Group Blog
All Blog
<<< "วิธียุติการเวียนว่ายตายเกิด" >>>









“วิธียุติการเวียนว่ายตายเกิด”

การถือศีล ๘ นี้ก็ถือว่าได้บวชแล้ว

 ยุติการใช้ร่างกายหาความสุขต่างๆ

ไม่นอนกับแฟน

 ไม่กินอาหารหลังจากเที่ยงวันไปแล้ว

ไม่ไปเที่ยวตามสถานบันเทิงต่างๆ

 ไม่แต่งเนื้อแต่งตัว อันนี้เป็นการบวชชั่วคราว

 สามวัน ห้าวัน แล้วก็เอาเวลาที่บวชนี้

ม่ต้องไปทำงานทำการนี้มาฝึกสติกัน

มาคอยควบคุมความคิดกันหยุดความคิดกันให้ได้

 ด้วยการใช้การเจริญสติแบบใดแบบหนึ่ง

 เช่นการบริกรรมพุทโธๆ นี้ก็เป็นการเจริญสติ

 เป็นการห้ามความคิดได้

 ถ้าเราบริกรรมแต่พุทโธๆๆไปภายในใจเรา

ก็จะไปคิดถึงคนนั้นคนนี้ไม่ได้

 คิดถึงลาภยศสรรเสริญ

คิดถึงรูปเสียงกลิ่นรสไม่ได้

 พอเราไม่คิดใจเราก็จะเบาใจเย็นจะสบาย

 เพราะความอยากไม่มีนั่นเอง

 แล้วพอถ้าเรานั่งเฉยๆได้นั่งหลับตาได้

จิตก็จะนิ่งได้อย่างเต็มที่ พอนิ่งเต็มที่

ความสุขที่เต็มที่ก็จะปรากฏขึ้น

มาให้เราได้สัมผัสทันที

 พอเราได้สัมผัสกับความสุขแบบนี้แล้ว

ทีนี้เราก็เลิกหาความสุขแบบเก่าได้

ทุกครั้งอยากจะมีความสุขก็ไปนั่งสมาธิแทน

 นั่งหลับตาพุทโธ ๕ นาทีมันก็สงบลง

 ถ้าเราทำบ่อยๆทำจนชำนาญ

ก็เหมือนกับการหัดขับรถ

ตอนต้นเวลาเราหัดขับรถนี้

รู้สึกมันจะยากไปหมด

ไหนจะต้องมีพวงมาลัย

จะต้องมีเบรคมีเกียร์มีคันเร่ง

 แต่ถ้าเราหัดขับต่อไปเรื่อยๆ

ต่อไปมันก็จะชำนาญ

แล้วมันแทบจะไม่ต้องคิดเลย

พอกระโดดขึ้นนั่งปั๊บมันก็สตาร์ทรถวิ่งได้เลย

 ฉันใด ใหม่ๆ เราก็จะรู้สึกว่ามันอึดอัด

 เวลาจะนั่งก็อึดอัด จะพุทโธก็อึดอัด

เพราะมันไม่เคยทำมันก็เลยไม่รู้สึก

 มันเลยรู้สึกว่าทำไปแล้วมันจะได้ผลหรือเปล่า

 ก็ลังเลสงสัยไป ตอนนี้เราต้องใช้ความอดทน

ใช้ความพยายาม

 เชื่อพระพุทธเจ้าบอกพุธทโธไปเถิด

อย่างเดียวไม่ต้องไปคิดอะไร

เดี๋ยวจะได้เห็นผลเอง

 ถ้าเราเชื่อพระพุทธเจ้า

แล้วเราพุทโธไปอย่างเดียวได้

 รับรองเดี๋ยวจิตมันจะรวมจิตมันจะสงบ

ให้เราเห็นกับตาของเรา พอเห็นกับตาแล้ว

ทีนี้มันหายสงสัย สิบปากว่าไม่เท่าหนึ่งตาเห็น

 ถ้าอยากจะเห็นความสุขสงบนี้

ฟังอย่างเดียวจะไม่เห็น

 พระเทศน์ทุกวันๆให้ฟังเนี่ยฟังไปแล้วมันก็ยังไม่เห็น

 จะเห็นก็ต่อเมื่อเราไปเจริญสติกัน ไปนั่งสมาธิกัน

 ไปพุทโธๆกัน ถ้าเราทำได้ รับประกันได้

รับรองได้ว่าจะต้องพบกับความสงบ

ที่เหนือกว่าความสุขทั้งปวง

 แล้วพอได้มาแล้วทีนี้เราจะไม่ต้องหาความสุข

ในรูปแบบเดิมอีกต่อไป ไม่ต้องมีแฟน

ไม่ต้องมีเงินทอง ไม่ต้องมียศมีตำแหน่ง

ไม่ต้องมีใครมาคอยชมเรา ไม่ต้องไปเที่ยว

ไปดูหนังฟังเพลง อยู่เฉยๆอยู่คนเดียว

ทำใจให้สงบก็มีความสุขแล้ว

นี่คือวิธีที่เราจะยุติการเกิดแก่เจ็บตายได้

 ยุติความทุกข์ต่างๆที่เรากำลังเผชิญกันอยู่ได้

 เพราะความทุกข์มันก็เกิดจากการเกิดนี่เอง

 การเกิดก็เกิดจากการที่เรายังต้องใช้ร่างกาย

เป็นเครื่องมือหาความสุข

 แต่พอเรามาพบกับพระพุทธเจ้า

กับคำสอนพระพุทธเจ้าที่สอนให้เรา

เปลี่ยนวิธีหาความสุขกัน

มาหาความสุขจากการทำใจให้สงบ

สติของเรานี่แหละ พอเราสร้างสติ

มีกำลังที่จะทำให้ใจสงบได้

เราก็ไม่ต้องหาความสุขในรูปแบบอื่นอีกต่อไป

 ไม่ต้องไปทุกข์กับร่างกายอีกต่อไป

 ถึงแม้ยังมีร่างกายอยู่จะไม่ทุกข์กับร่างกายอีกต่อไป

 ร่างกายแก่ก็ไม่ทุกข์ ร่างกายเจ็บไข้ได้ป่วยก็ไม่ทุกข์

ร่างกายตายก็ไม่ทุกข์ เพราะเราไม่ต้องดูแลรักษามัน

 เราไม่ต้องการให้มันอยู่แล้ว จะอยู่ก็อยู่

มันจะตายก็เรื่องของมัน เราจะไม่ทุกข์

แล้วมันพอร่างกายนี้ตายไป

เราก็จะไม่กลับมามีร่างกายอันใหม่อีกต่อไป

 เราก็จะไปอยู่กับพระพุทธเจ้า

ไปอยู่ที่เราเรียกว่าพระนิพพานกัน

 ที่ไม่มีการเกิดแก่เจ็บตายอีกต่อไป

มีแต่บรมสุข นัตถิ สันติ ปรมัง สุขัง

 ไปตลอดไม่มีวันสิ้นสุด

นี่คือเรื่องของศรัทธาความเชื่อ

ในพระธรรมคำสอนของชาวพุทธเรา

 ชาวพุทธเราเราเชื่อพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์

 เชื่อคำสั่งคำสอนของพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์

 ถ้าเราเชื่อแล้วนำเอาไปปฏิบัติได้

 เราจะได้รับประโยชน์

เราจะได้หลุดพ้นจากกองทุกข์

แห่งการเวียนว่ายตายเกิด

 เราจะได้รับความสุขของพระนิพพาน

 ที่จะเป็นที่จะตามมาต่อไป

ดังนั้น ในวันขึ้นปีใหม่นี้

ก็ขอให้ท่านจงนำเอาคำสอนอันประเสริฐ

ของพระพุทธเจ้านี้ ไปพินิจพิจารณา

และไปปฏิบัติเพื่อประโยชน์สุข

และการสิ้นสุดของความทุกข์ทั้งหลาย

ที่จะตามมาต่อไป.

พระอาจารย์สุชาติ อภิชาโต

.....................................

ธรรมะบนเขา

วันที่ ๑๓ เมษายน ๒๕๖๑




ขอบคุณที่มา fb. พระอาจารย์สุชาติ อภิชาโต
ขอบคุณเจ้าของภาพค่ะ




Create Date : 09 กรกฎาคม 2561
Last Update : 9 กรกฎาคม 2561 8:57:38 น.
Counter : 462 Pageviews.

0 comments
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

tangkay
Location :
ชลบุรี  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 55 คน [?]



(•‿•✿) พออายุเลยเลขหกฉันยกเครื่อง
มอบทุกเรื่องที่เคยรู้คู่ความเห็น
มอบประสบการณ์ผ่านพบจบประเด็น
ไม่ยากเย็นเรื่องความรู้ตามดูกัน
ฉันคนเก่าเล่าความหลังยังจำได้
แต่ด้วยวัยที่เหลือน้อยค่อยสร้างสรร
ยอมรับเรื่องเนตโซเชียลเรียนไม่ทัน
อย่าโกรธฉันแค่สูงวัยแต่ใจจริง
ด้วยอายุมากมายอยากได้เพื่อน
หลากหลายเกลื่อนทุกวัยทั้งชายหญิง
คุยทุกเรื่องแลกเปลี่ยนรู้คู่ความจริง
หลากหลายสิ่งฉันไม่รู้ดูจากเธอ ....
สิบปีผ่านไป.......
อายุเข้าเลขเจ็ดไม่เผ็ดจี๊ด
เคยเปรี้ยวปรี๊ดก็ต้องถอยคอยเติมหวาน
ด้วยเคยเกริ่นบอกเล่ามาเนิ่นนาน
ก็ยังพาลหมดแรงล้าพากายตรม
ด้วยชีวิตผ่านมาพาเป็นสุข
ยังสนุกกับการให้ใจสุขสม
อยากบอกเล่ากล่าวอ้างบางอารมณ์
แม้คนชมจะร้องว้า....ไม่ว่ากัน
ปัจจุบันเขียนน้อยค่อยเหินห่าง
ระบบร่างเปลี่ยนแปลงเหมือนแกล้งฉัน
เราคนแก่ตามแก้ไม่ค่อยทัน
ยักแย่ยันค่อยศึกษาหาข้อมูล
แต่ด้วยคิดถึงแฟนคลับกระชับมิตร
จึงต้องคิดตามต่อไปไม่ให้สูญ
ส่งความรู้คู่ธรรมะทวีคูณ
เพื่อเพิ่มพูนให้รู้กันฉันสุขใจ