4 สาวคนอุบล ฝั่งธน และหาดใหญ่ จะไปดูซากุระ .. แต่ลาช่วงพีคของการบานของ ซากุระพันธุ์โซเมะอิ ไม่ได้
ไม้ตาย .... งัดออกมา ... ฮอกไกโด ไงล่ะ

เคยไปที่ปราสาทมัตสึเมะ (คนญี่ปุ่นออกเสียง มัตสึมั่ย) Matsumae Castle เมื่อ 13 ปีที่แล้ว ช่วงปลาย Golden week ของญี่ปุ่นเหมือนกัน
แต่ปีนี้โลกร้อน ซากุระบานเร็วกว่าปกติตั้ง 1 สัปดาห์ แต่ถ้าไปที่นี่ น่าจะยังได้เห็นซากุระพันธุ์บานช้าอีกหลาย ๆ พันธุ์เบ่งบาน (จริงตามคาดค่ะ แต่ EP. นี้จะยังไม่เล่าเรื่องซากุระนะคะ ยกไว้ก่อน)


ไหน ๆ ก็มาฮอกไกโดแล้ว ดินแดนอันกว้างใหญ่ของฮอกไกโด ถ้าจะเข้าถึงได้แค่แถวที่ทางรถไฟผ่าน ก็ดูจะผิวเผินเกินไป
สิ่งที่เหมาะสมกับการเที่ยวฮอกไกโด คือ การขับรถเที่ยว

แต่... จขบ. ขับรถแบบที่ไม่ถูกจริต กฎกติกาของการจราจรญี่ปุ่น ถ้ามาเช่ารถขับเอง .. คงทะเลาะกับตำรวจของที่นี่เป็นแน่
และแน่นอน คนขับอดถ่ายภาพ ผิดจริตของ จขบ. ที่ไป road trip ต้องจับกล้องตลอดเวลา ภาพที่ถ่ายมาดีบ้างเลวบ้างแต่ถือเป็นเรื่องสนุก

ระหว่างที่หาข้อมูลรถเช่าพร้อมคนขับที่ฮอกไกโด ก็ไปเจอเพจของน้องอ้น หนุ่มไทยในเมืองแห่งซีกตะวันออกของเกาะฮอกไกโด
เพจ ฮอกไกโดตะวันออก-East Hokkaido



หนุ่มไทยคนนี้ อยู่ฮอกไกโดมา 17 ปี เชี่ยวชาญเส้นทางการท่องเที่ยวแถบตะวันออกของฮอกไกโดเป็นอย่างดี ภาพถ่ายของน้องในสถานที่ต่าง ๆ เปิดโลกทัศน์เกี่ยวกับภูมิภาคฝั่งตะวันออกของฮอกไกโดเลย

เมื่อลองคุยกับน้องผ่านหลังไมค์ของ Facebook … น้องยินดีทำทริปถ่ายภาพสำหรับพวกเรา ตากล้องมือสมัครเล่นที่สุดแสนจะอินดี้ ... Road trip by Aon จึงบังเกิด


จากสมาชิก 4 คน เพิ่มเป็น 6 คน แล้วเพิ่มเป็น 7 คน ... ก่อนถึงวันนัดเดินทางกับน้องอ้นแค่ 2 วัน ... สมาชิก 3 คน ติดโควิด มาไม่ได้ เหลือสมาชิกตามเริ่มต้นคือ 4 คน

อลม่านกันถ้วนทั่ว ต้องขอบคุณน้องอ้น ที่จัดการปรับเปลี่ยนทริปอย่างรวดเร็ว โดยคำถึงเงินในกระเป๋าของพี่ ๆ เป็นสำคัญ น้องยอมขับรถไกลขึ้น ตื่นเช้ากว่าเดิม เพื่อประหยัดค่าโรงแรม เอาเงินที่เหลือไปหาอะไรอร่อย ๆ กินกัน

เริ่มต้นทริป 3 วัน 2 คืน โดยน้องอ้นพาเที่ยว เริ่มต้นที่สถานีรถไฟ JR Kushiro station




เราเดินทางออกจาก Sapporo มาถึง Kushiro ตอนบ่าย ๆ ด้วยรถไฟ Ozora Limited Express to Kushiro รอบแรกรอบเช้า : 8.52 - 13.20 น. จองที่นั่งมาเรียบร้อย ตู้ไม่จองมีแค่ตู้เดียว ไม่อยากเสี่ยงกับการยืน คนขึ้นลงตลอดสายเลยค่ะ

ข้าวปลาไม่ได้กิน เพราะคาดการณ์ผิด ตอนขึ้นรถยังไม่หิว พอหิวก็ไม่มีรถมาขายของในรถไฟเหมือนรถไฟ limited edition ที่เคยนั่ง พอถึงปุ๊บ น้องอ้นได้ยินคำแรกคือ พี่หิว

น้องอ้นมารับเราด้วยรถ Saburu Forester ของน้องเอง (บอกคืนรถเช่า Toyota Hiace ได้ทันเวลาแบบฉิวเฉียด)




น้องพาเราไปรับอาหารง่าย ๆ คือ ราเม็ง ที่ร้าน Yamaokaya Kushiro


ราเม็งชามใหญ่มาก ... สั่งเป็นชุดพร้อมข้าวหน้าหมูชาชู เอามาแบ่งกัน


เส้นทางการเดินทางของเราในวันนี้ค่ะ



หลังจากที่เราขับรถผ่านทะ่ลสาบส่วนหนึ่งของอุทยานแห่งชาติคูชิโระชิตสึเง็ง Kushiro-Shitsugen อุทยานแห่งชาติที่มีพื้นที่ที่มีระบบนิเวศน์ชุ่มน้ำขนาดใหญ่



เราก็เข้าสู่เมือง Teshikaga .. น้องอ้นเรียกแบบน่ารักว่า เทชิกาก้า .. จำได้ดีเลยค่ะ แปลกหูไปจากภาษาญี่ปุ่น

แวะชิมไอศกรีมอร่อย ๆ ที่ร้าน ร้าน Mashuko no Ice 摩周湖のあいす



ไอศกรีมมีหลายรสค่ะ จัดไปก่อน นมฮอกไกโด แถบนี้เลี้ยงวัวนม แน่นอน ไอศกรีมได้รสนมเข้มข้นมาก หอม ไม่คาว





ออกจากร้านไอศกรีม เราก็มุ่งหน้าสู่ทะเลสาบคุชชะโระ Kussharo lake

วิวดีระหว่างทาง






แต่แล้ว เราก็เจอถนนสายซากุระเล็ก ๆ .. จอดรถสิคะ ไม่รอช้า









นอกจากน้องอ้นจะขับรถพาเที่ยวแล้ว ยังเป็นตากล้องถ่ายภาพให้พวกเราอีกด้วย
ลำพังแค่พวกเราเอง จะมีรูปคนน้อยมาก เพราะถนัดถ่ายวิว ถ่ายดอกไม้มากกว่าคน









เราถ่ายเองก็จะประมาณนี้





จะเจอกันกี่ครั้งก็ตัวเบา ๆ ใจฟู ๆ ตลอด ... เจ้าซากุระเนี่ย

พิกัดที่เจอคือ ทางไป Wakoto penisula แหลมที่เป็นติ่งเนื้องอกยื่นเข้าไปในทะเลสาบคุชชะโระ ค่ะ

น้องอ้นขับรถผ่านเส้นทางสวยงามยามเย็นเพื่อไปให้ถึงทะเลสาบคุชชะโระ






แล้วเราก็มาเก็บแสงเย็นที่ทะเลสาบคุชชะโระ ฝั่ง Bihoro Pass Observatory



ดินฟ้าอากาศประเทศนี้ .. เอาแน่เอานอนไม่ได้ แต่พยากรณ์ไว้ได้ วันนี้ฟ้าไม่ได้เปิดทั้งวัน .. เมฆเยอะไปหน่อย .. สะสมแต้มบุญกันเยอะ ๆ นะคะ




ทะเลสาบคุชชะโระ(Lake Kussharo) เป็นทะเลสาบที่อยู่ภายในอุทยานแห่งชาติอะกัง เป็นทะเลสาบที่ใหญ่ที่สุดของอุทยาน มีเส้นรอบวง 57 กิโลเมตร มีจุดให้ชมวิวหลายจุด จุดที่เรามาชมชื่อว่า Bihoro Pass เราขึ้นมาชมวิว ยังไม่มีกิจกรรม trekking ใด ๆ





แสงเย็นมา และลมก็หนาว ลมแรง ..

พระอาทิตย์ตกอีกฝั่ง ที่ไม่ใช่ริมทะเลสาบ











เก็บแสงเย็นจนพอใจแล้วก็กลับค่ะ เข้าห้องน้ำห้องท่าให้เรียบร้อย
ห้องน้ำของที่นี่ นอกจากจะสะอาดแล้ว ป้ายสัญลักษณ์ต่าง ๆ ยังน่าเอ็นดู
ใช้สัตว์ป่าแถวนี้เป็นนางแบบนายแบบ



เราจะไปนอนที่เมืองนากะชิเบ็ตสึ (Nakashibetsu) ที่โรงแรมใกล้ ๆ บ้านของน้องอ้นค่ะ

จากเดิมที่เราจะพักที่คาวายุออนเซ็น (Kawayu onsen) ที่อยู่กึ่งกลางระหว่างทะเลสาบคุชชะโระ (Lake Kussharo) และทะเลสาบมะชู (Lake Mashu) ที่เราจะไปชมพระอาทิตย์ขึ้นในวันรุ่งขึ้น

น้องพาแวะนิดนึง ไปชม ภูเขาไฟอิโอซัง (IO zan) ตั้งอยู่ด้านนอกของ Kawayu Onsen



ภูเขาไฟอิโอซัง (Iozan Volcano) หรือที่หลายๆคนรู้จักกันในชื่อว่า “ภูเขาไฟซัลเฟอร์” ภูเขาแห่งนี้ยังคงมีการปะทุจนถึงในปัจจุบัน

ที่นี่เค้าจะเปิดให้นักท่องเที่ยวได้เข้าใกล้ปล่องภูเขาไฟในระยะใกล้แต่ก็อยู่ในระยะที่ปลอดภัยด้วยนะคะ โดยการเดินไปรอบๆ ซึ่งเส้นทางการเดินชมที่ยาวที่สุด เป็นเส้นทางเรียบๆไม่ลำบากนักมือใหม่ก็เดินได้สบายมาก ระหว่างทางจะผ่านพุ่มไม้ต่ำๆ และพื้นที่ป่าไม้ ยาวประมาณ 2.5 กิโลเมตร นำไปสู่ Kawayu Onsen

เราไม่ได้เดินหรอกค่ะ ค่ำแล้ว ดูไว้เผื่ออยากมาอีก







หลังจากนั้นน้องอ้นก็ขับรถยิงยาวไปเมือง Nakashibetsu เลย
เดี๋ยวมาเล่าต่อว่า ร้านนวด Thai smile ของน้องอ้น กับโรงแรม Arm Mominoki จะเป็นอย่างไรบ้าง

เวลาครึ่งวันบ่าย ได้ดูชมอะไรเยอะแยะมากมายเลย

ทริปนี้ดีต่อใจ

ตอนที่ 1 เก็บแสงยามเย็นที่ทะเลสาบคุชชะโระ Kussharo Lake

ตอนที่ 2 ตะวันตื่นที่ Mashu Lake

ตอนที่ 3 นะคะชิเบ็ตสึ Nakashibetsu เมืองนี้มีดีหลายอย่าง


ตอนที่ 4 Notsuke Peninsula คาบสมุทรโนะซึตเกะ


ตอนที่ 5 Rausu ระอุสุ ... ประตูสู่อุทยานแห่งชาติชิเระโตโกะ Shiratoko National Park

ตอนที่ 6 อยากไปต้องได้ไป Shiretoko National Park

Create Date : 20 พฤษภาคม 2566
Last Update : 9 กันยายน 2566 20:00:23 น.		4 comments
Counter : 643 Pageviews.
(โหวต blog นี้)  Share Tweet