..ถนนสายนี้มีตะพาบ โครงการที่ 204..
โจทย์โดย..น้องต่อ 36
ผมห่างหายการเขียนบล็อกไปกี่ปีแล้วนะเนี่ย...
นับนิ้วแป้บ !!!
1 2 3 4 5 ...
ไม่นับละ รู้แต่ว่านานหลายปีเลยทีเดียว
มาวันนี้จะเขียนงานตะพาบกะเค้าสักหน่อย เพราะว่าหัวข้อมันน่าเขียนดี
เอ่อ..แล้วจะยังเขียนเป็นหรือเปล่านิ
ลองๆละกันนะ
พูดถึงอาหารเย็น แล้วให้นึกย้อนไปในตอนวัยเด็ก ครอบครัวบ้านนอกอย่างผมพอถึงเวลานั้น พ่อแม่พี่น้องลูกหลานทุกคน จะมานั่งล้อมวงกินข้าวพร้อมเพรียงกัน ใช้เวลานัันพูดคุยสารทุกข์สุกดิบกัน อาหารที่กินก็พื้นๆไม่หนัก
เช่นปลาทรายทอดเกลือ
ต้มส้มหยวกกล้วย สับปะรด หน่อข่าอ่อน ผักบุ้ง เม็ดกาหยี
น้ำพริกสักถ้วย หรือแบบนี้บ้านผมเรียกน้ำชุบหยำ พร้อมผักต้มตามแต่จะหาได้รอบบ้านจ้า
แกงเผ็ดอะไรสักอย่าง เช่นแกงส้มปลาใส่หน่อไม้ดอง ที่ดองเองปราศจากสารฟอกขาวอย่างทุกวันนี้
มีผักสดพื้นบ้านที่ปลูกเอง ปราศจากสารเคมี เอาไว้กินกะแกงเผ็ด น้ำพริก อาทิผักตำลึง ยอดมะระขี้นก แปะตำปึง ยอดโสมไทยที่มิใช่โสมเกาหลี นอกจากนี้อาจมีกล้วยเล็บมือนางจากท้ายไร่สักหวี ไว้ลบเผ็ด (ลบเผ็ดในที่นี้คือไว้แก้เผ็ดนะครับ)
ต่างก็กินข้าวกันอย่างเอร็ดอร่อย อิ่มข้าวถ้าเป็นหน้าผลไม้เช่นทุเรียน ก็เอาทุเรียนมาปอกกินกันตบท้าย กินกันเป็นลูกๆ ไม่มีใครบ่นว่ากินแล้วจะร้อนใน กินแล้วจะอ้วน
เพราะผู้คนยุคนั้น มีการเคลื่อนไหวร่างกายกันตลอด ไปไหนมาไหนก็จะเดินไป ไม่เอะอะหน่อยระยะทางนิดเดียวก็นั่งชูคอในรถ เดินไม่เป็น ไม่นั่งอยู่กับโต๊ะเป็นวันๆแบบคนยุคนี้ ที่กินๆๆๆ แล้วไม่ออกกำลังกาย ลงพุง โรคนั่นโรคนี่ถามหาตั้งแต่อายุยังไม่ถึงกลางคน
แต่พอมาถึงยุคนี้ ครอบครัวเปลี่ยนไป กินข้าวไม่พร้อมกัน ลูกสาวห่วงหุ่นตัวเองไม่งาม ไม่กินข้าวมื้อค่ำกับพ่อแม่ อาจจะไปหาอะไรกินเล่นนอกบ้าน ลูกชายก็ไม่กินมื้อค่ำ ออกไปวิ่ง ไปเล่นฟิตเนส หลานๆออกไปกินหมูกะทะ กินพิซซ่า บอกกับข้าวที่บ้านกินไม่หรอย สะสมไขมันกันเข้าไป ปล่อยให้ 2 คนตายายกินมื้อค่ำกันอย่างเงียบๆเหงาๆ หรือบางทีเห็นลูกหลานไม่กิน พ่อแม่ยุคนี้อาจไม่กินตามไปด้วยก็ได้
ทำให้ความสัมพันธ์ในครอบครัวขาดความอบอุ่น ต่างจากอดีตมากมาย ยากจะหวนคืน
อากาศวันนี้ขมุกขมัว ก่อนจากกัน มากินอาหารเย็นๆกับผมดีกว่า มื้อเย็นนี้ ทานโอเอ๋วกันครับ
เฮ้ย..นี่มันเย็นจริงๆนะ
โอเอ๋ว ของหวานพื้นเมืองประจำจังหวัดภูเก็ต ที่ใครมาภูเก็ตไม่ได้ทานแล้วเท่ากับว่ามาไม่ถึง ช่างหวานเย็นสดชื่นเชิญตักทานกันได้เลยคร้าบ
อืม..บล็อกแรกในรอบหลายๆปี ขลุกๆขลักๆ น่าดู คงต้องกินข้าวซ้อมมือกันอีกหลายหม้อ ถึงจะคล่องเหมือนเดิม
และผมต้องขอบคุณผู้ที่ช่วยให้การทำบล็อกครั้งนี้สำเร็จไปด้วยดีกับน้องๆชาวบล็อกที่น่ารักทั้งสองคนนี้ คนแรกคือน้องจิน จินนี่ เต็นท์ เจ้าแม่ติ่มซำชื่อดังจากเชียงใหม่ ที่ผมโทร.ไปปรึกษาเรื่องการใส่รูปลงในบล็อก ที่เข้าหม้อหมดแล้วจริงๆ น้องจินแนะนำมาก็ยังทำไม่เป็น สุดท้ายน้องบอกส่งรูปไปที่น้องโต้ง เป็ดสวรรค์เลย น้องเขาจะย่อให้
และที่สุดบล็อกแรกในรอบหลายๆปี ของพี่ติณ ปลายแป้นพิมพ์ ที่ห่างหายจากวงการก็สำเร็จ เย้ ๆๆๆๆ ดีใจจังเลย
แล้วโปรดติดตามบล็อกต่อไปที่ขอบอกว่า มันมากๆเลยจร้า ... บายครับ
Create Date : 29 พฤษภาคม 2561 |
Last Update : 29 พฤษภาคม 2561 22:17:49 น. |
|
23 comments
|
Counter : 4873 Pageviews. |
|
ผมรู้สึกว่าผมยังพลาดอะไรอีกหลายอย่าง
อุตส่าห์ไปอยู่ภูเก็ตตั้งเดือนนึง
แหม่ต้องกลับไปแก้มือนะครับงานนี้