Group Blog
All Blog
|
--- ป า ฏิ ห า ริ ย์ ร้ า น ชำ ข อ ง คุ ณ น า มิ ย ะ --- หลังจากอ่าน ปาฏิหาริย์ร้านชำของคุณนามิยะจบ ก็ออกไปเดินรอบสระ คิดนั่นคิดนี่กับเนื้อหาในหนังสือ แม้ความรู้สึกแบบที่เคยเกิดขึ้นกับตัวเองสมัยเด็กคือ อยากรู้เรื่องราวในอนาคตของตัวเอง อยากรู้ว่าตัวเองจะเป็นอย่างไร วันข้างหน้าจะลำบากอย่างวันนี้ไหม จะได้เรียนถึงไหน ทำงานที่ไหน อย่างไร ความหวังและความฝันที่อยากจะมีโดเรมอนนั่งเครื่องไทม์แมชชีนไปเที่ยวดูโลกอนาคต มีคนคอยช่วยแก้ปัญหา คอยปกปิดความผิด คอยช่วยเหลือเพราะเราอ่อนแอและถูกรังแกบ่อย ๆ แต่พอโตขึ้น แล้วย้อนกลับไปดูตัวเองตอนนั้น พร้อมกับมีคนตั้งคำถามว่า ถ้าเป็นไปได้ อยากจะเปลี่ยนแปลงอดีตช่วงไหน อยากลบความทรงจำที่เลวร้ายที่สุดในชีวิต หรือมีอะไรที่อยากทำแล้วไม่ได้ทำ ฯลฯ ฉันกลับรู้สึกว่า ฉันไม่ค่อยชอบเรื่องสมมติทำนองนี้เหมือนก่อน อาจจะคิดเขียนไปเล่น ๆ แต่จริง ๆ ก็ไม่คิดอยู่ดี คำพูดที่ว่า มีวันนั้นถึงมีวันนี้น่ะจริงที่สุด สิ่งใดเกิดขึ้นแล้ว สิ่งนั้นดีเสมอก็จริงอีกนั่นแหละ แม้เรื่องที่เกิดขึ้นจะเป็นเรื่องที่ไม่พึงใจก็ตาม แต่มันก็เกิดแล้ว เรียนรู้ได้บ้างไม่ได้บ้าง เรื่องร้าย ๆ ที่ผ่านมาได้ก็ต้องขอบคุณเช่นกัน มันทำให้เราแกร่งขึ้นหลังจากที่หลงทิศบิดเบี้ยววู่วาม เราก็ผ่านมันไปได้แม้ไม่ดีนัก เหมือนกับคำที่เคยได้ยินจนชินหูชินใจว่า พระผู้เป็นเจ้าไม่ปิดประตูทุกบานหรอก ไม่มีทางที่ไม่มีทางนั่นแหละ เรื่องนี้ทำให้คิดถึงเรื่องการเขียนจดหมายถึงกันและรอคอยคำตอบ จดหมายช่างมีเสน่ห์มากมายเหลือเกิน สำหรับคำแนะนำในจดหมายของคุณนามิยะ ก็เป็นคำแนะนำดี มีค่าสำหรับคนเห็นค่า ขณะที่เราขอคำปรึกษาใครสักคน เรามักจะมีคำตอบของเราอยู่ในใจ เราถามเพื่อต้องการใครสักคนมายืนยันในสิ่งที่เราคิดว่าถูกแล้ว ดีแล้ว ในมุมมองที่อยู่ในกรอบและตีบตัน จนหนทางสำหรับเวลานั้น จดหมายที่ตอบโต้ระหว่าง สามหัวขโมยในปัจจุบันกับคนที่ส่งจดหมายผ่านกล่องนมที่บ้านหลังนั้นผ่านอดีตเป็นเรื่องน่าพิศวงสำหรับเรา แต่เนื้อหาในจดหมายตอบกลับและสิ่งที่ผู้คนเหล่านั้นต่างหากที่ทำให้เราต้องติดตามว่า พวกเขาจะเปลี่ยนอดีตมาเชื่อฟังคนในโลกอนาคตแนะนำหรือเปล่า ตั้งแต่คุณกระต่ายในดวงจันทร์ นักกีฬาฟันดาบที่กำลังจะตัดสินใจเข้าร่วมคัดตัวไปโอลิมปิก แต่ก็ติดที่แฟนป่วยและจะอยู่ได้อีกไม่นาน เธออยากสละความฝันครั้งนี้เพื่อดูแลแฟน แต่การไปโอลิมปิกนี้ก็เป็นความฝันของพวกเขาเช่นกัน เธอจะทำเพื่อเขาหรือเชื่อตามคำแนะนำในจดหมายของสามหัวขโมยที่เข้ามาในร้านวันที่อดีตกับปัจจุบันเชื่อมกันพอดี พวกเขารู้เหตุการณ์ของญี่ปุ่นในช่วงนั้นว่าจะเป็นอย่างไร ขณะที่สามหัวขโมยงุนงง เราเองก็งงเช่นกัน เรื่องราวก็ย้อนกลับไปเมื่อสี่สิบปีที่แล้ว สมัยที่ยังมีร้านชำแห่งนี้ คุณนามิยะ ยูจินั้น เคยรับคำปรึกษาปัญหาเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่ร้าน ปัญหาเล็ก ๆ น้อย ๆ ทั่วไปก็จะแปะไว้ที่ประตูหน้า แต่ปัญหาที่จริงจังขึ้นให้ส่งไว้ในกล่องนม บางคนก็นึกสนุก อยากลองดี เขียนจดหมายโดยกุเรื่องขึ้นมาแกล้งให้คุณนามิยะตอบ บางทีจดหมายถึงสามสิบฉบับแปะไว้ อ่านดูก็รู้ว่ามาจากคนเดียวกัน คำถามบางคำถามดูไร้สาระมาก อย่างเรื่อง ทำข้อสอบอย่างไรจะได้คะแนนเต็ม แต่ที่สนุกกว่านั้นคือ คุณยูจิมีคำตอบและคำตอบนี้ส่งผลต่อเด็กคนนั้นอีกต่างหาก เรื่องของคุณแม่น้ำสีเขียว เธอท้องกับผู้ชายที่มีครอบครัวแล้ว ปัญหาคือจะทำแท้งหรือเลี้ยงเด็กคนนั้นไว้ / เรื่องของนักดนตรี ลูกชายร้านขายปลาที่กำลังจะเลือกทางในการดำเนินชีวิตว่าจะสืบต่อกิจการของพ่อหรือเป็นนักดนตรีที่ไม่มีวี่แววว่าจะมีชื่อเสียงเลย / เรื่องของเด็กชาย พอล เลนนอน ผู้คลั่งไคล้เดอะ บีตเทิ่ล เขากำลังประสบปัญหาครอบครัว พ่อแม่มีหนี้สินจนต้องหนีหนี้และย้ายบ้าน หรือเหตุการณ์ของสาว 19 ที่อยากทำงานเป็นสาวนั่งดริ๊งก์เพื่อเก็บเงินและอยากมีกิจการเป็นของตัวเอง ฯลฯ คนเหล่านี้กำลังหลงทาง กำลังต้องการกำลังใจจากใครสักคน กำลังจะตัดสินใจ ไม่รู้จะไปทางไหน ใครคือผู้กำหนดชะตาชีวิตเรากันแน่นะ คำบอกเล่าของคนอื่นหรือการตัดสินใจของเราที่จะมีอิสระ ทำตามสิ่งที่เราเชื่อจนถึงที่สุด และหากมีวิธีที่ทำให้คนประสบความสำเร็จได้ง่าย ๆ โลกนี้คงไม่มีใครรู้จักคำว่าลำบากมาก่อนหรอก แต่...ผู้คนเหล่านี้เชื่อมโยงกันอย่างเหลือเชื่อ ราวกับโลกแคบลงนิดเดียว แคบลงจนมีเวลามาซ้อนทับ ทุกคนมาเกี่ยวพันกันได้ยังไงกันนั้น ความสัมพันธ์เป็นเรื่องอัศจรรย์มาก ต้องลองอ่านดูนะคะ และคำตอบของคุณนามิยะและสามหัวขโมยนั้น น่าสนใจอย่างไร คุณนามิยะมีทัศนคติในการใช้ชีวิตที่เรียบง่าย คำแนะนำของคุณนามิยะตรงไปตรงมา จริงใจ ไม่อ้อมค้อม ไม่เกรงใจและมารยาท เพราะเขาถือว่านี่เป็นวิธีที่ดีที่สุดที่ดึงความรู้สึกที่แท้จริงของคน ๆ นั้นออกมาได้ เขามองปัญหาแบบผู้ใหญ่ที่ผ่านประสบการณ์ชีวิต เขาจริงจังในการตอบจดหมายมาก ใส่ใจที่จะตอบทุกปัญหาที่ผู้คนถามมา สิ่งเหล่านี้เป็นแรงบันดาลใจอย่างหนึ่งในการใช้ชีวิตของเขา เขามีความสุขทุกครั้งที่ได้รับคำขอบคุณจากผู้คนเหล่านั้น แม้ดูเหมือนว่า คนเหล่านั้นจะเลือกทางของเขาไว้ก่อนหน้านั้นแล้วก็ตาม ชีวิตที่เป็นผู้ให้ ให้ในสิ่งที่เขามี ช่วยในสิ่งที่เขาทำได้ คำขอบคุณมีค่า หล่อเลี้ยงหัวใจคุณนามิยะ เหมือนกับความรู้สึกที่หัวขโมยได้รับคำขอบคุณจากคนที่ตอบจดหมายพวกเขา มีคนรับฟังคำแนะนำจากคนที่สังคมตีตราว่าไร้ค่า มีคนได้ยินเสียงที่เขาพูด ไม่โดดเดี่ยว พร้อมกันนั้น เราก็เห็นปัญหาครอบครัวของคนเหล่านี้ด้วย เนื้อหาในจดหมายจะอ่อนโยนและมีความหมายต่อชีวิตใคร อย่างไร คงต้องลองอ่านเอง ขอบคุณค่ะ ภูพเยีย 26 มิถุนายน 2561
เป็นหนังสือที่ผ่านตาไปมาที่ร้านหลายรอบ
ยังไม่ได้หยิบจับมาดูแต่อย่างใด จนวันนี้ อ่านแล้ว เข้าใจว่า พรุ่งนี้คงต้องเข้าร้านหนังสือเป็นแน่ โดย: inmemoir วันที่: 1 กรกฎาคม 2561 เวลา:19:41:56 น.
น่าอ่านมากคะ
กำลังประสบปัญหา เผื่อจะเจอทางออก^^ โดย: ปั๊กติดปีก วันที่: 4 กรกฎาคม 2561 เวลา:0:49:45 น.
|
ภูเพยีย
Rss Feed Smember ผู้ติดตามบล็อก : 24 คน [?] Friends Blog
|
เป็นหนังสือเล่มที่น่าสนใจมากค่ะ
เจิมบอก