|
ทริปเดินขาลาก ญี่ปุ่น โอซาก้า - โตเกียว 14 วัน (6) |
|
เริ่มวางแผนท่องเที่ยว (ส่วนของที่พัก Tokyo)
ในโตเกียวเราพักทั้งหมด 4 คืน แบ่งเป็นพักในเมืองย่าน Asakusa 3 คืน และ Narita 1 คืน
โรงแรม Toyoko Inn Tokyo Asakusa่ Kuramae No.2 อยู่ใกล้กับสถานีรถไฟ Kuramae แต่สถานีนี้แบ่งเป็น 2 สถานี คือ สาย Asakusa กับ สาย Oedo ซึ่งไม่สามารถเดินทะลุใต้ดินหากันได้ ต้องออกจากสถานีขึ้นถนนก่อนแล้วไปอีกสถานีเปลี่ยนรถ ไม่ไกลมาก
ส่วนตัวของโรงแรม จะอยู่ใกล้ทางออกของสาย Toei Asakusa เดินออกจากสถานี เลี้ยวซ้าย แล้วเลี้ยวหัวมุมเข้าซอยนิดเดียวถึงเลย - 1 min walk from Kuramae Station Exit A2 on Toei Asakusa Line
- 3 min walk from Kuramae Station Exit A6 on Toei Ōedo Line
รถไฟ Toei Asakusa สายนี้เชื่อมตั้งแต่สถานี Narita Airport Terminal 1 ถึง Haneda Airport โดยสามารถใช้ตั๋ว Tokyo Subway ได้ด้วย แต่ถ้าใช้บริการถึงปลายทางที่สนามบินจะมีค่าธรรมเนียมจ่ายเพิ่ม ต้องไปเสียค่าส่วนต่างที่เครื่องปรับ Adjust Fare Machine แต่คุ้มกว่าที่ต้องไปเสียเงินซื้อตั๋ว Narita Ex หรือ รถบัส เพราะรถไฟที่จะไปสนามบินมีมาเรื่อยๆ ส่วนถ้าคนไหนใช้เลือกซื้อบัตร Keisei Skyliner ต้องลากกระเป๋าไปขึ้นที่สถานี Keisei-Ueno หรือสถานี Nippori
ส่วนการเดินทางไป ชินจุกุ ชิบุยะ สถานีรถไฟโตเกียว พระราชวังอิมพีเรียล โตเกียวทาวเวอร์ โตเกียวสกายทรี คือ สะดวกสุดๆ ต่อรถไฟง่ายมาก ซื้อตั๋วราคา 300 บาท 72 ชั่วโมง ใช้ไปเกิน 20 เที่ยว คุ้มเกินคุ้มละ สถานีที่สามารถใช้ตั๋ว Subway ได้ จะเป็นรูปตัวอักษรในวงกลมสีต่างๆ ถ้าเป็นบนดินจะเป็น ตัวอักษรในสี่เหลี่ยม
อยู่ 4 วัน เลยมี 2 ใบ แบบ 72 ชม. ใบละ 300 บาท ส่วน 24 ชม. เป็นตั๋วแถมตอนซื้อบัตรเข้าชม Skytree (จะได้เป็น QR Code แล้วไปสแกนแลกที่สถานี) สามารถแลกมาเก็บไว้ก่อนได้ ซึ่งบัตรที่ยังไม่ได้เริ่มใช้งานจะสามารถเก็บไว้ได้ถึง 5 เดือน 29 วัน 
บัตรที่ยังไม่ได้เปิดใช้จะไม่มีวันที่ด้านหลัง ส่วนที่เริ่มใช้งานจะสามารถใช้ได้ตามวันที่ จนถึงเวลาที่ระบุ ถ้าออกจากสถานีหลังหมดเวลาอันนี้ไม่เป็นไร ขอให้ผ่านเข้าไปก่อนอย่างน้อย 1 นาที (เวลาของสถานีกับเวลาบนนาฬิกาข้อมืออาจไม่เท่ากัน อย่าประมาทนะ)

ระบบเช็คอินก็จะคล้ายกันหมดเพราะเป็นโรงแรมในเครือ รูปแบบห้องพัก อุปกรณ์อำนวยความสะดวกเป็นมาตรฐาน แต่เพิ่มเติม คือ โรงแรมนี้บริการอาหารเช้า แบบกล่องโฟม ถ้วยกระดาษ ช้อน ตะเกียบ และถุงพลาสติก ที่นั่งในห้องอาหารมีน้อย เลยให้ใส่กลับไปทานในห้อง หรือถ้ารีบเดินทางก็พกไปกินได้เลย คิดมาเพื่อนักท่องเที่ยว และพนักงานก็ไม่ต้องเสียเวลาล้างจานด้วย
ช่วงสายๆ บางคนที่ไม่ได้ออกไปไหน ก็นั่งทำงานตรงนี้ มีปลั๊กไฟพร้อม มีเครื่องปริ้นเตอร์ให้เชื่อมต่อได้ด้วย ส่วนค่าบริการคิดเป็นแผ่นๆ ละไม่กี่เยน
อาหารก็พื้นฐานทั่วไป แต่ละวันมีประมาณ 3 - 4 อย่างสลับกัน ทาน 3 วัน สรุปได้มีประมาณนี้ ข้าวสวย ซุป ไข่ สลัด เต้าหู้ ผักดอง ปลาย่าง ผัดวุ้นเส้น นัตโตะ ขนมปัง สาหร่ายแผ่น (ชอบเป็นการส่วนตัว หยิบทีละ 3 - 4 ซอง มานั่งกินเล่น) มีน้ำส้มรสเปรี้ยว ดื่มทีตาตื่นเลย หรือบางวันก็เป็นน้ำแอปเปิ้ล ตู้กดกาแฟ (ไม่ใช่กาแฟแคปซูล) ส่วนใครที่อยากดื่มชาเขียว ทางโรงแรมมีบริการเป็นชนิดซองพกพาสะดวก

ส่วนโรงแรม Narita Tobu Hotel Airport แน่นอนมันต้องอยู่ใกล้สนามบิน ย้ายมานอนเพื่อความสะดวกในการเดินเล่นวันสุดท้าย เพราะจะไปเดินเล่นย่านวัดนาริตะซัง (Narita Shinshoji Temple) และช้อปปิ้ง AEON Mall
เดินทางจากสถานี Kuramae เลือกขึ้นรถไฟสาย Toei Asakusa ที่มีคำว่า Narita Airport นั่งตรงดิ่งจนมาสุดปลายทางเลย ไม่ต้องเสียเวลาเปลี่ยนขบวน สังเกตุดูจากป้ายไฟบนชานชลาที่จะขึ้นว่าแต่ละขบวนปลายทางที่ไหน
พอลงจากรถไฟก็เดินตามกลุ่มมวลมหาชนไปทางออกของสถานีรถไฟ ช่วงนี้เดินยาวๆ เพราะใต้ดินมีรถไฟหลายสาย เวลาเดินออกมาจะแยกช่องแตะบัตรของแต่ละสาย ตอนออกไม่งง เพราะเป้าหมายทุกคนคือ ขึ้นข้างบน ส่วนถ้าใครใช้บริการเข้าเมืองอันนี้เงยหน้ามองป้ายกันดีๆ
ลง สถานี Terminal 1 ให้ขึ้นไปชั้น 1 เดินออกหาจุดจอดรถบัสหมายเลข 16 ลง สถานี Terminal 2&3 ให้ขึ้นไปชั้น 1 เดินออกหาจุดจอดรถบัสหมายเลข 25
จุดจอดรถบัสนี้จะเป็นของรถเวียนแต่ละโรงแรม จะมีป้ายด้านหลังว่า มีโรงแรมอะไรบ้าง รถบัสก็จะมาตามเวลาที่ระบุของแต่ละแห่ง หากรถบัสมาถึงก่อนเวลา จะจอดรอจนถึงเวลาออกตามตาราง แต่ถ้ารถบัสมาช้าไม่มีการรอนาน คนขึ้นปุ๊บรถออกปั๊บทันที เพราะไม่งั้นรถบัสของโรงแรมอื่นจะไม่สามารถจอดต่อได้ ของโรงแรม Narita Tobu สีเขียวสดใส เห็นชัดมาแต่ไกล ขึ้นไม่ผิดคันแน่นอน


พอถึงโรงแรมเช็คอินได้คีย์การ์ดเรียบร้อยก็เอากระเป๋าขึ้นห้อง มีเวลาพักสำรวจห้อง แล้วลงมารอรถเวียนอีกรอบเพื่อไปช้อปปิ้ง AEON Mall ภายในโรงแรมมีร้านขายของที่ระลึก กับร้านยา Matsumoto Kiyoshi ด้วย บางส่วนเป็น Tax Free พวกอาหารกล่อง ข้าวปั้น น้ำดื่ม ราคาไม่แพง
หากจะใช้บริการอาหารเช้าของโรงแรมก็ คนละ 3000 เยน แต่โรงแรมมีส่วนลด 20% ไม่ได้ใช้บริการ เพราะตอนเช้าจะเสียเวลาแพ็คกระเป๋าเก็บ กว่าจะทำธุระส่วนตัว แล้วไปวัดนาริตะซัง ก็ 9 โมงแล้ว แต่รถเวียนของโรงแรมเริ่มบริการรอบแรก 11.10 น. เลยใช้บริการรถเวียนไปสนามบินลงที่ Terminal 1 จากนั้นก็ขึ้นไปชั้น 4 ขาออก ใช้บริการตู้เก็บของที่สนามบิน ราคา 500 เยน/1 วัน (ดูราคาแต่ละตู้ได้ที่จอ ใช้บัตร IC ชำระค่าบริการและปลดล็อคตอนมาเปิดหยิบของออก) ลงลิฟต์มาใช้ใต้ดิน ต่อรถไฟ จะได้ไม่เสียเวลากลับมาที่โรงแรมอีก จาก Terminal 1 Stn. => Terminal 2&3 Stn. => Narita Stn.
ได้ห้องชั้น 8 มองเห็นป้าม่วงด้วย :-)

จะมีแผ่นตาราง กับจอ LCD ติดไว้ใกล้ๆ ที่ประตูว่า รถเวียนไปสนามบิน กับ ไปช้อปปิ้งออกเวลาไหนบาง ถ้าไปสนามบินจะมีรถออกทุกครึ่งชั่วโมง แต่ถ้าไปช้อปปิ้งก็ตามในตาราง จำเวลาที่จะกลับมารอที่จุดลงรถด้วย ไม่งั้นต้องเสียค่าแท็กซี่กลับโรงแรมเอง ส่วนใครที่จะไปเที่ยววัดนาริตะซัง ก็ลงที่ JR-Narita Station
ตอนแรกวางแผนไว้ว่าจะต้องถึงโรงแรมเช็คอินเสร็จก่อน 15.00 น. เสียเวลาโน่นนี่นั่นที่สนามบิน จะได้ขึ้นรถบัสก็ 15.20 น. กว่าจะเช็คอินเสร็จก็เกือบ 16.00 น. เลยมีเวลาให้เข้าห้องเคลียร์กระเป๋าแล้วลงมานั่งรอต่อที่ล็อบบี้ เพื่อความชัวร์ว่ารถบัสจะไม่เต็ม
เวลาปรับเปลี่ยนตามสภาพจราจร เราใช้บริการรอบ 17.10 น. แต่กว่าจะถึง AEON 18.00 น. เหลือเวลาแค่ 1.40 ชม. หักลบเวลากินข้าวเย็นอีก 30 นาที มีเวลาเดินเล่นเลือกซื้อของไม่ถึง 1 ชม.
Create Date : 04 พฤศจิกายน 2567 |
Last Update : 20 พฤศจิกายน 2567 15:02:16 น. |
|
0 comments
|
Counter : 149 Pageviews. |
 |
|
|
|
|
 |
|
|
|