Bloggang.com : poongie : Happo-One ... when autumn comes

Happo-One ... when autumn comes

มาถึง Highlight ของทริปนี้
ที่ตั้งใจไว้แต่แรกว่า .. ขอมาเยือน Hakuba ในฤดูใบไม้เปลี่ยนสี อีกสักครา

คราวก่อน เรามาฤดูร้อน .. Happo-One ฤดูร้อน

Happo one เป็นบึงน้ำ บนเขา Happosan ... ที่มีเทือกเขาของ Northern Japan Alps เป็นฉากหลัง ที่ระดับความสูง 2,080 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล

จากพิษไต้ฝุ้นฮากิบิส .. ทำให้เราต้องย้ายวันเที่ยว Hakuba มาเป็นช่วงท้าย แทนที่การไปดูภูเขาไฟฟูจิที่ คาวากูจิโกะ .. ที่นั่นทางปิด ทั้งทางรถไฟ ทางรถยนต์ .. ถึงไม่ยกเลิกเองก็โดนบังคับเปลี่ยนตามสภาพลมฟ้าอากาศค่ะ ..

โชคดีที่ ที่พักที่คาวากูจิโกะ ยอมให้ยกเลิกได้โดยไม่คิดมูลค่าแม้จะเกินกำหนดการยกเลิกการจองที่พัก ตามเงื่อนไขต้องจ่ายเต็ม แต่เป็นเหตุสุดวิสัย .. ต้องขอบคุณที่เข้าใจนักท่องเที่ยวค่ะ

ความเดิมคือเราค้างที่ Matsumoto .. หลังไปเที่ยวฟาร์มแอปเปิ้ล ไป Azumino และไป Kamikochi แล้ว .. เราก็ดั้นด้นไปที่ Hakuba ต่อค่ะ

จาก Matsumoto เรานั่งรถไฟ 2 ต่อ เลือกรอบเช้ามืดค่ะ ให้ไปถึง Hakuba ตอน 8 โมงเช้า เพราะเราจะได้ใช้เวลาวันแรกที่ Happo-one ส่วนอีกวัน อุทิศให้ Tsuga ike Natural Park ที่หมู่บ้าน Otari

วิวข้างทาง หลับไม่ลงค่ะ แม้จะต้องตื่นแต่เช้ามาก ยังงัวเงียอยู่เลย

รีวิวไว้เมื่อตอนไปฤดูร้อน นั่งรถไฟผ่านทะเลสาบ วิวสวย

พอถึงสถานี Inao station .. ก็มองหาทะเลสาบ แต่ว่าตอนเช้าตรู่แบบนี้ ..
หมอกทั้งนั้นเลยค่ะ ปิดเขาทั้งลูก ปิดทะเลสาบมิด.. 55 อดได้ภาพสวย

เก็บหมอกอ้อยอิ่งที่หมู่บ้านก่อนถึงสถานี Hakuba ได้นิดหน่อย

พอถึงสถานี Hakuba station เราไม่รอช้าที่จะไปซื้อตั๋วแพ็คเก็จไป Happo-One และ Tsuka-ike ไว้ล่วงหน้าที่ Travel agency .. อาคารใกล้ๆ กับสถานีรถไฟ เจ้าเดิม ซื้อตั๋วแบบนี้ได้ลดราคาพอได้ชดเชยค่า Softcone ค่ะ ..

แล้วเราก็ลากกระเป๋าไปเก็บที่ที่พัก คราวนี้เราพักที่ Hakuba Ski Condo ที่มีคุณ Bob ชาวแคนาดากับศรีภรรยาชาวญีปุ่นเป็นเจ้าของ

เดี๋ยวเล่าเรื่องที่พักอันน่าประทับใจในตอนหลังนะคะ

คุณ Bob ใจดีมาก ขับรถไปส่งเราที่ Happo-One .. ทำให้เราไม่เสียเวลาไปกับการรอรถบัสหรือแท็กซี่ (ไปหลายคน นั่งแท็กซี่จากสถานีรถไฟไปสถานีกอนโดล่า ของ Happo-One ไม่แพงค่ะ ถ้าซื้อตั๋วรถบัส ตั๋ววัน ก็ 500 เยนต่อคน แต่เอาจริง เราไปไหนไม่ได้หลายที่หรอกค่ะ อย่างมาก็แค่ ขาไปกลับ)

แถมพอจะกลับ ก็ให้เราส่งข้อความผ่าน Booking.com ให้เค้ามารับได้
(คุยกับเหมือนไม่ผ่านคนกลางเลย Bob ตอบข้อความเร็วมาก)

Bob บอกว่่า ลืมถามว่าเรามายังไง แกคิดว่าเราเช่ารถขับมาเอง แต่ได้มาเห็นกับตาว่า กะเหรี่ยงไทย 7 ชีวิตลากกระเป๋าปุเลง ๆ ออกจากสถานี .. 555 แกเลยไม่กล้ารับขึ้นรถ

ชดเชยด้วยการพาเรา 7 สาว (Where's a man?.. เกือบตอบไปแล้ว I'm here. 555)
ไปส่งที่สถานีกอนโดล่าขึ้น Happo-One

เช่นเคยค่ะเราเอาตั๋วส่วนลด Package : Happo Alpine Line Gondola + Alpine Lift + Graut Lift จากราคา 2,900 เยน เหลือ 2,610 เยน ไปแลกตั๋วจริงที่หน้าเคานเตอร์จำหน่ายตั๋ว

ลำดับแรกคือการนั่ง Happo Gondola "Adam" ขนาด 6 คนนั่ง จากสถานี Happo-ike station ไปสถานี Usagidaira stion

จาก Usagidaira station เดินอีกแป๊บเดียวก็ถึงจุดขึ้น Chair Lift แห่งแรก ต้องนั่ง Alpe Quad Lift

แล้วเดินผ่าน พื้นที่ชุ่มน้ำ Kurobishidaira Kamaike Marsh .. เพื่อที่จะจะไปนั่ง chair lift ลำดับถัดไป

ใบไม้บนเขากำลังเปลี่ยนสีพีค ๆ ค่ะ ..

จวนถึงแล้วค่ะ .. ข้างหน้านั่น .. เห็นคนนิดหน่อย ไม่เยอะเหมือนฤดูร้อน

กะจะเพิ่มพลังด้วย Softcone .. แต่ร้าน.. ปิดค่ะ ..

อ๊ายยยย ทำไมไม่เปิดทุกวัน อากาศหนาวกินไอติมไม่ได้รึไง ..
ตอนไปซื้อตั๋วลดราคาที่ Travel agency คนขายก็งง ..มาทำไม ปกติเค้ามาซื้อตั๋วเล่นสกีกัน .. ก็มาดูใบไม้เปลี่ยนสีไงคะ

เข้าห้องน้ำให้เรียบร้อยนะคะ จากนี้ไปมีอีก 1 จุดแค่นั้น เราจะไปให้ถึงบึงแล้วค่อยเดินกลับค่ะ ..

จุดสตาร์ทเดียวกัน แต่ฝีเท้าและระยะถ่ายภาพไม่เท่ากัน .. เลยหายเป็นช่วง ๆ .. เดินเดี่ยวบ้าง เดินหมู่บ้าง (ที่หมู่ สวนมากผลัดกันถ่ายรูปค่ะ)

ความงามคือสีสัน ระหว่างทาง กับมิตรภาพของคน trekking ด้วยกัน ..
Konichiwa .. .ทัก ๆ กันไป ..

ถ่ายรูปมาตั้งนาน เพิ่งถึงแค่นี้เอง 555

ไปกันต่อ ยังไม่ถึงครึ่งทางเลยค่ะ

ครึ่งทางมีสวรรค์หลังน้อย ๆ .. นั่นคือ ส้วมค่ะ ...

ปลายทางคือที่เห็นลิบ ๆ ข้างหน้านู้นค่ะ ลงเขาก็เจอบึงน้ำ

อันนี้ไม่ใช่ค่ะ ทำให้สับสนเล่น แค่เหวี่ยงกล้องไปเจอ เป็นแอ่งน้ำเล็ก ๆ กลางป่าเปลี่ยนสี

หลังเขาลูกนั้นแหละ .. อีกนิดเดียว
แต่ขอเล่นเดี๋ยวเดียว ..

ด้านหลังคือทิวเขา Hakuba Sanzan ..

ถึงสักทีสิ มัวแต่เล่นกล้องอยู่มุมเดิม 555

ถึงก็ได้ค่ะ .. Happo-one หรือ Happo-ike (ike = pond) จะเรียกบึง หรือสระ ก็ได้ .. ที่นี่มีความลึก 4.5 เมตร เกิดจากดินและทรายจากภูเขาที่ซ้อนกันขึ้นจนกลายเป็นบ่อน้ำขนาดใหญ่ที่มีน้ำใสแจ๋ว

ต้องรอจังหวะน้ำนิ่งนิดนึงค่ะ ลมพัดบ่อย ภาพสะท้อนไม่ค่อยคม

จัดการอาหารเที่ยงริมสระน้ำ .. รอบนี้พกของหวานมาให้รางวัลชีวิตด้วย ฟินค่ะ

ถอยออกมามองไกล ๆ .. คนละมุม

ได้เวลากลับค่ะ ..

พาน้องไปหลงทาง.. ทางดี ๆ มีไม่ไป ไปทางขรุขระ ปีนขึ้นเขา หินลื่น ๆ ..
น้องต้องบังคับเดินกลับ .. (ถอยไม่ค่อยเป็น ต้องมีคนบังคับ)

ทำเวลาได้เท่าเดิมค่ะ คือลงเขา ตอนบ่าย 2

สุขเล็ก ๆ ที่ยิ่งใหญ่ของเราในวันนี้จบลง

ส่งข้อความผ่าน Booking.com แป๊บเดียว Bob ก็มารับเรา เอาไปปล่อยที่ Supermarket และร้านเครื่องสำอาง .. ช้อปกันสนั่นเมือง .. ก่อนเดินกลับที่พักกันเอง

ระยะเดินชิล ๆ .. แต่กลับถึงที่พัก ก็สลบ ไข้ขึ้นตามระเบียบ (แต่กินยาแล้วก็เที่ยวต่อได้)