเป้จะอธิบายเพิ่มเติมในอีกประเด็นของ Hyperbaric oxygen therapy ที่อ้างถึงละกัน

- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -

การใช้ออกซิเจนบริสุทธิ์เพื่อการบำบัดรักษาHyperbaric oxygen therapy คือการเข้าไปนอนแช่ในตู้ความดันออกซิเจนจริง ใช้ประโยชน์ในการรักษา "โรค" ต่าง ๆ นา ๆ เช่น แผลเบาหวาน แผลไฟไหม้ ช่วยในการหายของแผลต่างๆของผิวหนัง อย่างที่ว่าจริง

การรักษานี้มาจากฐานที่ว่า เซลลืเม็ดเลือดขาวต้องใช้ออกซิเจนมากกว่าปกติ 20 เท่าในการต่อสู้กับการติดเชื้อ ดังนั้นการได้รับออกซิเจนมากขึ้นจึงทำให้เม็ดเลือดขาวสามารถทำงานได้ดีขึ้นด้วยเช่นกัน จึงใช้กระบวนการนี้เพื่อรักษาบาดแผลที่ไม่ยอมหายหรือสมานด้วยวิธีปกติ

นั่นคือข้อดีของมันขอรับ แต่ว่ามันเกี่ยวอะไรกับการบำรุงผิวตรงไหน?

แน่นอนว่าของทุกอย่างย่อมมีผลสองด้าน ผลทางด้่านลบของการทำ Hyperbaric oxygen therapy ก็คือก่อให้เกิด Free Radical หรือ อนุมูลอิสระ และก็ยังมีโอกาสที่จะเกิดพิษจากการรับออกซิเจนมากไปด้วย (ซึ่งถ้าทำอย่างถูกหลักการ ภายใต้การควบคุมของผู้ที่ได้รับการอบรมมาก็จะลดความเสี่ยงนี้ได้)

//emedicine.medscape.com/article/1297731-overview <---- ในนี้ก็มีบอกว่ามันก่อให้เกิดอนุมูลอิสระได้

//www.informaworld.com/smpp/content~content=a785299750~db=all <---- Hyperbaric Oxygen Therapy Increases Free Radical Levels in the Blood of Humans

หากเป็นผู้ป่วยเบาหวานที่เกิดแผลก็จำเป็นต้องใช้ออกซิเจนบำบัด เพราะถ้าแผลไม่หายก็จะเน่าลามไปจนถึงขั้นต้องตัดอวัยวะ การทำออกซิเจนบำบัดก็เป็นเรื่องที่คุ้มค่า เพราะความเสียหายจากอนุมูลอิสระมันเล็กน้อยกว่าการต้องตัดแขนหรือตัดขาที่เน่าทิ้ง

หากเป็นผู้ป่วยที่เกิด Decompression Illness จากการดำน้ำ ซึ่งในขั้นร้ายแรงอาจถึงแก่ชีวิตได้ การใช้ออกซิเจนบำบัดก็เป็นวิธีที่จำเป็น และคุ้มค่ากับการเกิดอนุมูลอิสระในร่างกาย

"แต่" คนปกติธรรมดาที่ไม่ได้เจ็บป่วยหรือมีปัญหาสุขภาพ หรือไม่มีบาดแผลบนผิวให้ต้องรักษา แล้วเราจะเติมออกซิเจนเข้าไปเพื่อเพิ่มอนุมูลอิสระทำไม???? การใช้ออกซิเจนบำบัดมีข้อดีก็ต่อเมื่อมีตัวแปรเรื่องความผิดปกติของร่างกายเข้ามาเกี่ยวข้อง แต่กับคนปกติทั่วไปแล้วไม่มีความจำเป็นต้องไปหาเรื่องใส่ตัวแบบนั้น


- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -

สรุปคือ

การรักษาบาดแผลด้วยการเข้าตู้อัดออกซิเจนบริสุทธิ์ กับการทาครีมที่ปล่อยออกซิเจนลงผิว มันเป็นคนละเรื่องกัน

การบำบัดรักษาด้วยออกซิเจนบริสุทธิ์มีข้อดีในการบำบัดโรค แต่มันก็ไม่ได้บำรุงผิว แถมยังมีผลข้างเคียงเรื่องเพิ่มอนุมูลอิสระในร่างกายอีกด้วย

ด้วยเหตุผลที่ยกมาอธิบายทั้งหมดนี้ ปูเป้ถือว่าบทความของกระผมนั้นไม่ได้มีอะไรบกพร่อมาตั้งแต่แรกแล้ว ยังไงก็ช่วยเปลี่ยนความเข้าใจผิด ๆ ที่เกิดขึ้นจากความไม่แตกฉานเรื่องภาษาของคุณด้วยนะขอรับ แต่ถ้ายังอยากเชื่อว่าออกซิเจนเป็นสิ่งที่ดีกับผิวมากและไม่ใช่ปัจจัยที่ก่ออนุมูลอิสระเลย ก็ขอให้มีความสุขกับการรมออกซิเจนใส่ตัวเองละกัน ; )

- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -

การแปลและการทำบทความมันเป็นศิลปะขอรับ มันต้องมีการตีความและมองในหลาย ๆ มุม

คนแปลก็มีทั้งที่แปลเก่งและไม่เก่งขอรับ ก็เหมือนกับหมอ ที่มีทั้งหมอเก่งและไม่เก่งเหมือนกัน

PS. จากที่ "ไม่รู้จริง" ปูเป้ก็หวังว่าตอนนี้ก็ได้รู้และได้เข้าใจอะไรเพิ่มมากขึ้นแล้วนะขอรับ



โดย: PuPe_so_Sweet วันที่: 23 มกราคม 2552 เวลา:22:23:23 น.  

 


คุณ"ไม่รู้จริง"เป็นใคร...?

น่าสงสัย...มาก

หรือจะเป็น แก๊งค์หมอ (หมอจริงหรือเปล่าไม่รู้?)...ที่...พยายามโชว์พาวว่า ตูข้านี้ "แน่จริงๆ"







โดย: blue IP: 58.8.201.181 วันที่: 23 มกราคม 2552 เวลา:23:04:30 น.  

 
คือว่าๆ ขออธิบายเรื่องการเรียงอิเล็กตรอนนิดส์นึง

อะตอมจัดเรียงอิเล็กตรอนสเถียทุกตัวจะต้อง

ลงท้ายด้วย(วาเลนท์อิเล็กตรอน) 2 หรือ 8นะฮะ

ถ้า 4 หรือ 6จะเป็นการจัดเรียง 2 2จะกลายเป็นหมู่ 2 คาบ 2นะครับผม 6 ก็ 2 4 คือหมู่ 4 คาบ 2นะครับ ผม

ขอบคุนสำหรับการรีวิวทุกรีวิวนะคร้าบ


โดย: tt IP: 118.173.144.5 วันที่: 5 เมษายน 2552 เวลา:19:44:00 น.  

 
ถึงคุณ tt

ขอบพระคุณที่ช่วยเสนอเนอะจุดบกพร่องตรงนี้เอาไว้ เดี๋ยวปูเป้จะไปหาข้อมูลเพิ่มเติมแล้วก็ทำการแก้ไขข้อมูลในจุดนี้ บทความจะได้มีความสมบูรณ์เพิ่มขึ้นและเป็นประโยชน์แก่ผู้อ่านท่านอื่นต่อไปในอนาคตนะขอรับ

ถ้ามีอะไรชีแนะเพิ่มเติมปูเป้ยินดีเสมอขอรับ :D




โดย: PuPe_so_Sweet วันที่: 5 เมษายน 2552 เวลา:23:46:13 น.  

 
พี่ปูเป้ครับ

อยากถามพี่ปูเป้เรื่อง กลูต้าไธโอน อ่ะครับ

ว่ามันดีจริงรึป่าว

คือมันมีทำออกมาเป็นแบบแคปซูลเม็ดอ่ะครับ

ทานไปนานๆจะทำให้เป็นมะเร็งผิวหนังได้ป่ะครับ

เพราะได้ยินมาว่ามันไปยับยั้งเมลานินอ่ะครับ

ขอบคุณล่วงหน้านะครับ ^^


โดย: 6E0 IP: 202.28.62.245 วันที่: 7 มิถุนายน 2552 เวลา:16:37:29 น.  

 
ปุเป้ไม่สนับสนุนเรื่องผลิตภัณฑ์เสริมอาหารขอรับ

ผิวเราขาวได้มากที่สุดเท่าที่ท้องแขน อะไรที่มากกว่านั้นถือว่าฝืนธรรมชาติของร่างกาย ย่อมมีผลเสีย

ที่สำคัญคือผลที่ได้นั้นไม่ถาวร พอหยุดกินก็กลับมาเป็นเหมือนเดิม ไม่ใช่อะไรที่จีรัง





โดย: PuPe_so_Sweet วันที่: 12 มิถุนายน 2552 เวลา:13:48:06 น.  

 
เข้าใจมากขึ้นเยอะเลยค่ะ

ขอบคุณมากนะคะ ที่เอาความรู้ดี ๆ มาบอกกันเสมอ


โดย: minemint IP: 117.47.59.162 วันที่: 9 สิงหาคม 2552 เวลา:16:18:24 น.  

 
ตอนนี้ก้อยทำงานวิจัยอยู่เหมือนกันค่ะ พี่ปูเป้ เกี่ยวกับยีนที่ช่วย detoxify พวก ROS เหมือนกัน แต่ก้อยทำในแบคทีเรียนะคะ แหะๆๆๆ เข้ามาอ่านแล้วอืมมมมมมม พี่ปูเป้นี่มีความรู้หลายๆๆๆด้านจริงๆๆ ซูฮก

แต่ก้อยแอบสงสัยเล็กน้อยค่ะ ว่าตัว Superoxide dismutase มันเป็น enzyme แล้วถ้าเอามาใส่ในเครื่องสำอางค์เป็น Enzyme Base Antioxidant แล้วมันจะเสถียรหรอคะ งงๆๆๆๆ


โดย: Koy IP: 202.29.106.194 วันที่: 16 สิงหาคม 2552 เวลา:15:32:07 น.  

 
มาเสริมพี่ปูเป้เรื่อง glutathione น่ะค่ะ
ไม่ควรใช้นะคะ เพราะจริงอยู่ที่มันเป็น potent antioxidant แต่แบบเม็ดสำหรับรับประทานนั้น ไม่เพียงพอที่จะมีผลดีกับร่างกาย ส่วนแบบฉีดน่ะ ถึงปริมาณจะพอ แต่ว่า FDA ยังไม่รับรอง และอาจเกิดอาการแพ้ได้ ถ้าแพ้รุนแรงอาจะถึงขั้นเสียชีวิตได้ (อันนี้คือผลเสียระยะสั้น)
ส่วนผลฌศ๊ญระยะยาวก็คือ การได้ glutathione ปริมาณสูงๆ(เช่นการฉีด) เป็นระยะเวลานานๆ อาจจะกลายเป็นอนุมูลอิสระซะเอง และเมื่อหยุดเมื่อไรทุกอย่างก็จะกลับมาสภาพเดิมเช่นที่พี่ปู้เป้บอกน่ะแหละค่ะ


โดย: Me IP: 117.47.212.219 วันที่: 26 สิงหาคม 2552 เวลา:16:07:23 น.  

 
ถึงคุณ Koy

เรื่องความเสถียรของเอมไซม์นี่ก็น่าคิดนะขอรับ เพราะเท่าที่ลองอ่านดูมันไม่ค่องทนกับแสง อากาศเท่าไหร่ แต่ก็คิดว่าถ้าอยู่ในบรรจุภัณฑ์ที่ลดการสัมผัสแสงหรืออากาศก็น่าจะช่วยได้บ้าง

แต่ปกติกระผมจะแนะนำผลิตภัณฑ์ที่มีสารแอนติออกซิแดนท์หลายๆ ชนิดรวมกันอยู่แล้ว ถึง Superoxide dismutase จะสลายไปก็ยังได้ประโยชน์จากตัวอื่นอยู่ดีขอรับ




ถึงคุณ Me

ขอบคุณสำหรับข้อมูลที่นำมาแบ่งปันนะขอรับ ปกติกระผมไม่สนับสนุนเรื่อง glutathione อยู่แล้ว ไม่ว่าจะทา กิน หรือฉีดก็ตาม เพราะมันไม่ใช่ของที่จะเอามาใช้เพื่อผิวขาว :D


โดย: PuPe_so_Sweet วันที่: 28 สิงหาคม 2552 เวลา:1:38:02 น.  

 
พี่ปูเป้อยากได้ review แบรนด์ rojukiss อะค่ะ แบบว่าสนใจ เห็นเค้าบอกกันว่าเห็นผล แต่ยังไม่กล้าลองค่ะ


โดย: LM IP: 10.0.136.51, 58.136.5.167 วันที่: 29 กันยายน 2552 เวลา:9:47:27 น.  

 
กรี๊ดดดด ความรู้ที่คุณปู้เป้เขียนดีมากๆเลยนะคะ

แต่เจอรูปคางคกแล้ว ลืมความรู้ 9 บทที่อ่านมาหมดสิ้นนน

แทบ ช๊อกแน่ะค่ะ กลัววว T_T


โดย: แก้ม IP: 125.25.41.229 วันที่: 16 มกราคม 2553 เวลา:2:32:42 น.  

 
โอแม่เจ้า เกิดมาเพิ่งจะได้อ่านข้อมูลที่มีประโยชน์แบบนี้แล้วก็ตรงกับความต้องการของอัญญ่าเข้าใจโค-ตะ-ระ ง่าย แถมอัญญ่าทำตามทุกขั้นตอนเปลี่ยนสกินแคร์ที่เหมาะกับผิว แล้วก็รักษาสิวตามแบบคุณปูเป้ บอกข้อมูลดีๆด้วยภาษาสุภาพปนสนุกสะใจมากเรยยย อ่านมิมีเบื่อว่างเมื่อไหร่เป็นต้องเปิดอ่าน ขอบคุณจริงจริงค่ะ


โดย: unya IP: 125.27.185.199 วันที่: 2 มิถุนายน 2553 เวลา:10:45:26 น.  

 
ขอบคุณสำหรับความรุ้ดี ๆ


โดย: Mo_mo_DeAr วันที่: 25 ตุลาคม 2554 เวลา:19:40:42 น.  

 
พี่ปูเป้คะ Enzyme ไม่แน่ใจว่าพี่ปูเป้อาจพิมพ์ผิดรึเปล่า แต่มันน่าจะอ่านว่า เอนไซม์ อ่ะค่ะ

ชอบพี่ปูเป้มากๆเลยค่ะ ขอบคุณที่เอาความรู้มาแบ่งปันนะคะ ^^

จะคอยติดตามและเป็นกำลังใจให้ค่ะ


โดย: Monkey IP: 10.7.164.220, 202.28.181.200 วันที่: 19 มิถุนายน 2555 เวลา:14:38:08 น.  

 
เรียน คุณปูเป้

ขอบคุณสำหรับข้อมูลที่เสริมสร้างความฉลาดในสมองอีก
1 อย่างที่ดูไม่ธรรมดาเสียจริง คิดใหม่ ทำใหม่ เสียทีจ้า


โดย: coolly IP: 58.10.6.105 วันที่: 16 กรกฎาคม 2555 เวลา:15:31:37 น.  

 
karen millen sale outlet //highstreetdvds.co.uk/karen-millen-sale-outlet.php karen millen sale outlet
[url=//stayinwhitby.com/herve-leger-black-dress.htm]herve leger size chart[/url]


โดย: herve leger size chart IP: 94.23.252.21 วันที่: 20 พฤษภาคม 2558 เวลา:17:52:07 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

PuPe_so_Sweet
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1829 คน [?]




Advertisement


About Pupe_so_Sweet
Pupe_so_Sweet on facebook
Pupe_so_Sweet on Youtube
vr AHA project


หากมีคำถามหรือต้องการคำปรึกษา
สามารถทิ้งคำถามไว้ได้ที่หน้า Wall ของ Facebook ครับ



Web Counter


Counter Start on 29 September 2008


Search by Google

ค้นหาข้อมูลและรีวิวผลิตภัณฑ์ที่ต้องการภายในBlog ของปูเป้ได้ไม่ยากด้วย Google Search Box ด้านล่างนี้เลยขอรับ

Custom Search

Friends' blogs
[Add PuPe_so_Sweet's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.