Group Blog
 
<<
มีนาคม 2549
 1234
567891011
12131415161718
19202122232425
262728293031 
 
10 มีนาคม 2549
 
All Blogs
 
บันทึกกลางกองถ่าย คำพิพากษาของมหาสมุทร

[หนังสือเล่มอื่น]




หนังสือเล่มนี้เขียนโดย นวรัตน์ รุ่งอรุณ


หนังสือเล่มนี้เป็น "เบื้องหลัง" ของภาพยนตร์เรื่องที่ 5 ของคุณ "เป็นเอก รัตนเรือง" ครับ

ผมซื้อเมื่อเดือนก่อน ตั้งใจว่า พอดูหนังเรื่องนี้จบปุ๊บ ก็จะมาอ่านปั๊บเลยครับ

สำหรับเรื่องหนัง ผมจะเขียน (spoil นะ) ให้อ่านอีกทีหนึ่งครับ

หลังจากอ่านจบ ผมคิดว่าหนังสือเล่มนี้อาจจะเหมาะกับคนหลายกลุ่มเลยนะครับ ไม่เพียงแต่เหมาะกับคนที่ชอบหรือไม่ชอบหนังเรื่องนี้เท่านั้นนะ

มันยังเหมาะกับคนประเภท ชอบอ่าน diary ของคนอื่น (อืม หมายถึงชอบอ่าน diary online น่ะครับ เคยอ่านไหม) ครึ่งแรกของหนังสือเรื่องนี้เป็นบันทึก diary ของคุณ นวรัตน์ ซึ่งอ่านดูสนุกดี

แล้วมันก็ยังเหมาะกับคนที่ชอบอ่านความคิดคนอื่น อยากรู้ว่าเขาคิดอะไร

และมันก็ยังเหมาะกับคนที่อยากจะเข้าใจเบื้องหลังทั่วไปของคนที่จะทำภาพยนตร์สักเรื่องหนึ่ง ว่าเขาต้องเตรียมการอะไรบ้าง มันต้องมีความสัมพันธ์ระหว่างบุคคลมากมาย มันมีข้อจำกัดอะไรบ้าง

และจะรู้ว่า มันไม่ง่ายเลยนะ ที่จะทำหนังออกมาเรื่องหนึ่ง อุปสรรคมันมากมายเหลือเกิน

หนังที่ออกมาไม่ได้ขึ้นกับผู้กำกับคนเดียว ยังขึ้นกับนักแสดง คนถ่ายภาพ คนเขียนบท และคนสำคัญกลุ่มสุดท้ายคือ คนตัดต่อ และ คนใส่ออกแบบเสียง ใส่ sound effect

และไม่เพียงแค่หนังหรอก การทำงานทุกอย่าง ม้นก็ต้องเป็นแบบนี้เหมือนกัน

ขึ้นชื่อว่า เป็นหนังสือประเภท "เบื้องหลังการถ่ายทำ" มันก็ต้องมีเนื้อหาที่เฉลยจุดสำคัญของภาพยนตร์ (ที่เราเรียกว่า spoil นั่นละครับ) เป็นธรรมดา ดังนั้นคุณ ๆ ที่ยังไม่ดูภาพยนตร์เรื่องนี้ ยังไม่ควรอ่านนะครับ จะเสียอรรถรสในการรับชมภาพยนตร์ไปได้

แต่ทว่า ถ้าคุณ ๆ ที่คิดว่า ยังไงชาตินี้จะไม่ดูหนังของคุณเป็นเอกแน่ ๆ แล้วล่ะก็ จะด้วยอคติอะไรก็ตามแต่ ผมคิดว่าหนังสือเล่มนี้มีคุณค่าพอที่คุณจะอ่านนะครับ และหลังอ่านแล้วผมคิดว่าถ้าเกิดตัดสินใจว่าจะไปดูหนังเรื่องนี้

คุณก็ไม่ได้เสียอรรถรสเท่าไหร่นักหรอก (เอ๊ะ ยังไง )

พูดกลับไปกลับมานะ ... คือต้องยอมรับว่า บางครั้งหนังบางเรื่อง มันเดาทางได้ หรือพูดง่าย ๆ ว่า เดาตอนจบได้น่ะครับ และบังเอิญว่าหนังเรื่องนี้มันเดาตอนจบได้น่ะสิ ขอโทษคุณเป็นเอกมากเลยนะครับที่ต้องพูดแบบนั้น (ที่จริงอาจจะต้องขอโทษคนเขียนบท.. คุณปราบดา หยุ่น ต่างหากล่ะ)

ซึ่งถ้ารู้ตอนจบ มันก็ไม่ลุ้น แต่ทว่าในความเป็นหนังแล้ว เรื่องนี้มีอะไรดี ๆ กว่าที่จะรู้ตอนจบก่อนหรือไม่นะครับ

ซึ่งยอมรับว่า ครั้งแรกเลยที่ออกจากโรงหนัง ผมงง ไม่เข้าใจ และรู้สึกหงุดหงิดกับเรื่องนี้มาก ไม่ใช่"งง" และ "ไม่เข้าใจ" ไม่ใช่เพราะเนื้อหาหรอกนะครับ มันเข้าใจได้ไม่ยากหรอก แต่รู้สึกแบบนั้นเพราะว่า "ผมบังเอิญไปคิดว่ามันเป็นหนังไทย เลยไปดูหนังพากษ์ไทย"

คิดว่าหลายคนคงเหมือนกับผม ไม่ชอบดูหนังพากษ์ไทย มันไม่ได้อารมณ์เลยนะ เลยบางทีการฝากความหวังกับภาษาที่ได้ยิน มันทำให้พลาดรายละเอียดทางอารมณ์ไปมากเลย

การที่ได้อ่านหนังสือเล่มนี้ ทำให้ผมเข้าใจความคิดของผู้สร้าง ผู้แต่ง ผู้ถ่ายภาพ และทราบว่าแม้ตัวละครจะพูดภาษาอังกฤษกระท่อนกระแท่นกันแค่ไหนก็ตาม ผู้กำกับเป็นเอก ก็ต้องการให้เป็นแบบนั้น ตามธรรมชาติของพวกเข้า

ผมอ่านจนจบ ในแง่เนื้อหาแล้ว ผมไม่คิดว่าผมได้รู้เรื่องหรือเข้าใจมากขึ้น เพราะผมเข้าใจดีอยู่แล้ว แต่ผมได้รู้ว่าคุณเป็นเอก และคุณคุ่น พยายามใส่ตัวเอง ลงมาในหนังเรื่องนี้มาก ซึ่งมันเป็นรายละเอียดที่อยู่นอกเหนือจากการ "ดูเอาเรื่อง" แต่มันเป็นการ "ดูเอารส" ครับ

เพราะหลังอ่านจบนี่แหละ ผมจึงตัดสินใจไปดูหนังเรื่องนี้อีกครั้งครับ โดยเป็น soundtrack คือมีทั้งภาษาอังกฤษ ญี่ปุ่น จีน ไทยนิดหน่อย ดูเพื่อเก็บรายละเอียด รายละเอียดที่อยู่นอกเหนือจากที่ film พากษ์ไทยจะบรรยายออกมาได้ แต่มันสัมผัสได้ถ้าดูต้นฉบับ

ความรู้สึกหลังจากดูหนังรอบสองจบ ดีมากเลยครับ แม้ว่าผมจะไม่ชอบปราบดา หยุ่น คนเขียนบท ก็ตาม (อ้าย เฮ้ย พูดอะไรอีกแล้ววะนี่ )

แต่มันก็เจอจุดต่าง ๆ ที่อยากจะติเพิ่มมากขึ้นเหมือนกัน อ้าว อาจเพราะรอบนี้ดูเก็บรายละเอียดมากขึ้น

(อ้อ แล้วก็ โรงที่ไปดูรอบสองมานี่ แย่มากเลยครับ ลำโพงข้างขวา ตัวหน้า มันเสียน่ะ ที่รู้ว่ามันเสียก็เพราะว่า เสียงมันแตกตั้งแต่ช่วงโฆษณาแล้ว จนจบเสียงซ่า ๆ ก็แทรกออกมาเป็นระยะ.... กลัวคนดูจะเข้าใจผิดเหลือเกินว่าเป็นจากหนังของเป็นเอก.... โรงไหนเหรอครับ อ้อ โรง 13 ของโรงหนังใหม่ที่เพิ่งเปิดตัวครับ ผมไปดูวันที่ 9 มีนาคม 2549 ครับ)

ผมจะเล่าหนังแบบ spoil ให้อ่านอีกทีครับ

อ้อ... ก่อนจะจบ ขอแถมข้อความที่เขียนในหนังสือเล่มนี้นิดหน่อยครับ เพราะว่าผมชอบมากเลย

Christopher
รู้มั้ย คำที่แย่ที่สุดในภาษาอังกฤษแบบอเมริกันก็คือ "ฉันจ้าง..." (เป็นเอกหัวเราะ) ฉัน 'จ้าง' ปราบดา มึงคิดว่ามึงเป็นใครวะ มีงไม่ได้ 'จ้าง' กูนะเว้ย มึงขอให้กูมาทำงานให้ต่างหาก คือในจิตใต้สำนึกคนพวกนี้จะพูดว่า "กูคือพระเจ้า และกูกำลังให้โอกาสมึง" ประโยคที่ทุเรศที่สุดในการทำหนังก็คือ "ฉันจ้างคริส ดอยล์" พวกโปรดิวเซอร์คุยกันว่า โอ้ เราโชคดีมากเลยที่จ้างเป็นเอกได้ ช่างเป็นชีวิตที่เลวร้ายมาก

เป็นเอก
ใช่ มีคนถามผมว่า ทำไมเลือกคริสอีก ทำไมเลือกอาซาโน่อีก ผมบอกว่าเปล่า พวกเขาเลือกผมเหมือนๆกับที่ผมเลือกเขาน่ะแหละ เพราะเขาจะปฎิเสธก็ได้นี่ (หัวเราะ) เขาอาจจะปฎิเสธก็ได้ เขาก็อาจมีงานที่น่าสนใจมากกว่าให้ทำ

Christopher
ก็มีน่ะสิ! (หัวเราะ) เรื่องของเรื่องคือ ท้ายที่สุดแล้วเราไม่ได้จ้างกันและกัน แน่ล่ะ ถ้าเราไม่ได้ทำหนังเรื่องนี้ด้วยเหตุผลอะไรก็ตาม เราก็คงเศร้า เราไปถึงจุดที่ทางเลือกของคุณคือทางเลือกส่วนตัวของพวกเรา มันไม่ใช่แค่อาชีพ ผมว่านั่นคือสิ่งที่พวกเราทำกัน พวกเราใช้พลังงานกับหนังเยอะมาก

เอาล่ะ พูดถึงหนังสือมามากพอแล้ว สุดท้ายนี้ผมอยากจะบอกว่า สิ่งที่ดีที่สุดในการทำงานก็คือ การที่เราได้ในสิ่งที่อยากทำ ได้ร่วมงานคนที่เข้าใจกัน

และสิ่งสำคัญก็คือ คนเราทุกคนต้องการความเคารพ และให้เกียรติซึ่งกันละกัน ซึ่งมันมีคุณค่ามากกว่าเงิน และ ค่าจ้างใด ๆ ทั้งสิ้น





คุณชอบ "บทความแนะนำหนังสือ" เล่มนี้หรือไม่



ชอบมาก
ชอบ
เฉย ๆ
ไม่ชอบ
ไม่ชอบมาก



ผลการ Vote

Power by Thaimisc.com








[หนังสือเล่มอื่น]


Create Date : 10 มีนาคม 2549
Last Update : 12 เมษายน 2550 2:32:47 น. 3 comments
Counter : 2123 Pageviews.

 
ทำโหวตได้ด้วย เก๋จัง

โหวตให้แล้วนะคะ ชอบค่ะ


โดย: สาวไกด์ใจซื่อ วันที่: 13 มีนาคม 2549 เวลา:15:42:40 น.  

 
ไม่โหวตอ่ะ แต่อ่าน...


โดย: ดาริกามณี วันที่: 15 เมษายน 2549 เวลา:23:06:19 น.  

 
แฮ่มๆ...เล่มนี้ อ่านแล้วครับ
ชอบเหมือนกัน




โดย: jahbar วันที่: 20 เมษายน 2549 เวลา:2:35:04 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

Plin, :-p
Location :
กรุงเทพ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 5 คน [?]









Instagram






บันทึก ท่องเที่ยว เวียดนาม


e-mail : rethinker@hotmail.com


Friends' blogs
[Add Plin, :-p's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.