Ploy Journey Journal.........Welcome to my world
Group Blog
 
<<
ตุลาคม 2561
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
28293031 
 
5 ตุลาคม 2561
 
All Blogs
 
ไปสักการะศาลหลักเมือง กรุงเทพฯกับยัยพลอยกัน



วันนี้วันฤกษ์ดี 5 ตุลาคม 2561 เลยพุ่งตัวไปสักการะท่านศาลหลักเมืองแต่เช้า หลังจากไม่ได้ไปซะนาน  ก่อนอื่นนึกออกกันไหมเอ่ยว่าศาลหลักเมืองกรุงเทพฯอยู่แห่งหนตำบลใด และหน้าตาเป็นอย่างไร..


ตามยัยพลอยมาดูกันดีกว่าว่าอะไรยังไง


ศาลหลักเมืองกรุงเทพจะอยู่เยื้องสนามหลวง, พระบรมมหาราชวัง หรือวัดพระแก้ว และ ติดๆกับกระทรวงกลาโหม หาไม่ยากแล้วใช่ไหมหล่ะคะทีนี้  หาสนามหลวง และ พระบรมมหาราชวังตามรูปด้านล่าง รับรองหาเจอค่ะ



ประวัติ


ศาลหลักเมืองกรุงเทพมหานคร เป็นศาลที่สร้างขึ้นมาพร้อมกับการสถาปนากรุงรัตนโกสินทร์เป็นราชธานี ตามธรรมเนียมพิธีพราหมณ์ว่า ก่อนที่จะสร้างเมืองจะต้องทำพิธียกเสาหลักเมืองในที่อันเป็นชัยภูมิสำคัญ เพื่อเป็นสิริมงคลแก่บ้านเมืองที่จะสร้างขึ้น 


พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช รัชกาลที่ 1 ได้โปรดเกล้าให้กระทำพิธียกเสาหลักเมือง เมื่อวันอาทิตย์ เดือน 6 ขึ้น 10 ค่ำ ตรงกับวันที่ 21 เมษายน พ.ศ. 2325 เวลา 6.54 นาฬิกา การฝังเสาหลักเมืองมีพิธีรีตองตามพระตำราที่เรียกว่า พระราชพิธีนครฐาน ใช้ไม้ชัยพฤกษ์ทำเป็นเสาหลักเมือง ประกับด้านนอกด้วยไม้แก่นจันทน์ที่มี เส้นผ่าศูนย์กลางวัดที่โคนเสา 29 เซนติเมตร สูง 187 นิ้ว กำหนดให้ความสูงของเสาหลักเมืองอยู่พ้นดิน 108 นิ้ว ฝังลงในดินลึก 79 นิ้ว มีเม็ดยอดรูปบัวตูม สวมลงบนเสาหลัก ลงรักปิดทอง ล้วงภายในไว้เป็นช่องสำหรับบรรจุดวงชะตาเมือง 

 เดิมทีเสาหลักเมือง มีเพียงศาลาปลูกไว้กลางแดดกันฝนเท่านั้น จนชำรุดลงอย่างมากในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 4 โปรดเกล้าให้ขุดเสาหลักเมืองเดิม และจัดสร้างเสาหลักเมืองขึ้นใหม่ทดแทนของเดิมที่ชำรุด เป็นแกนไม้สัก ประกับนอกด้วยไม้ชัยพฤกษ์ 6 แผ่น สูง 108 นิ้ว ฐานเป็นแท่นกว้าง 70 นิ้ว บรรจุดวงเมืองในยอดเสาทรงมัณฑ์ที่มีความสูงกว่า 5 เมตร และอัญเชิญหลักเมืองเดิม และหลักเมืองใหม่ ประดิษฐานในอาคารศาลหลักเมืองที่สร้างใหม่ มียอดปรางค์ ก่ออิฐฉาบปูนขาว ได้แบบอย่างจากศาลหลักเมืองกรุงศรีอยุธยา เมื่อปีพุทธศักราช 2395 ด้วยเหตุนี้เองจึงทำให้ศาลหลักเมืองกรุงเทพมหานครมีเสาหลักเมือง 2 ต้น นับจากนั้นเป็นต้นมา

ศาลหลักเมืองได้รับการปฏิสังขรณ์อีกหลายครั้ง ในปี พ.ศ. 2523 มีการบูรณะซ่อมแซมครั้งใหญ่ เพื่อเตรียมการเฉลิมฉลองสมโภชกรุงรัตนโกสินทร์ ครบ 200 ปี พ.ศ. 2525



⭐  ⭐  ⭐  ⭐  ⭐




เราไปชมกันดีกว่าว่าด้านในเป็นอย่างไร และสักการะยังไงดี

.

.

.


ก่อนอื่นถ้าเราไม่ได้พกของอุปกรณ์ไหว้ของเรามาเอง เราก็สามารถจัดซื้อได้จากเจ้าหน้าที่ด้านใน  รายได้เอาไปช่วยเหลือสังคมต่อค่ะ






สนนราคาถาดละ 60 บาทค่ะ จะมี พวงมาลัยดอกดาวเรือง 1 พวง, ดอกบัว 1 ดอก, ธูป 3 ก้าน, เทียน 1 เล่ม, ทองคำเปลว 1 ใบ, น้ำมันเติมตะเกียง 1 ขวด และ ผ้า 3 สี 1 ชุด


 






หลังจากได้อาวุธมาแล้ว เราก็เริ่มเลยค่ะ  ที่แรกสักการะพระพุทธก่อน ถ้าหันหน้าออกจากที่ซื้อดอกไม้ จะเป็นอาคารฝั่งตรงข้ามด้านซ้ายมือค่ะ  ตรงนี้ ยัยพลอยบูชาด้วยดอกบัวค่ะ





เมื่อเสร็จ เราก็มาจัดของบูชา (ถ้านำมาเพิ่มเติม) ที่ด้านข้างศาล ริมไปทางรั้วด้านสนามหลวง






จุดธูปเทียน บูชาที่ตรงนี้ก็ได้ หรือลานตรงกลางที่มีพระสยามเทวาธิราชก็ได้ค่ะ  ปิดทองตรงนี้เลยค่ะ





จากนั้น นำผ้า 3 สีไปผูก





เสาไหนก็ได้ มีทั้งหมด 4 เสา เลือกตามใจชอบค่ะ





จากนั้น เราก็เดินเข้าไปสักการะเสาหลักเมืองด้านในอาคารนี้ค่ะ  ซึ่งด้านในไม่อนุญาติให้จุดธูปเทียนค่ะ




หลักเมืองกรุงเทพฯของจริง






จากนั้น เดินออกไปด้านข้างฝั่งเดียวกับที่ซื้อดอกไม้ธูปเทียนค่ะ มีอีกอาคารนึง เราสามารถขึ้นไปสักการะ พระเสื้อเมือง พระทรงเมือง เจ้าหอกลอง พระกาฬไชยศรี และเจ้าเจตคุปต์   อิฉันmanage ทรัพยากรที่มีอย่างจำกัด โดยใช้พวงมาลัยดาวเรืองที่มีอยู่ในถาดกับที่นี่   หรือท่านอยากจะถวายที่อื่นที่มีที่วางอยู่ก็ได้ตามสะดวกค่ะ แต่อิฉันมีแค่ 1 พวง เลยขอกระจายให้ได้ทุกส่วน






หลังจากนั้นออกมา ติดกันเป็นที่เติมน้ำมันตะเกียงบูชาเทวดาประจำวันเกิด อย่าลืมเหลือนิดหน่อยเติมตะเกียงที่โถใหญ่ด้านขวามือของภาพด้วยนะค๊าา






เป็นอันเสร็จพิธีการ ท่านใดอยากได้น้ำมนต์ มีไว้บริการตนเองอยู่ทางด้านใกล้ที่วางสิ่งของสักการะบูชาค่ะ จัดการตักเอาที่สบายใจค่ะ





กำลังจะกลับพอดีเหลือบไปเห็นจึงเข้าไปชม  มีเวลานิดหน่อยจึงไปนั่งดูลิเก ฮาเฮตรงทางออก เป็นโรงละครของศาล ใกล้ห้องน้ำ ได้ฟรีค่ะ จะได้เป็นกำลังใจให้พี่ๆคนเล่นลิเกเค๊า  เล่นวันจันทร์ - เสาร์ เวลา 9.00-15.30 วันอาทิตย์ 9.00-16.00 น.






เป็นอันเสร็จสิ้นการสักการะ ค่ะ ต่อจากนั้นจะไปกินของอร่อยๆแถวท่ามหาราช หรือไปพิพิธภัณฑ์สยาม ก็ดีงามนะคะ เอาที่สะดวกและสบายใจกันเลยค่ะ   วิวแถวนี้ช่างดีงามหลาย






สุดท้าย แต่ไม่ท้ายสุด ยัยพลอยขอให้ทุกท่านมีความสุข กับการอ่านและชมบทความนะคะ


ขออำนาจบุญบารมีท่านหลักเมือง เทพ เทวดาทั้งหลาย อำนวยอวยพรให้ผู้อ่านทุกท่าน  สุขภาพแข็งแรง คิดสิ่งใดที่ชอบประกอบด้วยธรรมสิ่งนั้นจงพลันสำเร็จนะคะ 



ขอบคุณค่ะ


Ploy Journey Journal








Create Date : 05 ตุลาคม 2561
Last Update : 5 ตุลาคม 2561 14:45:55 น. 1 comments
Counter : 1920 Pageviews.

 
ขอบคุณที่แบ่งปัน


โดย: Kavanich96 วันที่: 6 ตุลาคม 2561 เวลา:5:19:32 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

สมาชิกหมายเลข 3271775
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 3 คน [?]




Hi guys, I'm "Ploy" who always have full of bucket list. It is because the world is gigantic, so step out 'n explore its. I write, i-dive, i-trek, i-run, i-yoga, i-blog, and I love good food. Let's follow the dream. สวัสดีค่ะ ชื่อ"พลอย"ค่ะ เป็นพวกชีวิตมีแต่บวก ไม่มีลบ Bucket list เต็มตลอดเวย์ อะไรๆก็เป็นลิสต์ที่ต้องทำก่อนตายสำหรับยัยพลอยทั้งนั้น (ก็โลกนี้มันกว้างใหญ่จะตายไป!) ไหนๆก็ได้เกิดมาบนโลกสวยงามใบนี้แล้วหนิ คิดแล้วจะรออะไร...เก็บกระเป๋า ก้าวเท้าออกมา โลกรอเราอยู่ (หรือความอยากรอเราอยู่) พลอยชอบขีดๆเขียนๆ, วิ่ง, โยคะ, ดำน้ำ, เทรค, และทุกทริปจะขาดไม่ได้เลยคือ อาหารอร่อย. มาออกเดินทางตามความฝันกับ "พลอย เจอนี่ เจอนั่น" ด้วยกันนะคะ... : )
New Comments
Friends' blogs
[Add สมาชิกหมายเลข 3271775's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.