"คุณธรรม ๔ ประการ"
ความสุขความเจริญนั้น
เกิดจากการกระทำของเราเอง
พระพุทธเจ้าทรงตรัสว่าทำดีได้ดี
ทำไม่ดีก็ได้ไม่ดี
ถ้าทำดีก็จะได้ความสุขความเจริญ
ถ้าทำไม่ดีก็จะได้ความทุกข์ความเสื่อมเสียต่างๆ
ดังนั้นพระพุทธเจ้าจึงทรงสอนให้เราทำความดี
ละการกระทำความไม่ดีกัน เพื่อเราจะได้มีแต่
ความสุขความเจริญโดยถ่ายเดียว
จะไม่มีความทุกข์ไม่มีความเสื่อมเสียต่างๆ ตามมา
เพราะนี่เป็นเรื่องของกฎแห่งกรรม
กฎของเหตุของผล กรรมคือการกระทำ
ความสุขความเจริญความทุกข์ความเสื่อมเสีย
เป็นผลที่เกิดจากการกระทำ
ทำดีก็สุข ทำไม่ดีก็ทุกข์
ถ้าเราอยากจะมีแต่ความสุขความเจริญ
ปราศจากความไม่ดีปราศจากความทุกข์
ความเสียหายต่างๆ
เราก็ต้องละการกระทำที่ไม่ดีไป
การที่เราจะทำดี
ได้ละเว้นจากการไม่กระทำการไม่ดีได้
เราต้องมีคุณธรรมอยู่ในใจเรา ๔ ข้อด้วยกัน
คือข้อที่ ๑. เราต้องมีจาคะ แปลว่าความเสียสละ
๒. มีสัจจะ ความซื่อสัตย์
๓. มีขันติ ความอดทน
และ ๔. มีทมะ ความอดกลั้น
นี่คือคุณสมบัติที่เราควรที่จะสร้างขึ้นมา
ว่าถ้าเรามีความเสียสละ มีความซื่อสัตย์
มีความอดทน มีความอดกลั้น
เราจะทำความดีได้
เราจะละเว้นการกระทำไม่ดีได้
สาเหตุที่เราทำความดีกันไม่ค่อยได้
ละการกระทำไม่ดีไม่ค่อยได้
ก็เพราะเราไม่มีจาคะ
ไม่มีความเสียสละ เรามีความเห็นแก่ตัว
ความเห็นแก่ตัวนี้จะทำให้เราทำความดีได้ยาก
ละการกระทำความไม่ดีได้ยาก
เราไม่มีสัจจะ คือไม่มีความซื่อสัตย์
เราชอบคดชอบโกง
ก็เลยทำให้เราทำความดีไม่ได้
เราไม่มีขันติ ความอดทน
เวลาเจอปัญหาเจออะไร
ก็ไม่สามารถที่จะทนกับสภาพ
ต้องไปทำไปแก้ด้วยวิธีที่ไม่ถูกต้อง
และ ๔ ไม่มีทมะ ไม่มีความอดกลั้น
เวลามีอารมณ์ไม่ดีก็ไม่สามารถยับยั้ง
ไม่ปล่อยให้ระบายออกมา
พอมีอารมณ์ไม่ดี
ถ้าปล่อยให้พูดปล่อยให้กระทำ
ก็จะพูดไม่ดีทำไม่ดี
แล้วก็จะเกิดความเสียหายตามมาต่อไป
ดังนั้นเราจึงต้องมาพยายามสร้างจาคะ
ความเสียสละ สร้างสัจจะความซื่อสัตย์
สร้างขันติความอดทน สร้างทมะความอดกลั้น
ถ้าเรามีคุณธรรมเหล่านี้แล้ว
เวลาที่ใจเราคิดที่จะพูดไม่ดีทำไม่ดีเราก็จะหยุดได้
เวลาที่เราอยากจะทำความดีเราก็จะทำได้.
พระอาจารย์สุชาติ อภิชาโต
..........................
ธรรมะในศาลา
วันที่ ๑๑ มิถุนายน ๒๕๖๐
ขอบคุณที่มา fb. พระอาจารย์สุชาติ อภิชาโต
ขอบคุณเจ้าของภาพค่ะ