Group Blog
All Blog
<<< "ผู้รู้นี่คือตัวเรา" >>>











“ผู้รู้นี่คือตัวเรา”

ถ้าเราอยากจะแยกใจออกจากร่างกาย 

เราต้องดึงใจออกจากตาหูจมูกลิ้นกาย 

พอไม่คิดถึงรูปเสียงกลิ่นรสมัน ก็จะหดเข้าไป

วิธีที่ไม่คิดก็ต้องให้มีอะไรดึงมันออกมา

เช่น พุทโธ พุทโธ ถ้าเราไม่พุทโธ

เดี๋ยวมันก็คิดอยากจะดูนั่น อยากจะฟังนี่

 อยากจะดื่มนั่น อยากจะรับประทานไอ้นี่

อยากจะดมไอ้นั่น มันอยากอยู่ตลอดเวลา

 ดังนั้นถ้าเราต้องการที่จะแยกใจออกจากร่างกายนี้

 เราต้องหยุดคิด วิธีจะหยุดคิดก็ให้คิดมันอยู่ทางเดียว

 เช่นคิดว่าพุทโธ พุทโธ พุทโธ พุทโธ พุทโธ พุทโธไป

 พอพุทโธไปมันก็จะคิดถึงรูปเสียงกลิ่นรสไม่ได้

พอไม่คิดมันก็จะหดตัวเข้ามา

 ถอนตัวออกมาจากตาหูจมูกลิ้นกาย

 พอเราไปนั่งเฉยๆ พุทโธ พุทโธ

 เดี๋ยวมันก็ถอนออกจากร่างกายจากกัน

 ใจก็จะอยู่อีกที่หนึ่ง ร่างกายก็จะอยู่อีกที่หนึ่ง

ใจสงบร่างกายก็จะหายไปจากความรู้สึกนึกคิด

 เหลืออยู่แต่ตัวรู้ผู้รู้อยู่ตัวเดียว ผู้รู้นี่คือตัวเรา

ตัวเราที่ไปหลงคิดว่าเป็นร่างกาย

พอเราหยุดคิดปั๊บความหลงมันก็หยุดไป

พอหยุดคิด ความคิดที่ว่าเราเป็นร่างกายมันก็หายไป

 เราก็จะรู้ว่าอ๋อนี่แหละตัวเราที่แท้จริง

ก็คือตัวรู้นี่เอง ตัวรู้นี่แหละที่ไม่ได้ตายไปกับร่างกาย

 แต่ร่างกายเป็นอะไร ตัวรู้ก็ยังเป็นตัวรู้อยู่

 ตัวรู้ไม่มีวันแก่ไม่มีวันเจ็บไม่มีวันตาย

ตัวรู้นี้เป็นเพียงแต่รู้อย่างเดียว

ส่วนตัวคิดนี้เราหยุดมัน พอหยุดมันแล้ว

ตัวคิดตัวที่คิดว่าร่างกายเป็นเรามันก็หายไป

 เราก็จะรู้แล้วว่าความคิดนี่แหละที่มันหลอกเรา

 มันหลอกให้เราคิดว่าร่างกายนี้เป็นตัวเราเป็นของเรา

เลยทำให้เราอยากให้มันเป็นของเราไปนานๆ

 แต่ร่างกายนี้มันไม่ยอมเป็นของใครไปนานๆ

 มันเป็นได้ชั่วระยะหนึ่ง อายุ ๘๐ ๙๐

มันบอกขอลาแล้ว ขอกลับคืนสู่ดินน้ำลมไฟ

 ขอเปลี่ยนสภาพจากอาการ ๓๒ ไปเป็นขี้เถ้า.

พระอาจารย์สุชาติ อภิชาโต

................................

สนทนาธรรมบนเขา

วันที่ ๔ ธันวาคม ๒๕๖๐







ขอบคุณที่มา fb. พระอาจารย์สุชาติ อภิชาโต
ขอบคุณเจ้าของภาพค่ะ




Create Date : 05 ธันวาคม 2560
Last Update : 5 ธันวาคม 2560 12:47:54 น.
Counter : 455 Pageviews.

0 comments
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

tangkay
Location :
ชลบุรี  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 55 คน [?]



(•‿•✿) พออายุเลยเลขหกฉันยกเครื่อง
มอบทุกเรื่องที่เคยรู้คู่ความเห็น
มอบประสบการณ์ผ่านพบจบประเด็น
ไม่ยากเย็นเรื่องความรู้ตามดูกัน
ฉันคนเก่าเล่าความหลังยังจำได้
แต่ด้วยวัยที่เหลือน้อยค่อยสร้างสรร
ยอมรับเรื่องเนตโซเชียลเรียนไม่ทัน
อย่าโกรธฉันแค่สูงวัยแต่ใจจริง
ด้วยอายุมากมายอยากได้เพื่อน
หลากหลายเกลื่อนทุกวัยทั้งชายหญิง
คุยทุกเรื่องแลกเปลี่ยนรู้คู่ความจริง
หลากหลายสิ่งฉันไม่รู้ดูจากเธอ ....
สิบปีผ่านไป.......
อายุเข้าเลขเจ็ดไม่เผ็ดจี๊ด
เคยเปรี้ยวปรี๊ดก็ต้องถอยคอยเติมหวาน
ด้วยเคยเกริ่นบอกเล่ามาเนิ่นนาน
ก็ยังพาลหมดแรงล้าพากายตรม
ด้วยชีวิตผ่านมาพาเป็นสุข
ยังสนุกกับการให้ใจสุขสม
อยากบอกเล่ากล่าวอ้างบางอารมณ์
แม้คนชมจะร้องว้า....ไม่ว่ากัน
ปัจจุบันเขียนน้อยค่อยเหินห่าง
ระบบร่างเปลี่ยนแปลงเหมือนแกล้งฉัน
เราคนแก่ตามแก้ไม่ค่อยทัน
ยักแย่ยันค่อยศึกษาหาข้อมูล
แต่ด้วยคิดถึงแฟนคลับกระชับมิตร
จึงต้องคิดตามต่อไปไม่ให้สูญ
ส่งความรู้คู่ธรรมะทวีคูณ
เพื่อเพิ่มพูนให้รู้กันฉันสุขใจ