Review : Le’Venir Pure Whitening เพื่อผิวกระจ่างใส


สวัสดีค่ะ วันนี้ภูมีแบรนด์สกินแคร์เพื่อผิวกระจ่างใสมาแนะนำให้รู้จักค่ะ แบรนด์นี้น่าสนใจเพราะเป็นแบรนด์ที่ผลิตได้มาตราฐานฮาลาล สาวๆ ที่เป็นมุสลิมก็สามารถใช้ได้ค่ะ แบรนด์นี้คือ Le’Venir (เลอ วิเนีย)
เล่าให้ฟังเรื่องราวของแบรนด์นี้คร่าวๆค่ะ วิชาการก็มา....
แบรนด์ Le’Venir คือแบรนด์ผลิตภัณฑ์ชั้นสูงที่เน้นผลลัพท์ในเรื่องของผิวกระจ่างใส เนียนนุ่ม น่าสัมผัส โดยในไลน์นี้จะมีส่วนผสมหลักๆ 2 ตัวคือ Cinderella Care และ Clair Blanche-II ซึ่งมีกระบวนการทำงานคือฟื้นฟูและสร้างเซลส์ผิวใหม่ในเวลาที่เรานอนหลับสนิท และในช่วงที่เรานอนหลับนั้นเอง จะเกิดการลำเลียงเม็ดสีเมลานินโดยไคเนซินอันเป็นสาเหตุที่ทำให้ผิวหมองคล้ำ และสารที่ถูกเรียกว่า Cinderella Care จะเข้าไปยับยั้งกระบวนการดั่งกล่าวในช่วงเวลาแห่งการนอนหลับ

มาดูหน้าตาผลิตภัณฑ์กันค่ะ




ผลิตภัณฑ์ที่ภูได้มาทั้งหมดประกอบไปด้วย
1. Le’Venir Pure Whitening Face Wash 100 ml
2. Le’Venir Pure Whitening Toner 120 ml
3. Le'Venir Bio White Botanical Ampoules 12 แคปซูล
4. Le’Venir Pure Whitening Cream 50 ml

มาเริ่มจากตัวแรกค่ะ Le’Venir Pure Whitening Face Wash

ผลิตภัณฑ์บรรจุมาในขวดแก้วสีขาวมุก


มีฉลากภาษาไทยระบุข้อมูลต่างๆของผลิตภัณฑ์ค่ะ



แพคเกจเป็นหัวปั๊ม เนื้อผลิตภัณฑ์เป็นเจลใสๆ
วิธีใช้ของภูคือ ใช้ล้างหน้าเช้า-เย็น
ผลการใช้พบว่า
- เป็นเจลใสที่มีฟองพอประมาณค่ะ
- กลิ่นหอมหวานๆ
- เมื่อล้างออกแล้ว ยังคงเหลือความชุ่มชื้นลงบนผิวอยู่
เหมือนเคลือบผิวไว้ค่ะ ตอนแรกคิดว่าล้างออกไม่หมดสะอีก
- ทำความสะอาดได้ดี ไม่แห้งตึงค่ะ
โดยรวมขอให้ความพึงพอใจของ Le’Venir Pure Whitening
Face Wash อยู่ที่ 4 เต็ม 5 ค่ะ

เมื่อล้างหน้าแล้วก็มาสู่ขั้นตอนการบำรุงผิวค่ะ มาต่อกันที่ Le’Venir
Pure Whitening Toner

ผลิตภัณฑ์บรรจุมาในขวดแก้วสีขุ่น เห็นผลิตภัณฑ์ที่มีสีเหลือง
อยู่ด้านในค่ะ

มีฉลากภาษาไทยระบุข้อมูลต่างๆ ของผลิตภัณฑ์ค่ะ

เมื่อเทเนื้อผลิตภัณฑ์ออกมา จะสังเกตว่าเป็นน้ำใสๆ
แต่มีความหนืดเล็กน้อย แบบเล็กน้อยมากกกก
และมีสีเหลืองอ่อนๆ
วิธีใช้ของภูคือ ใช้ตบลงบนผิวหลังล้างหน้าเช้า-เย็น
ผลการใช้พบว่า
- ผลิตภัณฑ์มีกลิ่นหอมมากกกกกกกกกกก แบบหอมหวานๆ ชอบกลิ่นตัวนี้ที่สุดค่ะ
- เนื้อผลิตภัณฑ์ให้ความชุ่มชื้นพอประมาณ ไม่ทำให้หน้าแห้งตึงค่ะ
- ซึมลงบนผิวได้ดีค่ะ
- แช่เย็นไว้แล้วนำมาใช้ ช่วยให้สดชื่นมากขึ้นด้วยค่ะ
โดยรวมขอให้ความพึงพอใจของ Le’Venir Pure Whitening Toner อยู่ที่ 4.5 เต็ม 5 ค่ะ

ถัดมาคือ Le’Venir Pure Whitening Cream ค่ะ

ผลิตภัณฑ์มาในกระปุกแก้ว ฝาเป็นพลาสติก
มีพายไว้ใช้ตักครีมเพื่อความสะอาดค่ะ

เมื่อเปิดฝาออกจะเจอซีลป้องกันครีมไว้อีกชั้นค่ะ

เนื้อผลิตภัณฑ์มีสีขาวขุ่น เนื้อค่อนข้างข้นเลย
วิธีการใช้ของภูคือ ทาบริเวณใบหน้า
และลำคอหลังจากลงโทนเนอร์ค่ะ ใช้ทั้งเช้าและเย็นค่ะ
ผลการใช้พบว่า
- เนื้อครีมเข้มข้น ให้ความชุ่มชื้นได้ดีค่ะ
- ใช้เวลาซึมลงผิวพอประมาณ เมื่อซึมลงผิวไปแล้ว
ไม่หลงเหลือความมันบนผิว และไม่ทำให้หน้ามันเยิ้ม
ในระหว่างวันด้วยค่ะ
- กลิ่นไม่หอมเท่าไหร่ ไม่เหมือนตัวโทนเนอร์
แต่ก็ยังคงเอกลักษณ์ความหอมหวานๆ ไว้อยู่ค่ะ
โดยรวมขอให้ความพึงพอใจของ Le’Venir Pure Whitening
Cream อยู่ที่ 4.5 เต็ม 5 ค่ะ

ตัวสุดท้ายค่ะ Le'Venir Bio White Botanical Ampoules

มาในรูปแบบแคปซูล ด้านหลังกล่องมีรายละเอียดของผลิตภัณฑ์
ซึ่งระบุไว้ว่านอกจากใช้บำรุงผิวหน้าแล้ว ยังสามารถใช้บำรุงผม
บำรุงผิว และจุดแห้งกร้านต่างๆ เอนกประสงค์มาก

ผลิตภัณฑ์บรรจุมาในแคปซูลยางหรือเป็นพลาสติกแบบอ่อนๆ
ไม่แน่ใจ รู้แต่ว่ามันมีความยืดหยุ่นค่ะ วิธีการนำเนื้อผลิตภัณฑ์ออกมา
คือ บิดบริเวณปลายแคปซูลให้ขาด

เนื้อผลิตภัณฑ์เป็นสีใส
วิธีการใช้ของภูคือ ใช้บำรุงผิวหน้าหลังลงครีมในช่วงเย็นค่ะ
ผลการใช้พบว่า
- ถึงเนื้อผลิตภัณฑ์จะดูหนืดๆ แต่ซึมเข้าผิวได้ดีเลยค่ะ
ซึมเร็วกว่าที่คิดด้วย
- เมื่อซึมเข้าผิวแล้ว ไม่ทิ้งความมันลงบนผิว ให้ความชุ่มชื้นได้ดี
- กลิ่นไม่หอมเลยค่ะ ถ้าเทียบกับผลิตภัณฑ์อื่นๆในไลน์เดียวกัน
โดยรวมขอให้ความพึงพอใจของ Le'Venir Bio White Botanical Ampoules อยู่ที่ 4.5 เต็ม


ภูได้ลองใช้ผลิตภัณฑ์ทั้ง 4 ตัวมาได้ประมาณ 2 สัปดาห์พบว่า
- ผิวกระจ่างใสขึ้นแบบธรรมชาติ
- รูขุมขนกระชับขึ้นเล็กน้อย
- จุดด่างดำและดูจางลง
ขอให้คะแนน Le’Venir Pure Whitening โดยรวมอยู่ที่ 4.5 เต็ม 5 ค่ะ
ส่วนตัวที่ภูชอบที่สุดคือ Le'Venir Bio White Botanical Ampoules
ถึงกลิ่นจะไม่หอม แต่คุณภาพนางเริ่ดจริงๆ


สนใจผลิตภัณฑ์ก็เข้าไปดูรายละเอียดได้ที่
https://www.facebook.com/LeVenir.Skincare/




Create Date : 30 มิถุนายน 2561
Last Update : 30 มิถุนายน 2561 17:38:07 น.
Counter : 903 Pageviews.

0 comments
ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
 *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

poohdi
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]



Group Blog
All Blog