รักษาเชื้อราที่หูและคอ สุนัข
สัปดาห์ที่ 6-8 เชื้อราหายแล้วค่ะ
ยังเหลือทำแผลสด
รวมรักษา 2 เดือนนะคะ
ช่วงยังไม่หาย ก็ได้แต่พากินหญ้าริมทาง
หลังไปหาหมอทุกสัปดาห์ต่อเนื่อง
ด้านล่าง อาการช่วงสัปดาห์ที่ 6 ค่ะ
ยังคงเป็นแผลเหวอะหวะ
ต้องขยันใส่ยาวันละ 2 รอบ ยาน้ำ C-Lotion
พอสะเก็ดบางส่วนง้าง เช็ดหนอง ทยอยตัดออก เปิดแผลผิวหนัง เพื่อให้น้ำยาหนถัดๆไปไหลเข้าไปได้อีก และสะเก็ดที่ตัดนั่น คือส่วนที่เชื้อราเกาะอยู่นะคะ
น้ำยาจะระคายผิวที่เปิดมาค่ะ ดังนั้นผักชีจะเริ่มไม่อยากให้ทำล่ะ
แต่ก็ยังอดทนกันมาเรื่อยๆ บังคับบ้างอะไรบ้าง
หากสะเก็ดเก่ารุ่นแรกๆที่มีเชื้อราเกาะเยอะ
ยังเอาออกไม่หมด (อาจต้องใช้เวลา ตามที่ทยอยง้างตอนใส่ยาลงไป)
หนองก็จะยังก่อตัวใหม่ทุกเช้า เกาะเป็นก้อนใหม่ๆ
ปวดหัวเอาการอยู่ค่ะ
ค่าแพทย์ 150
ค่ายาทาหู 240*2 ขวด =480
เพิ่ม ค่ายาแก้ไข้ เผื่อวันอาบน้ำหมักแชมพูยา
รวมค่ายากิน 924 บาท
ค่าส่องเชื้อรา 50
รวม 1,604 บาท
ยากิน ยาทาก็ตัวเดิมค่ะ ลงรูปรวมๆไว้ละกัน
ใครสนใจไปดูที่อัพแรกๆได้เลย
เช็กจากสารบัญรวมได้ค่ะ
รอบนี้เพิ่มแค่ยาแก้ไข้ แต่จะกินเฉพาะตอนเป็นไข้เท่านั้น
ผักชีน้ำหนักลดลงเรื่อยๆ เพราะป่วยเป็นไข้ ไม่ค่อยอยากอาหาร
สัปดาห์ที่ 7 สะเก็ดเริ่มแห้งเยอะ หลุดง่าย บางอันก็หลุดเอง
แต่หมาไม่เอาด้วยแล้ว ยิ่งแผลผิวหนังเปิดเยอะ
ใส่น้ำยาลงไป แสบครูหนึ่ง ผักชีกรีดร้อง หนี เริ่มกัดจริงจัง
เราบีบน้ำยาแล้วพลาด ตอนเธอดิ้น ก้มหัว เลยไหลเข้าตา
ภาพด้านบนคือ น้ำตาไหล เนื่องจากระคายเคือง
พาไปหาหมอมาแบบเร่งด่วน
หมดไปอีกเป็นพันบาท ได้พวกยาหยอดตาและยากินต่างๆมาค่ะ
เช็กได้จากบล็อกที่อัพไปก่อนหน้านี้เช่นกัน
สารเคมีเข้าตาสุนัขค่ารักษาสารเคมีเข้าตา
ค่าแพทย์ 150
ค่ายาหยอดตา 350+350=700 บาท
ค่ายากิน 80
ค่ายาล้างตา (ซื้อเอง) 60
ค่าสำลีก้อน 30
รวม 1,020 บาท
มาดูความคืบหน้าสัปดาห์ที่ 7
ภาพด้านล่าง
สะเก็ดตามหูเริ่มทยอยหลุดบ้าง
แต่ยังไม่หลุดเต็มที่ จนกลางๆสัปดาห์ดีขึ้นเยอะมาก เห็นได้ชัดเจนค่ะ
ให้ดูหูอีกข้าง ภาพด้านบนนะ
ส่วนภาพด้านล่าง จะเป็นภาพหลังโดนน้ำยา C-lotion
จากหนองเกาะแข็ง ก็จะค่อยๆละลายเหลวลง
แต่ปัญหาตามที่บอก หมาแสบแผล หมาดิ้น ผักชีเริ่มกัดคนที่จะทายา
เรียกว่าบังเกิดหายนะ ความตึงเครียดประหนึ่งเข้าสู่สมรภูมิรบทุกเช้า-เย็น
เครียดจัดมาก ทั้งคนและหมา
T^T
สัปดาห์ที่ 8
สัปดาห์นี้จะเรียกได้ว่า มีทั้งดีหรือแย่ก็ว่าได้
คือแผลเอาสะเก็ดออก คืบหน้าดีมากๆแบบเห็นชัดล่ะ
แต่ในส่วนความอดทนต่อน้ำยาแสบผิวของผักชีก็เริ่มค่อยๆหมดลง
จนกลายเป็นหมาก้าวร้าวทุกครั้งที่จะโดนจับใส่ยา
ก็น้องเธอเจ็บน่ะเนาะ พี่พลอยก็ไม่รู้จะว่ายังไงเช่นกัน
ดังนั้นสัปดาห็นี้เลยลองคุยๆกับคุณหมอดูค่ะ
คุณหมอดูสภาพต่างๆแล้วก็แนะนำว่า
ให้เอามาโกนขนโกนสะเก็ดที่หมอ
แล้วแผลที่เหลือจะหายไวมาก
(ต้องดูตามระยะอาการนะคะ)
เราก็ยังยั้งๆก่อน ดูสักพัก ค่อยตัดสินใจ
เพราะสะเก็ดยังพอเอาออกเองได้ดีอยู่บ้าง
ก็ยังทยอยอดทนหาวิธีใส่ยาต่อไป
บิลนี้เราทำยาตกน้ำเองค่ะ ปิดซองยังไม่สนิทเลยละลาย
ก็ไปขอเพิ่มใหม่แค่พอให้ถึงวันนัดถัดไป
ตกไปซองเดียวเป้นตัวหลัก ก็บอกไปว่าตัวไหน แค่นั้นเอง
ขอยาก่อนอาหารใหม่ 302 บาท
ไม่ได้พาหมาไปพบแพทย์นะคะ
รอวันนัดเลย
ช่วงนี้รอเคลียร์สะเก็ดที่ขึ้นก้อนแรกๆ ชุดตรงกลางและขอบริม
ส่วนพวกนี้เป็นก้อนหนา หลุดยากมาก โดนน้ำยาแล้วละลาย
แต่ด้วยพื้นที่ ประชิดหลังโคนหูด้านล่าง ผักชีไม่ให้แตะหูค่ะ
ช่วงนี้เราใส่ยาที่หูไม่ได้เลย
ในส่วนอื่นก็ต้องแอบหยอด ได้แค่บางพื้นที่ ไม่ทั่ว
มีลองใช้ฉีดพ่น
ผลไม่ค่อยต่างกันและไม่ค่อยชุ่มพอด้วย ต้องพ่นซ้ำหลายรอบ (เป็นไปได้ยากไปอีก)
เราเลยเพิ่มรอบหมักแชมพูยา เป็นวันเว้นวัน คู่ไปกับการพยายามบังคับหยอดยา หรือแอบบีบยาใส่
สะเก็ดหลุดดีมากๆ บางด้านหนองตอนเช้าแทบไม่มีเพิ่มมาใหม่แล้ว อีกด้านมีนิดหน่อย
อาการคงที่ชัดเจน บางส่วนดูจะเริ่มหายด้วย แถวด้านบนหัวลงมาที่คอ ช่วงโคนหู ขนขึ้นหนาดี
สะเก็ดที่หูก็หลุดตอนอาบน้ำยา หมาสลัดทิ้งเอง
ลูบไป ผิวที่หูจะเริ่มราบเรียบชัดเจนมาก
เมื่อเราประเมินอาการว่า ราวๆนี้น่าจะจวนหายล่ะ สะเก็ดที่เหลือเอาออกเองยากมาก ก้อนแข็งหนา
ติดโคนผิวหนัง ไม่มีช่องให้ตัด ถ้ารอหายเองน่าจะนานมากเพราะผักชีไม่ให้ใส่ยาแล้วด้วย
คือใส่ยาไม่ได้เลย
เลยไปปรึกษาคุณหมอในนัดสุดท้ายเมื่อครบ 8 สัปดาห์เต็ม
(วันนี้น่ะเอง)
ตกลงว่าจะส่งผักชีมารอโกนขนและสะเก็ดทิ้งให้เกลี้ยง
คุณหมอทำได้ ด้วยการพ่นยาชาค่ะ
ใช้เวลาไม่ค่อยนาน นานตอนจับหมาล็อกนี่ล่ะ 55+
เจ้าของไม่ต้องอยู่ด้วย เดี๋ยวทำยากกว่าเดิม
หมาจะรู้สึกดื้อหนักกว่าเก่า
*** *******
มาอธิบายกันก่อนว่า
ก่อนโกนขนและสะเก็ดทิ้ง
หากหลังโกน คุณหมอประเมินอาการว่ายังมีเชื้อราอยู่
ก็ต้องใส่ยาตามเดิม
แต่ในเคสผักชี อาจลองเปลี่ยนยา เป็นครีมอีกตัวที่เย็น
(คือถ้าไม่เย็น และไม่แสบ เป็นเหมือนน้ำเปล่าได้จะดีกว่าค่ะ แต่พอดีมีตัวเลือกกันราวๆนี้55+)
เอาล่ะ มาดูสภาพก่อนไปส่งโกน
แผลจากเชื้อราล่าสุด ที่รักษากันมา 8 สัปดาห์ (2 เดือน)
ส่วนบนๆจะเป็นก้อนแรกที่เชื้อราเกาะเยอะ ยังเอาออกไม่หมด แต่ออกไปส่วนใหญ่แล้วนะ
เชื้อราจากสะเก็ดตรงนี้ล่ะ ที่ต้องระวังจะทำให้แผลลาม ทำให้เกิดหนอง
ด้านล่างๆคือหนองใหม่ ไม่มีขนให้เกาะ
เห็นเป็นแผ่นแบบนี้ ปกติก็ทยอยหลุดเองง่ายถ้าโดนน้ำยาโชกๆ
แต่ผักชีเจ็บ ไม่ให้ทายาแล้ว เลยเป็นปัะญหาใหญ่เอาการ
-"-
หันมาอีกด้าน เห็นตรงโซนโคนหู (ติ่งหูและเลยๆมาแถบเดียวกัน)
เหล่านี้เป็นพวกก้อนแรกๆที่เกิดหนองปะทุ จำเป็นต้องเอาออก เพื่อให้หนองหยุดลามค่ะ
แต่ชิดหู พอเวลาจะตัด มันจะไปสะกิดขน ยุบยิบใกล้หู ผักชีไม่ให้ทำ
แถมความโค้งจุดนี้ ทำให้ทายาไม่ได้ เว้นแต่สุนัขจะนอนหันข้างถึงจะง่าย บีบน้ำยาลงได้
หมายเหตุ :
เราพยายามหาวิธี ทั้งแอบบีบยา และใส่ขวดสเปรย์เล็กๆแอบพ่น
แต่ปัญหาคือ พอโดนน้ำยาหยดลง ผักชีจะแสบจี๊ดและหันแว้งมากัด
จังหวะแว้งนั้นน้ำยากำลังไหล หน้าจึงหันมาแทรก และน้ำยาที่บีบหรือพ่นจะเข้าตา
ต้องรีบล้างไป
เป็น1-2 หน ค่ะ เลยต้องหาทางอื่น กันมีปัญหายืดยาว
ดังนั้นวิธีต่างๆที่ว่ามา จึงไม่เวิร์กสักทาง
เลยเลือกทางสุดท้าย จับโกนให้หมด ยอมเจ็บไปรวดเดียว
แต่เราดูแล้ว รอจนอาการดีมากพอ ค่อยทำ จะได้เจ็บน้อย เสร็จไวๆ
ตามหูเริ่มเกลี้ยง เนียน พอลูบได้
ลูบแล้วไปล้างสบู่ด้วยเน้อ เชื้อราทั้งนั้น 55+
หูอีกข้างก็ โอ.เค. นะ ดีทีเดียววค่ะ
ผลจากการใส่ยาไม่ได้ แต่หมักแชมพูยา 20 นาที แบบวันเว้นวันมา 3 ครั้งล่ะ
เราก็พยายามพลิกแพลงไปตามปัญหาที่เจอ
ก็ค่อยๆใจเย็น หาทางไปค่ะ
จากนั้นก็เอาหมาไปส่งคุณหมอค่ะ
แต่วันนี้มีนัดเจาะเลือดก่อน
ปกติถ้ากินยาต่อเนื่องนานๆ
จะต้องเช็คค่าต่างๆ โดยเฉพาะค่าตับ
ว่าปกติดีไหม
ไม่ได้ถ่ายรูปมา แต่ค่าเลือดปกติดี ไม่ต้องกินยารักษาอะไรเพิ่มเติม
ผูกปาก หรือครอบที่รัดปาก ส่งสุนัขให้หมอค่ะ
จากนั้นเจ้าของก็ไปรอที่อื่นก่อน เพราะหมาจะเอะอะ เราก็จะเครียด
พอเรานั่งจ้องประตู หมอก็จะกดดันด้วย 55+
ไม่นาน สัก 15 นาที ก็ค่อยกลับมารับค่ะ
ผักชีมีแรงดีอยู่ ไม่เป็นไร แต่กรีดร้องวุ่นวายมาก ดีใจเจ้าของกลับมา
^ ^
คือที่ถ่วง รอให้แผลดีพอ ค่อยมาโกน เพราะกลัวผักชีเครียด โดนจับล็อก เจ็บตอนโกน
แล้วมีผลตามหลังตอนกลับบ้าน จะใส่ยาไม่ได้ จะดุร้ายกว่าเดิม ฯลฯ
ก็เลยรอดูสภาพแผล ให้ทำน้อยที่สุด คือรอมาตอนอาการค่อนข้างใช้ได้
แต่ถ้าเป็นสุนัขอื่นๆ ที่ไม่เจ็บแล้วกัดขนาดผักชี
ก็ปรึกษาสัตวแพทย์ เป็นรายเคสไปนะคะ
ว่าช่วงไหนควรจะทำอะไรดี
พลอยถามหมอจนแน่ใจว่าไม่ได้ทำสดๆ มีพ่นยาชา
(หมอบอกผักชีว่าจะพ่นให้เยอะๆเลย 55+)
ก็เลยปล่อยให้ทำได้
หลังทำ เกลี้ยงจริงอะไรจริง
แต่ผักชีก็กรีดร้องจริงจัง ตั้งแต่ยังไม่ค่อยได้ทำอะไรเลย
คือเธอเครียด โดนจับล็อก บังคับ มัดปาก ฯลฯ
ความกลัวน่ะเนาะ...
แต่จบมาคุณหมอบอก ก็พอทำได้อยู่นะ
555+ โชคดีมากๆ
กลับบ้านวันนี้ก็ดูร่าเริงดีค่ะ ไม่ซึม
แต่ก็มีแบบ ไม่ค่อยอยากให้เราไปแตะแถวคอแถวหัวนิดนึงนะ
เดี๋ยวก็รอไป อาจจะยังเจ็บและกลัวอยู่นิดหน่อย
คุณหมอเอาออกได้หมดเลยจริงๆ
คือทีแรกแอบส่องนิด คุณหมอจับผักชีนั่ง แล้วให้ผู้ช่วยโกนขนรอบๆไปก่อน
จบนั่นผักชีก็เริ่มดิ้น ร้องลั่น สู้ฟัดไปรอบ
คุณหมอเรียกผู้ช่วยมาจับเพิ่มอีกหลายท่าน
-"-
แต่พอตอนจะเอาสะเก็ดออก คุณหมอออกมาบอกก่อนว่า
มันจะเจ็บนะ แต่หมอใส่ยาชาให้ด้วย
คือก็เจ็บ แต่น้อยลงกว่าปกติแน่นอน
ตอนทำฝีหนก่อนก็เคยพ่นๆใส่ เธอก็ยืนให้ทำแผลนิ่งดีค่ะ
ถ้าเราจะรอก็อาจต้องอดทน ใจแข็งหน่อย
แต่ห้ามไปในห้องทำแผล (มีช่องกระจกที่ประตูก็ส่องๆดูบ้างได้)
ด้วยความที่เราก็เครียด
และคุยกันว่าถ้าหมอใส่ยาชา ก็ไม่น่าจะเป็นอะไร
เลยไม่อยากให้คุณหมอกดดันจากเราที่สังเกตการณ์ ก็เลยออกไปรอที่อื่นแป๊บนึง
แล้วเสร็จงานก็ค่อยโทรตามมารับผักชี
ก็ไปนั่งรอที่รถแถวๆหน้าคลินิก
สักพักก็โทรมาตามค่ะ ไม่นานมากหรอก
15-20 นาที
ตอนมารับหมาก็กรีดร้องดีใจตามที่บอกไป
แต่ไม่มีอาการซึมใดๆนะคะเท่าที่เห็น
คิดว่าฤทธิ์ยาชาน่าจะยังอยู่ เลยไม่ออกอาการเจ็บปวดอะไรด้วย
กลับมาที่บ้านกินน้ำไปหลายรอบ
ผักชีกรี๊ดจนคอแหบคอแห้ง ดิ้นหนีตาย น่าสงสารอยู่นะ
ToT
แรกๆก็เหนื่อยแหละ เลยไปนอนแผ่
แต่สักพัก ดูสภาพแผลเริ่มแฉะๆจากแห้งตอนหมอเสร็จงาน (ทายาไว้)
น่าจะเริ่มเจ็บ
ดูได้จากที่ลุกมา นั่งเอาหน้าโต้พัดลม ปกติถ้าเธอโดนหยอดยาแล้วแสบแผล เธอจะทำงีี้ค่ะ คนสอนทำ พอน้ำยาแห้งก็จะหายแสบไง
อันนี้ผักชีก็เข้าใจว่า เจ็บแผลสด น่าจะคล้ายๆกัน เลยทำตามเดิม
จริงๆแล้วแผลงี้มันไม่หายด้วยวิธีนี้หรอกนะคะ
หมาน้อยก็ยังเป็นหมาน้อยน่ะแหละ...
^ ^
ผักชีได้โกนขนและโกนสะเก็ด ทำตอนบ่าย 2
กลับถึงบ้านก็จวนบ่าย 3
เลยให้กินยาก่อนอาหาร สักพักก็เริ่มเคลิ้มๆเหมอืนจะง่วง
พลอยออกไปทำธุระ ก็เลยหิ้วไปด้วย กินอาหารเม็ดนิ่วนอกบ้าน ให้ยาหลังอาหารตามมา
ครบ จบกระบวนการวันนี้ ผักชีผู้เพลิดเพลิน ได้นั่งรถไปมา 555+
** ********
มาสู่การสรุปผลค่ะ
คุณหมอประเมินจากแผลหลังโกน
ว่าผักชีหายแล้วจากเชื้อรา เย้!!!
ดังนั้น หยุดยากิน ยาทา ของโรคเชื้อราที่เหลือทุกชนิดเลย
เปลี่ยนมาเป็นการทำแผลสด
คุณหมอกะว่าสัก 3-4 วัน น่าจะหายล่ะ
ถ้าทำเองไม่ได้ ก็พามาทำที่หมอได้ (มียาชา 55+)
มาดูบิลก่อน เพราะลงรายการเอาไว้ว่าวันนี้เรามีอะไรบ้าง
ค่าแพทย์ 150
ค่าโกนขนโกนสะเก็ด 300
ค่ายากิน+ยาทา 690
(เป็นยาเพื่อรักษาแผลสดแล้วนะคะ)
ค่าเจาะเลือด ตรวจใหญ่ 800
รวม 1,940 บาท
ยาปฏิชีวะนะ
ก่อนอาหารค่ะ
ลดปวด ลดอักเสบ
กินหลังอาหาร
ครึ่งเม็ด หักตามเส้นที่มีไว้ หักง่าย
หน้าตาคุ้นเคยเนาะ เม็ดนี้เจอบ่อย 55+
แต่รอบนี้แผลใหญ่ เลยได้มาซะเยอะ
*** ***
มาถึงส่วนของการทำแผลกันเอง
(ถ้าทำไม่ได้ค่อยไปพึ่งคุณหมอทำอีกที)
ทำแบบเดียวกับตอนเป็นฝี
อุปกรณ์และยา เป็นยาเบตาดีนชุดเดิมที่เหลือ
เพิ่งใช้ไม่นาน ยังไม่หมดอายุแต่อย่างใด
ใช้ต่อไป...
^ ^
ขั้นตอนการทำแผล ให้เริ่มพรุ่งนี้
เนื่องจากวันนี้โกนขนและสะเก็ดแล้ว คุณหมอทำให้หมดแล้ว
คุณหมอมียาชา ย้ำ คุณหมอมียาชา!!!
T^T
อิจฉาหมอมากค่ะ
บอกเลย (555+)
วิธีทำแผลสด สุนัข (สัตว์เลี้ยง)
ทำแค่วันละ 1 ครั้ง
1.ใช้เบตาดีน ผสมน้ำเกลือล้างแผล
จากนั้นราดบนแผลสดให้ทั่ว
จะชุบสำลีบีบใส่ หรือใช้หลอดฉีดยา ฉีดใส่ก็ได้ค่ะ
ตามความสะดวกของบาดแผล
2. ขัดแผล
คือวันถัดไป อาจต้องขัดแผล เอาส่วนที่เคลือบออก
อาจจะเป็นพวกหนอง หรือสะเก็ดอื่นๆที่เพิ่มมาในวันถัดไป
พลอยยังไม่มีรายละเอียด ว่าจะขัดอะไร ขัดยังไง
ขอดูสภาพแผลพรุ่งนี้หรือวันถัดไปอีกที แต่เขียนแจ้งไว้ก่อน
หลักๆคือให้เหลือแค่ชั้นแผลที่เป็นผิวหนังสด
เพื่อจะได้แห้งไว หายไว
(อันนี้สำหรับผักชีน่าจะทำไม่ได้
ถ้ามันเยอะและทำไม่ได้
ค่อยเอาหมาไปให้หมอทำให้ค่ะ)
3.ใส่ยาที่แผล ตามชนิดการรักษา
ยาของผักชีเป็นยาทาเฉพาะ ที่คุณหมอจัดมาให้
ยาลดอักเสบ ฆ่าเชื้อแบคทีเรียที่ผิวหนัง
**เก็บในตู้เย็น
เป็นยาเนื้อครีม ใช้ป้ายบนแผล
ยังไม่แน่ใจว่าจะทาได้ไหม จะเจ็บ จะดิ้นไหมถ้าไปโดนแผลเข้า
รอดูตอนทำจริงอีกเช่นกัน
คือทุกอย่างต้องทำตามขั้นตอนที่บอกมาค่ะ
แต่พลอยยังไม่ได้ลอง วันนี้เพิ่งจบแค่ไปโกนชนและโกนสะเก็ดออก
พร้อมรับยากิน ยาทา กลับบ้านมาเท่านั้น
^ ^
ก็ค่อยเป็นค่อยไปค่ะ
อะไรกลัวลืมก็จะเขียนไว้ก่อนละกัน
อย่างน้อยขั้นตอนที่คุณหมอสั่งมาก็ครบถ้วน
ในส่วนรายละเอียด ก็ว่ากันตามอาการสุนัขแต่ละตัวไปอีกที
คุณหมอบอกว่าวันนี้ตัดผมทรง โมฮ็อก ให้ผักชีค่ะ
ผักชี : หนูสวยไหม
พี่พลอย : (555555555+)
ดังนั้นเราจะถือตามที่คุณหมอว่า
ผักชีหายแล้ว จากโรคเชื้อราที่หู
กรณีที่สามารถทำแผลเองที่บ้านได้
ก็ไม่ต้องเสียค่าทำแผลเพิ่ม
แค่รอนัดเวลาตรวจอีกที ในอีก 2-3 วันข้างหน้า
คุณหมอจะเช็กสภาพแผลค่ะ
ว่าแผลแห้งดีไหม จวนหายสนิทหรือยัง
คงมีค่าแพทย์อะไรเล็กน้อยทั่วไป
พลอยยังไม่ใส่ยอดส่วนนั้นนะคะ
ยอดรวมจากคราวที่แล้ว
4/5/2565 ค่าใช้จ่าย 7,896 บาท
ค่ารักษาจนถึง
28/5/2565 อีก 8,429 บาท
รวมรักษาเชื้อรา 16,325 บาท
รักษา 8.5 สัปดาห์ รวมทำแผลสด
ไม่รวมค่ายาทำแผลสด เบตาดีนและน้ำเกลือ
(มีของเดิม)
ไม่รวมนัดตรวจแผลรอบสุดท้าย
จบเรื่องรักษาเชื้อราที่หูสุนัข ไปแค่นี้ก่อน
ถ้ามีเพิ่มเติมค่อยว่ากันอีกที
^ ^
ภาพบน
ผักชีไม่อยากให้พี่พลอยทายาแสบๆ
เขาบังคับว่าห้ามลุกหนี
เลยแอบหลบ เอาหัวมุดลงในผ้าแถวนั้น
กะซ่อนสินะ...
(555+)
ช่วงหลังคือกลัวจริงจัง วิ่งไปซ่อนหลังกรง
โผล่หน้ามาส่องคน ไม่อยากให้มาตามจับไปใส่ยา
วิ่งไล่กัน วนไปค่ะ รอบบ้าน
หอบจนลิ้นห้อยล่ะผักชี
ขำด้วย สงสารด้วย
แต่ก็ต้องจับมาใส่ยาอยู่ดี
ภาพระยะหลัง กลัวจัดล่ะ
หนีตายไปซ่อน
หลบตรงไหนเขาก็มาลากกลับไปทายา
ผักชีเลยตัดสินใจขั้นเด็ดขาด
จะซ่อนแล้วต้องมิด...หลังเสา
มองไม่เห็นกันแล้วเนอะ
มิดมากกกกก
555555555555+
แม้จะตึงเครียดขีดสุดเป็นระยะ วุ่นวายเป็นรอบๆ
ตอนนี้เราก็ผ่านมันมาด้วยดี
เวลาลากผักชีกลับมาใส่ยาจนสำเร็จ
จากนั้นสิ่งที่เราจะทำ
คือนั่งกอดกัน นั่งจุ้มปุ้กตัวกลมๆ เงียบๆ
ตากพัดลมและแอร์
อยู่กันสองคนในบ้านค่ะ เพื่อสงบจิตใจสักพักหนึ่ง
ให้รู้ว่าถึงผักชีจะกัด
ถึงพี่พลอยจะบังคับข่มเหงจิตใจ
ใส่ยาแสบๆน่ากลัวมาก
แต่เราก็จะยังกลับมารักกันตามเดิมอยู่ดี...
^ ^
รักนะ
ผักชี.
แต่ช่วงทาเบตาดีนผสมนำ้เกลือ
หรือช่วงทายาตลับชมพู ที่เป็นเนื้อครีมนิ่มๆ
ผักชีมีอาการฝังใจ กลัวเจ็บกลัวแสบ จากตอนทายา c-lotion แก้เชื้อราก่อนหน้านี้
เลยต้องพยายามหาวิธีหลอกล่อทำเอา เท่าที่ไหวค่ะ ก็พอได้อยู่
แต่ส่วนขัดผิว อาจจะผ่านก่อน ถ้าทำเจ็บเดี๋ยวทายาต่อกันยาก วันแรกยังไม่ค่อยมีหนองใสอะไรมาปกคลุมมากนัก พรุ่งนี้อาจทายาไปตามนี้ก่อน รอดูอาการไปอีกที
คุณหมอนัดเช็กแผลไวค่ะ ไงถ้าต้องขัดจริงๆเดี๋ยวคงให้คุณหมอพ่นยาชาทำให้ตอนไปตรวจรอบถัดไป (2-3 วันก็นัดแล้วค่ะ)