##### รีวิว Ramen King@A Square รวมราเมนหลายเจ้า สำหรับ Ramen Lover #####
สวัสดีค่า เอนทรี่ล่าสุด รีวิว ร้านอาหาร กรุงเทพฯ EST.33 สาขา CDC อาหารอร่อยสู้สาขาเดอะไนน์ไม่ได้ค่ะ (คลิกเพื่ออ่าน) เนื่องด้วยเมื่อวันศุกร์ที่ 17 ที่ผ่านมา ทางเว็บ JGB ได้โทร.มาชวนไปกินราเม็งที่ Ramen King ซึ่งเปิดแกรนด์โอเพิ่นนิ่งเมื่อวันที่ 17 มกราคมที่ผ่านมา โดยให้กินราเมนหนึ่งชามฟรี (ซึ่งแน่นอนว่า แค่ค่ารถก็เกินค่าราเม็งไปแล้ว แต่ไปมั้ย..ไปดิ ฮา ) ซึ่งที่ตั้งของ A Square ซึ่งเป็นที่ที่ Ramen King เปิดร้านนี่ก็อยู่สุขุมวิท 26 นะคะ ถ้านั่งรถไฟฟ้าไป ก็ต้องลงสถานีพร้อมพงษ์ แล้วก็นั่งมอไซค์ไปอีก 20 บาทค่ะ ถ้าใครต้องการแผนที่ก็ลองไปดูที่เว็บของเอสแควร์ได้เลยตามลิงก์นี้นะคะ //www.asquarebangkok.com/ สำหรับในส่วนของราเม็งคิงนั้นตอนนี้ที่เราเห็นจะเป็นเฟซบุ๊คอย่างเดียวนะคะ https://www.facebook.com/RamenKingThailand ซึ่งที่นี่จะมีทั้งหมด 6 ร้าน เป็นราเมน 5 อาหารญี่ปุ่น 1 ร้านค่ะ ก่อนที่จะไปที่การกิน มาดูกันดีกว่าเนาะว่าระหว่างราเมน โซบะ และอุด้งเนี่ยมันต่างกันอย่างไรนะคะ (จะเห็นว่าบางอันเรียกราเม็ง บางอันก็ราเมนนะคะ) ข้อมูลจาก wikipedia นะคะ ราเม็ง เป็นบะหมี่น้ำของญี่ปุ่น ซึ่งมีต้นกำเนิดมาจากประเทศจีน ราเม็งมักจะทานคู่กับ เนื้อหมู สาหร่าย คะมะโบะโกะ ต้นหอม และบางครั้งจะมีข้าวโพด ราเม็งมีการปรุงรสแตกต่างกันตามแต่ละจังหวัดในญี่ปุ่น เช่นในเกาะคีวชู ต้นกำเนิดของทงโคสึราเม็ง (ราเม็งซุปกระดูกหมู) หรือในเกาะฮกไกโด ต้นกำเนิดของมิโซะราเม็ง (ราเม็งเต้าเจี้ยว) ราเม็งมีหลากหลายชนิดแตกต่างกันตามภูมิภาค โดยชนิดของราเม็งจะแบ่งตาม เส้นก๋วยเตี๋ยว เนื้อ และน้ำซุป สามอย่างนี้เป็นหลัก ตัวอย่างของราเม็ง ได้แก่ - โชยุราเม็ง (ราเม็งซีอิ๊ว) - มิโซะราเม็ง - บันชูราเม็ง - ทะกะยะมะราเม็ง - โอโนะมิจิราเม็ง - ชาชูราเม็ง ส่วนโซบะนะคะ จะทำมาจากแป้งบักวีต (ข้อมูลจาก เอนทรี่ล่าสุด ลิงค์นี้ มีสีน้ำตาลอ่อน เพราะไม่ผสมแป้งชนิดอื่นไปด้วย ปกติมักจะเสริ์ฟแบบเย็น พร้อมกับวาซาบี สาหร่ายโนริ และเครื่องเคียงต่างๆ เป็นอาหารยอดนิยมในฤดูร้อน ส่วนเส้นอุด้งทำมาจากแป้งสาลีผสมเกลือและน้ำเล็กน้อย มีลักษณะเป็นเส้นกลมยาว หนานุ่ม เพราะความใหญ่และเหนียวนุ่ม สามารถซึมซับน้ำซุปร้อนๆได้ดี จึงมักจะเสิร์ฟเป็นอาหารหลักเพื่อคลายหนาวในฤดูหนาวนั่นเอง ส่วนข้อมูลจาก //www.japankiku.com/jfood/soba_ramen_somen.html มีที่แตกต่างนิดหน่อยตามนี้นะคะ อุด้ง (Udon) ทำจากแป้งสาลีผสมเกลือและน้ำเล็กน้อยนวยแล้วตัดเป็นเส้นยาว ๆ ลักษณะของเส้นกลมยาวสีขาว หนา นุ่ม มีขายทั้งชนิดเส้นสดและแห้ง อุด้งนั้นต่างจากโซบะและราเมงตรงที่เวลากินไม่ต้องจุ่มเส้นในน้ำซุปก่อนกิน ด้วยความที่มีขนาดเส้นใหญ่และเหนียวนุ่ม จึงให้ความอบอุ่นเป็นอย่างดีในฤดูหนาว ราเมง (Ramen) ลักษณะเหมือนเส้นบะหมี่ หรือหมี่เหลือง บ้านเรา แต่เส้นกลมสีเหลือง ได้รับอิทธิพลมาจากจีน คำว่า Ramen ออกเสียงคล้ายกับ Lo mein ในภาษาจีน ซึ่งแปลว่า เส้นต้ม (Boiled Noodles) และมักจะเสิร์ฟในน้ำซุปที่มี 4 รส ได้แก่ น้ำซุปเต้าเจี้ยวญี่ปุ่น (Miso) น้ำซุปรสเกลือ (Shio) น้ำซุปซีอิ๊วญี่ปุ่น (Shoyu) น้ำซุปจากน้ำต้มกระดูกหมูน้ำข้น (Tonkotsu) นอกจากนั้นก็ยังมีเส้นอื่นๆ อีกค่ะ ไปอ่านได้ตามลิงก์ที่แปะเลยนะคะ Ramen King มีร้านราเม็งทั้งหมด 5 ร้านกับ 1 ร้านอาหารญี่ปุ่น ได้แก่ 1. ร้าน Tonkotsu Itto โดย Chef Yukihiko Sakamoto 2. ร้าน Misobancho โดย Chef Masakatsu Chiyoda 3. ร้าน Butaou โดย Chef Toshikazu Yoneda 4. ร้าน Miyamoto โดย Chef Ryutaro Miyamoto 5. ร้าน Jyoshoken โดย Chef Koichi Horikawa 6. ร้าน Uomasa (อาหารญี่ปุ่น) ซึ่งจุดเด่นๆ และรายละเอียดของแต่ละร้าน จะกล่าวถึงในลำดับต่อไปนะคะ (ขอบคุณข้อมูลจากแอดมินเฟซบุ๊คของทางร้านไว้ ณ โอกาสนี้นะคะที่สอบถามไปแล้วก็ส่งไฟล์มาให้ค่ะ แหะๆ) มาว่ากันเรื่องของการเดินทาง ด้วยความที่กลัวว่าขับรถไปจะเสียเวลา เพราะไม่เคยไปแถวนั้นรวมทั้งการชุมนุมด้วยนะคะ ก็เลยตัดสินใจนั่งบีทีเอสไปลงที่พร้อมพงษ์แล้วก็นั่งมอไซค์ต่อค่ะ แต่มอไซค์พาไปลงด้านฝั่งที่เป็น Wine, I love you ซึ่งเป็นอีกด้านอะคะ อิชั้นก็เลยต้องเดินไปถามพี่ยามอีกที ซึ่งคงโดนถามมาทั้งวัน เพราะบอกตำแหน่งเป๊ะมาก ฮา ระหว่างทางเห็นภาพวาดนี้ที่กำแพงร้านหนึ่งก็เลยถ่ายภาพมาค่ะ เอิ่ม...อยากเอนจอยลองวีคเอนด์เหมือนกัน แต่เดี๋ยวนี้ได้แต่สลบเหมือดอยู่กับบ้าน ไปไหนไม่ค่อยไหว เหอๆ เดินไปตามที่พี่ยามบอก ก็เจออาคารนี้ค่ะ นี่หละค่ะที่ตั้งของราเม็งคิง (แต่ประตูที่เห็นที่มุมขวานี่เป็นทางออกนะคะ) ส่วนนี่คือทางเข้าค่ะ จะเยื้องมาทางปากซอยฝั่งถนนพระรามสี่อะนะคะ ป้ายชื่อร้านเหนือทางเข้าค่ะ ทำไมต้องเป็นกำปั้นเหมือนจะต่อยด้วยง่ะ ถ่ายรูป 4 เชฟนี้มาค่ะ (มาเห็นที่รีวิวคนอื่นว่าอีกด้านมีอีกสองท่านแต่เราไม่ได้ถ่ายมาง่ะ ) จากซ้ายไปขวานะคะ Chef Ryutaro - Chef Masakatsu - Chef Yakihiko - Chef Yoneda ค่ะ ส่วนนี่คือแสตนด์ของเชฟนะคะ มีเพิ่มมาอีกท่านคือฝั่งขวาสุด เชพร้านอาหารญี่ปุ่นร้าน Uomasa เท่ากับรูปขาดไปหนึ่งท่านคือ Chef Koichi ค่ะ ขออภัยมา ณ ที่นี้ เวลาที่เปิดทำการของร้านในช่วงสามวันของแกรนด์โอเพิ่นนิ่งนะคะ ก่อนเข้าร้านเจ้าหน้าที่ก็ให้ป้ายคิวมาค่ะ เดี๋ยวจะให้ดูรูปอีกทีนะคะ เปิดเข้าไปก็จะเจอร้านก่อนเลย กว้างขวางใช้ได้อยู่ค่ะ ตัวร้านราเม็งจะเรียงกันไปทางซ้ายมือนะคะ ส่วนมุมขวาของภาพจะเห็นว่าเป็นที่จำหน่ายเครื่องดื่มด้วยค่ะ ตอนเดินเข้าไปในร้านนี่ เสียงกล่าวต้อนรับแบบร้านอาหารญี่ปุ่นนี่เซ็งแซ่เชียวหละค่ะ ได้บรรยากาศดีแท้ เริ่มไล่ไปจากร้านแรกทางซ้ายมือเลยนะคะ คือร้าน Tonkotsu Itto โดย Chef Yukihiko Sakamoto ร้านนี้ก็จะตามชื่อร้านหละนะคะ เป็นทงคัตสึราเม็งค่ะ ของร้านนี้แพงสุดจะอยู่ที่ 240 บาทค่ะ รายละเอียดราเม็งเจ้านี้ก็ตามนี้นะคะ (กรุณาอ่านด้วยเสียงทีวีแชมเปี้ยน ฮา) เพื่อการไปสู่สุดยอดราเมงซุปกระดูกหมู เราเสนอราเม็งซุปกระดูกหมูของจ.ฮะคะตะ!! เป็นราเมงซุปกระดูกหมูอีกหนึ่งชามที่รวมเอาความอร่อยและกลมกล่อมเข้าไว้ด้วยกัน ไม่ทาให้คนที่ชอบราเมงประเภทนี้ผิดหวังแน่นอน เริ่มจากการต้มกระดูกหมูในส่วนขาและศีรษะก่อน หลังจากที่รสชาติเริ่มออกแล้ว ก็เพิ่มกระดูกในส่วนหลังเข้าไป เพื่อเพิ่มความกลมกล่อมของน้ำซุปให้มีมากยิ่งขึ้น เชิญลิ้มลองน้ำซุปที่เคี่ยวนานกว่า 12 ชม. ที่เข้ากับเส้นราเมงแบบเส้นเล็กมากได้เป็นอย่างดี ถัดไปจะเป็น ร้าน Misobancho โดย Chef Masakatsu Chiyoda ก็ตามชื่ออีกเช่นกันค่ะเป็นมิโซะราเม็ง ราเมงซุปกระดูกหมูมิโซะรสกลมกล่อม ซึ่งกำเนิดจากจ.ฮอกไกโด ที่เป็นที่คุ้นเคยกันดีที่ประเทศญี่ปุ่น เป็นอีกหนึ่งชามที่สามารถปรุงแต่งรสชาติให้ออกมาได้กลิ่นหอมของมิโซะที่กำลังพอดีเลย สำหรับร้าน Misobancho แพงสุดจะอยู่ที่ 250 บาท เมนูก็ประมาณนี้นะคะ ต่อไป ร้าน Miyamoto โดย Chef Ryutaro Miyamoto หน้าตาอาจจะดูเหมือนรสชาติเข้มข้นเกินไปหรือเปล่า แต่พอได้ลองทานแล้วจะรู้ว่าน้ำซุปรสชาติกำลังพอดี ทานง่าย ผักในปริมาณที่เพียงพอบวกกับหมูชาชูที่นุ่ม ทำให้คุณสามารถอร่อยได้จนถึงคาสุดท้าย สิ่งที่แตกต่างจากราเมงร้านอื่นก็คือ ใจรัก เป็นราเมงที่เต็มไปด้วยความรู้สึกและความรัก menu ก็ประมาณนี้นะคะ (อันนี้ไม่มีราคาแปะบอกแฮะ) ต่อไปเป็นร้าน Butaou โดย Chef Toshikazu Yoneda ค่ะ ถ้าเป็นราเมงทั่วไปจะรู้สึกออก รสเค็ม แต่ถ้าเป็นสุกี้ยากี้ราเมงจะออก รสหวาน ลองมาสนุกกับการเปลี่ยนรสชาติของความหวานโดยการเพิ่มไข่ลวกหรือลองเพิ่มความเผ็ดลงไปดู ป.ล.เจ้านี้เราไม่ได้ลองกิน แต่เห็นที่คนอื่นกินชามจะค่อนข้างพอดีนะคะ ไม่ใหญ่เบิ้มเกินกว่าจะกินหมดเหมือนเจ้าอื่นอ้ะ ต่อไป ร้าน Jyoshoken โดย Chef Koichi Horikawa ค่ะ จุดเด่นของเราอยู่ที่น้ำซุป เป็นน้ำซุปที่ทาจากกระดูกหมูและสัตว์ทะเล เราทุ่มเทอย่างมากโดยใช้เวลาเคี่ยวถึง 3 วันเลยทีเดียว และจานที่คุณต้องชิมเลย นั่นคือเมนูที่ชื่อว่า TSUKEMEN (สึเคะเมง)!! เส้นราเมงแบบใหญ่มากที่เต็มไปด้วยกลิ่มหอมของข้าวสาลีก็เข้ากับน้ำซุปได้เป็นอย่างดี บรรยากาศทั่วไปของร้านค่ะ มีที่นั่งเยอะพอควร แต่ถ้าเจอคนเยอะๆ จริงๆ ก็อาจจะหาที่นั่งยากนะคะ ส่วนนี่คือเคาน์เตอร์สำหรับจ่ายเงินนะคะ จะอยู่ตรงประตูทางออก โดยเราจะต้องเอาเบอร์ที่เราได้ตอนเข้าร้านมาแสดงค่ะ หน้าตาอุปกรณ์ที่เราจะได้นะคะ ฝั่งซ้ายมือนี่คือแป้นคล้ายๆ เพจเจอร์ เราจะได้รับเมื่อเราไปสั่งราเม็งน่ะค่ะ เวลาเราสั่งเราจะต้องเอาเจ้าป้ายขวามือนี่ไปด้วย เพราะเค้าจะเอาไปสแกน แล้วถึงจะให้เจ้าแป้นนี้มา ด้านหลังเป็นวิธีใช้นะคะ ก็เอาเพจเจอร์นี่ไว้กับเราหละค่ะ พอถึงคิวเรา มันก็จะมีไฟแดงๆ วิ่งๆ พร้อมกับสั่นก็แสดงว่าที่เราสั่งน่ะได้แล้วค่ะ เราต้องเอาเพจเจอร์นี้ไปคืนที่ร้านด้วยเวลาไปรับราเม็งหรืออาหารที่เราสั่งนะคะ หลังจากที่เห็นเพจเจอร์คงรู้นะคะว่าเราสั่งร้านไหน Miyamato นั่นเองค่ะ เราเลือกเมนู No.1 อ้ะ หน้าตาก็ตามนี้นะคะ มาว่ากันถึงรสชาตินะคะ น้ำซุปของร้านนี้เข้มข้นมากค่ะ รสชาตินัวๆ บ่งชัดไม่ได้ ออกแนวเค็มๆ แล้วก็กลิ่นกระเทียมโดดเด้งออกมามาก ขนาดคนชอบกระเทียมอย่างเรายังแบบ..โห เข้มขนาดนี้เลยเหรออะค่ะ เรียกว่ากระเทียมเยอะจนรสออกปร่านิดๆ ด้วยอะค่ะ คือกระเทียมมันเด้งจนกลบอย่างอื่นหมดอ้ะ ตัวซุปแบบนี้ไม่ถูกจริตเรานักค่ะ ตัวเส้นเป็นเส้นใหญ่หนาหนึบๆ แข็งไปนิดนะคะ แต่ที่อร่อยมากๆ เลยคือตัวเนื้อหมูชาชูที่นุ่ม หอม อร่อยมากกกกก (แทบอยากจะขอหมูเพิ่ม) เลยหละค่ะ แล้วก็ด้วยขนาดจานที่ใหญ่เบิ้ม แน่นอนว่าเรากินไม่หมดง่ะค่ะ ใหญ่เกิ๊น นั่งกินอยู่สักพักก็มีเจ้าหน้าที่เคาน์เตอร์น้ำมาสอบถามว่าสั่งน้ำหรือยังแล้วก็เอาเมนูมาให้เลือกค่ะ ราคาก็ตามนี้นะคะ อย่างพวกน้ำอัดลมแก้วเล็ก 22 ออนซ์ 39 บาทแก้วใหญ่ 32 ออนซ์ 49 บาทค่ะ นี่คือขนาดแก้วใหญ่ที่เราสั่งมา ใหญ่เกิ๊นอีกเช่นกัน (ขอแนะนำท่านสุภาพสตรีนะคะ แก้วเล็กก็พอแล้วค่ะ เหอๆ) 32 ออนซ์นี่สูงราวๆ แปดนิ้วได้อะค่ะ สรุปสำหรับ Ramen King นะคะ เราว่าเหมาะอย่างยิ่งกับผู้ที่รักการกินราเม็ง มีตัวเลือกที่หลากหลายค่ะ (กระทั่งคนไม่กินราเม็งยังมีร้านอาหารญี่ปุ่นให้เลือกอ้ะ) ราคาอาจจะสูงพอควร แต่โดยปริมาณแล้วก็สมน้ำสมเนื้อกันดีค่ะ สำหรับเราเองก็กะว่า จะหาเวลาไปลองร้านอื่นๆ รวมทั้งร้านเดิมแต่เมนูอื่นด้วยค่ะ การให้คะแนน (ความคิดเห็นส่วนตัวสุดๆ นะคะ) รสชาติ Bวัตถุดิบ B+การบริการ Bบรรยากาศ B+ราคา Bความสะอาด B+ความคุ้มค่า B ปฏิทินธรรม วันเสาร์ที่ 4 มกราคม 2557 1. ตักบาตรพระกรรมฐานสายหลวงปู่มั่น วัดพุทธบูชา (ทุกวันเสาร์แรกของเดือน)วันอาทิตย์ที่ 5 มกราคม 2557 (กิจกรรมจัดทุกวันอาทิตย์แรกของเดือน) 1. ทำบุญกับพระกรรมฐานสายพระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต ณ มูลนิธิพระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต ถ.จรัญสนิทวงศ์ซอย 37 เวลา 06.30-10.30 น. ดูรายละเอียดพระที่มารับบาตรและแผนที่ได้ที่ //www.watpa.com/board_detail.asp?board_id=3447 2. ทำบุญกับพระกรรมฐาน ณ ศาลาลุงชิน แจ้งวัฒนะ 14 (กิจกรรมจัดทุกวันอาทิตย์ที่ 2 และ 4 ของเดือน) ดูรายละเอียดเพิ่มเติมที่เฟซบุ๊คศาลาลุงชิน https://www.facebook.com/SalaLungChin?fref=tsวันอังคารที่ 14 มกราคม 2557 1. เชิญทุกท่านร่วมสวดมนต์ และฟังการแสดงธรรม โดย พระราชญาณวิสุทธิโสภณ (หลวงปู่ท่อน ญาณธโร) วัดศรีอภัยวัน จ.เลย เวลา ๑๘.๐๐-๒๐.๐๐ น. ณ ศาลาปันมี มูลนิธิบ้านอารีย์ เว็บไซต์บ้านอารีย์ //www.baanaree.netวันพุธที่ 15 มกราคม 2557 1. ฟังการแสดงธรรม โดย พระอาจารย์ อินทร์ถวาย สันตุสสโก วัดป่านาคำน้อย อ.นายูง จ.อุดรธานี 18.30 น. - สวดมนต์ ทำวัตรเย็น / 19.00-21.00 น. - นั่งสมาธิ และ ฟังธรรม (เน้นการปฏิบัติ ตามแนวมหาสติปัฏฐาน 4) ณ หอประชุมพุทธคยา อมรินทร์พลาซ่า ชั้น 22 รายละเอียดเพิ่มเติม https://www.facebook.com/events/463574883748138/?ref=5 2. เชิญร่วมฟังธรรมและปฏิบัติธรรม โดย พระอาจารย์ประสงค์ ปริปุณโณ เวลา 17.00 น. ณ อาคารเล้าเป้งง้วน ชั้น G *ไม่มีค่าใช้จ่ายและสามารถพาเพื่อนมาได้ค่ะ กรุณาสำรองที่นั่งที่เบอร์ 086 556 5599วันอาทิตย์ที่ 19 มกราคม 2557 (กิจกรรมจัดทุกวันอาทิตย์ที่สามของเดือน) 1. ตักบาตรพระกรรมฐาน (นิมนต์พระสายหลวงปู่มั่น) ที่วัดบรมนิวาส (ไม่มีรายละเอียดอย่างอื่นค่ะ) 2. ฟังการแสดงธรรม โดย พระครูเกษมวรกิจ (หลวงพ่อวิชัย เขมิโย) แสดงธรรมและนำปฏิบัติกรรมฐาน ที่บ้านจิตสบาย ตั้งแต่เวลา 9.00 น. - 15.30 น. ณ ศาลาไตรสิกขา บ้านจิตสบาย พุทธมณฑลสาย 2 เว็บไซต์บ้านจิตสบาย //www.jitsabuy.com/วันเสาร์ที่ 25 มกราคม 2557 (จัดทุกวันเสาร์ที่สี่ของเดือน) 1l เชิญทุกท่านร่วมทำบุญตักบาตร สดับธรรม เมตตารับบาตร โดย พระครูอุดมธรรมสุนทร (หลวงปู่แปลง สุนทโร) วัดป่าอุดมสมพร จ.สกลนคร หลวงปู่คำผิว สุภโณ วัดป่าศรีวิไล จ.อุดรธานี หลวงพ่อวิชัย เขมิโย วัดถ้ำผาจม จ.เชียงใหม่ เว็บไซต์บ้านอารีย์ //www.baanaree.net ขอบคุณทุกท่านที่แวะมาค่ะ 1,469,696+1361324=2831020/10177/826
Create Date : 22 มกราคม 2557
Last Update : 22 มกราคม 2557 9:14:48 น.
30 comments
Counter : 5951 Pageviews.
ไว้ต้องไปลองมั่งฮะ กะลังฮิต