สมุดบันทึกผู้หญิงชอบเที่ยว "ภัทรานิตย์" -- www.atourthai.com --

"เที่ยวเมืองไทยด้วยหัวใจ แล้วคุณจะรักเมืองไทยอย่างยั่งยืน"


<<
กรกฏาคม 2552
 1234
567891011
12131415161718
19202122232425
262728293031 
 
30 กรกฏาคม 2552
 

Macau @ ตามเส้นทางมรดกโลก ซากประตูโบสถ์เซนต์ปอล - ป้อมปราการเมาท์ฟอร์เทรส



ตอนที่แล้วพวกเราจาก จตุรัสคอมปะนีออฟจีนัส พวกเราเดินถ่ายรูปกันสักพักก่อนจะไปต่อที่ ซากประตูโบสถ์เซนต์ปอล (Ruins of St. Paul's) ประวัติของประตูแห่งนี้เล่าว่า โบสถ์แห่งนี้เคยเป็นส่วนหนึ่งของวิทยาลัยเซนต์ปอลก่อตั้งในปี ๑๕๙๔ และปิดในปี ๑๗๖๒ เป็นมหาวิทยาลัยตามแบบตะวันตกแห่งแรกของเอเชียตะวันออก



โบสถ์เซนต์ปอลถูกสร้างขึ้นในปี ๑๔๘๐ เคยถูกทำลายมาแล้วสองครั้งในปี ๑๕๙๕ และ ๑๖๐๑ จนกระทั่งมาเกิดไฟไหม้ในปี ๑๘๓๕ ทั้งวิทยาลัย จนเหลือแต่ด้านหน้าตึกและบันไดหน้า แสดงให้เห็นถึงสไตล์ผสมระหว่างตะวันออกและตะวันตกที่มีอยู่เพียงแห่งเดียวในโลกเท่านั้น



ว่ากันว่าหินที่ใช้ในการสร้างประตูโบสถ์แห่งนี้ เป็นหินที่ชาวโปรตุเกสใช้ถ่วงเรือสมัยที่เดินทางมาที่นี่ล่ะ ตอนแรกเราดูซากประตูแห่งนี้ในรูปก็ไม่เท่าไหร่นะ แต่พอมาดูจริงๆ เป็นประตูโบสถ์ที่มีขนาดใหญ่มาก มันแสดงถึงความแข็งแกร่งและสถาปัตยกรรมที่งดงาม ดูคลาสสิคชะมัด เสียดายที่วันนี้ฝนตกภาพ ณ ประตูโบสถ์แห่งนี้ของเราเลยไม่แจ่มเลย คนเราอ่ะนะคนอื่นเค้ามาวันแดดเปรี้ยง เรามาดันฝนตกซะงั้น แต่ก็ได้อีกบรรยากาศดีเหมือนกัน



ถึงแม้ฝนจะตกพวกเราก็ไม่สนใจ ตกได้ตกไปก็ยังคงถ่ายรูปกันทั้งฝนตกนั่นล่ะ พอถ่ายรูปกันเสร็จก็เดินไปด้านหลังมีบันไดขึ้นด้วยล่ะ สูงมากๆ เลยล่ะ ด้วยความที่สูงจึงทำให้เห็นวิวมาเก๊าอีกด้วย แต่ไม่สงสัยเลยว่าทำไมซากประตูแห่งนี้ถึงไม่ถูกทำลาย ก็ด้านหลังแข็งแรงซะขนาดนี้อ่ะนะ



นอกจากนี้ด้านหลังของประตูโบสถ์ก็มีพิพิธภัณฑ์ทางศาสนา ที่รวบรวมภาพเขียนและจัดแสดงอุปกรณ์ที่ใช้ในพิธีทางศาสนาสไตล์ชิโนโปรตุกีสและอินโดโปตุกีสที่ทำจากงา ไม้และเงิน และเป็นที่ตั้งของหลุมศพบาทหลวง "วาลิกนาโน" ชื่อเต็มว่า "Alexandre Valignano's" ผู้ก่อตั้งโบสถ์เซนต์ปอล และโครงกระดูกของชาวคริสต์ญี่ปุ่นและเวียดนามที่เสียชีวิตตอนไฟไหม้โบสถ์ล่ะ



แต่พวกเราไม่ได้เข้าไปหรอกนะ เพราะมันเงียบมากประกอบกับสายฝนเริ่มโปรยปรายมาไม่ขาดสาย พวกเราเลยขึ้นไปที่พิพิธภัณฑ์มาเก๊าที่อยู่ด้านขวาของประตูแทนล่ะ





แต่ว่าพวกเราไม่ได้เข้าไปหรอกนะ แค่ไปเดินผ่านเท่านั้นล่ะ ก็แหมจะเข้าไปได้ไงล่ะตัวเปียกเป็นลูกหมาตกน้ำซะขนาดนี้ ก็เลยเก็บภาพจากด้านนอกล่ะ มีรถสามล้อเหมือนบ้านเราด้วยล่ะ ซึ่งหากเดินขึ้นลิฟต์ไปด้านบนพิพิธภัณฑ์จะเป็นที่ตั้งของป้อมปราการเมาท์ฟอร์เทรสล่ะ



ป้อมปราการเมาท์ฟอร์เทรส (Mount Fortress) ตามประวัติเล่าว่า ป้อมแห่งนี้สร้างขึ้นระหว่างปี ๑๖๑๗ ถึง ๑๖๒๖ รูปสี่เหลี่ยมคางหมูซึ่งเป็นศูนย์กลางแห่งเครือข่ายการป้องกันตนเองของชาวมาเก๊า เดิมที่เนินเขาแห่งนี้ใช้เป็นที่บวงสรวงบูชามากกว่า ๓๐๐ ปี แต่ชาวโปรตุเกสได้ปรับเปลี่ยนให้เป็นป้อมปราการ ต่อมาก็ได้ใช้เป็นที่พักของผู้ว่าราชการมาเก๊า เป็นค่ายทหาร เรือนจำและเป็นหอดูดาว ปัจจุบันกลายมาเป็นสถานที่ตั้งของพิพิธภัณฑ์มาเก๊าล่ะ





ระหว่างที่พวกเราเดินถ่ายรูปป้อมปราการแห่งนี้ ก็ผลัดกันถ่ายสนุกสนานอยู่ก็มีนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเดินเข้ามาแล้วถามพวกเรา "ถ่ายรูปให้ไหม" แหมเค้ามีน้ำใจแบบนี้จะปฏิเสธได้อย่างไรล่ะ ยิ่งพวกเรามากันสองคนจะได้ถ่ายรูปคู่กันยากมากอ่ะ



พอเค้าถ่ายให้เสร็จก็ขอบคุณเค้าเป็นการใหญ่ ไม่ว่าที่ไหนก็ไม่ไร้ซึ่งคนมีน้ำใจใช่ไหมล่ะ จากนั้นพวกเราก็เดินเล่นถ่ายรูปกันต่อล่ะ ลืมบอกไปว่าที่ป้อมปราการแห่งนี้ให้เข้าชมฟรี แต่หากจะเข้าชมพิพิธภัณฑ์มาเก๊าแล้วล่ะก็ต้องเสียค่าเข้า ๑๕ MOP$ ล่ะ









นี่พวกเราเดินถ่ายรูปกันตั้งนาน ฝนก็ไม่มีทีท่าว่าจะหยุดตกเลยสักนิด แถมยิ่งตกหนักขึ้นอีกต่างหาก จนพวกเราต้องเข้าไปหลบฝนด้านในพิพิธภัณฑ์อีกครั้ง นี่ก็เริ่มจะเย็นแล้วต้องมาลุ้นกันอีกว่าพวกเราจะโชคดีได้เดินเที่ยวเมืองมรดกโลกแห่งนี้ต่ออีกหรือไม่ เพราะหากตกหนักกว่าเดิมคงต้องพับโปรแกรมกลับที่พักล่ะ แล้วมาลุ้นกันว่าเราจะได้ไปเดินเที่ยวต่อกันหรือไม่ในตอนหน้านะคะ


Create Date : 30 กรกฎาคม 2552
Last Update : 30 กรกฎาคม 2552 8:53:28 น. 4 comments
Counter : 2661 Pageviews.  
 
 
 
 
น่าไปเที่ยวจังคะ
แต่คงไม่เปียกมากใช่ไหมคะ
ระวังเปนหวัดนะจ้า..
 
 

โดย: นู๋แอนแสนเก๋ (cbreeze21 ) วันที่: 30 กรกฎาคม 2552 เวลา:8:56:27 น.  

 
 
 
อิจฉาจังเลยคะ อยากไปเที่ยวด้วยจัง ^^
 
 

โดย: peeshin วันที่: 30 กรกฎาคม 2552 เวลา:10:23:52 น.  

 
 
 
แวะมาชมภาพกันค่ะ ชักอยากจะไปเที่ยวมาเก๊าเร็วๆ แล้วสิค่ะ ได้ไปต้นปีหน้าเลยอ่ะ
 
 

โดย: mamminnie วันที่: 30 กรกฎาคม 2552 เวลา:13:15:33 น.  

 
 
 
สวยน่าไปจัง...แต่คงไม่มีโอกาศแน่ๆๆ
 
 

โดย: d_regen วันที่: 2 สิงหาคม 2552 เวลา:21:35:56 น.  

Name
Opinion
*ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก

patthanid
 
Location :
ราชบุรี Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 47 คน [?]




: การท่องเที่ยวไปในที่ต่างๆ
: คืออีกก้าวของประสบการณ์
: ทุกๆ ก้าวที่ก้าวเดิน
: มีจุดหมายที่อยากสัมผัส
: โลกใบกลมๆ ใบนี้

ติดต่อผู้เขียน
Email :: patthanids@hotmail.com
Line :: @atourthai
Facebook :: Patthanid Cheang
Fanpage :: โสดเที่ยวสนุก

สงวนลิขสิทธิ์ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์
พ.ศ.2539 ห้ามผู้ใดละเมิดโดยนำภาพถ่าย
รูปภาพ, บทความ งานเขียนต่างๆ รวมถึง
ข้อความต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นส่วนใดส่วนหนึ่ง
หรือทั้งหมดของข้อความใน Blog แห่งนี้
ไปใช้ทั้งโดยเผยแพร่ไม่ว่าเป็นการส่วนตัว
หรือเชิงพาณิชย์โดยไม่ได้รับอนุญาตเป็น
ลายลักษณ์อักษร มิฉะนั้นจะถูกดำเนินคดี
ตามที่กฏหมายบัญญัติไว้สูงสุด
New Comments
[Add patthanid's blog to your web]

 
pantip.com pantipmarket.com pantown.com