เส้นทางแห่งแสง ศาลเจ้า Miyajidake แห่งฟุกุโอกะ
“เส้นทางแห่งแสง” (Path of Light) ศาลเจ้ามิยาจิดาเกะ Miyajidake แห่งฟุกุโอกะ

ศาลเจ้าสีทองยามพระอาทิตย์ลับขอบฟ้า ณ ฟุกุโอกะ ในช่วงกุมภาพันธ์และตุลาคมของทุกปี ดวงอาทิตย์จะส่องแสงตรงแนวถนนทางเข้าศาลเจ้าไปจนถึงชายหาดมิยาจิฮามะ ทะเลเก็นไค

แต่เราไปเดือนพฤษภาคม .. ก่อนหน้าฤดูดอกไอริสบาน คนน้อย แสงตะวันตกไม่ตรงช่องทางเข้าศาลที่ตรงดิ่งไปถนนลงทะเล
แถมวันที่ไป ฟ้าปิด .. ดังนั้น เราไม่รอจนเย็น
ความเดิม จากที่เราไป เกาะแมว เริ่มต้นการเดินทางจาก JR Fukko Daimae เราก็นั่งรถไฟขบวนเดิม ไปลงที่สถานี JR Fukuma
ออกจากสถานีฝั่ง West exit (Miyaji gate) ไปต่อรถเมล์ลงที่ป้าย Miyajidake Miya Mae (2.5 กม.) 6 นาที 4 ป้าย มีรถเมล์ 2 สายที่ไปจอดป้ายนี้ คือ สาย 1-1 (210 เยน) และ 26 (200 เยน)

ขากลับก็ไปขึ้นรถฝั่งตรงข้าม ด้านข้างร้านถ่ายรูปร้านนี้

รถเมล์รอบกลับเข้าสถานี JR Fukuma (ขามาถ่ายไม่ทัน รถเมล์มาพอดี)

จากป้ายรถเมล์ เดินไปศาลเจ้า จับทิศไม่ยากค่ะ เดินตรงไปหาสี่แยก แล้วเลี้ยวขวาขึ้นไป มองกลับมาจะเห็นถนนสายตรงสู่ทะเล

เรามาถึงตอนบ่าย 3 ถนนเส้นทางสู่ศาลเจ้า มีร้านรวงต่าง ๆ 2 ข้างทาง เป็นร้านอาหารและร้านขายของฝาก เราได้แค่ชิมซอฟท์โคน

ทางขึ้นศาลเจ้า กำลังถูกประดับด้วยต้นไอริส.. เดิมเข้าใจว่าเค้าทำเป็นร่องปลูกต้นนี้ไว้ถาวร
แต่ไม่ใช่ค่ะ เค้าเอากระถางไอริสมาเรียงต่อ ๆ กัน จนเป็นกลุ่มใหญ่ รอดอกเบ่งบานในเดือนมิถุนายน

ศาลเจ้ามิยาจิดาเกะ (Miyajidake Shrine) เป็นศาลเจ้าของศาสนาชินโต มีประวัติศาสตร์ความเป็นมา นับย้อนหลังไปได้ถึง 1,700 ปี เลยทีเดียว โดยศาลเจ้าชินโตแห่งนี้ ถูกสร้างขึ้นเพื่ออุทิศให้แก่จักรพรรดินีจินกุ (Empress Jingu) จักรพรรดินีในตำนานของประเทศญี่ปุ่น

จุดชมดวงอาทิตย์ตกที่สวยงามที่สุดนั้น อยู่บริเวณบันไดทางขึ้นศาลเจ้า ที่นักท่องเที่ยวนั้น สามารถชมดวงอาทิตย์ยามเย็น ที่ค่อยๆ ลดระดับ ลาลับไปกับขอบฟ้าที่กำลังไล่เฉดสี

ที่นี่เป็นศาลเจ้าหลักของศาลเจ้ามิยาจิดาเกะซึ่งได้รับการบูชาทั่วประเทศเพราะได้รับการเคารพบูชากันว่าเป็น "เทพเจ้าแห่งการเปิดดวงที่สามารถเอาชนะได้ทุกสิ่งและค้าขายรุ่งเรือง"




พ้นประตูนี้ไป ก็จะพบกับศาลเจ้า


ศาลเจ้ามิยาจิดาเกะมีสิ่งที่เป็นอันดับ 1 ในญี่ปุ่นถึง 3 อย่าง
อันดับหนึ่งในญี่ปุ่นอย่างแรกก็คือ เชือกถักขนาดยักษ์ โอชิเมะนาวะ (大注連縄 / ooshimenawa) ซึ่งแขวนอยู่ที่เรือนสักการะ มีเส้นผ่านศูนย์กลาง 2.6 เมตรและยาว 11 เมตร ทุกปีจะมีการทำชิเมะนาวะใหม่โดยมัดฟางจากข้าวที่ปลูกในนาข้าวของศาลเจ้า (御神田 โอมิตะ นาข้าวที่ศาลเจ้าเป็นเจ้าของ) ซึ่งมีพื้นที่ 2 ตัน (反 = ประมาณ 1980 ตารางเมตร) โดยมีผู้คนกว่า 1,500 คนซึ่งมีความใกล้ชิดกับศาลเจ้ามิยาจิดาเกะร่วมกันอาสามาทำชิเมะนาวะ
อันดับ 2 คือ กลองขนาดใหญ่ที่มีเส้นผ่านศูนย์กลาง 2.2 เมตร ถือเป็นกลองที่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่นที่ทำจากวัสดุภายในประเทศทั้งหมด ตัวกลองทำจากไม้ไซเปรส (ฮิโนกิ) ในประเทศ พร้อมเคลือบเงาหลายชั้นบนพื้นผิว หนังที่ใช้สำหรับกลองไทโกะคือหนังของวัวญี่ปุ่นที่มีการฟอกเพื่อทำกลองไทโกะโดยเฉพาะ
และอันดับ 3 คือ ระฆังทองแดงที่มีน้ำหนัก 450 กิโลกรัม ในอดีตเคยถูกจัดแสดงในเรือนสักการะพร้อมกับชิเมนาวะขนาดใหญ่ แต่ตอนนี้ได้มีการการทำหอระฆัง (鈴堂 / Suzudo) เป็นของตัวเองเพื่อเก็บรักษาระฆังนี้

บริเวณในศาลเจ้ามีจุดให้บูชาเครื่องราง และมู หลายจุด
พร้อมกับ การตกแต่งบริเวณที่ว่างหน้าศาลเจ้าด้วยต้นไอริส


พอถึงเดือนมิถุนายน ต้นไอริสพวกนี้จะออกดอกสีม่วงบานสะพรั่งเต็มลานศาลเจ้า


บริเวณศาลเจ้าด้านใน เราได้แต่เดินดูรอบนอก


พอสมควรแก่เวลา ไม่รอฟ้ามืด เราก็กลับเข้าสถานี JR Hakata station ค่ะ แวะไปดูแสงเย็นบนดาดฟ้าชั้น 10 ของ JR Hakata station ... ฟ้าก็ยังไม่เปลี่ยนสีค่ะ ฤดูนี้พระอาทิตย์ตกตอน 1 ทุ่มกว่า .. ไม่รอล่ะ


ไปจัดการมื้อเย็น แล้ววางแผนเที่ยววันต่อไปค่ะ
สารบัญ
ตอนที่ 1 Package Flight & Hotel ... ที่ Fukuoka
ตอนที่ 2 เกาะแมว คิวชู Ainoshima Island
Create Date : 08 มิถุนายน 2568 |
Last Update : 8 มิถุนายน 2568 19:23:52 น. |
|
0 comments
|
Counter : 346 Pageviews. |
 |
|