Group Blog
All Blog
<<< "การปลอบประโลมใจ" >>>









"การปลอบประโลมใจ"

การปลอบประโลมใจหรือให้ความหวัง

แก่คนที่ถูกทุกข์รุมเร้านั้น

 เป็นบทบาทที่สำคัญ(ของพุทธศาสนา)

 อย่างน้อยก็เป็นทางเลือกที่ดีกว่า

การปล่อยให้เขาจมอยู่ในความทุกข์

ไร้ทางออก สิ้นหวัง จนต้องหันไปทำร้ายตนเอง

หรือทำร้ายผู้อื่น

แต่พุทธศาสนาหรือบุคลากรทางศาสนา

 เช่น พระสงฆ์ ไม่ควรหยุดเพียงแค่นั้น

 เพราะการปลอบประโลมใจ

หรือให้ความหวังแก่ผู้คนนั้น

 เป็นการช่วยเขาเพียงชั่วคราวเท่านั้น

แม้เขาจะมีเรี่ยวแรงกลับมาตั้งหลักสู้ชีวิต

จนปัญหาผ่านพ้นไป อาจจะหายป่วย

 พ้นจากหนี้สิน หรือทำงานลุล่วง

 แต่ในที่สุดเขาก็ต้องประสบกับความเจ็บป่วย

 ความพลัดพรากสูญเสีย และความตายในที่สุด

หากเขาไม่ตระหนักถึงความจริงดังกล่าว

 หรือไม่เตรียมตัวเตรียมใจเผชิญกับความจริงเหล่านี้

ก็จะทุกข์ทรมานเป็นอย่างยิ่งเมื่อมันมาอยู่ต่อหน้า

การปลอบประโลมใจจึงเป็นเสมือน "ยาระงับปวด"

 ที่ช่วยบรรเทาทุกข์เพียงชั่วคราวเท่านั้น

อย่างไรก็ตามทุกวันนี้วัดและพระสงฆ์ส่วนใหญ่

มุ่งปลอบประโลมใจญาติโยม

พูดให้เขาสบายใจสถานเดียว

 นอกจากไม่ยอมบอกความจริง

อันระคายหู(แต่จำเป็น)แล้ว

ยังถึงขั้นตามใจหรือพะเน้าพะนอญาติโยม

 เช่น อวยพรให้เขา "รวย ๆๆ" อย่างเดียว

 กลายเป็นการพะเน้าพะนอกิเลส ส่งเสริมตัณหา

 ซึ่งมีมากอยู่แล้ว ให้มีมากขึ้น

ในฝ่ายญาติโยมก็เช่นกัน

พากันมาวัดเพียงเพื่อหาความสบายใจ

 ไม่ใช่เพื่อคลายทุกข์เท่านั้น

 แต่ยังอยากได้ยินคำพูดที่ถูกใจถูกกิเลสจากพระ

ครั้นพระพูดถึงความจริงของชีวิต

ที่กระตุกใจให้ไม่ประมาท

 กระทุ้งใจไม่ให้เพลิดเพลินหลงใหลในสิ่งที่เป็นมายา

 หรือกระแทกกิเลสไม่ให้กำเริบ กลับไม่อยากได้ยิน

 อุดหูสถานเดียว จำนวนไม่น้อยมาวัดเพื่อทำบุญ

 ครั้นได้เวลาพระแสดงธรรม ก็รีบกลับบ้านทันที

ท่าทีดังกล่าวไม่ได้เกิดกับญาติโยมที่มาวัด

เพื่อทำบุญ ขอน้ำมนต์ เช่าวัตถุมงคล เท่านั้น

 แม้กระทั่งผู้ที่เรียกตนว่านักปฏิบัติธรรม

จำนวนไม่น้อยก็เข้าวัด

เพียงเพื่อความสบายใจชั่วคราว

 มาภาวนาเพียงเพื่อให้ใจสงบ ไม่มีเรื่องว้าวุ่นใจ

 แต่ไม่คิดที่จะขูดกิเลส ลดความเห็นแก่ตัว

 หรือขัดเกลาตนเอง ลึก ๆ ก็ยังยึดติด

ในลาภ ยศ สรรเสริญ และสุข

 แม้ครูบาอาจารย์จะพูดถึงโทษของกิเลส

และความยึดติดถือมั่น ก็ไม่สนใจ

ที่จะนำมาพิจารณาอย่างจริงจัง

หลายคนอยากไปหาครูบาอาจารย์ที่พูดนุ่ม ๆ

 ไปอยู่สำนักที่สบาย เลี่ยงไปหาครูบาอาจารย์

ที่มุ่งขนาบลูกศิษย์

พระพุทธองค์แม้ทรงเปี่ยมด้วยพระมหากรุณา

ปรารถนาจะช่วยสรรพสัตว์ให้พ้นทุกข์

 อีกทั้งให้ความหวังแก่เราว่า

การพ้นทุกข์นั้นเป็นไปได้

 ดังที่เคยตรัสว่า ผู้ใดอาศัยพระองค์

เป็นกัลยาณมิตรแล้ว ย่อมพ้นจาก

ความเกิด แก่ เจ็บ และความทุกข์

 แต่ในเวลาเดียวกันอีกด้านหนึ่งของพระองค์

ก็คือการเคี่ยวเข็นไม่อ่อนข้อกับกิเลสของผู้คน

ดังตรัสกับพระอานนท์ว่า

"เราจะไม่ทำกับพวกเธออย่างทะนุถนอม .....

เราจะขนาบแล้วขนาบอีกไม่มีหยุด”

คำสอนของพระองค์ก็เช่นกัน

 นอกจากด้านที่ให้ความหวังแก่ผู้คนแล้ว

 ยังมีอีกด้านที่คอย "ขนาบ" ผู้คน

เพื่อขูดเกลากิเลส และรื้อถอนอวิชชา

 ด้วยเหตุนี้พุทธศาสนาไทย

นอกจากจะมีหลวงพ่อคูณ แล้ว

จำเป็นต้องมีพระอย่างหลวงตามหาบัวด้วย

เป็นชาวพุทธทั้งที

ควรได้ประโยชน์สูงสุดจากพุทธศาสนา

 จึงไม่ควรหวังความสบายใจ

จากพุทธศาสนาอย่างเดียว

 แต่ต้องพร้อมที่จะฟังความจริงที่ไม่หวานหู

 ไม่พะนอกิเลส แต่เขย่าใจให้ตื่น

 รวมทั้งกล้าที่จะเคี่ยวเข็นตนเอง

เข้าหาการปฏิบัติ

ที่ขูดเกลากิเลส สั่นคลอนความหลง

 ท้าทาย(ความยึดติดใน)อัตตา

 พร้อมให้ครูบาอาจารย์ขนาบแล้วขนาบอีก

 ด้วยวิธีอย่างนี้เท่านั้นที่ความทุกข์จะลดลง

จนไม่เหลืออีกต่อไป.

พระไพศาล วิสาโล

.............................




ขอบคุณที่มา fb. ข้อธรรม คำสอน พระไพศาล วิสาโล
ขอบคุณเจ้าของภาพค่ะ




Create Date : 22 กุมภาพันธ์ 2561
Last Update : 22 กุมภาพันธ์ 2561 10:44:24 น.
Counter : 428 Pageviews.

1 comments
  
สาธุ


เอาใจมาฝากคะ


หากจะหา เหตุผลสักคำ
ว่าสิ่งที่ทำ ให้ฉันรักเธอ

นั่นเป็นเพราะ
ตัวฉันมาเจอ เจอสิ่งดีงาม
ตั้งแต่วันฉันพบเธอ ได้เจอ แต่สิ่งดีงาม




*~*~*~*..แวะมาทักทายจ๊ะ..ขอให้มีความสุข สดใส..หัวใจเบิกบาน..*~*~*~*

..HappY BrightDaY..



โดย: *~ต้นกล้า...ของหัวใจ~* วันที่: 22 กุมภาพันธ์ 2561 เวลา:15:46:32 น.
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

tangkay
Location :
ชลบุรี  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 55 คน [?]



(•‿•✿) พออายุเลยเลขหกฉันยกเครื่อง
มอบทุกเรื่องที่เคยรู้คู่ความเห็น
มอบประสบการณ์ผ่านพบจบประเด็น
ไม่ยากเย็นเรื่องความรู้ตามดูกัน
ฉันคนเก่าเล่าความหลังยังจำได้
แต่ด้วยวัยที่เหลือน้อยค่อยสร้างสรร
ยอมรับเรื่องเนตโซเชียลเรียนไม่ทัน
อย่าโกรธฉันแค่สูงวัยแต่ใจจริง
ด้วยอายุมากมายอยากได้เพื่อน
หลากหลายเกลื่อนทุกวัยทั้งชายหญิง
คุยทุกเรื่องแลกเปลี่ยนรู้คู่ความจริง
หลากหลายสิ่งฉันไม่รู้ดูจากเธอ ....
สิบปีผ่านไป.......
อายุเข้าเลขเจ็ดไม่เผ็ดจี๊ด
เคยเปรี้ยวปรี๊ดก็ต้องถอยคอยเติมหวาน
ด้วยเคยเกริ่นบอกเล่ามาเนิ่นนาน
ก็ยังพาลหมดแรงล้าพากายตรม
ด้วยชีวิตผ่านมาพาเป็นสุข
ยังสนุกกับการให้ใจสุขสม
อยากบอกเล่ากล่าวอ้างบางอารมณ์
แม้คนชมจะร้องว้า....ไม่ว่ากัน
ปัจจุบันเขียนน้อยค่อยเหินห่าง
ระบบร่างเปลี่ยนแปลงเหมือนแกล้งฉัน
เราคนแก่ตามแก้ไม่ค่อยทัน
ยักแย่ยันค่อยศึกษาหาข้อมูล
แต่ด้วยคิดถึงแฟนคลับกระชับมิตร
จึงต้องคิดตามต่อไปไม่ให้สูญ
ส่งความรู้คู่ธรรมะทวีคูณ
เพื่อเพิ่มพูนให้รู้กันฉันสุขใจ