นิยายที่กำลังอัพเดท>ดาราจักรรักลำนำใจ----------------------------------------------------------------------โลกส่วนตัวของคนช่างฝัน

Group Blog
 
<<
มกราคม 2560
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
293031 
 
23 มกราคม 2560
 
All Blogs
 
ดาราจักรรักลำนำใจ : ผู้ช่วยชีวิตจากแดนไกล





สวัสดีค่ะ นิยายเรื่องนี้เป็นแนวแฟนตาซีที่คนเขียนสนุกกับจินตนาการของตัวเองมากค่ะ แต่เพราะยังไม่ตกผลึกก็อาจมีอะไรที่ไม่สมเหตุผลได้ อ่านแล้วมาทักทาย ให้กำลังใจ และสะกิดในประเด็นที่แปลกๆ ได้นะคะ




บทที่ 4 ผู้ช่วยชีวิตจากแดนไกล

น้ำพลอยรู้สึกตัวด้วยอาการเจ็บที่ไหล่ซ้ายราวกับมีของแข็งกระแทกใส่อย่างแรง พอขยับตัวก็ต้องครางออกมาเมื่อร่างกายเหมือนถูกบิดจนอวัยวะแทบจะฉีกออกจากกัน ลำคอแห้งผากขณะที่น้ำลายเหนียวหนึบจนกลืนแทบไม่ได้ ไอเย็นที่กระทบผิวเนื้อทำให้เธอห่อตัวเข้า บางอย่างที่รัดอยู่รอบเอวทำให้เธอพยายามลืมตาขึ้นอย่างยากลำบากเพื่อดูว่ากำลังถูกพันธนาการด้วยสิ่งใด

เธอกะพริบตาถี่ๆ เมื่อม่านตากระทบกับแสงสว่าง สิ่งแรกที่เห็นคือเรือนยอดไม้ที่อยู่ด้านบน หูแว่วเสียงร้องคล้ายเสียงคำรามของสัตว์ป่า หญิงสาวผวาพร้อมกับอาการใจหายวาบเมื่อเห็นนกตัวใหญ่สีดำบินจากเรือนยอดของต้นไม้ใหญ่แล้วหายไป จังหวะนั้นสิ่งที่พาดอยู่ตรงเอวก็กระชับแน่นเข้านิดหนึ่ง พร้อมกับที่ลมหายใจแผ่วกระทบผิวหน้าใกล้มากขึ้น

พลันเธอก็ต้องตกใจเมื่อเห็นใบหน้าของชายคนหนึ่งอยู่ใกล้จนจมูกแทบจะแตะกัน หญิงสาวดันตัวออกห่างตามสัญชาตญาณ แต่ถูกแขนแข็งแรงรัดแน่นกว่าเดิมอีก ก่อนจะมีเสียงต่ำลึกเอ่ยขึ้นทั้งที่ยังหลับตา

“อย่าไปไหน...อันตราย”

“คุณเป็นใคร” ถามแล้วเหลียวมองรอบบริเวณ “แล้วที่นี่คือที่ไหน”

“ดาวดวงหนึ่ง” คนตอบลืมตาขึ้น

หญิงสาวผงะพลางย่นคิ้วอย่างประหลาดใจ น่าแปลกที่เขาไม่ได้พูดภาษาไทย แต่เธอกลับฟังเข้าใจราวกับมีเครื่องแปลภาษาอยู่ในสมอง และประโยคที่แปลออกมาก็เข้าใจเป็นภาษาไทย ทั้งคำเรียกแทนตัวเองว่า ‘ผม’

“คุณไม่ใช่คนไทย” น้ำพลอยสับสนและงุนงงจนบอกไม่ถูก ประโยคต่อมาของเขายิ่งเพิ่มความพิศวงให้เธอหลายเท่า

“ผมไม่ใช่คนบนดาวสีน้ำเงิน”

“ดาวสีน้ำเงิน” เธอพึมพำ

“ก็ดาวที่ท่านหญิงอยู่นั่นแหละ”

หญิงสาวจับต้นชนปลายไม่ถูกเข้าไปใหญ่ “หมายความว่าฉันไม่ได้อยู่บนโลก แล้วอยู่ที่ไหน!...แล้วคุณเป็นใคร! ฉันมาอยู่ที่นี่กับคุณได้ยังไง นี่...ปล่อยฉันเดี๋ยวนี้นะ!”

เพราะความกลัวทำให้เธอขืนตัวออกสุดฤทธิ์และพยายามจะหยัดตัวขึ้นนั่ง แต่แล้วก็ต้องนิ่วหน้าเมื่อความเจ็บปวดแล่นริ้วไปทั่วทั้งเนื้อทั้งตัว ถึงอย่างนั้นก็ลุกขึ้นนั่งจนสำเร็จ ขณะที่มองเห็นสีหน้าของเขาเหยเก แต่ไม่มีเสียงเปล่งออกจากริมฝีปากหยักหนา ทั้งยังไม่ยอมปล่อยมือข้างหนึ่งจากเธอเช่นกัน

“เราเป็นพวกเดียวกัน" เขาตอบเสียงระโหย

“แต่ฉันไม่รู้จักคุณ” น้ำพลอยเว้นจังหวะเพื่อสูดลมหายใจเข้าลึกระงับความเจ็บจี๊ดที่ไหล่ซ้าย เธอเงยหน้ามองเรือนยอดต้นไม้และป่ารอบตัวอย่างหวาดๆ “แล้วฉันมาที่นี่ได้ยังไง ที่นี่คือที่ไหน” เธอถามซ้ำ

“เป็นดาวเคราะห์เล็กๆ ดวงหนึ่ง”

“ดาวเคราะห์!” น้ำพลอยทวนคำตอบของเขาด้วยน้ำเสียงและสายตาไม่อยากเชื่อ พอเขาพยักหน้าเธอก็ยิ่งใจหาย “คุณล้อฉันเล่นหรือเปล่า หรือว่า...ฉันฝันไป ...แล้วคุณเป็นใคร”

“ธีซัส” เขาตอบสั้นๆ แล้วหลับตาลง “ผมชื่อธีซัส”

“ธีซัส” หญิงสาวทวนคำ “คุณมาจากไหนกันแน่ ฉันงงไปหมดแล้ว”

“เราจะพูดกันทีหลัง” คนพูดหลับตาลง แล้วทิ้งท้ายเสียงหนักแน่นจริงจังผิดกับท่าทางอ่อนล้า “แต่ตอนนี้อย่าเพิ่งไปไหนทั้งนั้น อันตรายรอบด้าน”

ประโยคตอนท้ายหนักแน่นเช่นเดียวกับมือใหญ่ที่จับข้อมือเธอไว้ น้ำพลอยงุนงงไปหมด เธอควรไว้ใจเขาหรือ... เขาเป็นใครมาจากไหนก็ยังไม่รู้ หญิงสาวตัดสินใจแกะมือเขาออก แต่วงมือใหญ่กับกำแน่นเข้าอีกจนเธอนิ่วหน้าใส่อย่างอึดอัด

น้ำพลอยสูดลมหายใจเข้าปอดลึก ไอเย็นรอบตัวลอยมาปะทะจนรู้สึกเย็นไปถึงหัวใจ เสียงร้องกับเสียงกระพือปีกอยู่เหนือศีรษะจนต้องแหงนหน้ามอง แค่แวบเดียวที่เห็นตัวใหญ่โตของมันเธอก็หวาดกลัวจนบอกไม่ถูก พอมองไปยังต้นไม้ใหญ่ที่อยู่ด้านหลังชายหนุ่มไกลออกไปเกือบสิบก้าวมีเถาวัลย์ยักษ์โอบรอบ ดอกสีแดงสดกำลังเปิดกลีบอ้าจนเห็นเกสรสีเหลือง เธอกวาดตาไปเรื่อยๆ จนเห็นแสงสะท้อนวิบวับกระทบสายตา เมื่อเขม้นมองก็เบิกตากว้าง หากเดาไม่ผิดมันน่าจะเป็นแหล่งน้ำ

เพียงแค่คิด ลำคอก็แห้งผาก เธอหลุบตามองคนนอนหลับตานิ่งด้วยความคิดขัดแย้งกันอย่างหนัก เธอถูกพามาในดินแดนแห่งนี้โดยที่ไม่รู้ว่าเป็นที่ไหน เขาเป็นคนดีหรือคนชั่ว... และพาเธอมาเพราะหวังผลอะไร? คิดถึงตรงนี้น้ำพลอยก็ค่อยๆ แกะมือใหญ่ออก คราวนี้ไม่มีปฏิกิริยาตอบกลับจากอีกฝ่าย นอกจากคิ้วเข้มที่ขมวดเข้าหากันเล็กน้อย ชั่วขณะหนึ่งน้ำพลอยนึกห่วงสีหน้าซีดเผือดจนต้องใช้นิ้วอังที่จมูกโด่งคมสัน พอรู้สึกถึงลมหายใจกระทบนิ้วก็ถอนหายใจอย่างโล่งอก หญิงสาวถอยห่างออกมานิดหนึ่ง แล้วก็ต้องนิ่วหน้าเมื่อรู้สึกเจ็บไหล่

‘อันตรายรอบด้าน’ นึกถึงคำพูดของเขาแล้วน้ำพลอยก็มองไปรอบๆ อีกครั้ง ใจหนึ่งไม่คิดจะทำตามแต่ใจหนึ่งก็เห็นคล้อยตาม เพราะบรรยากาศรอบตัวมันดูแปลกๆ และไม่น่าไว้ใจ ‘พวกเดียวกัน’ คำนั้นน่าเชื่อถือได้แค่ไหน เขาเท่านั้นที่จะรู้ เมื่อไหร่ที่เขาตื่นขึ้นมาเธอจะต้องคาดคั้นเอาความจริงจากเขาให้ได้

แต่ตอนนี้เธอควรทำยังไงดีเพราะเธอหิวน้ำเหลือเกิน ความจริงแหล่งน้ำที่เห็นก็ไม่ได้อยู่ไกลมากนัก บางทีหากไปสำรวจใกล้ๆ อาจจะพอรู้ว่ามันมีความสะอาดมากพอที่จะบรรเทาความกระหายได้หรือเปล่า ที่สำคัญเธอไม่รู้ว่าเขาจะหลับไปนานแค่ไหน แล้วจะตื่นขึ้นมาเมื่อไหร่ แล้วระหว่างที่เขาหลับเธอจะอยู่นิ่งโดยไม่ทำอะไรเลยหรือ คิดได้ดังนั้นน้ำพลอยจึงค่อยๆ ลุกขึ้นพยายามไม่ให้เกิดเสียง

จังหวะที่น้ำพลอยหันหลังเพื่อจะเดินไปยังแหล่งน้ำที่เห็น ก็มีแสงสีเขียววิ่งเป็นเส้นหยักเหนือทั่วร่างของชายหนุ่ม ขณะที่มือทั้งสองข้างขยับมาประสานกันเหนือหน้าอกกว้าง ใบหน้าซีดเผือดค่อยมีสีเลือดทีละนิด

พื้นดินที่น้ำพลอยก้าวเดินไปยุบเป็นรอยตื้นๆ ไม่ถึงสิบวินาทีดินที่ถูกเหยียบก็โป่งขึ้นก่อนจะแตกออกแล้วมีสัตว์สีขาวหูแหลมตากลมโตโผล่ขึ้นมา มันสะบัดตัวเบาๆ จนดินกระเด็นหลุดจากขนปุย มันเอียงคอไปมาพลางมองตามร่างของหญิงสาวอย่างงุนงงและสงสัย แต่พอเหลือบมองด้านบนเรือนยอดของต้นไม้ก็เบิกตาโตอย่างตกใจก่อนจะรีบมุดลงใต้ดินตามเดิม ไม่ถึงนาทีดินที่มันโผล่ขึ้นมาก็เรียบสนิทตามเดิม

เหลืออีกไม่ถึงห้าก้าวน้ำพลอยก็จะถึงน้ำ เธอหยุดมองผืนน้ำสีเขียวมรกตที่ปรากฏแก่สายตาด้วยความรู้สึกกึ่งชอบกึ่งกลัว มันดูงดงามราวกับภาพฝันก็จริง แต่คำพูดของชายคนนั้นที่บอกว่าที่นี่คือดาวเคราะห์ดวงหนึ่ง กับคำที่ว่าอันตรายรอบด้าน มันทำให้เธอไม่แน่ใจและอดหวาดหวั่นใจไม่ได้

ไม้ยืนต้นที่อยู่รายรอบสูงใหญ่ เถาวัลย์ใหญ่น้อยห้อยระย้าลงมา ดอกไม้หลากสีรูปร่างสวยแปลกตาร่วงลงมาอยู่บนผืนน้ำ ภาพที่อยู่เหนือพื้นดินสะท้อนอยู่บนแผ่นน้ำราวกับกระจกเงา หญิงสาวก้าวเท้าไปข้างหน้าอย่างหลงใหลด้วยความลืมตัว โดยไม่รู้ว่าใต้ผิวน้ำภายใต้ต้นไม้ใหญ่แผ่พูพอนกว้างมีบางอย่างกำลังขยับตัว มันมองมายังเธออย่างไม่คลาดสายตา

เมื่อเท้าเหยียบไปที่ก้อนหินเต็มไปด้วยตะไคร่น้ำหญิงสาวก็เสียหลัก ทันใดนั้นเถาวัลย์เส้นหนึ่งที่กำลังหย่อนตัวตามเธอมาก็ตวัดรัดเข้ากลางลำตัว น้ำพลอยหวีดร้องออกมาอย่างตกใจ เสียงของเธอทำให้ตัวที่อยู่ในน้ำพุ่งตัวขึ้นมาเกาะบนพูพอนจนเห็นรูปร่างขนาดใหญ่เหมือนจระเข้ มันกระโดดมาที่พูพอนของต้นถัดมาจนมาถึงก้อนหินที่น้ำพลอยเสียหลัก สัตว์ประหลาดอ้าปากกว้างจ้องมายังหญิงสาวที่ถูกรัดห้อยหัวลงมาด้านล่างอย่างเตรียมพร้อมและหมายมาด จากนั้นกระโดดขึ้นสูงหวังจะใช้ฟันสีเหลืองแหลมคมงับเพื่อฉีกร่างของเธอ

“กรี๊ด!”

หญิงสาวกรีดร้องเสียงหลง ขณะที่เถาวัลย์ดึงร่างของเธอขึ้นสูงพ้นฟันของสัตว์ประหลาด พอเห็นเจ้าตัวประหลาดน่ากลัวที่อยู่ด้านล่างแบบเต็มตาแล้วน้ำพลอยแทบจะลืมหายใจ มันทั้งใหญ่และน่าเกลียดที่สุด ผิวของมันเป็นตะปุ่มตะป่ำ ฟันแหลมคม หางยาวของมันลากส่ายไปมา ความกลัวทำให้เธอนึกถึงคนที่นอนอยู่ทันที

“ช่วยด้วย! ธีซัส! ช่วยด้วย!”

พอเธอตะโกนเถาวัลย์ยักษ์ก็ดึงตัวเธอตวัดขึ้นสูงอีก เจ้าสัตว์ประหลาดเห็นว่าอาหารของมันจะถูกแย่งชิงมันเลยรวบรวมกำลังแล้วกระโดดขึ้นพร้อมกรงเล็บสีดำ

“ธีซัส!!!”

สิ้นเสียงร้องอย่างหวาดกลัวสุดขีดของน้ำพลอย เธอก็รู้สึกถึงพลังงานความร้อนบริเวณแขนและกลางลำตัว แล้วเถาวัลย์ที่รัดร่างอยู่ก็คลายออก ร่างเธอลอยคว้างกลางอากาศและหล่นวูบลงเบื้องล่างตกลงสู่อ้อมแขนของใครคนหนึ่ง

“ธีซัส!” น้ำพลอยเรียกชื่อเขาอย่างดีใจ แต่ชายหนุ่มนัยน์ตาสีเขียวไม่ได้สบตาเธอเพราะเขาอุ้มเธอกระโดดหลบเจ้าสัตว์ประหลาดที่พุ่งเข้ามา พอมันพลาดเป้าก็คำรามเสียงกึกก้องแล้วตั้งท่าจะโจมตีอีกครั้ง ธีซัสวางน้ำพลอยไว้ที่โคนไม้ใหญ่แล้วฟาดพลังจากฝ่ามือขวาไปทางสัตว์ร้ายทั้งที่อยู่ในท่าคุกเข่ากับพื้น แสงสีเขียวเป็นลำยาวกระแทกใส่ปากของมันจนชะงักก่อนจะดิ้นพราดๆ ไปอีกด้านหนึ่ง

วินาทีต่อมาธีซัสลุกขึ้นยืนหันหลังให้เธอเตรียมประจันหน้ากับพวกมัน น้ำพลอยกระถดตัวจนแทบจะกลืนไปกับต้นไม้ สายตาจับนิ่งที่ร่างสูงใหญ่ ในท่าที่เขายืนเยื้องเอียงด้านข้างมาทางเธอ ทำให้เห็นว่าเขากำลังประกบฝ่ามือทั้งสองเข้าหากัน แสงสีเขียววิ่งวนทั่วร่างและแผ่ความร้อนมาถึงเธอจนรู้สึกได้ น้ำพลอยจ้องมองด้วยความคาดไม่ถึงและไม่อยากเชื่อสายตา มือขวาของธีซัสดึงออกมาด้านข้างแสงสีเขียวที่วิ่งวนอยู่หายไปกลายเป็นรูปดาบยาว พลันน้ำพลอยก็เหลือบไปเห็นสิ่งหนึ่งเคลื่อนไหวใหม่ เธอชี้มือแล้วร้องบอกชายหนุ่ม

“ธีซัส! ระวัง! เถาวัลย์!”

เถาวัลย์ยักษ์ที่บิดม้วนเครือไปมาอยู่กับพื้นดินเริ่มชูยอดอีกครั้ง แต่คราวนี้มันเลื้อยมาบนดินเป็นทางยาวอย่างรวดเร็วราวกับงูยักษ์

ธีซัสลืมตาขึ้นแล้วกระโจนเข้าหาอย่างรวดเร็ว เขาฟันดาบพลังจิตไปที่ปลายยอดจนมันขาด น้ำยางสีขาวพุ่งขึ้นไปในอากาศเป็นทางยาว มันบิดเครือฟาดไปมากับพื้นดินอย่างไม่สิ้นฤทธิ์ ธีซัสจึงเคลื่อนตัวไปยังโคนแล้วตัดมันทีเดียว น้ำยางสีขาวไหลลงพื้นดินราวกับน้ำตก เถาวัลย์ยักษ์ดิ้นกระแทกกับต้นไม้ใหญ่ไม่นานก็สิ้นฤทธิ์

“ธีซัส! ระวังข้างหลัง!” น้ำพลอยตะโกนเตือนเมื่อเห็นจระเข้ต่างดาวที่รอโอกาสอยู่กระโจนเข้าหาเขาทางด้านหลัง

ชายหนุ่มหมุนตัวมาตั้งรับแล้วแทงดาบพลังจิตที่ปลายคางของมัน ก่อนจะเอี้ยวตัวออกทะยานขึ้นสูงจากนั้นจับดาบด้วยมือทั้งสองตัดกลางลำตัวจนขาดออกจากกัน เลือดสีดำคล้ำพุ่งออกมา

ธีซัสยืนหอบ ดาบพลังจิตในมือค่อยๆ หดเข้าแล้วหายไป เขารอจนจระเข้ต่างดาวแน่นิ่งแล้วจึงเดินมายังที่น้ำพลอยหลบอยู่ ร่างสูงใหญ่ทรุดนั่งลงเอ่ยถาม

“เดินไหวไหม”

“ฉัน...จะอ๊วก” หญิงสาวตอบแล้วทำท่าผะอืดผะอมแต่ไม่มีอะไรออกมา

ธีซัสเห็นดังนั้นจึงอุ้มเธอขึ้นมา น้ำพลอยยังรู้สึกหวิวๆ จนต้องหลับตาลง ทันใดนั้นก็รู้สึกเหมือนกับว่าร่างกายถูกบีบให้หดตัวลง สติเธอเลือนหาย มารู้สึกตัวอีกทีแผ่นหลังก็สัมผัสกับความเย็นชื้น เธอกะพริบตาถี่ๆ จนเห็นเงาดำชัดขึ้นเป็นรูปวงหน้าขาวของใครบางคน เธอพึมพำออกมาแผ่วเบา

“ธีซัส”

“ใช่ ผมเอง ไม่ใช่สัตว์ประหลาดแปลงกายมาหรอก” เจ้าของร่างสูงใหญ่เอ่ยเสียงอ่อนโยนอย่างยั่วเย้า แต่แฝงแววอ่อนล้า ก่อนจะขยายความเมื่อเห็นหญิงสาวมองรอบๆ “จากการใช้พลังจิตตรวจสอบ ในถ้ำนี้เป็นเขตปลอดภัยที่ใกล้ที่สุด”

“เขตปลอดภัย” หญิงสาวทวนอย่างงุนงง

“ใช่” ธีซัสพยักหน้า แล้วถอยห่างออกมานิดหนึ่ง

น้ำพลอยจึงพยายามจะยันกายลุกขึ้นบ้าง แล้วก็ต้องร้องอุทานออกมาเมื่อเจ็บที่ไหล่ซ้าย “โอ๊ย!”

ร่างสูงใหญ่ลุกขึ้นมาจากก้อนหินแล้วโน้มตัวมองไหล่ของหญิงสาว “เจ็บมากหรือ ไหนขอดูหน่อย มีแผลหรือเปล่า”

น้ำพลอยไม่ได้ตอบคำถามในทันทีแต่แตะบริเวณหัวไหล่ซ้ายราวกับจะสำรวจถึงความผิดปกติด้วยตัวเอง ธีซัสชั่งใจอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะยื่นฝ่ามือไปที่ไหล่ซ้ายของเธอ น้ำพลอยเหลือบเห็นเธอจับมือใหญ่ไว้พลางสบตาเขาอย่างชั่งใจ แต่เมื่อเห็นสีหน้าเป็นห่วงที่ฉายออกมา เธอจึงค่อยๆ ปล่อยมือเขาแล้วเอ่ย

“ไม่มีแผลค่ะ แต่ทำไมมันเจ็บมากก็ไม่รู้ เหมือนโดนกระแทกอย่างนั้นแหละ”

ธีซัสเขม้นมองพลางครุ่นคิดแล้วรำพึงกับตัวเอง “คงจะโดนแรงอัดและเหวี่ยงของประตูจักรวาล”

“ประตูจักรวาล” น้ำพลอยทวนคำพลางนิ่วหน้า

“ใช่ การเดินทางระหว่างจักรวาลที่จะย่นระยะเวลาให้สั้นที่สุดต้องใช้ประตูจักรวาล ปกติผมจะไม่มีปัญหาเรื่องการใช้ประตูจักรวาล แต่ครั้งนี้ร่างกายบาดเจ็บเลยควบคุมการเดินทางไม่ได้ ต้องขอโทษด้วย”

“แล้วคุณพาฉันมาที่นี่ทำไม แล้วจะพาฉันไปไหน ทำไมต้องเดินทางข้ามประตูจักรวาลด้วย” น้ำพลอยยิงคำถามรัวเร็ว

ธีซัสไม่ได้ตอบคำถามในทันที แต่ยืดตัวขึ้นเต็มความสูงแล้วหลับตาลงพลางประกบฝ่ามือเข้าหากัน ไม่ถึงสิบวินาทีก็ปรากฏแสงสีเขียวเรืองๆ วิ่งวนรอบฝ่ามือทั้งสอง น้ำพลอยมองภาพตรงหน้าอย่างไม่อยากเชื่อสายตาตัวเอง ธีซัสลืมตาขึ้นแล้วกำฝ่ามือซ้าย ก่อนจะยื่นฝ่ามือขวามาแตะที่ไหล่ซ้ายของหญิงสาว

“อย่า!...จะทำอะไร!” พูดได้แค่นั้นร่างกายก็เหมือนถูกตรึงให้อยู่กับที่

ไม่ถึงห้านาทีธีซัสก็ลดมือลงพร้อมกับที่แสงสีเขียวจางหายไป น้ำพลอยก็ต้องแปลกใจเมื่อไม่เหลือร่องรอยของความเจ็บปวดเลย ราวกับว่าไม่เคยได้รับความเจ็บปวดใดๆ มาก่อน

“ฉันหายเจ็บแล้ว คุณทำได้ยังไง” เธอถามอย่างตื่นเต้นและประหลาดใจ

“ผมรักษาด้วยพลังจิต”

“พลังจิต คุณมีพลังจิตเหรอ” เธอย้อนถามพลางนึกถึงเหตุการณ์ย้อนหลัง ทั้งเรื่องแสงสีเขียว และดาบ เมื่อเขาพยักหน้าโดยไม่พูดอะไรเธอจึงถามอีก “คุณเป็นใคร ทำไมถึงมีพลังจิต พาฉันมาที่ดาวเคราะห์ดวงนี้ทำไม แล้วทำไมตอนแรกไม่พาไปที่ปลอดภัยล่ะ”

“เอาทีละคำถามสิ” ธีซัสพูดกลั้วหัวเราะ เพียงแค่เห็นเธอปลอดภัยเขาก็รู้สึกโล่งใจและสบายใจขึ้นมาก เพราะถ้าเธอเป็นอะไรไปไม่เพียงแต่ท่านประธานสมาพันธ์และทุกคนที่ดาวไครออนจะไม่ให้อภัยเขา แต่เขาเองก็จะไม่ให้อภัยตัวเองเช่นกัน

“งั้นก็ตอบคำถามแรกมาก่อน”

ธีซัสส่ายหน้า มองนัยน์ตาสีฟ้างดงามแล้วก็นิ่งไปชั่วอึดใจก่อนจะตอบ

“ความจริงไม่ได้ตั้งใจจะพาท่านหญิงมาที่ดาวเคราะห์ดวงนี้หรอก แต่เพราะได้รับบาดเจ็บทำให้การเดินทางข้ามประตูแห่งจักรวาลมีปัญหา ผมควบคุมพลังจิตระหว่างเดินทางได้ยาก ถ้าขืนไปต่อรังแต่จะบาดเจ็บหนักด้วยกันทั้งคู่หรืออาจถึงขั้นตายได้ ก็เลยตัดสินใจแวะดาวเคราะห์ที่อยู่อาศัยได้ก่อนซึ่งก็คือดาวดวงนี้ แต่เพราะอย่างที่บอก การบาดเจ็บทำให้ร่างกายอ่อนแอพลังจิตเลยอ่อนแอไปด้วย จึงไม่ได้ตรวจสอบหาเขตปลอดภัยก่อน”

“ฉันงงไปหมดแล้ว นี่ฉันฝันหรือว่าเป็นเรื่องจริงกันแน่” ยิ่งฟังคำอธิบายน้ำพลอยก็ยิ่งสับสน

“เรื่องจริงสิท่านหญิงเอมิลา” ธีซัสเอ่ยเสียงต่ำทว่าจริงจังเช่นเดียวกับแววตา

หญิงสาวย่นคิ้ว “เอมิลา คุณหมายถึงฉันเหรอ”

“ใช่”

“ทำไมคุณถึงเรียกฉันว่าเอมิลา ในเมื่อฉันชื่อน้ำพลอย”

“ไม่ว่าจะชื่ออะไรบนดาวสีน้ำเงินดวงนั้น แต่จริงๆ แล้วท่านหญิงไม่ได้เกิดที่นั่น”

“คุณรู้” น้ำพลอยเอ่ยเสียงแผ่ว ก่อนจะเบิกตากว้างแล้วพูดด้วยน้ำเสียงกระตือรือร้น “พ่อกับแม่บอกว่าเราสองคนไม่ใช่ลูกแท้ๆ แต่เป็นเด็กที่ท่านเก็บมาจากริมน้ำท้ายไร่ แสดงว่า...คุณรู้ว่าพวกเราเป็นลูกใคร มาจากไหน ใช่ไหมธีซัส”

“เรื่องมันยาวมาก เราจะคุยกันหลังจากที่ผมไปหาฟืนมาก่อไฟและหาอาหารมากินกันเสียก่อน” เขาพูดแล้วยืดตัวขึ้น น้ำพลอยผวาตามเขาแต่ก็ไม่ได้ก้าวลงมาจากก้อนหิน

“คุณจะไปไหนไกลหรือเปล่า ฉันไปด้วยได้ไหม”

“อย่ากลัวไปเลย รับรองว่าแถวนี้ไม่มีสัตว์ร้าย” เขาปลอบเสียงนุ่มนวลพร้อมด้วยรอยยิ้มอ่อนๆ

“จริงๆ นะคะ” หญิงสาวยังไม่ค่อยไว้ใจอยู่ดี

“ผมจะโกหกเจ้าทำไม” ธีซัสย้ำให้อีกฝ่ายมั่นใจ เพราะเขาใช้พลังจิตที่ฟื้นขึ้นมาได้ระดับหนึ่งตรวจสอบดูแล้วว่าที่นี่ไม่มีพลังของสิ่งมีชีวิตที่ชั่วร้ายรุนแรงอยู่

“ถ้าอย่างนั้น...ระวังตัวด้วยนะคะ”

คราวนี้นัยน์ตาสีเขียวเป็นประกายที่ทำให้น้ำพลอยต้องหลุบตาลงเพื่อหลบ “ไม่ต้องห่วงหรอก ตอนนี้อาการบาดเจ็บผมดีขึ้นมาก แม้ว่าจะยังไม่ฟื้นเต็มที่ก็ตามเถอะ”

“อ้อ” ร่างสูงใหญ่เดินไปได้สองก้าวก็หันมากำชับ “คราวนี้อย่าแอบเดินไปสำรวจที่ไหนอีกล่ะ ถึงจะเป็นเขตที่ไม่มีสัตว์ร้ายขนาดใหญ่ก็เถอะ ยังไงก็ต้องระวังอยู่ดี” ว่าแล้วก็หมุนตัวเดินไป





Create Date : 23 มกราคม 2560
Last Update : 23 มกราคม 2560 13:35:05 น. 1 comments
Counter : 2083 Pageviews.

 
สวัสดีนะจ้ะ แวะมาเยี่ยมนะจ้าาา sinota ซิโนต้า Ulthera สลายไขมัน SculpSure เซลลูไลท์ ฝ้า กระ Derma Light เลเซอร์กำจัดขน กำจัดขนถาวร รูขุมขนกว้าง ทองคำ ไฮยาลูโรนิค Hyaluronic คีเลชั่น Chelation Hifu Pore Hair Removal Laser freckle dark spot cellulite SculpSure Ultherapy กำจัดไขมัน adenaa ลบรอยสักคิ้วด้วยเลเซอร์ ลบรอยสักคิ้ว Eyebrow Tattoo Removal เพ้นท์คิ้ว 3 มิติ สักคิ้ว 3 มิติ
ให้ใจหายใจ สุขภาพ วิธีลดความอ้วน การดูแลสุขภาพ อาหารเพื่อสุขภาพ ออกกำลังกาย สุขภาพผู้หญิง สุขภาพผู้ชาย สุขภาพจิต โรคและการป้องกัน สมุนไพรไทย ขิง น้ำมันมะพร้าว ผู้หญิง ศัลยกรรม ความสวยความงาม แม่ตั้งครรภ์ สุขภาพแม่ตั้งครรภ์ พัฒนาการตั้งครรภ์ 40 สัปดาห์ อาหารสำหรับแม่ตั้งครรภ์ โรคขณะตั้งครรภ์ การคลอด หลังคลอด การออกกำลังกาย ทารกแรกเกิด สุขภาพทารกแรกเกิด ผิวทารกแรกเกิด การพัฒนาการของเด็กแรกเกิด การดูแลทารกแรกเกิด โรคและวัคซีนสำหรับเด็กแรกเกิด เลี้ยงลูกด้วยนมแม่ อาหารสำหรับทารก เด็กโต สุขภาพเด็ก ผิวเด็ก การพัฒนาการเด็ก การดูแลเด็ก โรคและวัคซีนเด็ก อาหารสำหรับเด็ก การเล่นและการเรียนรู้ ครอบครัว ชีวิตครอบครัว ปัญหาภายในครอบครัว ความเชื่อ คนโบราณ


โดย: สมาชิกหมายเลข 4057910 วันที่: 23 สิงหาคม 2560 เวลา:18:07:34 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

รัณณา
Location :
ศรีสะเกษ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 38 คน [?]




เมื่อสาวป่าไม้เป็นนักเขียน

ชื่อเล่น นาง ค่ะ

รัณณา มาจากคำอ่าน รัน = run หรือ ran แปลว่าวิ่ง นา ก็คือท้องนา ^ ^

รัณณา ก็เลยมีความหมายแบบกวนๆ ว่า วิ่งไปบนท้องนา รัณณา เป็นนามปากกาของนักเขียนที่ทุกอณูของจิตวิญญาณและความรู้สึกมีความเป็น นักอนุรักษ์พงไพร เป็นผู้ที่มุ่งหวังเก็บเกี่ยวความสุขจากความคงอยู่ของธรรมชาติ และหวังการก่อเกิดงานเขียนที่กลั่นกรองจากประสบการณ์และจินตนาการที่ผุดพราวขึ้นทุกย่างก้าวที่เยื้องกราย...


โลกของรัณณา พระเอกหรือนางเอกส่วนใหญ่แล้วเป็นคนหล่อ สวย ดี น่ารัก มีเหตุผล(บ้าง) นั่นเพราะว่าคนเขียนอยากให้โลกนี้มีแต่คนดีๆ ถึงแม้ว่าจะเป็นไปไม่ได้ แต่เพราะว่าคนเขียนมีความสุขกับความคิดฝันโดยไม่ได้หวังจะทำร้ายใคร เนื่องจากความเป็นจริงที่พบเจอก็เหนื่อยล้ามากพออยู่แล้ว ส่วนตัวร้ายก็สร้างมาเพื่อความบันเทิงหรืออาจให้ข้อคิดเล็กน้อยบ้างตามแต่ช่วงนั้นจะพบเจอกับอะไรที่กระแทกใจ

หวังว่านิยายของรัณณาคงสร้างความสุขให้คนที่คิดเหมือนกันบ้างนะคะ

ติดตามสาวป่าไม้ใจรักเขียนได้ที่เฟสบุ้ค
รัณณา ริมธาร
ยินดีต้อนรับสู่บ้าน รัณณา

ผลงานในรูปแบบ e-book

นิยายที่ได้แรงบันดาลใจมาจากชีวิตการทำงานบนดอยแห่งหนึ่งในภาคเหนือ

แรงบันดาลใจจากการไปเที่ยวบาหลีก่อให้เกิดให้นิยายเรื่อง ณ ดารันหัวใจฉันมีเพียงเธอ



Code Calendar
จากใจนักเขียน
งานเขียนในเวบนี้ เป็นลิขสิทธิ์ของผู้เขียน ได้รับความคุ้มครองตามกฎหมาย ห้ามคัดลอก ดัดแปลง เผยแพร่ โดยไม่ได้รับอนุญาตเป็นลายลักษณ์อักษร มิฉะนั้นอาจมีความผิด ตาม พ.ร.บ.ลิขสิทธิ์ พ.ศ.2537

ฟังเพลงเพราะๆ

New Comments
Friends' blogs
[Add รัณณา's blog to your web]
Links
 

MY VIP Friend

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.