เช่น เรานั่งรถทัวร์ แล้วมีคนแปลกหน้ายื่นน้ำดื่มให้เรา
สมองจะสั่งโดยอัตโนมัติว่า "อย่ากิน เขาอาจจะใส่ยานอนหลับ"
เนื่องจากสมองได้ถูกบันทึกจากข่าวร้ายๆ มา
ซึ่งมันเป็นธรรมชาติของสมอง
คนที่ยื่นน้ำมาให้ เขาอาจจะมีเจตนาบริสุทธิ์ก็ได้
แต่สมองเลือกที่จะปฏิเสธ
เหมือนกับสังคมโลกปัจจุบัน
เราจะพบเจอผู้คนมากมายที่ยื่นโอกาสใหม่ๆ
สิ่งใหม่ๆ เข้ามาในชีวิต
แต่สมองจะสั่งเรามาว่า ขายตรงหรือเปล่า ?
แชร์ลูกโซ่หรือเปล่า ?
มันเป็นไปได้หรือ ?
สารพัดสมองที่จะคิดจินตนาการ
ในทางศาสนาพุทธเรียกว่า "วิจิกิจฉา"
หมายถึงความลังเลสงสัย ไม่แน่ใจ
ดังนั้นการที่จะไม่ให้สมองเรากลัว
คือการศึกษาเรียนรู้ให้เข้าใจ
พิจารณา เหตุผลประกอบหลายอย่างจนแน่ใจ
ในทางพุทธศาสนา คือการปฏิบัติให้เห็นจริง
เมื่อมีความรู้ประกอบ วิจิกิจฉา จะค่อยๆ จางหายไป
เกิดเป็นความรุ้ความมั่นใจแทนที่
ยิ่งศึกษามาก ความมั่นใจก็ยิ่งมากตาม
โอกาสดีๆ ที่เข้ามาในชีวิต
เราควรเปิดรับโอกาส และเปิดใจที่จะเรียนรู้
แล้วค่อยใช้วิจารณญาณไตร่ตรองว่ามันใช่เราหรือไม่
เพียงแค่นี้เราก็จะไม่ปล่อยโอกาสดีๆให้ผ่านไปโดยเปล่าประโยชน์
แก้วที่ว่างเปล่า ถ้าวางคว่ำ
ต่อให้ฝนตกทั้งวันทั้งคืน ก็ไม่มีวันเต็ม
เปรียบเสมือนคนเราแม้จะอยู่ใกล้นักปราชญ์
แต่ถ้าไม่เปิดใจเรียนรู้ เราก็ยังโง่อยู่ดี