Group Blog
All Blog
<<< "สิ่งที่เราจะได้รับจากพระพุทธศาสนา" >>>








“สิ่งที่เราจะได้รับจากพระพุทธศาสนา”

การทำบุญนี้เป็นประโยชน์อย่างมาก

ต่อจิตใจของพวกเราทุกคน เป็นที่พึ่งของจิตใจ

 เหมือนกับปัจจัย๔ ที่เป็นที่พึ่งของร่างกาย

ร่างกายจะอยู่อย่างสุขอย่างสบาย

ร่างกายต้องมีปัจจัย ๔ ที่สมบูรณ์

 คือมีอาหาร มีเครื่องนุ่งห่ม มีที่อยู่อาศัย มียารักษาโรค

 ร่างกายถึงจะอยู่ได้อย่างเป็นปกติสุข

ไม่อดอยากขาดแคลน ไม่ทุกข์ยากลำบาก

ไม่เจ็บไข้ได้ป่วย ฉันใด จิตใจก็เป็นเหมือนร่างกาย

ที่ต้องมีที่พึ่งคือ มีปัจจัย ๔ เช่นเดียวกับร่างกาย

 ปัจจัย ๔ ของใจเรียกว่าบุญชนิดต่างๆ

อาหารของใจก็คือบุญที่เกิดจากการทำทาน

 เครื่องนุ่งห่มของใจก็คือบุญที่เกิดจากการรักษาศีล

ที่อยู่อาศัยของใจก็คือบุญ

ที่เกิดจากการนั่งสมาธิทำใจให้สงบ

 และยารักษาโรคของใจก็คือบุญ

ที่ได้จากการเจริญปัญญา นี่คือบุญชนิดต่างๆ

 ที่เปรียบเหมือนปัจจัย ๔ ที่จิตใจต้องพึ่งพาอาศัย

 เหมือนกับร่างกายที่ต้องพึ่งพาอาศัยอาหาร

 เครื่องนุ่งห่ม ที่อยู่อาศัย ยารักษาโรค

ฉะนั้น การทำบุญจึงเป็นภารกิจที่สำคัญ

 และสำคัญมากกว่าภารกิจของการเลี้ยงดูร่างกาย

 เพราะร่างกายกับจิตใจนี้มีความแตกต่างกันมาก

ในเรื่องของอายุขัย ร่างกายนี้มีอายุที่ไม่เกินร้อย

 ส่วนมากไม่ถึงร้อย เกินร้อยก็มีบ้าง แต่ไม่มาก

พอถึงอายุขัยของร่างกาย ร่างกายก็หมดสภาพไป

 ทำอะไรดีขนาดไหนให้แก่ร่างกาย

 ก็ไม่สามารถยับยั้งความตายของร่างกายได้

ส่วนจิตใจนี้ดีกว่าร่างกายหลายเท่า

 เพราะจิตใจไม่มีวันตาย ปัจจัย ๔ ที่เราหาให้แก่จิตใจ

จะอยู่กับใจไป จะดูแลรักษาจิตใจ

ให้อยู่อย่างร่มเย็นเป็นสุขไปตลอดอนันตกาล

 ปัจจัย ๔ ของร่างกายหามาได้มากน้อยเพียงไรก็ตาม

 ในที่สุดมันก็ไม่สามารถรักษาดูแลร่างกายได้

 ร่างกายต้องหมดสภาพไป

 ปัจจัย ๔ ที่หามาได้มากน้อยเพียงไร

ก็จะกลายเป็นของผู้อื่นไป แต่ปัจจัย ๔ ของใจนี้

ใจจะเป็นผู้ครอบครองไปตลอด

ปัจจัย ๔ จะเป็นปัจจัย ๔ ของใจคือ

 ทาน ศีล สมาธิ ปัญญา

จะรักษาใจให้อยู่อย่างมีความสุขไปตลอด

กำจัดความทุกข์ต่างๆ ภัยต่างๆ

ไม่ให้เข้ามาทำลายจิตใจ

 มาเบียดเบียนจิตใจ มากระทบจิตใจ

ฉะนั้น การทำบุญจึงเป็นภารกิจที่สำคัญอย่างยิ่ง

ที่พวกเรามักจะไม่เข้าใจกัน

 กลับไปให้ความสำคัญต่อภารกิจทางร่างกายกัน

 อาทิตย์หนึ่งมี ๗ วัน เรานี้ใช้เวลาไปกับ

การดูแลเลี้ยงดูร่างกายถึง ๕ วันด้วยกัน

 ไปทำงานกัน เพื่อไปหาปัจจัย ๔ กัน

ส่วนจิตใจที่มีความสำคัญมีคุณค่ามากมาย

 เรากลับไม่ค่อยให้เวลากับการหาปัจจัย ๔ ให้แก่จิตใจ

 เพราะว่าจิตใจของพวกเราถูกความหลงครอบงำ

 ทำให้เรามองไม่เห็นความสำคัญของจิตใจ

กลับไปมองเห็นความสำคัญของร่างกาย

 เพราะร่างกายนี้เป็นสิ่งที่เราจับต้องได้เห็นได้

 แต่จิตใจนี้เป็นสิ่งที่เราจับต้องไม่ได้มองไม่เห็น

 เราเลยไม่รู้ความจริงของจิตใจว่าเป็นอะไรกันแน่

 เป็นส่วนหนึ่งของร่างกาย

หรือไม่ใช่เป็นส่วนหนึ่งของร่างกาย

 ส่วนใหญ่ความหลงก็จะบอกให้เราคิดว่า

 จิตใจนี้เป็นส่วนหนึ่งของร่างกาย

ถ้าเราเลี้ยงดูร่างกายดีจิตใจก็จะต้องดีตามไปด้วย

 ถ้าร่างกายมีความสุขจิตใจก็จะมีความสุขไปด้วย

 แต่นักปราชญ์อย่างพระพุทธเจ้า

และพระอรหันตสาวกทั้งหลาย ท่านได้พิสูจน์แล้วว่า

 จิตใจกับร่างกายนี้เป็นคนละส่วนกัน

การเลี้ยงดูร่างกายให้อยู่อย่างสุขสบาย

ไม่ได้ทำให้จิตใจสุขสบายตามร่างกายไป

 จิตใจจะสุขสบาย จิตใจต้องมีบุญ

ร่างกายจะสุขสบาย ร่างกายต้องมีปัจจัย ๔

ร่างกายของพวกเราทุกคนนี้มีปัจจัย ๔ เหลือเฟือ

 มีความสุขสบายกันทุกคน

 แต่ทำไมจิตใจของพวกเรายังวุ่นวายกัน

ยังไม่มีความสุขเหมือนกับร่างกาย

ก็เพราะว่าจิตใจนั้นเป็นคนละคนกับร่างกาย

 เราไปคิดว่าเราดูแลจิตใจด้วยการดูแลร่างกาย

 ร่างกายเราจึงสุขสบายปลอดภัยจากภัยต่างๆ

 แต่ใจของพวกเรากลับทุกข์กัน กลับไม่สบายใจกัน

 กลับมีเรื่องวุ่นวายใจต่างๆ

มาคอยเบียดเบียนอยู่ตลอดเวลา

 นั่นเพราะว่าเราไม่ได้มาให้เวลา

กับการทำบุญสร้างปัจจัย ๔ ให้แก่ใจนั่นเอง

นี่แหละ คือสิ่งที่คนทั่วไป ปุถุชนทั่วไปนี้จะไม่รู้เรื่องกัน

 ไม่รู้ว่าใจกับร่างกายเป็นคนละคนกัน

 และเหตุที่ทำให้ร่างกายกับใจมีความสุขไม่มีความทุกข์

 ก็เป็นคนละเหตุกัน นี่จึงเป็นโชควาสนาของชาวพุทธ

ที่ได้มาพบกับพระพุทธศาสนา

มีพระพุทธศาสนาเป็นผู้ให้ข้อมูลที่ถูกต้อง

 ให้ความจริงแก่พุทธศาสนิกชน

 ให้รู้ว่าร่างกายกับจิตใจนี้เป็นคนละส่วนกัน

ร่างกายก็ต้องดูแลตามความเหมาะสมของร่างกาย

 แต่การดูแลร่างกายเพียงอย่างเดียวนี้ไม่พอเพียง

 เพราะจิตใจไม่ได้รับการดูแลด้วย

จิตใจนี้ต้องมีบุญเป็นผู้ดูแลเป็นผู้สนับสนุน

นี่คือสิ่งที่เราจะได้รับจากพระพุทธศาสนา

 พระพุทธศาสนาจึงสอนให้เราทำบุญกัน

คำว่า บุญ ก็แปลว่า

 ความอิ่ม ความสุขใจ ความสบายใจ.

พระอาจารย์สุชาติ อภิชาโต

...............................

ธรรมะบนเขา

วันที่ ๑๓ สิงหาคม ๒๕๖๑






ขอบคุณที่มา fb. พระอาจารย์สุชาติ อภิชาโต
ขอบคุณเจ้าของภาพค่ะ




Create Date : 14 สิงหาคม 2561
Last Update : 14 สิงหาคม 2561 8:57:54 น.
Counter : 343 Pageviews.

0 comments
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

tangkay
Location :
ชลบุรี  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 55 คน [?]



(•‿•✿) พออายุเลยเลขหกฉันยกเครื่อง
มอบทุกเรื่องที่เคยรู้คู่ความเห็น
มอบประสบการณ์ผ่านพบจบประเด็น
ไม่ยากเย็นเรื่องความรู้ตามดูกัน
ฉันคนเก่าเล่าความหลังยังจำได้
แต่ด้วยวัยที่เหลือน้อยค่อยสร้างสรร
ยอมรับเรื่องเนตโซเชียลเรียนไม่ทัน
อย่าโกรธฉันแค่สูงวัยแต่ใจจริง
ด้วยอายุมากมายอยากได้เพื่อน
หลากหลายเกลื่อนทุกวัยทั้งชายหญิง
คุยทุกเรื่องแลกเปลี่ยนรู้คู่ความจริง
หลากหลายสิ่งฉันไม่รู้ดูจากเธอ ....
สิบปีผ่านไป.......
อายุเข้าเลขเจ็ดไม่เผ็ดจี๊ด
เคยเปรี้ยวปรี๊ดก็ต้องถอยคอยเติมหวาน
ด้วยเคยเกริ่นบอกเล่ามาเนิ่นนาน
ก็ยังพาลหมดแรงล้าพากายตรม
ด้วยชีวิตผ่านมาพาเป็นสุข
ยังสนุกกับการให้ใจสุขสม
อยากบอกเล่ากล่าวอ้างบางอารมณ์
แม้คนชมจะร้องว้า....ไม่ว่ากัน
ปัจจุบันเขียนน้อยค่อยเหินห่าง
ระบบร่างเปลี่ยนแปลงเหมือนแกล้งฉัน
เราคนแก่ตามแก้ไม่ค่อยทัน
ยักแย่ยันค่อยศึกษาหาข้อมูล
แต่ด้วยคิดถึงแฟนคลับกระชับมิตร
จึงต้องคิดตามต่อไปไม่ให้สูญ
ส่งความรู้คู่ธรรมะทวีคูณ
เพื่อเพิ่มพูนให้รู้กันฉันสุขใจ