Group Blog
All Blog
<<< " ทำอย่างไรจึงจะแยกกายกับจิตออกจากกันได้" >>>









"ทำอย่างไรจึงจะแยกกายกับจิต

ออกจากกันได้"
.
จะทำอย่างไรจึงจะแยกกายกับจิตออกจากกันได้นั้น

 จะเปรียบเทียบให้ฟังอีกว่า รูปกายของตนทุกคน

ก็เปรียบเหมือนบ้านที่บุคคลทั้งหลาย

สร้างขึ้นเพื่ออาศัยอยู่ เมื่อเราสร้างขึ้นแล้ว

 แต่ต่อมาก็ล่วงวันล่วงคืนล่วงปีไป

ก็ถูกแดดถูกฝนบ้าง ก็มีความเก่าแก่

 เช่น หลังคารั่วบ้าง เสาที่ฝังอยู่ในพื้นดิน

ก็จะขาดบ้าง ฝาถูกฝนก็ผุพังเก่าแก่คร่ำคร่า

ชำรุดทรุดโทรมมากบ้างน้อยบ้าง

แล้วก็พากันซ่อมแซม แก้ไขตามกำลังของตน

 พออาศัยอยู่ต่อไปได้ชั่ววันชั่วคืนเท่านั้น
.
แต่ถ้าบ้านหลังเก่านี้แหละถูกลมพัดหักบ้าง

ไฟไหม้บ้าง เก่าแก่คร่ำคร่าลง

จนไม่มีความสามารถซ่อมแซมขึ้นใหม่ได้

 ตัวบุคคลที่อาศัยอยู่ก็ปล่อยบ้านหลังนั้นทิ้งเสีย

 หรือรื้อทิ้งเสีย แล้วก็ไปสร้างบ้านหลังใหม่

อาศัยอยู่ตามกำลังของตนเอง
.
ฉันใดก็ดี จิตใจของคนเรา

ที่อาศัยอยู่กับกายทุกวันนี้ก็เหมือนหนึ่งว่า

ถ้าร่างกายเกิดโรคภัยไข้เจ็บมากบ้างน้อยบ้าง

ก็พยายามรักษากับแพทย์คลีนิก

หรือเข้าโรงพยาบาลตามกำลังของตน

 พออดพอทนอยู่ไปได้อีก

 เหมือนกับเราที่ซ่อมบ้านของเราที่คร่ำคร่าให้ดีขึ้น

แล้วก็อาศัยอยู่ไปอีก เหมือนกันฉันนั้น

 ถ้าร่างกายของเราเป็นโรคมาก หรือวิบัติมาก

เอาไปรักษาโรงพยาบาลไหน

คลินิกหมอแพทย์คนใดกินยาอะไรก็ไม่หาย

ไม่ดีขึ้นมาอีก ก็หมดหวังของหมอ

และญาติพี่น้องของตน ตนเองก็ทนไม่ไหว

จิตใจก็เลยหมดห่วงอาลัย

วิ่งหนีออกจากร่างกายอันนี้

ไปเกิดในภาพชาติอันใหม่

 แล้วร่างกายของคนเราก็ค่อยหมดลมหายใจ

วางอยู่ ต่อไปก็ผุพังทลาย

ฝังบ้างเผาบ้าง หายไปเลย
.
ฉันใดก็ดี ก็เหมือนกับว่า

คนเราอาศัยอยู่บ้านของตนเองทุกวันทุกคืนนี้

 ถ้ามันถูกไฟไหม้บ้างหักพังบ้าง

 เก่าแก่มากจนซ่อมแซมไม่ไหว

ก็เลยทิ้งบ้านไปสร้างเอาหลังใหม่

เหมือนกันนั้นแหละ

 จิตใจของคนเราก็ทิ้งกายไว้เหมือนกันอย่างนี้

 ฉะนั้นแล จึงกล่าวได้ว่า

จิตกับกายเป็นของคนละอย่าง

 แยกออกจากกันได้
.
เมื่อเราทำความเข้าใจและรู้จักอย่างนี้แล้ว

 เมื่อเรานั่งเจริญสมาธิภาวนาอยู่นั้น

 เมื่อมีอาการเจ็บปวดหลัง ปวดบั้นเอว

ปวดขาแขนหรือที่ใดในร่างกายของตนเกิดขึ้น

 ก็อย่าไปคิดอยู่กับที่ปวดนั้น ให้พยายามทำเฉยๆ

 ปล่อยวางไว้ต่างหาก

ถ้าจิตมันยังอยากจะยึดที่เจ็บปวดอยู่อีก

 เราก็ใช้สติปัญญาพิจารณาดู

 และมีความอดทนอย่างเอาจริง

 ถ้าไม่ถึงเวลาที่เรากำหนดไว้ก่อน

 เราไม่ต้องยอมลุกขึ้น

ทำใจของตนเองให้กล้าหาญ

 ไม่ย่อท้อต่อเวทนา ถึงแม่ว่าหลังปวด เอวปวด

 ขาแขนปวดก็ปวดไปเถอะ หลังอยากหักก็หักไป

 เอวจะขาดก็ขาดไป

ขาหรือแขนจะขาดก็ขาดไปหมดเถอะ

 มีความอดทน หนักแน่น

 ยืนหยัดต่อการบำเพ็ญภาวนา

บริกรรมข้อธรรมกัมมัฏฐานของตนเองต่อไป

 จนกว่าจะถึงเวลาที่เรากำหนดไว้

 จึงลุกขึ้นเปลี่ยนอิริยาบถใหม่
.
เราต้องเอาจริงจังอย่างนี้

จึงต่อสู้แก้ไขปล่อยวางเวทนาได้

 เมื่อเราปล่อยวางเวทนาภายในกายของเราได้แล้ว

 จิตใจของเราก็จะมาอยู่กับข้อธรรมกัมมัฏฐานของเรา

ที่บริกรรมอยู่ ก็จะเป็นเหตุให้จิตใจได้รับความสงบ

เป็นสมาธิลงได้ง่าย เมื่อเราแก้ไขเวทนา

และปล่อยวางได้ด้วยปัญญาอย่างไร

 ก็ขอให้จำข้อธรรมนั้นไว้ให้จงดี
.
เมื่อเรานั่งทำสมาธิภาวนาครั้งต่อไป

 ถ้ามีเวทนาเกิดขึ้น หรือจิตใจของเรา

ไปคิดติดอยู่กับอะไรแล้ว

 เราก็ยกเอาธรรมข้อนั้นมาแก้ไข

ปล่อยวางได้ทันทีไม่ลำบาก

จิตของเราก็จะสงบเป็นสมาธิถึงที่เดิมไม่ยาก.
.
• พระอาจารย์เปลี่ยน ปัญญาปทีโป •

......................................



ขอบคุณที่มา fb. ไม้ขีด ครับ
ขอบคุณเจ้าของภาพค่ะ




Create Date : 08 มีนาคม 2561
Last Update : 8 มีนาคม 2561 11:10:01 น.
Counter : 584 Pageviews.

0 comments
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

tangkay
Location :
ชลบุรี  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 55 คน [?]



(•‿•✿) พออายุเลยเลขหกฉันยกเครื่อง
มอบทุกเรื่องที่เคยรู้คู่ความเห็น
มอบประสบการณ์ผ่านพบจบประเด็น
ไม่ยากเย็นเรื่องความรู้ตามดูกัน
ฉันคนเก่าเล่าความหลังยังจำได้
แต่ด้วยวัยที่เหลือน้อยค่อยสร้างสรร
ยอมรับเรื่องเนตโซเชียลเรียนไม่ทัน
อย่าโกรธฉันแค่สูงวัยแต่ใจจริง
ด้วยอายุมากมายอยากได้เพื่อน
หลากหลายเกลื่อนทุกวัยทั้งชายหญิง
คุยทุกเรื่องแลกเปลี่ยนรู้คู่ความจริง
หลากหลายสิ่งฉันไม่รู้ดูจากเธอ ....
สิบปีผ่านไป.......
อายุเข้าเลขเจ็ดไม่เผ็ดจี๊ด
เคยเปรี้ยวปรี๊ดก็ต้องถอยคอยเติมหวาน
ด้วยเคยเกริ่นบอกเล่ามาเนิ่นนาน
ก็ยังพาลหมดแรงล้าพากายตรม
ด้วยชีวิตผ่านมาพาเป็นสุข
ยังสนุกกับการให้ใจสุขสม
อยากบอกเล่ากล่าวอ้างบางอารมณ์
แม้คนชมจะร้องว้า....ไม่ว่ากัน
ปัจจุบันเขียนน้อยค่อยเหินห่าง
ระบบร่างเปลี่ยนแปลงเหมือนแกล้งฉัน
เราคนแก่ตามแก้ไม่ค่อยทัน
ยักแย่ยันค่อยศึกษาหาข้อมูล
แต่ด้วยคิดถึงแฟนคลับกระชับมิตร
จึงต้องคิดตามต่อไปไม่ให้สูญ
ส่งความรู้คู่ธรรมะทวีคูณ
เพื่อเพิ่มพูนให้รู้กันฉันสุขใจ