Japan :: Okinawa พาไปผามันซาโม๊ะ
Japan. ดินแดนในฝันของใครหลายๆ คนที่ในชีวิตของไปเช็คอินญี่ปุ่นสักครั้ง ซึ่งส่วนใหญ่พอได้ไปแล้วต้องไปซ้ำสองรอบสามรอบ หลายๆ คนมักจะบอกว่ามันต้องไปอ่ะ มันดีงาม บลาๆ ยิ่งไม่ต้องทำวีซ่าผ่านแดนยิ่งดึงดูดนักท่องเที่ยวชาวไทยให้ไปใช้เงินเยนจนเย็นใจกันเลยทีเดียว
สำหรับภัทรานิตย์ตอนแรกๆ ก็อยากไปนะแต่พอคนไปกันเยอะมากก็เริ่มเฉยๆ กับประเทศนี้ แต่ก็ยังเป็นเส้นทางในใจอยู่นะแบบสิบปากว่าไม่เท่าตาเห็นคุณว่าจริงๆ ไหม แล้วอยู่ๆ คนมันมีดวงอ่ะนะ ยังไงก็ต้องได้ไปโดนสักครั้ง
อยู่ก็มีประกาศจากออฟฟิตว่า สรุปประเทศที่เราจะไปท่องเที่ยวประจำปีมีให้เลือกใต้หวันกับญี่ปุ่น อัยยะข้อเสนอนี้ใครจะพลาด ใต้หวันก็ไม่เท่าไหร่เพราะจองไปเองแล้วไม่เลือกแน่นอน มันต้องญี่ปุ่นสิจ๊ะ แล้วหวยก็มาออกที่ "Okinawa" ออฟฟิตเราก็มีความแปลกที่เค้าไปเที่ยวก็ไม่ไปหรอก โตกงโตเกียวโอซาก้า มาโอกินาว่าซะงั้น เอาวะฟรีไปไหนก็ไปสิแล้วแต่ลูกพี่เลยคร้าบ
ทริปนี้ก็เหมือนเดิมจับฉลากเป็นกติกาบริษัทที่ไม่สามารถเลือกที่รักมักที่ชังได้ ใครสนิทกับใครต้องใช้ดวงวัดเอา "จับฉลาก" สิจ๊ะลุ้นกันตัวโก่งว่าจะได้ไปกะแก๊งค์หรือเปล่า ด้วยความโชคดีเขย่าเซียมซีกระบอกเดียวกัน อ้าวเฮ้ยคณะเราไปด้วยกันเว้ยเฮ้ยย
ทริปนี้ก็เดินทางเกือบ 40 คน โดยสมาย์สไตล์ทัวร์ จุดนัดพบสนามบินสุวรรณภูมิเดินทางกันตอนกลางเดือนเมษายนปีที่แล้ว (ดองรีวิวไว้นานหน่อยกว่าจะว่างทำรีวิว) นานๆ จะได้บินสุวรรณภูมิซะที แลดูไฮโซปกติบินแต่ดอนเมืองมาสุวรรณภูมิทั้งที มันต้องกินฟรีสิครัชบัตร King Power สามารถเข้าเล้าน์ได้ ถ้าใครไม่มีก็สมัครได้ที่เคาเตอร์แล้วใช้บริการเล้าน์ได้เลย ของกินก็มีให้เลือกหลายอย่างอยู่ขำๆ ระหว่างรอบิน ถ้าใครไม่ใช่สายช็อปปิ้งก็มานั่งกินที่เล้าน์นี่ได้ หนึ่งใบเข้าได้สองคน ควรค่าแก่การมีไว้ติดตัวแถมเงินสมัครก็เอามาซื้อของได้ตั้ง 1,000 แนะ แต่ตอนนี้ไม่รู้เปลี่ยนโปรหรือยังโทรไปสอบถามเอานะจ๊ะ
อาหารในเล้าน์ก็จะมีประมาณนี่แหละ นั่งกินไปสวยๆ ตามสไตล์สายแดกอย่างเรา กว่าเครื่องจะออกกินแทบทุกเมนู ได้เวลาก็เดินไปเข้าเกทสวยๆ โอกินาว่าเค้ามีสายการบินตรงยอดฮิตชื่อว่า Peach Airline ให้น้ำหนักกระเป๋า 20 กิโลกรัม เป็นสายการบินที่ชั่งน้ำหนักเป๊ะปังเรียกว่าขากลับนี้คำนวนกันให้ดีๆ นะ บอกเลยเคี่ยวมากชั่งยันกระเป๋าถือเลยเหอะ ทริปนี้พวกเราบินไฟท์ตีหนึ่งใช้เวลาประมาณ 6 ชั่วโมงกว่าก็เดินทางมาถึงสนามบินนาฮะ สนามบินไม่ใหญ่แต่สายการบิน Peach อ่ะใหญ่มาก แทบจะครองสนามบินกันเลยทีเดียว
จังหวัดโอกินาวะ ( ญี่ปุ่น : 沖縄県 Okinawa-ken ) เป็น จังหวัด ใต้สุดของ ญี่ปุ่น พื้นที่ยาวกว่า 1,000 กิโลเมตร กินสองในสามของ เกาะรีวกีว ซึ่งอยู่ทางตะวันตกเฉียงใต้ของ คีวชู ไปทาง ไต้หวัน เมืองเอกคือ นาฮะ ซึ่งอยู่ภาคใต้ของ เกาะโอกินาวะ ในอดีตที่นี่เป็นศูนย์กลางของอาณาจักรริวกิว แต่ถูกญี่ปุ่นยึดมารวมกันปัจจุบันเป็นเมืองเอก และเป็นเมืองพักตากอากาศและต้นกำเนิดศิลปะการต่อสู้อย่างคาราเต้มีหาดทรายขาวและประการังที่ยังสมบูรณ์ทำให้โอกินาว่าเป็นแหล่งท่องเที่ยวสำคัญเมืองหนึ่ง (ข้อมูลจากวิถีพิเดีย)
ที่นี่อุณหภูมิจะอยู่ราวๆ 12-22 องศาเซลเซียส อากาศบางช่วงแทบจะเหมือนบ้านเราเลยล่ะ การแต่งกายถ้าไปช่วงเมษายนนี่จะชิลมาก เสื้อกันหนาวธรรมดาเอาอยู่ ปลั๊กไฟใช้สองขาเหมือนบ้านเรา โรงแรมสามดาวส่วนใหญ่ปลั๊กเพียบ อาหารการกินที่นี่เน้นสุขภาพมาก โอกินาว่าถือว่าเป็นเมืองที่ขึ้นชื่อคนที่นี่อายุยืนยาวมากระดับท็อปๆ ของโลก ดังนั้นมาที่นี่ลองศึกษาวิถีการกินของคนที่นี่ดูนะ มันดีมากๆ เลยถ้าเราทำได้
หลังจากลงเครื่องก็สไตล์ทัวร์ แต่ไม่ใช่ว่ารถทัวร์จะมารับได้ถึงสนามบินนะจ๊ะ นู้นต้องนั่งบัสสนามบินไปจุดจอดรถบัสเหมือนเค้ามีจุดจอดที่ต้องออกไปเองรถเข้ามาไม่ได้ เนื่องจากทริปนี้ภัทรานิตย์มากะทัวร์ข้อมูลการเดินทางไม่รีวิวนะเน้นสถานที่ล้วนๆ นะคะ แต่เอาจริงๆ นะใครขับรถได้เช่ารถขับเหอะเดินทางง่ายกว่าเยอะ
จุดแรกที่พวกเราจะไปเยี่ยมชมนั่นคือ "ผามันซาโม๊ะ" ผาหินที่สูงชันกว่า 30 เมตร มีลักษณะคล้ายงวงช้างหันหน้าสู่ทะเลจีน มีพื้นที่สีเขียวปกคลุมจนถึงยอดหน้าผาตัดกับน้ำทะเลสีฟ้าใส ที่นี่ถือเป็นทิวทัศน์ที่งดงามแห่งโอกินาว่า เรียกว่ามาแล้วยังไงต้องมาที่นี่ สายธรรมชาติอาจจะชอบแต่ถ้าไม่ใช่ Enter ได้จ๊ะเพราะมันก็มีแต่หน้าผาเนี่ยแหละ
จากจุดจอดรถก็เดินตามทางเป็นลักษณะวงกลมไปเรื่อยๆ ไม่ต้องกลัวหลงมีทางเดินเดียวเดินตามเค้าไปก็ถึงจุดเช็คอินยอดฮิต "ผามันซาโมะ" ถ้ามาแนะนำให้มาตอนเช้าเพราะยิ่งใกล้ 11 โมงคนจะยิ่งเยอะมากง่ายๆ คือทัวร์เริ่มมาลงบางช่วงถ่ายรูปนี่ไม่เห็นผากันเลยทีเดียว ขอลงรูปตัวเองนะเพราะเขียนบันทึกเป็นไดอารี่ออนไลน์ ไม่ได้เน้นทำรีวิวเหมือนพวก Blogger เค้า ดังนั้นด่าได้แต่อย่างแรง 555
มาที่นี่ต้องกดชัตเตอร์ไวมาก เพราะถ้าเผลอแป๊บเดียวแหละบังผากันหมดเลย มาที่นี่ถ้าได้มุมแล้วจงยึดมุมไว้ให้ดีแล้วรีบถ่ายรูป เวลาคนมาคนเยอะจริงๆ คิดดูแล้วกันว่าที่นี่สามารถรองรับนักท่องเที่ยวได้ถึง 10,000 คนในเวลาเดียวกันมันกว้างใหญ่ขนาดไหน ชอบที่นี่ตรงที่มันร้อนแต่ลมเย็นมากเดินชิลๆ ได้
หากมาเที่ยวที่นี่ก็ใช้เวลาสักชั่วโมงครึ่งเดินวนรอบดูวิวทิวทัศน์โดยรอบแบบสโลว์ไลฟ์ให้หัวกระเซิงกันเลยทีเดียวเพราะลมแรงมาก แต่โดยส่วนตัวที่นี่ก็ไม่มีอะไรนอกจากหน้าผาเนี่ยแหละ ส่วนใครที่ชอบการช็อปปิ้งของที่ระลึกที่นี่มีของขายตรงจุดจอดรถ ราคาไม่แพงเมื่อเทีียบกับที่อื่นที่ทัวร์ไป ใครที่ชื่นชอบหินสีฟ้าก็จัดเลยจ๊ะมันถูกที่สุดแระ
VIDEO
มาเที่ยวญี่ปุ่นก็ไม่ต้องห่วงเรื่องน้ำดืม ตู้กดสารพัดเครื่องดื่มวางเรียงรายเต็มไปหมด แต่ก็ไม่เทพขนาดมีแป๊บซี่ใส่ถุงเหมือนบ้านเรานะ เอกลักษณ์ไทยไม่เหมือนที่ใดในโลก เราเน้นส่งเสริมให้คนมีรายได้มากกว่าความสบายจ๊ะ จากผามันซาโมะก็ได้เวลาทานอาหารเที่ยงแล้ว (อาหารเช้าตรูหายไปไหนวะ) เราข้ามไปเที่ยงเลยจ๊ะ เค้าจะพาไปกินที่ร้านโอกาชิ โกเดน ร้านขายขนมเก่าแก่ของเมืองนี้จ้า ไว้มาต่อตอนหน้านะจ๊ะ
Photo and Story
By Patthanid C .
Create Date : 24 มกราคม 2562
Last Update : 13 กุมภาพันธ์ 2562 0:45:18 น.
3 comments
Counter : 1143 Pageviews.
เพราะมีแพลนจะไปที่นี่เหมือนกัน รอโปรพีชแอร์สวยๆ ก่อน
เนี่ย อ่านมาหลายรีวิว เพิ่งรู้ว่าต้องนั่งรถบัสสนามบินจากอาคารไปที่จอดรถบัสทัวร์ แต่ละคนทำละเอียดไม่เท่ากันจริงๆ 555
หินสีฟ้าหน้าตาเป็นไงหว่า ข้อมูลที่นี่เราค่อนข้างน้อยมากเลยเธ้อออออ
เธอไปนอนที่นั่นกี่คืนอ้ะ แล้วมีบินไปเกาะอื่นบ้างปะ?
บันทึกการโหวตเรียบร้อยแล้วค่ะ
บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้
ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
กะว่าก๋า Book Blog ดู Blog
สายหมอกและก้อนเมฆ Photo Blog ดู Blog
kae+aoe Parenting Blog ดู Blog
กาบริเอล Diarist ดู Blog
patthanid Travel Blog ดู Blog
ระบบจะบันทึกคะแนนโหวต เฉพาะการโหวต 10 ครั้งล่าสุดในแต่ละวันเท่านั้น