คืนนี้นิตย์มาราตรีสวัสดิ์ค่ะ
**ช่วงนี้เข้าฤดูร้อนแล้ว อากาศก็เริ่มร้อนขึ้นทุกวัน....ฤดูหนาวจากไปแล้ว....อุ่นไอรัก คลายความหนาว...ณ พระลานพระราชวังดุสิตและสนามเสือป่า...คืองานที่กำลังแสดงอยู่ขณะนี้และก็ใกล้จะถึงวันปิดงานแล้ว...จัดแสดงวิถีชีวิตของคนไทย การปกครอง การแต่งตัวทั้งหญิงและชายในสมัยนั้น ...สวยสดงดงามด้วยดอกไม้นานาชนิดที่จัดตกแต่งอย่างสวยงานเต็มพื้นที่จัดงาน เหมือนเมืองสวรรค์....
**นิตย์ชอบชุดไทยมาตั้งแต่เด็กๆ คะ เป็นชุดประจำชาติที่สวยสดงดงาม อ่อนหวาน...ละเมียดละไม......ทำให้ผู้หญิงไทยดูงดงาม มีคุณค่า มีอารยธรรมพร้อมมารยาทเรียบร้อย นุ่มนวล...สมเป็นกุลสตรีไทย..
@ในสมัยรัชกาลที่ 5 ระยะเวลา 42 ปี (พ.ศ. 2411-2453)
ในสมัยรัชกาลที่ 5 ถือเป็นยุคแห่งการเปลี่ยนแปลงการแต่งกายของคนไทย เนื่องจากรัชกาลที่ 5 ทรงเสด็จประพาสยุโรป และมีการนำแบบอย่างการแต่งกายของชาวยุโรปกลับมาประยุกต์ใช้ในประเทศไทย อีกทั้งในสมัยนี้ยังมีกำเนิดชุดชั้นในรุ่นแรกที่ดัดแปลงจากเสื้อพริ้นเซส ซึ่งต่อมาได้พัฒนาให้เป็นเสื้อชุดชั้นในที่เรียกว่า เสื้อคอกระเช้า ที่ยังคงเป็นที่รู้จักกันในปัจจุบันนี้
พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงตระหนักดีว่า การแต่งกายดังกล่าวย่อมเป็นดูหมิ่นเหยียดหยามของชาวต่างประเทศที่เข้ามาอยู่ในกรุงเทพฯ และเป็นเวลาที่จะเสด็จประพาสต่างประเทศ(สิงคโปร์และชวา) เป็นครั้งแรกในปี พ.ศ.๒๔๑๓ จึงมีพระราชดำริที่จะเปลี่ยนแปลงเครื่องแต่งกายตามแบบฝรั่ง เพื่อแสดงความเป็นอารยประเทศ
**สมัยรัชกาลที่ 5 ตอนต้น
การแต่งกายของหญิง: ผู้หญิงจะนุ่งผ้าลายโจงกระเบน เสื้อกระบอก แขนยาว ผ่าอก ห่มผ้าแพร จีบตามขวาง สไบเฉียงทับบนเสื้ออีกชั้นหนึ่ง ถ้าอยู่บ้านจะห่มแต่สไบ ไม่สวมเสื้อ เมื่อมีงานพิธีจะนุ่งห่ม ผ้าตาด เลิกไว้ผมปี และหันมาไว้ผมยาวประบ่า
**สมัยรัชกาลที่ 5 ตอนกลาง
การแต่งกายของหญิง: ผู้หญิงจะนุ่งผ้าจีบไว้ชายพกแต่หากมีงานพิธีก็ยังคงให้นุ่งโจงกระเบนอยู่ สวมเสื้อแบบตะวันตกแขนยาว ต้นแขนพองแบบหมูแฮม ปกคอตั้ง มีผ้าแพรหรือผ้าห่มสไบเฉียงทับตัวเสื้ออีกที ไว้ผมยาวเสมอต้นคอ สตรีชาววังจะมีผ้าแพรชมพูปักดิ้น มีลวดลายตามยศพระราชทาน สวมรองเท้าบูทและถุงเท้า
**สมัยรัชกาลที่ 5 ตอนปลาย
การแต่งกายของหญิง: ผู้หญิงจะนุ่งโจงกระเบน สวมเสื้อแพรไหม ลูกไม้ ตัดแบบตะวันตก แขนยาว พองฟู เอวเสื้อเข้ารูป มีการคาดเข็มขัดหรือสายห้อยนาฬิกา มีสายสะพายผ้าแพร สวมถุงเท้ามีลวดลายและรองเท้าส้นสูงให้ไว้ผมทรงดอกกระทุ่ม และมักนิยมเครื่องประดับมุกสายสร้อยหลายชั้น
@ นิตย์นำเรื่องการแต่งการของสตรีไทยในสมัยนั้นมาให้อ่านพอเข้าใจและเห็นภาพ....จะได้ภูมใจในความเป็นกุลสตรีไทยค่ะ
คืนนี้หลับฝันหวานพร้อมอากาศแปรปรวน ร้อนสลับฝนตก นะคะท่านหมื่น..แม่นาง และออเจ้า ทุกท่านค่ะ
ปรียนิตย์
๑๐ มีนาคม ๒๕๖๑
Music : Music : เพียงสบตา Ost.บุพเพสันนิวาส | ลีเดีย ศรัณย์รัชต์ | Official MV
Cr.https://www.sanook.com/women/53521/
งานอุ่นไอรัก จัดได้ดีมากเลยนะคะ
ชอบผู้คนที่แต่งตัวย้อนยุค สวยงาามากๆ
อยากให้จัดงานต่อไปอีก แต่เสียดายที่จบไปแล้วนะคะ
ขอบคุณที่แวะเยี่ยมเยียน
ดีใจที่กลับมาอัพบล็อกอีกค่ะ