"ความว่างเป็นบรมสุข"
ก็เรียนให้ทราบ ไม่มีอะไร ก็ทำไป
ตามเหตุตามผลที่ควรจะกระทำ
เพราะเรายังไงก็ได้ มันก็แค่กินแค่อยู่เท่านั้นเอง
เรื่องอาหารบิณฑบาต เรื่องอะไรอย่างอื่น
ก็ไม่ได้มีความหมายอะไร ข้าวของเงินทอง
ญาติโยมให้มาก็เอาไปแจกจ่ายทำบุญต่อ
เราไม่มีเหตุผลที่จะต้องใช้เงินทอง
ไม่จำเป็นต้องซื้ออะไร วันๆ หนึ่ง
ก็ทำกิจอย่างนี้ทุกวัน ไม่ได้ไปไหนไม่มีค่าใช้จ่าย
เอาเวลามานั่งสมาธิดีกว่า
เอาเวลามาทำใจให้สงบดีกว่า
ความสุขจากความสงบนี้ เหนือกว่าความสุข
จากการได้เงินทองเป็นร้อยล้านพันล้าน
จากการได้ทรัพย์ได้ข้าวของต่างๆ
ได้ตึกได้รถเก๋งได้อะไร
สู้ความสุขที่เกิดจากการนั่งสมาธิไม่ได้
นั่งสมาธิจิตสงบนี้มันคนละระดับกัน
สุขระดับที่ไม่มีอะไรในโลกนี้
ที่จะมาให้ความสุขได้เท่า
ฉะนั้นขอให้พวกเราพยายามหัดนั่งสมาธิกัน
หลับตาดีกว่าลืมตา ลืมตาดูทีวีดูอะไรอยู่
แล้วเดี๋ยวก็เครียดไปกับหนังที่เราดู
ดูข่าวก็ไปเครียดกับข่าว อย่าไปดูอย่าไปฟังเลย
มีแต่ขยะทั้งนั้น ทุกวันนี้
ของที่มาทางโซเชียลต่างๆ นี้
คนนั้นก็เขียนด่าเรา คนนั้นก็เขียนชมเรา
คนนั้นก็วิพากษ์วิจารณ์อย่างโน้นอย่างนี้
อย่าไปดู มันเป็นเศษเป็นขยะ เป็นเรื่องไร้สาระ
ทำแล้วไม่ได้เกิดปัญญา ทำแล้วเกิดอารมณ์
เกิดความรักความชังความกลัวความหลงกัน
ถ้าจะฟังก็ฟังธรรมะดีกว่า
ถ้าไม่ฟังก็นั่งสมาธิทำใจให้สงบ
ฟังเสียงของความเงียบดีกว่า
ฟังเสียงของความว่าง
ความว่างนี่แหละเป็นความสุข
ที่เรียกว่าบรมสุข
พระอาจารย์สุชาติ อภิชาโต
..................................
สนทนาธรรมะบนเขา
วันที่ ๔ สิงหาคม ๒๕๖๐
ขอบคุณที่มา fb. พระอาจารย์สุชาติ อภิชาโต
ขอบคุณเจ้าของภาพค่ะ