[เกมรำพัน] Singularity : อา... เจ้าแห่งเวลา
ครานี้ ข้าพเจ้าจะรำพันถึง Singularity (2010) อีกหนึ่งเกมที่ขายไม่ค่อยดี แต่จริงๆแล้วมันสนุกเอาการ


อา... การเป็นเจ้าแห่งเวลานั้น มันมีรสชาติเยี่ยงไรกัน

การย้อนเวลาเป็นคอนเซ็ปท์ยอดนิยมของหนัง, นิยาย, เกม หรือการ์ตูนแนว sci-fi มาตลอด ทั้ง Back to the Future เอย, Butterfly Effect เอย, Steins;Gate เอย... โอย มากมายเต็มไปหมด

Singularity เป็นเกมที่คนเล่นหลายคนมองข้ามเพราะว่ากันว่า Activision (ผู้จัดจำหน่ายเกมดังๆอย่าง Call of Duty ทุกภาค) ไม่ค่อยจะโปรโมทเกมนี้เท่าไหร่ ซึ่งหากดูประวัติแล้วก็ไม่น่าแปลกใจแต่อย่างใด ทางผู้สร้างเกมออกมาบอกว่า Singularity นั้นมีปัญหาตั้งแต่ขั้นตอนการพัฒนาเกม แล้วทาง Activision ก็เกือบจะแคนเซิลมันแล้ว...

แต่คนที่ได้เล่นหลายคน ส่วนใหญ่จะออกปากว่า "เฮ้ย ก็เจ๋งดีนี่"



Singularity เป็นเหมือนลูกผสมของ Bioshock กับ Half-life มันไม่ได้มีคอนเซ็ปท์อะไรที่แปลกใหม่ไปกว่าเกม First Person Shooter ทั่วๆไป การย้อนเวลาภายในเกมก็ไม่ได้สร้างสรรค์ทิศทางอะไรใหม่ๆเป็นพิเศษ

แต่ให้ตายเถอะ ข้าพเจ้าเห็นด้วยกับบรรดาคนที่ออกปากชมเกมนี้

มันเจ๋งดีว่ะ




ตอนแรกที่ข้าพเจ้าซื้อเกมนี้จาก Steam ข้าพเจ้ารู้แต่ว่ามันเป็นเกม FPS มันมีศัตรูเป็นพวกสัตว์ประหลาด ซึ่งก็โอเค ทั้งหมดนี่เป็นสิ่งที่ตรงความต้องการอยู่แล้ว

แต่พอเริ่มเกม มันกลับมีอีกอารมณ์หนึ่งเพิ่มเข้ามาจนทำให้ข้าพเจ้าผิดคาดไปไม่น้อย และรู้สึกผิดหวังหน่อยๆด้วย

ข้าพเจ้าคาดหวังแอ็กชั่นอารมณ์ Call of Duty หรือ Wolfenstein แต่มันกลับกลายเป็นเกมแอ็กชั่น-ไซไฟ-สยองขวัญซะงั้น!

ใช่แล้ว ไอ้ที่ผิดคาดคือตรง "สยองขวัญ" นี่แหละ

เรื่องราวของ Singularity เริ่มต้นที่ยุค 50 ซึ่งเป็นช่วงเริ่มสงครามเย็นหมาดๆ ตอนนั้นอเมริกามีขุมพลังยิ่งใหญ่อยู่ในมือคือระเบิดปรมาณู ดังนั้นทางสหภาพโซเวียตที่นำโดยโจเซฟ สตาลินเลยคิดจะเอากับเขาบ้าง สั่งให้นักวิทยาศาสตร์ลงมือทดลองเพื่อค้นหาสุดยอดอาวุธมาต่อกรกับอเมริกาผู้ชั่วช้า




และที่เกาะเล็กๆเกาะหนึ่งที่เรียกกันว่า Katorga-12 (คาทอร์ก้า-12) นักวิทยาศาสตร์ของฝั่งโซเวียตก็ได้พบแร่ประหลาดที่เรียกกันว่า "Element 99" หรือย่อๆคือ "E-99" แร่ที่ซุกซ่อนแหล่งพลังงานอันเหลือเชื่อเอาไว้ข้างใน




ทว่าเมื่อปี 1955 เกาะคาทอร์ก้า-12 กลับเกิดหายนะปริศนาขึ้น สุดท้ายรัฐบาลจึงลบคาทอร์ก้า-12 ออกจากแผนที่ แล้วปกปิดข่าวหรือลบหลักฐานทุกอย่างเกี่ยวกับ E-99 ให้หมด

ในปี 2010 คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าที่ปะทุขึ้นแบบกะทันหันจากเกาะคาทอร์ก้า-12 ได้สร้างความเสียหายให้กับดาวเทียมสอดแนมของอเมริกา ทางกองทัพอเมริกาจึงส่งหน่วยปฏิบัติการลับไปตรวจสอบที่เกาะ หนึ่งในนั้นคือตัวเอกของเกม ผู้กองเนธาเนียล เรนโก้

แล้วตอนนั้นเอง คลื่นกระแสไฟฟ้าก็เกิดการปะทุขึ้นรอบสอง ทำให้เฮลิคอปเตอร์เกิดขัดข้องอย่างหนักจนต้องโหม่งพื้นโลก!





เรนโก้พบว่าตัวเองอยู่บนเกาะลึกลับเพียงลำพัง ส่วนเพื่อนของเรนโก้ที่โดยสารมาด้วยอีกคนคือเจมส์ เดฟลิน รอดชีวิตอยู่ที่ไหนสักแห่งภายในเกาะ ขณะที่เรนโก้กำลังสำรวจเกาะ จู่ๆก็เกิดคลื่นพลังประหลาดขึ้นอีก ส่งให้เขาย้อนเวลากลับไปยังปี 1955!!




ท่ามกลางอัคคีภัยในปี 1955 เรนโก้ได้ไปช่วยชายที่ชื่อ "เดมิเชฟ" เอาไว้ก่อนจะถูกส่งกลับมายังปี 2010 ด้วยคลื่นพลังลึกลับเหมือนเดิม

แต่แล้วเขาก็สังเกตเห็นการเปลี่ยนแปลงที่น่าสงสัย... ไฉนอนุสรณ์สถานของสตาลิน ถึงกลับกลายเป็นตัวเดมิเชฟไปได้? หรือว่าประวัติศาสตร์ได้เปลี่ยนไปแล้ว?





จากนั้นเรนโก้ก็ได้เผชิญหน้ากับ "สิ่งมีชีวิต" อันน่าพรั่นพรึง!!

หลังจากตรงนี้ไป เกมที่ข้าพเจ้าคาดหวังว่าจะเป็นเกมแอ็กชั่น ก็ได้กลายเป็นเกมสยองขวัญเหมือน Resident Evil หรือ Bioshock ไปเสียอย่างนั้น!!

บรรยากาศของเกมแวดล้อมด้วยบ้านเมืองที่ถูกทิ้งร้างจนเสียหาย บรรยากาศขมุกขมัว แถมยังมีตัวประหลาดอะไรสักอย่างโผล่มาตุ้งแช่ข้าพเจ้าเป็นระยะๆ

ไหงกลายเป็นเกมสยองขวัญไปได้ล่ะ?



ข้าพเจ้าผิดเองที่ก่อนเล่นเกมไม่ได้หาข้อมูลให้ชัดเจนกว่านี้ ข้าพเจ้าไม่ได้มีปัญหากับเกมสยองขวัญ เพราะข้าพเจ้าก็เล่น Resident Evil หรือ Silent Hill เหมือนกัน เพียงแต่... 

ข้าพเจ้าคาดหวังว่าโทนเกมจะเป็นแอ็กชั่น เปิดมามีสัตว์ประหลาดพุ่งมาทำร้ายเรา แล้วก็เราก็สาดปืนกลปังๆๆๆๆอย่างเมามันตามประสาเกมแอ็กชั่น

ดังนั้นข้าพเจ้าจึงผิดหวังที่มันกลายเป็นเกมสยองขวัญที่ข้าพเจ้าต้องใช้ปืนพกกระบอกเดียวรับมือกับสัตว์ประหลาดแบบเกม RE หรือ SH...

แต่เดี๋ยวก่อน! เกมมันยังเพิ่งเริ่มต้นเท่านั้นมิใช่หรือ? พอคิดได้แบบนั้น ข้าพเจ้าจึงเล่นต่อไป แล้วไม่ทันไร จังหวะของเกมก็ชักจะเริ่มเข้าท่าขึ้นเรื่อยๆ 

หลังเผชิญหน้ากับสัตว์ประหลาดสักระยะ ข้าพเจ้าก็ได้อาวุธปืนกลมาครอบครอง! สักพักข้าพเจ้าก็ได้ปืนลูกซองมาเสริมกำลัง ทำให้สู้กับพวกสัตว์ประหลาดได้สนุกขึ้น! แถมยังได้เพื่อนร่วมรบอย่างเดฟลินมาช่วยอีกแรงด้วย หายเหงาขึ้นเยอะ!

ฮ่า! แบบนี้ค่อยยังชั่วหน่อย!




นอกจากเผชิญหน้ากับสัตว์ประหลาดปริศนาแล้ว ข้าพเจ้ายังต้องเผชิญหน้ากับศัตรูที่เป็นทหารของรัสเซียด้วย! โอเคเลย! นี่แหละที่ต้องการ!

แล้วไม่ทันไรข้าพเจ้าก็ต้องใจฝ่อลงอีกครั้ง... เรนโก้กับเดฟลินถูกทหารที่นำโดยเดมิเชฟจับตัว แล้วเหตุการณ์หลังจากนี้ก็ทำให้ข้าพเจ้าต้องเผชิญหน้ากับสิ่งต่างๆอย่างโดดเดี่ยวตามลำพังอีกแล้ว... ฮือ...



แต่เดี๋ยวก่อน! เกมมันยังไปไม่ถึง "ของจริง" เลยนะ! ใช่... นี่มันยังแค่ "เกริ่นนำ" เท่านั้น


เรนโก้ได้รับความช่วยเหลือจากหญิงสาวชื่อแคทรีน เธอเฉลยว่าตัวเองทำงานให้กับองค์กรที่เรียกว่า MIR-12 

ทาง MIR-12 เล่าประวัติสำคัญให้ฟังว่าเมื่อปี 1955 มีนักวิทยาศาสตร์สองคนช่วยกันวิจัยแร่ E-99 คือวิคเตอร์ บาริซอฟกับนิโคไล เดมิเชฟ... ใช่แล้ว เดมิเชฟที่เรนโก้ช่วยชีวิตเอาไว้เมื่อตอนย้อนเวลาครั้งแรกนั่นเอง




ก่อนบาริซอฟจะตาย เขาได้สร้าง "อุปกรณ์ที่สามารถควบคุมเวลา" ขึ้นมา และเรียกมันแบบทื่อๆ แปลได้ความหมายตรงตัวตามที่บอกไปเมื่อกี้ว่า Time Manipulation Device หรือ TMD

ในบันทึกของ MIR-12 ระบุว่า คนที่จะจัดการเรื่องนี้ได้ มีเพียงแค่เรนโก้เพียงคนเดียวเท่านั้น เป้าหมายของเรนโก้จึงเป็นการไปค้นหา TMD ย้อนเวลากลับไปยังปี 1955 เพื่อช่วยชีวิตบาซิรอฟเอาไว้ แล้วหาทางหยุดยั้งแผนการของเดมิเชฟเอาไว้ให้ได้! 






ตรงนี้นี่เอง เกม Singularity ถึงจะเริ่มขึ้นอย่างแท้จริง!

อา... การเป็นเจ้าแห่งเวลานั้น รสชาติมันเป็นเยี่ยงไรกัน?


ใครเคยเล่นเกม Bioshock กับ Half-life จะเข้าใจอารมณ์ที่ข้าพเจ้าว่ามาทั้งหมด รวมถึงระบบเกมที่จะเกิดขึ้นหลังจากนี้ด้วย

Singularity เป็นเกมที่ว่าด้วยผลกระทบจากการย้อนเวลาก็จริง แต่มันไม่ได้หมายความว่าผู้เล่นจะย้อนเวลากลับไปได้ตามใจชอบ การกระทำของข้าพเจ้าไม่ได้มีผลกระทบที่หลากหลายต่อตัวเกมเหมือน Dishonored 

ทุกอย่างเดินเป็นเส้นตรง การย้อนเวลาถูกกำหนดไว้โดยภารกิจของเกม ยกเว้นแต่ตัวเลือกในตอนท้าย

ใช่ ฉากจบของเกมนี้หลักๆแล้วมีสามแบบ และอิสระในการเลือกเส้นทางตอนจบ มีแค่ช่วงท้ายของฉากไคลแม็กซ์ฉากเดียวเท่านั้น

ดังนั้นตลอดทั้งเกม สิ่งที่เราต้องทำมีเพียงแค่...

1. การวิ่งไปยังจุดต่างๆตามที่เกมกำหนด ระหว่างนั้นก็ยิงศัตรูที่ดาหน้าเข้ามาขวางทาง



2. ค้นหา Weapon Tech ที่เอามาใช้สำหรับอัพเกรดอาวุธ และค้นหา E-99 Tech ที่ตกอยู่บนพื้นบ้าง ซ่อนอยู่ในห้องลับบ้าง เพื่อจะอัพเกรดอุปกรณ์ TMD



เมื่อข้าพเจ้าได้ TMD มาครอบครอง เกมจะค่อยๆมอบความสามารถเจ๋งๆให้กับ TMD ดังนี้

Smiley สร้างรอยเท้าเรืองแสงเพื่อบอกว่าข้าพเจ้าควรจะเดินไปไหนต่อ



Smiley เปลี่ยนสภาพสิ่งของบางอย่าง อาทิ กล่องหรือบันได ให้กลับไปกลับมาระหว่างการมีสภาพดีกับสภาพบุบบี้หรือพังทลายได้ ตรงนี้มีส่วนสำคัญในการไขปริศนาพอสมควร



Smiley ยิงคลื่นพลังใส่ศัตรูเหมือน Iron Man



Smiley เปลี่ยนสภาพศัตรูให้ "ตายเร็วขึ้น" ได้เหมือนกับสิ่งของ



Smiley เปลี่ยนทหารที่เป็นมนุษย์ให้กลายเป็นสัตว์ประหลาดที่โจมตีในระยะไกลไม่ได้ ทำให้ข้าพเจ้ามีเวลายิงจากระยะไกลได้เต็มที่



Smiley สามารถึงดึงดูดวัตถุให้เข้ามาใกล้ตัว แล้วยิงออกไปโจมตีใส่ศัตรูได้ เช่น ถังน้ำมัน เป็นต้น เหมือนกับปืนแรงดึงดูดของ Half-life 2 นั่นเอง



Smiley ความสามารถ Deadlock สามารถสร้างสนามพลัง ทำให้สิ่งที่อยู่ในโดมมีการเคลื่อนไหวที่ช้าลง แล้วข้าพเจ้าก็จะมีเวลาระดมกระสุนยิงใส่ศัตรูพร้อมกับยิงกระสุนระเบิดเข้าไปข้างในโดม ก่อนจะให้ทุกอย่างทำงานพร้อมกันได้!



จะเห็นว่าถึงแม้เกมนี้จะไม่เอื้ออำนวยให้ข้าพเจ้าย้อนเวลาไปสร้างตัวเลือกต่างๆได้ แต่เครื่อง TMD ก็ถือเป็นไฮไลท์ที่ทำให้เกม Singularity สนุกขึ้นมากมาย

นอกจากนี้การอัพเกรดอาวุธยังทำให้ยิงศัตรูได้สนุกกว่าช่วงแรกๆของเกมเยอะ



ดังนั้นความผิดหวังของข้าพเจ้าจึงค่อยๆเปลี่ยนเป็นความบันเทิงมากขึ้นเรื่อยๆ พอถึงตอนท้าย ข้าพเจ้าก็ชักจะเมามันกับการระบบการยิงและการใช้ TMD ควบคู่กันไปเสียแล้ว

แล้วยังมีตอนสู้กับบอสอีก

เกมนี้มีบอสในบางจุด และถึงแม้จะไม่ได้สร้างสรรค์อะไรมาก แต่ก็บันเทิงใช้ได้ ส่วนใหญ่จะเหมือนๆกันคือหาจุดอ่อนที่จะใช้ยิงมันให้เจอก็พอ หรือไม่ก็หาทางรับมือกับการโจมตีแล้วหาทางโจมตีกลับด้วยการใช้อาวุธกับ TMD ผสมกัน

ธรรมดา แต่สนุกดี






เมื่อมีสมหวังย่อมมีผิดหวัง

ข้าพเจ้าค้นพบว่าการที่ไม่สามารถเซฟเองได้นั้น มันน่าหงุดหงิดเพียงใด แถมระบบออโต้เซฟของเกม ยังน่ารำคาญพอสมควรด้วย

ทำไมน่ะหรือ?

ลองนึกง่ายๆ หากข้าพเจ้าอุตส่าห์เล่นเกมไปจนเจอ Weapon Locker เครื่องอัพเกรดอาวุธ แล้วข้าพเจ้าอุตส่าห์ไปหา Weapon Tech มาจนสามารถอัพเกรดอาวุธได้... แล้วถ้าเกิดหลังจากนั้นข้าพเจ้าตายไปก่อนที่ตัวเกมจะออโต้เซฟ มันจะเกิดอะไรขึ้น?

เกิดอะไรขึ้นน่ะหรือ? ก็ต้องเริ่มเล่นกระบวนการนั่นใหม่ตั้งแต่จุดเช็คพอยท์ครั้งสุดท้าย นั่นคือต้องไปค้นหา Weapon Tech อีกรอบ แล้วก็วิ่งกลับไปที่ Weapon Locker อีกรอบ แล้วก็อัพเกรดอาวุธอีกแล้ว

ถ้าข้าพเจ้าตายหลังจากนั้นอีกเหมือนเดิมล่ะ?

ก็ต้องเริ่มกระบวนการนั้นใหม่รอบสามน่ะสิ!

ฮ่วย!

ทำไมมันไม่ออโต้เซฟตอนหลังจากอัพเกรดอาวุธหรือ TMD แล้วด้วยล่ะ?

นี่คือจุดแรก

จุดที่สองคือ ศัตรูที่เป็นทหาร

ศัตรูที่เป็นทหารจะเหมือนกับ Call of Duty คือเน้นจำนวนกับการระดมยิงเป็นหลัก แต่ปัญหาจริงๆคือ ศัตรูส่วนใหญ่มีแพทเทิร์น และ A.I. ของศัตรูก็ไม่ได้ฉลาดนัก

มีบ้างที่ทหารจะเดินเข้ามาหาข้าพเจ้า แต่ส่วนใหญ่จะคอยหลบอยู่หลังอะไรสักอย่าง หรือไม่ก็อยู่ในตำแหน่งเดิมๆไม่ยอมเปลี่ยนที่ ถ้าไม่นับเรื่องห่ากระสุนที่ระดมเข้ามา ข้าพเจ้าไม่ได้มีปัญหาในการรับมือกับทหารพวกนี้นัก และการที่มันวิ่งมาเป็นแพทเทิร์น ถ้าหากข้าพเจ้าตายแล้วกลับไปเริ่มตรงเช็คพ้อยท์ล่าสุดใหม่ แล้วข้าพเจ้ายังจำตำแหน่งที่ทหารจะวิ่งมาได้ ข้าพเจ้าก็จะไม่มีปัญหาในการรับมือกับศัตรูอีกต่อไป

บางครั้งก็เจอทหารหลบอยู่อย่างนั้น ถ้าไม่วิ่งเข้าไปใกล้ก็ไม่ยอมยิงออกมา



บางครั้งข้าพเจ้าก็เจอทหารหันหลังเข้ากับผนัง ไม่ยอมโผล่หน้าออกมายิงข้าพเจ้า




ขาดอรรถรสไปพอสมควรทีเดียว...


รสชาติของการเป็นเจ้าแห่งเวลานั้นเป็นเยี่ยงไรกัน?

ข้าพเจ้าชอบเนื้อเรื่องของมัน เนื้อเรื่องของ Singularity มีกลิ่นอายแบบหนังไซไฟเกรด B อยู่ ทั้งเรื่องการทดลองที่ผิดพลาด, สัตว์ประหลาดเต็มเกาะ, วิทยาศาสตร์แบบหลุดขั้ว... แต่นั่นไม่ใช่ปัญหาของข้าพเจ้าเลย



แล้วตอนจบทั้งสามแบบก็ล้วนมีความน่าสนใจในแบบตัวเอง

มันมีตอนจบแบบ "ชั่วร้าย" (บางคนเรียก Bad end) ตามมาตรฐาน

ส่วนตอนจบอีกสองแบบเหมือนจะดี แต่กลับคลุมเครือทางด้านศีลธรรม มันไม่มีตอนจบแบบ "ดีเลิศ" สุดๆ ทุกตอนจบจะมีประเด็นอะไรให้ข้าพเจ้าต้องรู้สึกค้างคาใจจนต้องคอยครุ่นคิดถึงมัน ไม่ยอมออกจากหัวไปเสียที

Singularity "พยายามจะเป็น" Bioshock โดยรวมแล้วมันไม่สามารถจะเป็น Bioshock ได้ แถมความเหมือนเกินไปจนไร้ความโดดเด่นยังกลายเป็นปัญหาในแง่การขายอีก...

แต่มันมีตอนจบที่ดีกว่า Bioshock แน่ๆ! (แค่นึกถึง Good Ending ของ Bioshock ภาคแรกก็รู้สึกว่ามัน... แปลกๆพิลึกแล้ว)

รสชาติของการเป็นเจ้าแห่งเวลาในครั้งนี้ คือความบันเทิงแบบ old school ที่แฟน FPS Action/Sci-fi/Horror ต้องคุ้นเคย ซ้ำยังมีเนื้อเรื่องที่น่าสนใจและตอนจบที่ทำให้ค้างคาอยู่ในหัวด้วย

เป็นการเดินทางที่ข้าพเจ้าประทับใจมากทีเดียว 








Create Date : 20 มีนาคม 2559
Last Update : 28 มีนาคม 2559 12:28:17 น.
Counter : 2382 Pageviews.

0 comments
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

หมาหัวโจก
Location :
กรุงเทพ  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 18 คน [?]



All Blog