ปิ๊กเจียงใหม่1 (มช. รำลึก)
อาทิตย์ที่ผ่านมาเราได้มีโอกาสกลับเชียงใหม่ หลังจากมาทำงานที่กรุงเทพราว 3 ปี ด้วยความคิดถึงถิ่นเก่าสมัยเรียนป.ตรี เมื่อมีเวลาว่างจึงเลือกกลับมาชาร์จแบตให้ชีวิต เราเลือกมาเชียงใหม่เพราะประทับใจในบรรยากาศและวิถีชีวิตของคนที่นี่ เชียงใหม่เป็นเมืองที่ตั้งอยู่ในเขตพื้นที่สูงจึงมีอากาศเย็นสบายแทบจะตลอดปี ที่นี่เต็มไปด้วยสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่สวยงาม ไม่ว่าจะเป็นน้ำตก ป่าเขา ดอกไม้นานาพรรณ รวมไปถึงยังสถาปัตยกรรม ล้านนา อันเป็นเอกลักษณ์ จึงไม่แปลกใจเลยที่จังหวัดแห่งนี้จะเป็นเมืองท่องเที่ยวยอดฮิตของไทย
ทริปนี้เริ่มจาก เราได้ทำการจองตั๋วเครื่องบินล่วงหน้าประมาณ 2 อาทิตย์ ได้ตั๋วราคาถูก 750 บาท ถึงสนามบินเชียงใหม่ประมาณ 15.30 วันนั้นพอไปถึงหอก็แทบสลบเลยค่ะเพราะแว้นมอไซต์จากสนามบินไปหอเพื่อนแถวแม่ริม ซึ่งต้องฝ่าพายุฝนที่มาต้อนรับเราหนักหน่วงมาก วันแรกจึงไม่ได้เที่ยวเลยค่ะ
ตื่นเช้ามาจึงรีบออกจากที่พักตั้งแต่ 10 โมงเช้า ภารกิจแรกที่แพลนไว้สำหรับวันนี้คือไป รำลึก มช. แต่ระหว่างทางได้ผ่านงาน Mid Year Sale งานแสดงสินค้าที่ลดสูงสุดในรอบปี 1 ปี งานนี้จัดขึ้นที่ศูนย์แสดงสินค้านานาชาติเฉลิมพระเกียรติ ในงานจะพบกับเฟอร์นิเจอร์ , ของแต่งบ้าน , สินค้าแฟชั่น, เครื่องประดับและของกินที่แสนจุใจ เราเองก็ฝากมื้อเช้าไว้ที่นี่ค่ะ
กองทัพต้องเดินด้วยท้อง เมื่ออิ่มแล้วก็ถึงเวลาลุยค่ะ เข้าสู่มหาวิทยาลัยเชียงใหม่กัน
แวะสักการะศาลช้าง ศาลพระภูมิประจำมหาวิทยาลัยเชียงใหม่
อ่างแก้ว แพรวพราวรื่นรมย์ เรากลับมาเยี่ยมแล้วนะ
ถนนล่างอ่างแก้วที่ในอดีตชอบมาเดินสวยๆคนเดียว
ต้นไม้ต้นนี้ เคยมาแสดงละครในวิชาแมรีเอจ ตัวฟรีในตำนานที่ใครลงก็ฟาดA
เดี๋ยวนี้เค้ามีอ่างแก้ว2 ด้วย มีขนาดเล็กกว่าที่แรกหน่อย อยู่ตรงข้ามคณะนิติศาสตร์
ตึก คณะนิติศาสตร์ มีการปรับปรุงใหม่ ออกแบบเป็นเอกลักษณ์มากให้ความรู้สึกเหมือนกำลังไปขึ้นศาลจริงๆ
โรงอาหารสังคม ที่ๆมาฝากท้องบ่อยๆสมัยเรียน ที่นี่มีร้านไก่ทอดอันโด่งดัง ไก่เผ็ดส่วนสะโพกอร่อยมาก กะจะไปรำลึกแต่เด็กเยอะเกินไป รู้สึกเขินๆแฮะ
หอสมุดเชียงใหม่ ที่ช่วงสอบคนแน่นทุกที แต่ถึงกระนั้นก็ยังมานะ เหมือนมาเพื่อสัมผัสความกดดัน เผื่อจะกระตุ้นความอยากอ่านขึ้นมาบ้าง
เดี๋ยวนี้รถม่วงเค้าพัฒนาสีม่วงสมชื่อนะ สมัยก่อนยังเป็นรถขาวสนิมลอกอยู่เลย รถคันนี้แหละที่ช่วยส่งเราเรียนให้ทันคาบ แต่ก็ไม่เสมอไปเพราะขึ้นผิดสายตลอดๆ ได้ข่าวว่าสมัยนี้มีแอฟดูรถม่วงแบบเรียลไทม์ สามารถรู้ได้ว่าสายไหนผ่านที่ไหน คันไหนอยู่ใกล้เราสุด มีจีพีเอสติดตามตัวด้วยนะ หรูหราไฮโซไปอีก
หอ 8 หญิง หอที่เราอยู่สมัยปี 1 จับพลัดจับผลูมาอยู่ที่นี่แถมได้มาอยู่ข้างห้องสีชมพูในตำนานด้วยค่ะ(ตำนานผีอันโด่งดัง มช.) จำได้ว่าได้รูมเมทต่างคณะอีก 3 คน แต่ละคนนิสัยต่างกันสุดขั้วแต่พออยู่ด้วยกัน1ปีกลับกลายเป็นสนิทกันมากๆซะงั้น ที่สนิทคงเริ่มจากปาร์ตี้โซ้ยมาม่าในคืนนั้นแน่ๆ คิดแล้วอยากย้อนเวลาไปอยู่สมัยปี 1อีกครั้ง ปี1คือ ปีที่กิจกรรมเยอะสุด รับน้องเหนื่อยสุด กดดันที่สุด แต่ก็สนุกที่สุดด้วยค่ะ
สนามกีฬา มช ลานเลือกคู่ขนาดย่อม (ล้อเล่น) มาที่นี่แล้วกะชุ่มกะชวยสุดๆ เป็นแหล่งรวมหนุ่มสาวแทบทุกคณะ ที่นี่มีกิจกรรมบ่อยมาก คณะนู้นนี้มาซ้อมแทบทุกวัน ยิ่งช่วงใกล้งานเฟรชชี่ที่นี่จะคึกคักเป็นพิเศษ อยากย้อนเวลาไปสมัยยังเอ๊าะ คิดถึงช่วงเวลาวิ่งเหยาะๆพร้อมแอบชำเลืองมองงานดีข้างๆ
ข้างคณะวิจิตรศิลป์มีสิ่งก่อสร้างขนาดใหญ่ที่ดูแปลกตาและงดงามมากเกิดขึ้น(เวอร์) ตอนแรกนึกว่าคืออาคารคณะวิจิตรที่ปรับปรุงใหม่ แต่พอถามยามแล้วปรากฏว่าเป็นอาคารจอดรถ นี่แบบตกใจเลย ที่จอดรถจำเป็นต้องหรูหราเบอร์นี้มั้ย
นอกจากจะทัวร์ในมอแล้ว เราก็ไปเที่ยวแถวคณะในไร่แม่เหี๊ยะด้วย พึ่งรู้ว่าเดี๋ยวนี้มีอุทยานวิทยาศาสตร์ภาคเหนือมาเปิด อยู่ตรงข้ามคณะอุตสาหกรรมเกษตร ออกแบบได้สวยงามดูทันสมัย โซนด้านล่างมีร้านขายของมากมาย เช่น เซเว่น อเมซอน กาแฟดอยช้าง เป็นต้น สมัยเดี้ยนเรียนทำไมไม่เจริญแบบนี้นะ มันน่าน้อยใจนัก
หลังจากไปทัวร์จนร่างแทบแตกแล้วก็ถึงเวลาเติมพลังให้ร่างกายค่ะ วันนี้เราแวะไปกินร้านของหวานยอดนิยมของชาวเชียงใหม่ นั่นคือ ร้านจริณพาย ตั้งอยู่ในซอยนิมมานเหมินทร์ 17 ต.สุเทพ อ.เมืองเชียงใหม่ เปิดให้บริการทุกวัน เวลา 09:00 - 21:00 น. ภายในเป็นบ้านทรงไทยร่มรื่น มี 2 โซนให้เลือกนั่ง คือโซนห้องแอร์และสวน แต่ตรงโซนแอร์ค่อนข้างอับ เราจึงเลือกนั่งโซนริมสวนค่ะ
มีขนมให้เลือกหลากหลาย
สำหรับวันนี้เราเลือกเมนูแนะนำของทางร้านค่ะ อันได้แก่ พายมะพร้าว รูปร่างน่าตาน่ากินทีเดียว ส่วนกลางเป็นวุ้นเนื้อมะพร้าว ฐานเป็นแผงขนมที่รสชาติเหมือนคุ๊กกี้ บนสุดมีชั้นนุ่มๆคล้ายมาชเมโร่ พอกัดไปคำแรกรู้สึก....แสบคอมาก เราว่าพายมีรสหวานเกินไปค่ะ อันนี้แล้วแต่คนชอบด้วยนะ
ร้านนี้มีเมนูเครื่องดื่มที่สามารถสกรีนเป็นหน้าคนได้ด้วย ซึ่งจะสกรีนได้บนเมนูที่มีชั้นฟองนมด้านบน เราเลยจัดชานมเย็นมาลอง1แก้วค่ะ ราคา50บาท
การมาเที่ยวมหาลัยในรอบนี้ ถือว่าบรรเทาความคิดถึงได้หน่อยหนึ่ง เหมือนไปเติมความทรงจำเก่าๆที่ขาดหายไป ความจริงทุกสถานที่ก็คล้ายๆกันหมดนะคะ แต่เพราะมีความทรงจำของคนที่อยู่ด้วยตอนนั้นต่างหากจึงทำให้แต่ละที่แตกต่างออกกันไป มารำลึก มช. รอบนี้ทำให้คิดถึงเพื่อนๆที่แยกกันไปมากขึ้นกว่าเดิม เพราะทริปนี้สินะ จึงทำให้เพื่อนๆที่รับโทรศัพท์บ่นเราใหญ่เลยว่าทำไมพูดมากจัง555+ หลังจาก 3 ปีที่จบไปสิ่งหนึ่งที่ชัดเจนมากๆสำหรับเราก็คือ... ตั้งแต่เดี้ยนออกไปรู้สึกเจริญขึ้นเยอะเลยนะ มช.
ทริปปิ๊กเจียงใหม่เจ้า ยังมีต่อภาค 2
Create Date : 04 กันยายน 2561 |
Last Update : 19 กันยายน 2561 22:57:43 น. |
|
0 comments
|
Counter : 458 Pageviews. |
|
|
|