สวัสดีค่ะ

ช่วงนี้กลับมาอินกับน้ำหอมอีกแล้ววว พอดีเพิ่งรู้ตัวว่า Vera Wang Princess กลิ่นโปรดนี่ไม่มี shelf ในห้างบ้านเราแล้ว
พอเสิร์ชดูต่างประเทศ พวก Limited Edition เกือบสิบกว่ากลิ่นก็ไม่มีแล้ว มีแต่แบบ original (ที่ชอบเลย) ในบางเว็บไซต์เท่านั้น
และของบ้านเราก็พอหาได้ตามร้านแบ่งขายเท่านั้น ก็เลยเริ่มตามหาน้ำหอมกลิ่นใหม่ที่เป็น "กลิ่นของเรา" ค่ะ

แต่พอดีอยู่ต่างจังหวัด ไม่ได้มีเคาน์เตอร์น้ำหอมให้ลองเยอะแยะ ก็เลยใช้วิธีสั่งขวดจิ๋วน่ารัก ๆ ใช้ประดับห้องได้ด้วยค่ะ
คือบางกลิ่นก็ดมที่กรุงเทพ ฯ มาก่อนแล้วและชอบ อยากลองกับผิวเราดูว่าจะเป็นยังไง แต่บางกลิ่นก็ blind เลยจ้า ดูรีวิว ดูส่วนผสม แล้วก็ลองเลย

นี่ ๆ น่ารักมั้ย ๆ ๆ





เริ่มจากนี่เลย
1. Vera Wang Princess EDT
กลิ่นนี้เคยเห็นลงโฆษณาใน Teen Vouge, USA เราก็อินกับความเป็น Princess
ตอนเข้ามหาลัยก็ไปเทียวดมที่พารากอนบ่อยมากกกกก
จนไปนิวยอร์คก็ซื้อกลับมา ซื้อขวด 100 ml. เลยค่า เพราะหารต่อ ml. แล้วถูกสุด
แต่พอได้มาแรก ๆ ก็อืมมม เราน่าจะซื้อ 50 ml. นะ ขนาดน่ารักกว่า และจะได้ใช้หมดด้วย
แต่พอมาถึงตอนนี้ก็ดีใจที่ซื้อขวดใหญ่เพราะว่าไม่มีกลิ่นนี้ในไทยแล้วค่ะ

ขวดรูปหัวใจน่ารัก ตรงมงกุฎถอดเป็นจี้ห้อยคอได้
วงด้านล่างถอดเป็นแหวนได้ น่ารักกกกกกกกก

(FROM FRAGRANTICA.COM)
Oriental-floral fragrance, launched in 2006 as a modern and playful magical elixir.
It celebrates youth and femininity in its top notes that bring the aquatic nuances
with pure and sharp notes of water lily, apple, freshly-sweet mandarin and apricot.
The heart is composed of exotic guava, Tiare flower, tuberose, with a touch of dark chocolate.
The base brings powdery traces of vanilla, amber and wood.

(FROM FRAGRANTICA.COM)
A young, charming Parisian girl, who is nonchalant, elegant and cheerful, sees the world around her in a positive way,
as a place where nothing bad can happen, as if it were composed of pastel nuances. Her charisma,
charm and grace show her as a symbol of youth, freshness and spontaneity.

"Miss Dior Cherie L'Eau is not a complicated fragrance.", says Francois Demachy, whose idea was to accentuate beauty of simplicity.
possesses a simple formula of cleanliness, freshness and delicate accords. The perfume was envisaged for a young woman of today,
who is cheerful and full of joy, who rejects grey days and monotony, and chooses pastel colours instead.

Top notes of Miss Dior Cherie L'Eau will refresh you with aromas of bitter orange, which are delicate, fruity, bitter-sweet and delicately spicy.
A heart is ruled by gardenia, a vibrant, opulent, white flower, while a base incorporates white musk, leaving a cotton-powdery effect
and a long lasting feeling of cleanliness and freshness on your skin in a very soft and gentle way.

Gardenia stands for the feminine little Lady, who is sensual, charming and a bit perky. Let's not forget: gardenia is a symbol of true love.

(FROM FRAGRANTICA.COM)
The new edition DIOR MISS DIOR BLOOMING BOUQUET has been presented in early January;
it has an elegant composition to announce the first days of spring. Its notes provide a subtle and delicate union of floral notes that refresh us and give a precious fragrant trail.
Perfumer of the house of Dior - Francois Demanchy describes it as extraordinary silky fragrance created of floral essence of peony refreshed with Sicilian mandarin essences,
with a feminine dose provided by rose essence on a velvety base of white musk.

Miss Dior Blooming Bouquet is a fragrance that will provide extraordinary elegance of softness – adds Demachy.
Peony in the very heart of the composition is supported and shaped with peach and apricot zest accentuating its timeless beauty with velvety and juicy shades.

สั่งขวดจิ๋วมาแล้วลองใช้ครั้งแรกวันที่ไปงานแต่งพี่ที่ทำงานเลยจ้า กลิ่นเข้ากับเดรสสีชมพูลายดอกฟอร์เก็ทมีน็อทสีฟ้าสะพรั่งทั้งตัวมากกกกกก (แบ็คกราวน์ภาพแรกนั่นแหละ)
ตอนแรกก็ไม่ค่อยได้กลิ่นหรอกนะ แต่ตอนอยู่บนเวทีแล้วลมพัดมานี่อื้อหือ Sillage ระยะประมาณ 1-2 เมตร แล้วหอมแบบไม่ฉุน หอมหวานแบบอยากดมแล้วดมอีก
แล้วพอฉีดกับผิวเราได้กลิ่นประมาณน้ำผึ้ง ๆ ทั้งที่เป็นแนวกลิ่น floral-citrus นะเนี่ย

คือได้กลิ่นแล้วยิ้มไม่หยุดเลยอ่ะ ยังไงก็เดี๋ยวไปซื้อขวดไซส์จริงแน่นอน ยังตัดสินใจไม่ได้ว่า 30 ml. หรือ 50 ml. น่ารักกว่ากัน ส่วน 100 ml. น่าจะใหญ่ไปหน่อย

4. Miss Dior Absolutely Blooming EDP
พอมี Miss Dior ที่ชอบทั้ง 2 ขวดแล้ว ก็อยากจะลอง Miss Dior ขวดจิ๋วให้ครบทุกแบบ จะได้สั่งขวดใหญ่อย่างมั่นใจว่ากลิ่นนี้แหละที่เราเลิฟจริง ๆ
จริง ๆ แล้วลองสั่ง Miss Dior EDP มาด้วยนะ แต่พอเห็นขวดแล้วเข้าใจว่าปลอมก็เลยคืนของไป (แต่มารู้ทีหลังว่าของแท้ แค่ ขวดรุ่นใหม่ไม่สวยเท่ารุ่นเก่า)
แต่ก่อนคืนก็เปิดดมแล้วนะ ที่คนฮิต ๆ กัน แต่เราไม่ชอบเลยยยยย เป็นซิตรัส-แป้ง ๆ ก็เลยไม่ลอง Miss Dior EDT ด้วย

แต่ตัวนี้น่าลอง เพราะอยู่ในตระกูล Blooming เหมือนกัน และรีวิวว่าติดทนกว่า คนส่วนใหญ่ที่รีวิวก็ชอบมากกว่า Blooming Bouquet ซะอีก
และโน้ตเป็นแนวเบอร์รี ก็น่าจะไม่ซ้ำกับที่มี ก็เลยลองดู

(FROM FRAGRANTICA.COM)
Dior presents its new fragrance Miss Dior Absolutely Blooming from the famous Miss Dior collection in August 2016.
The in-house perfumer Francois Demachy announced it as the edition that opens with bright fruity notes, intended for cheerful women who love life.

Miss Dior Absolutely Blooming is a new olfactory variation of Miss Dior Blooming Bouquet, designed as a sexier, more passionate and more modern scent.
The hot pink color of the liquid matches the delicious floral character. The composition is comprised of three layers: red berries, Centifolia May rose from Grasse and peony, as well as white musk.

ขวดนี้เปิดมาคือเบอร์รีจัด ๆ พอหยดลงบนผิว ได้กลิ่นเบอร์รีนานมาก แล้วข้ามไปมัสค์เลย พอกลิ่นเบอร์รีจางไปนั่นแหละถึงจะได้กลิ่นหวาน ๆ ของดอกไม้ที่อยู่มิดเดิลโน้ต
แต่เพื่อนเปิดขวดมาละบอกแป้งทันทีเลย หืมมม ข้ามจากเบอร์รีไปมัสค์เลยงี้ก็ได้เหรอ???

ในห้องแอร์ติดทนเช้าถึงเย็นนะคะ แต่ถ้าไปกลางแจ้ง แป๊บ ๆ หาย ต้องเติมตลอด (หรือเพราะเราหยดจากขวดเล็ก ไม่ได้ฉีดสเปรย์ก็ไม่รู้)

ก็ ไม่ซื้อขวดใหญ่ค่ะ เพราะชอบ Miss Dior Blooming Bouquet มากกว่ามาก ๆ
(ใครอยากลอง เราขายต่อนะคะ ขวดจิ๋วของแท้พร้อมกล่องจิ๋ว คือเพื่อนโหวตละว่าเราไม่เหมาะกับกลิ่นนี้เลย ทั้ง ๆ ที่ในรีวิวต่าง ๆ คนส่วนใหญ่บอกว่าดีกว่ากลิ่น Blooming Bouquet มาก ๆ ทั้งความติดทน ทั้งความฉ่ำผลไม้ แต่เพื่อนทุกคนัชอบให้เราใช้กลิ่นฟลอรัลมากกว่าค่ะ)

5. Versace Bright Crystal EDT
ขวดนี้เคยลองเทสเตอร์ที่กรุงเทพแล้วชอบสุด (เทียบกับ Marc Jacob Daisy ทุกรุ่น ที่ก็หอม แต่เข้มไปสำหรับเรา นั่งรถตู้กลับมาเวียนหัวเลยจ้า)
ก่อนจะซื้อขวดใหญ่ก็ลองขวดจิ๋วน่ารัก ๆ ซะหน่อย

(FROM FRAGRANTICA.COM)
The pink colored bottle announces softer and more luminous fragrance in comparison with Crystal Noir.
Nowadays popular fruity note gives the composition slightly gourmand nuance.
The top notes are pomegranate, Yuzu and frosted accord. Peony and magnolia are in the centre of the composition,
while waterly fresh lotus note moderates the intensity and sweetnes of the floral accords.
The opulent base introduces amber note extracted from plants, musk and red woods. The fragrance was designed by Alberto Morillas in 2006.

ขวดนี้คือได้กลิ่นดอกบัวชัดเจนมาก เป็นกลิ่นน่ารัก ๆ แต่!
Sillage ไม่มีจ้ะ เพื่อนที่นั่งติดกันไม่ได้กลิ่น ต้องดมข้อมือเอาเอง
ซึ่ง นั่งในห้องแอร์ก็จางเร็วมาก ๆ แต่พอหยดเพิ่ม Sillage ยังคงไม่มี ก็ดมอีก
อื้อหือ กลิ่นทึบไป เวียนหัว ไม่ชอบค่ะ

ก็เป็นกลิ่นน่ารัก ๆ ที่เราก็แฮปปี้กับขวดเล็กขวดนี้ แต่ก็ไม่ซื้อขวดใหญ่ค่ะ

ตอนนี้ก็เริ่มเข้าใจสไตล์ตัวเองแล้วแหละ ก็ คิดว่าเป็นคนที่ชอบกลิ่นบาง ๆ โปร่ง ๆ ชอบ EDT มากกว่า

อื้ม แถมอีก 3 กลิ่นนะคะ เป็น Giorgio Armani Si แล้วก็ จาปารา Secret of Desert กับ Nefertari พี่ให้ยืมมาลองค่ะ


แล้ววันนี้พี่คนเดิมก็เพิ่งแบ่ง Lanvin Eclat d'Arpege EDP กับ My Burberry Black ให้ลองฉีด

ซึ่งเจ้า Lanvin Eclat d'Arpege EDP เนี่ย ครึ่งชั่วโมงแรกที่ฉีด เราฉุนค่ะ ฉุนแบบต้องย่นจมูก ไหนทุกคนว่าละมุนไง้ พอเวลาผ่านไป กลิ่นเหมือนแชมพูอ่ะค่ะ ไม่ใช่แบบสระผมแล้วผมเปียกนะ แต่แบบยังไม่ล้างผมเลยอ่ะ แล้วก็เป็นกลิ่นนี้ยาว ๆ ไปเลยค่ะ แต่พอดูจากโน้ตทั้งหมดแล้ว คิดว่าน่าจะเป็นความละมุนจากชาเขียว เพราะเราไม่ได้กลิ่นดอกไม้ที่ชัดเจน เพราะเบลนด์เป็นกลิ่นแชมพูไปหมดแล้วค่ะ

ส่วน My Burberry Black เนี่ย... ฉุนยาว ๆ ไป 1.5-2 ชม. ค่ะ ผ่าน 2 ชม. ไปแล้ว ก็กลิ่นแน่นทึบอยู่ แต่ว่าไม่ฉุนแล้วค่ะ เป็นกลิ่นมะลิเข้ม ๆ หวาน ๆ ค่ะ คล้าย ๆ Si ค่ะแต่หวานกว่า

เราว่า จมูกเรา sensitive แหละ ถ้าจะเล็งอะไรคงต้องมองหาแต่ edt นี่ขนาดทุกสำนักรีวิวว่า Lanvin กลิ่นเบา ๆ อย่างนั้นอย่างนี้ เรายังฉุนเลย ถึงจะแค่ตอนแรกก็ไม่เอาค่ะ

ก็ยังตามหาน้ำหอมอยู่นะ อยากได้ซัก 2 กลิ่น กลิ่นนึง Miss Dior Blooming Bouquet แน่ ๆ ล่ะ แต่อีกกลิ่นที่อยากได้เข้มขึ้นล่ะ หรือจะกลับไปลอง Marc Jacob Daisy ต่าง ๆ อีกซักรอบ (ถ้าจำไม่ผิด จากทุกรุ่นของเค้า ชอบ Eau So Fresh, Dream, Love ขวดขุ่น ขวดใส กว่า original ค่ะ)

เจ้า Versace Bright Crystal ก็น่าใช้เป็น everyday นะ แต่ติดที่ว่าใช้แบบหยด ๆ แล้วกลิ่นไม่ทนเลย กำลังคิดว่า ถ้าเราฉีดแบบสเปรย์จะทนกว่ารึเปล่า ถ้าทนกว่า ก็น่าซื้อค่ะ เพราะก็ชอบค่ะ