ไอ้เรื่องไม่รอบคอบก็ อ่ะนะ
เป็นปรกติซะละ
ตอนโทรจองตั๋วรอบแรก จนท.ขายตั๋วบอกว่าเราต้องไป eco แต่ตอนกลับต้อง business
พอเลื่อนวัน จนท.ขายตั๋วถาม ไป-กลับ businessได้ไหมคะ
รีบ โอๆเคๆ เลยค่ะ กลัวไม่ได้ไป เพราะ อีก7วันก็จะเดินทางแล้ว
ในใจก็คิดว่าตั๋ว eco คงเต็มไม่ได้ถามกลับ เค้าไม่ได้บอกว่า eco. เต็มซะหน่อย...
เค้าแค่ถามว่า "ไป กลับ business ได้ไหมคะ" เท่านั้นเอง
(เสียเงินเพิ่มไปอีกเกือบหมื่น)
ดูสิคะ...นอนแถวละคนยังได้เลย
มานั่งหน้าคนเดียว ใครๆก็มอง เหมือนว่ามาจากไหนนี่ กลายเป็นคนแปลกแยกหมู่พวกไปเลย
นั่งไปพอเครื่องพ้นระยะบินขึ้น แอร์ก็เริ่มเสริฟ .... สาวภูฏาน น่ารักมากค่ะ
เธอมีรายการอาหารให้เลือก แหม เราก็เตรียมตัวไปเมืองอินตระเดีย นะ
ก็เลือก Indian Vegetarian.....
เธอทำหน้าตกใจ ยูจะกินอันนี้เหรอ เราก็พยักหน้า...
เธอทำหน้าเบ้ บอกว่าอย่ากินเลย มันไม่อร่อยเอามากๆ...
เลยได้อันนี้มา หลังจากเธอพยักหน้าพออกพอใจ
หลังทานอาหารก็นั่งหลับ เก้าอี้ business มีปุ่มให้ทำอะไรได้หลายอย่างนะคะ เอนหลัง ปรับช่วงเอว มีแผ่นมารองขา มีมารองเท้า...
ไม่ได้ใช้อะไรเลยค่ะ เพราะมันทำงานปุ่มเดียว....
ตัวที่เรานั่งนะ ตัวอื่นคงทำงานได้หลายปุ่มกว่า ดีที่เก้าอี้กว้าง นั่งสบาย หลับสบายค่ะ
อ้อ ตอนเช็คอินเสร็จแล้ว จะผ่าน X-ray ได้สิทธิ์พิเศษด้วยนะคะ เค้าให้เข้าช่องนี้
3 ชม. ผ่านไป เครื่องก็ร่อนลง GAYA AIRPORT ตื่นเต้น
มีคนไทยที่ไปเที่ยวบินเดียวกัน ทำ E-VISA มาหลายคนเหมือนกัน ก็ไปผ่านกระบวนการ พิมพ์มือ ถ่ายรูป ฯลฯ ดูไม่ยุ่งยากนะคะ
ส่วนเราก็ผ่าน custom ตรวจคนเข้าเมืองตามปรกติ ถ่ายรูป ไม่ต้องพิมพ์มือ ง่าย ๆ ค่ะ เสร็จแล้วเจ้าหน้าที่ก็บอก "ขอบคุณครับ"
บรรยากาศที่สนามบินค่ะ
มีน้องผู้ชาย 2 คน ใจดี มาคุยกะเรา
เลยได้รู้ว่าเธอทั้งสองตามไปดูแลคณะพระธุดงค์ พุทธคยา-ลุมพินี 100กว่ารูปในโครงการ จาริกธรรมตามรอยบาทพระศาสดา ปีที่ ๖ ณ ประเทศอินเดีย-เนปาล
แจ๋วเลย ขออนุญาตเธอ ฝากเสบียงกรังที่ติดตัวไป ถวายพระ และมอบคณะดูแล ได้ตั้งแต่สนามบินเลย
ผ้าไตรที่จัดเตรียมไปจะห่มถวายพระพุทธเมตตา ก็ถวายให้พระไปเลย เพราะเธอบอกว่าเดินหลายเดือน จีวรจะเปื่อย ขาด ต้อง ซ่อม
เรามีเข็มมีด้าย มีไฟฉาย มีสมอ.. เหมาะ พอดี ต้องมีคนต้องการสินะ..จึงได้จัดมา
คือวันที่ไปซื้อของนั้นไม่ได้ตั้งใจซื้ออะไรนอกจากผ้าไตร แต่เห็นของเหล่านี้วางอยู่ด้วย ก็ จัดไป
ธรรมะ เป็นเช่นนี้