งาน Kilo Run จะเป็นงานที่จัดใน 4 ประเทศ คือ ไทย ญี่ปุ่น บาหลี และ ฮานอย ถ้าไปครบ เราก็จะได้เหรียญมาประกอบร่างกันได้ครบชุด ที่โอซาก้าจะแบ่งออกเป็นการวิ่ง 2 ระยะ คือ 5 และ 10 กิโลเมตร  ง่ายๆก็คือ 1 รอบ และ 2 รอบ โอซาก้าโจ วิ่งเสร็จก็จะต้องกินให้น้ำหนักตัวเองเพิ่มขึ้น มีให้เลือก 2 ขนาดคือ 0.5 และ 1 กิโลกรัม แล้วแต่เลือกว่าจะแมชแบบไหน   หลังจากวิ่งเค๊าก็จะมีอาหารขึ้นชื่อของเมืองมาให้เราทำน้ำหนักตัวกัน  

หลังจากถูกยกเลิกหมด JR ก็ไม่วิ่ง Metro วิ่งถึง บ่าย 2 ห้างและร้านค้าปิดหมด ยกเว้นร้านสะดวกซื้อเห็นยังเปิดให้บริการอยู่ และร้านอาหารเปิดบ้างประปราย  ก็เลยเป็นวันพักผ่อนนอนหลับ ออกมาวิ่งเอง เพื่อออกกำลังกายหลังจากจัดเนื้อย่างมัดคอดส์ ไปซะหลายมื้อติด   ก็เชื่อมือการฟอร์แคสของญี่ปุ่นนะแต่คราวนี้ดูเหมือนจะไม่ค่อยเท่าไหร่นะ ตอนเช้าฝนไม่ตกอีกต่างหาก มาตกเอาบ่าย 3 โมง เพื่อให้เจ็บใจเล่น  จักรวาลกำลังจะสอนยัยพลอยว่า เราไม่อาจต้านทานธรรมชาติได้ แต่ต้องอยู่กับมันอย่าถ้อยทีถ้อยอาศัยและ ไม่มีอะไรที่แน่นอน ทั้งๆที่ใจกลางใต้ฝุ่นอยู่โอซาก้าแต่ฝนไม่ตกแฮะ ความแน่นอนคือความไม่แน่นอน  ไม่ต้องอารมณ์เสียเพราะเสียไปก็ทำอะไรไม่ได้ เราไม่สามารถควบคุมอะไรทุกอย่างให้เป็นไปอย่างใจเราได้  งั้นเรามาดูกันดีกว่าว่าไปทำไร เที่ยวไหนกันดี

1. ปราสาทโอซาก้า

สร้างในปี ค.ศ. 1583 โทะโยะโตะมิ ฮิเดะโยะชิ สั่งให้มีการก่อสร้างปราสาทโอซากะที่บริเวณวัดอิชิยะมะฮงกัน โดยนำแบบแปลนมาจากปราสาทอะซุชิ อันเป็นศูนย์บัญชาการหลักของโอะดะ โนะบุนะงะ

ปราสาทโอซาก้ามีสิ่งก่อสร้าง 13 อย่างที่รัฐบาลญี่ปุ่นระบุให้เป็นทรัพย์สมบัติสำคัญในทางวัฒนธรรม สิ่งที่มีชื่อเสียงมากเป็นพิเศษคือ ประตูขนาดใหญ่และและป้อมปราการที่อยู่ตามคูกำแพงเมืองรอบนอก กำแพงสูงชันที่สูงเกือบถึง 30 เมตร ความสูงของกำแพงและความกว้างของคูกำแพงเมืองที่เห็นนั้นไม่สามารถเทียบได้กับปราสาทอื่นๆในญี่ปุ่นได้เลย

สิ่งที่น่าสนใจยังรวมถึง หลังคารูปปลาโลมาแปดตัวของหอ และหลังคาอยู่ประดับไปด้วยกระเบื้องและแกะสลักเป็นรูปทรงของเสือ ซึ่งทั้งหมดจะถูกชุบด้วยทองคำ

หอสูงของปราสาทได้รับการซ่อมแซมใหม่ในปี พ.ศ. 2540 การซ่อมแซมในครั้งนี้ได้นำโครงสร้างอันงดงามของกำแพงความบริสุทธิ์และความสุกใสของทองคำกลับมาให้เราเห็นอีกครั้ง ความงดงามของปราสาทจึงได้กลายมาเป็นสัญลักษณ์ของเมืองโอซาก้า

เดินหรือวิ่งออกกำลังกายรอบๆคูก็เป็นสิ่งดีงาม 

จัดไปอย่าให้เสีย

2. เดินเล่น หรือ จ๊อกกิ้งริมแม่น้ำโอ 

ทางฝั่งโรงแรมอิมพีเรียลจะมีสวน วิ่งในสวนจนถึงสะพานแขวนก็ดีงาม หรือ อีกฟากฝั่งปราสาท ก็แบบวิวแม่น้ำชัดเจน วิ่งไปปราสาทโอซาก้า และรอบๆ ก็สดชื่นดีค่ะ

3. Namba 

ย่านช๊อปปิ้ง ของกินของใช้ ผับ บาร์ คาราโอเกะ มีครบครัน  ตรงนี้ก็จะเป็นห้างโปรดยัยพลอย Takashimaya และ OIOI มารุย  ใต้ดินก็มีแต่ของกินอร่อยๆน๊าาา

4. Dontonbori 

เป็นถนนขายของกิน ดื่ม และ เต็มไปด้วย Pachingo ที่เชื่อมกับ Namba และ Shinsaibashi เข้าด้วยกันให้กลืนเป็นเนื้อเดียว  ตรงสะพานEbisubashi  ที่มีรูปกูลิโกะ

4. Shinsaibashi

ติดๆกันกับ Namba เดินข้ามสะพานจากกูลิโกะมา  เราก็จะเจอกับถนนช๊อปปิ้งในร่มเป็นทางยาว ตลอดทางเป็นร้านขายของ ขายยา เสื้อผ้า ตรอกข้างๆก็ส่วนใหญ่เป็นร้านกินดื่ม ถ้าเดินมาจากnamba จนสุดจะเป็น ห้างDaimaru และสถานีรถไฟ Shisaibashi   สาวก Tokyo Hand ก็ต้องเดินต่อไปอีกนิด ข้ามถนนไปฝั่งตรงข้ามค่ะ

5. Sennnichimae 

อยู่อีกด้านใกล้ Namba นั่นหล่ะ ประมาณหลังห้าง Takashimaya จะเป็นแหล่งขายเครื่องครัว และอุปกรณ์ทำอาหารที่มีให้เลือกสรรแบบละลานตามากๆ และที่สำคุญราคาเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม 😁  ครั้งนี้ยัยพลอยไม่ได้ไปอะค่ะ  แต่ทราบและเคยไไปเลยเขียนแปะไว้เผื่อมีคนสนใจอยากไป  เดี๋ยวจิหารูปจากอินเตอร์เนตมาแปะไว้ให้ชมนะคะ

6. Tenjinbashisuji 

ถนนช๊อปปิ้งยาวกว่า 2 กม. ก็ขายของประเภท ของกินของใช้ ร้านยา อาหาร ปาจิงโก๊ะ  แต่ของที่ขายก็จะแบบออกไปทางสินค้าจีนหน่อยๆ ถ้าเป็นเสื้อผ้า🤪 แต่ของกิน ก็โอเครเลยค่ะ ชาวบ้านๆหน่อย และร้านยาก็ราคาถูกดีค่ะ  พอดีไปวันพายุเข้า ร้านก็ปิดเกือบหมดหน่ะค่ะ

7. สถานี JR Osaka

ถ้าใครนั่ง JR เข้าเมืองมาก็จะมาลงที่สถานีนี้ เป็นสถานีใหญ่ ด้านในมีห้างสรรพสินค้าสารพันครบครัน และที่ขาดไม่ได้ ร้านเนื้อย่างที่ใน รร. New Otani แหล่มจริง กินได้บ่อยเท่าที่ต้องการ ไม่เคยเบื่อ 

8. Umeda

สถานที่ช๊อปปิ้งอีกเช่นกัน เป็นพวก street fashion ส่วนใหญ่ มีจุดสังเกตคือ ห้าง Hep Five ที่มีชิงช้าสวรรค์สีแดงอยู่ด้านบน จึงสามารถชมเมืองยามค่ำคืนได้อย่างโรแมนติกกันเลยทีเดียว  แถวนี้ก็มีห้าง Don Quijote ที่คนไทยเรียกกันติดปากว่าห้างดองกี้ ขายของสารพัน แต่ยัยพลอยไม่ชอบเข้า 555 คือเคยไปที่โตเกียวครั้งแรกในชีวิตหลังจากนั้นไม่เข้าอีกเลย รู้สึกอึดอัดกับของที่เยอะแบบหายใจไม่ออก 55

มีชาวต่างชาติมาถ่ายภาพแล้วเอาไปเขียนหนังสือ ประมาณว่าประตูชัยของญี่ปุ่น 😁😁 ใครอยากชมก็อยู่ที่ตรง Umeda ค่ะ

9. Nipponbashi Denden town

เป็นแหล่งช๊อปเครื่องใช้ไฟฟ้า และ อนิเมะ แบบที่โตเกียว แบบร้านขายติดกันเป็นพรืดคล้ายๆกันค่ะ  พวกกล้องถ่ายรูปมือสองก็จะมีเยอะหน่อยแถวนี้ค่ะ

10. Tsuruhashi Station 

สถานีนี้เป็นสวรรค์ของคนรักเยื้อย่าง คือว่ารอบสถานี มีแต่ร้านเนื้อย่างล้วนๆ... 

ข้าวหน้าเนื้อ 200 ปี โช๊ะๆ ทำนองนี้ในหัวเลย  ประมาณแต่ละร้านก็จะอวดศักยภาพว่ามีดารา คนดังมากินประมาณนี้

11. Universal Studio

ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าไปทำอะไร ก็มันเป็นสวนสนุกที่มาจาก Hollywood อเมริกาโน่น แบบพวก จูราสสิค แฮรี่พอทเทอร์ มินเนี่ยน ไรพวกนี้ 

12. Kaiyukan Osaka Aquarium

เป็นพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำที่แทงค์ใหญ่มีเจ้า จินเบ ฉลามวาฬอยู่ 2 ตัว แมนต้าอีกเพียบ และ มีเจ้า sun fish หรือ Mola mola ที่นี่ เด็กๆน่าจะชอบค่ะ

13. Lego Land

อยู่ตรง Park ติดๆกับ Kaiyukan นั่นแล  สังเกตจากชิงช้าสวรรค์สีๆ แถวนี้เป็นริมทะเล ช่วงเย็นๆมันก็จะโรแมนติกหน่อยๆ 

พอหอมปากหอมคอกับโอซาก้า เดี๋ยวเดือนหน้าไปใหม่ แล้วจะเอาภาพมาให้ชมกันต่อนะคะ อดใจรอแป๊ปนึงว่ายัยพลอยจะ roamaround ไปที่ไหนต่อนะคะ

ขอบคุณนะคะที่ติดตาม

Ploy Journey Journal

Create Date : 05 ตุลาคม 2561
Last Update : 5 ตุลาคม 2561 17:52:17 น.		0 comments
Counter : 800 Pageviews.
Share Tweet