ซื้อประกันรถยนต์ อย่าเพิ่งรีบตัดสินใจอ่านบทความนี้ก่อน

ซื้อประกันรถยนต์ อย่าเพิ่งรีบตัดสินใจอ่านบทความนี้ก่อน

 
รถยนต์ของประเทษไทยเพิ่มขึ้นในทุกๆวัน ยิ่งเยอะขึ้นอุบัติเหตุก็เยอะขึ้นตามมา ประเทศไทยเคยเป็นอันดับ 2 ในเรื่องการเกิดอุบัติเหตุ และขึ้นชื่อว่าเป็นเมืองที่มีรถยนต์หนาแน่นเป็นอันดับต้นๆของโลก แล้วแบบนี้เราจะไม่ทำประกันรถยนต์ กันได้ยังไง
 
หากเราเลือกที่จะทำประกันรถยนต์กับ บริษัทประกัน สักบริษัทหนึ่งเราก็คงจะไม่รู้จะเลือกบริษัทไหนดี เพราะ บริษัทประกันรถยนต์ ของประเทศไทยเยอะมากๆ และยังมีความคุ้มครองเหมือนๆกันแตกต่างตรง โปรโมชั่นข้อเสนอที่แตกต่างกันไป วันนี้เราจึงมีแนวทางในการ ซื้อประกันรถยนต์ ให้ดูกัน
 

วิธีเลือก ซื้อประกันรถยนต์

 
1. ทำประกันรถยนต์กับบริษัทที่มั่นคง
 
การทำประกันรถยนต์เราจะต้องจ่าย เบี้ยประกันรถยนต์ ไปให้เค้าก่อน เพื่อให้ได้ความคุ้มครอง แต่หากเราจ่ายเบี้ยประกัน ไปแล้วแต่พอเกิดอุบัติเหตุ บริษัทประกันต้องจ่ายเงินค่าซ่อมรถยนต์ให้กับเรา หรือค่ารักษาพยาบาล ให้กับเราไม่ได้ ปัญหาทั้งหมดที่เกิดขึ้นก็จะตกอยู่ที่เราคนเดียว ไม่มี บริษัทประกัน ช่วยเหลือ แล้วถ้าตอนนั้นเราไม่มีเงินละ เป็นปัญหาใหญ่แน่ๆแล้วแบบนี้จะ ทำประกันรถยนต์ ไปทำไหม
ดังนั้นเรา จึงต้องเลือก บริษัทประกันรถยนต์ที่มั่นคง สามารถตรวจสอบข้อมูลได้จาก ของ คปภ. คณะกรรมการกำับ และส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย บางทีก็จะมี รายชื่อบริษัทประกันรถยนต์ ที่กำลังมีปัญหาอยู่ หรือ บริษัทที่ชอบเบี้ยวไม่จ่ายค่าซ่อมรถยนต์ให้อู่
 
2. เลือกประกันภัยรถยนต์ให้เหมาะกับเรา
 
นอกจากเลือกบริษัทประกันรถยนต์แล้ว เราก็ต้องเลือกความคุ้มครองที่ตรงกับลักษณะการขับรถของเราด้วย เช่น ถ้าเราไม่ค่อยขับรถ นานๆออกทีเราก็อาจจะไม่เลือก ประกันชั้น 1 ที่มีความคุ้มครองสูงที่สุด ที่ราคาเบี้ยประกันรถยนต์ ค่อนข้างแพง แต่มาเลือก ประกันชั้น 3 ที่มีราคาเบี้ยประกันต่ำที่สุด แต่มีความคุ้มครอง รถยนต์คู่กรณี เอาไว้ป้องกันความเสี่ยงเวลาขับรถออกจากบ้าน  ผมมีความความคุ้มประกันรถยนต์ ภาคสมัครใจ มาให้ดูด้วย
 
ประกันชั้น 1 มีความคุ้มครองครอบคลุมมากที่สุด และ มีจุดเด่นคือ คุ้มครองได้แม้ไม่มีคู่กรณี  เช่น ถอยชนเสา ชนฟุตบาท เวลาเคลมง่ายมากไม่จุกจิก แต่มีราคาเบี้ยประกันที่ค่อนข้างแพงนิดนึงอย่างว่าแหละคุ้มครองเยอะขนาดนี้ก็ต้องแพงเป็นธรรมดา< ความคุ้มครอง : ซ่อมเขา + ซ่อมเรา + รถสูญหาย + ไฟไหม้ + ภัยธรรมชาติ เช่น น้ำท่วม เหมาะสำหรับ : ผู้ที่ต้องการความคุ้มครองสูงสุด , รถยนต์ป้ายแดง , รถสภาพดีอายุไม่เกิน 7 ปี

ประกันชั้น 2 พลัส หรือ 2+ ประกันภัยรถยนต์ชั้น 2 พลัส ถือว่าเป็นที่นิยมมากๆ เพราะมีความคุ้มครองที่คุ้มค่ากับเงินที่จ่ายไป มีความคุ้มครองคล้ายประกันชั้น1 แต่มีเงื่อนไขเพิ่มขึ้นมา ให้ความคุ้มครองในกรณี : ซ่อมเขา + ซ่อมเรา (ในกรณีรถชนรถเท่านั้น) + สูญหาย + ไฟไหม้ เหมาะสำหรับ : ผู้ที่ป้องกันการเกิดอุบัติเหตุใหญ่ + ป้องกันรถหาย + รถที่มีความเสี่ยงไฟไหม้ เช่น รถติดแก๊ส

ประกันชั้น 3 พลัส หรือ 3+ ประกันภัยรถยนต์ชั้น 3 + เป็นประกันภัยรถยนต์ที่มีค่าเบี้ยประกันรองลงมาจาก ประกันชั้น 2+ ถือว่าเป็นประกันรถยนต์ที่คุ้มค่าอีกหนึ่งตัวเลยมีความคุ้มครองในส่วน รถของเรา ที่ประกันชั้น 3 ไม่มี แต่ก็มีเงื่อนไขเพิ่มขึ้นมานั้นคือได้เฉพาะกรณี รถชนรถ เท่านั้น มีความคุ้มครอง : ซ่อมเขา + ซ่อมเรา (ในกรณีรถชนรถเหมือนประกันชั้น2พลัส) แต่ไม่คุ้มครองในกรณี รถสูญหาย + ไฟไหม้ หากใคร รถยนต์ไม่ติดแก๊ส หรือ มีที่จอดที่ไม่เสี่ยงต่อการเกิดเหตุรถยนต์สูญหาย ทำ ประกันชั้น 3 พลัส ก็ได้คุ้มมากๆครับ

ประกันชั้น 3 เป็นประกันภัยรถยนต์ที่มีราคาเบี้ยประกันที่ถูกที่สุด ส่วนมากคนที่ไม่ค่อยได้ใช้รถยนต์ หรือนานๆใช้ที่จะใช้ความคุ้มครองนี้กัน

คุ้มครอง : เฉพาะรถยนต์ คู่กรณี + ไม่มีซ่อมรถยนต์ผู้เอาประกัน + ไม่รวมสูญหาย ไฟไหม้

เหมาะสำหรับ : คนที่ยินยอมที่จะจ่ายค่าซ่อมรถยนต์เอง , ไม่มีความเสี่ยงรถยนต์หายกับไฟไหม้ , ไม่ค่อยได้ใช้รถ

3. เลือกบริษัทที่ดีและให้บริการเร็ว เคลมเร็ว ปัญหาล่าช้า
พบได้บ่อยในวงการประกันภัยรถยนต์ เพื่อนๆคงจะเคยได้ยินมาบ้างว่า เวลาเกิดเหตุที่บริษัทประกันรถยนต์ มาช้า กว่าจะมาตั้งนานรอจนรากงอกแล้ว บางบริษัทนี้เป็นชั่วโมงแล้วยังไม่มาเลยไม่ได้ทำงานทำธุระกันพอดี พอมาถึงบริการไม่ดีอีกไม่ใส่ใจลูกค้า รีบๆทำๆให้เสร็จ เสียเงินทั่งที่ได้บริการแบบนี้ก็ไม่ไหว แนะนำให้เปลี่ยนเลยครับ ดังนั้นเราจึงต้องเลือกบริษัทประกัน ที่มีการบริการที่ดี มาไหว เอาใจใส่

4. เช็คเบี้ยประกันรถยนต์
เราจะต้องทำความเข้าใจเกี่ยวเบี้ยประกันรถยนต์ หาข้อมูลให้ดีก่อนครับ เพราะ ถ้าเรารู้จัก เช็คเบี้ยประกันรถยนต์ ก่อนที่เราจะซื้อประกันรถยนต์ เราก็จะสามารถได้ความคุ้มครองที่ตรงต่อความต้องการในราคาที่ถูกที่สุด ซึ่งก็จะมีวิธีที่เราสามารถใช้ลดเบี้ยประกันรถยนต์ ได้อีกด้วยนะ เช่น เบี้ยประวัติดี เป็นต้น

5. ช่องทางการเลือกซื้อประกันรถยนต์
การเลือกซื้อประกันรถยนต์ ไม่ว่าจะเป็นกับ บริษัทประกันโดยตรงหรือผ่านโบรกเกอร์ประกันภัย ปัจจุบันมีหลากหลายช่องทางในการซื้อไม่ว่าจะเป็น ทางโทรศัพท์ ผ่านทางอีเมล์ หรือช่องทางอื่นๆ แต่ละช่องทางก็มีข้อควรพิจารณาแตกต่างกันไป เช่น อัตราค่าเบี้ยประกัน ถึงจะเป็นบริษัมเดียวกัน เพราะบางช่องทางอาจมี มีเบี้ยพิเศษ หรือยอดขายประกันที่มากพอจะต่อรองส่วนลดพิเศษให้กับลูกค้าได้ หรือส่วนลดที่ได้มา อาจไม่เท่ากัน บางส่วนสามารถแถมของพิเศษมาให้ด้วย

6. ค่อยๆตัดสินใจเลือกดีๆ
เพราะบริษัทประกันภัยรถยนต์ มีเยอะแยะมากมาย เราควรที่จะศึกษาดูดีๆก่อน อาจจะเจอความคุ้มครองที่เหมือนกันแต่มีราคาเบี้ยประกันถูกกว่าก็ได้ หาข้อมูลกันให้ดีๆก่อนปลอดภัยที่สุดครับ 

ขอบคุณแหล่งข้อมูลจาก https://prakanmart.net/



Create Date : 26 กรกฎาคม 2560
Last Update : 7 มีนาคม 2562 22:06:04 น.
Counter : 872 Pageviews.

0 comments
ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
 *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

สมาชิกหมายเลข 3961575
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed

 ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]



All Blog
  •  Bloggang.com