สวัสดีค่าาาา
สรุปเอนทรี่ประจำสัปดาห์ที่ 4- 8 มกราคม 2559 นะคะ
สำหรับวันนี้ก็จะพาไปกินข้าวต้มบุฟเฟท์ที่เปิดมานานกว่า 23 ปีของโรงแรมเจ้าพระยาปาร์คกันบ้างนะคะ โดยเป็นการชวนจากพี่เอิร์ธ ฝ่ายประชาสัมพันธ์ของโรงแรมที่ชวนบล็อกเกอร์ไปรับประทานพร้อมทั้งฉลองปีใหม่ล่วงหน้าค่ะ
พิกัดของโรงแรมนี้ค่ะ
สำหรับวันนั้นก็ขับรถไปเช่นเคยนะคะ แล้วก็ไปจอดตรงใกล้ๆ กับห้องอาหารฮาลาล - อัลธารา ที่เคยรีวิวไปแล้ว จากนั้นก็เดินไปที่ห้องอาหารค่ะ เค้าใช้ชื่อว่าข้าวต้มบุฟเฟท์เลยแหละ
แต่ก็มีเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ขายด้วยนะคะ ราคาก็ตามภาพเลยฮับบ
เดินเข้าไปก็จะเจอทางเข้าห้องอาหารอยู่ทางซ้ายมือนะคะ และมีเคาน์เตอร์ที่จะมีพนักงานรอต้อนรับอยู่ค่ะ
ตอนนี้ที่นี่จะเป็นโปรมา 5 จ่าย 4 นะคะ หัวละ 499 บาทเน็ต รวมเครื่องดื่มน้ำอัดลมและน้ำเปล่าด้วยค่ะ ถ้ามาห้าคนจริง ก็ตกคนละสี่ร้อยเองเนาะ
เข้าไปภายในค่ะ ที่นี่รับได้ทั้งสิ้น 180 ที่นั่งนะคะ เปิดเวลา 17.00-24.00 น.
ซึ่งแนะนำว่าถ้าเป็นไปได้ให้มาตั้งแต่เพิ่งเริ่มเปิดเลยค่ะ นอกเหนือจากไลน์ยังเต็มแบบฟูลแล้ว เดี๋ยวอ่านรีวิวไปเรื่อยๆ จะทราบว่าเพราะอะไรนะฮับ แฮ่...
ไปสำรวจไลน์อาหารกันดีกว่าค่ะ
ขอย้อนกลับไปดูจากประตูทางเข้าก่อนเลยนะคะ
เคาน์เตอร์แรกที่เจอเมื่อเข้าประตูมาแล้วอยู่ทางขวามือก็จะเป็นพวกหมูแดง หมูกรอบ ไก่ และขาหมูค่ะ
เคาน์เตอร์เดียวกันแต่เลี้ยวไปอีกฝั่งจะเป็นราดหน้าค่ะ ซึ่งก็เลือกได้ว่าจะเอาราดหน้าปลา กุ้งหรืออะไรนะคะ
ต่อไปไปดูฝั่งเคาน์เตอร์ที่ติดกับผนังด้านขวามือกันบ้างนะคะ
ส่วนแรกเลยจะเป็นโซนสำหรับมังสวิรัติซึ่งก็ได้แก่ผักและเห็ดค่ะ ตัวนี้เราก็เลือกมาใส่จานแล้วส่งให้เจ้าหน้าที่เค้าผัดค่ะ ถ้าชอบกินเผ็ดก็ให้ใส่พริกเพิ่มได้ด้วยนะคะ
ผักน่ากินหลายอย่างเลย ถ้าแม่มาเห็นแม่ต้องชอบมากๆ แน่ๆ เลยค่ะ
เมนูต่อไปค่ะกับห้าเซียนน้ำแดง เมนูนี้เค้าจะทำเป็นหม้อให้แบบร้อนๆ นะคะ เวลาจะเอากลับไปโต๊ะก็จะใส่ถาดที่มีผ้ารองไว้ด้วยค่ะ
ถัดจากห้าเซียนน้ำแดงก็เป็นไข่เจียวค่ะ จะเอาเปล่าๆ หรือเลือกวัตถุดิบต่างๆ เช่น หอยนางรม หอยเชลล์ ฯลฯ มามิกซ์กันก็ได้นะคะ
ย้ายไปยังเคาน์เตอร์ต่อไปค่ะ เป็นก๋วยเตี๋ยวและเย็นตาโฟค่ะ ลูกชิ้นกุ้งกับลูกชิ้นปลา (และน่าจะเส้นปลาด้วย) นำเข้ามาจากเยาวราชนะคะ
ปิดท้ายเคาน์เตอร์นี้ด้วยของหวานแบบร้อนค่ะ ก็จะมีทั้งเต้าฮวยน้ำขิง และบัวลอยน้ำขิงนะคะ
และโรตีกรอบฮับบบ มีท็อปปิ้งให้เลือกทั้งกล้วย และลูกเกดกับแยมนะคะ
จากนั้นก็เดินย้อนกลับไปที่ด้านหน้าอีกครั้งค่ะ กับไลน์อาหารหลักนะคะ
เริ่มด้วยข้าวก่อนเลยค่ะ ซึ่งมีให้เลือกทั้งข้าวสวย ข้าวต้มขาว ข้าวต้มมัน ข้าวต้มเผือก และข้าวต้มกล้องค่ะ
จากนั้นอิชั้นก็เดินเวียนขวาทักษิณาวัตรเพื่อความเป็นศิริมงคล (ไม่ใช่แระป้า) เอาเป็นว่าวนตามเข็มนาฬิกาน่ะนะคะ เพื่อเก็บภาพอาหารทั้งหมดที่มีให้เลือกค่ะ อิอิ เมนูตัวนี้ส่วนใหญ่จะคงเดิมนะคะ แต่จะมีสี่ตัวที่เวียนๆ เปลี่ยนกันไปบ้างค่ะ เพราะฉะนั้นมาแต่ละครั้งก็จะเจอเมนูไม่ซ้ำอยู่นะคะ
เริ่มกันที่เมนูแรก...ซึ่งไม่มีป้ายบอกอะไรทั้งสิ้น..ถ่ายรูปมาให้ดูอย่างเดียว แถมไม่ได้ชิมนะคะ แบบว่า..ตั้งใจว่าจะตักไปชิม แต่...ค่ะ..ลืมค่ะ 
เมนูอื่นๆ ก็จะประกอบไปด้วย
หมูผัดมะระเต้าซี่ จับฉ่าย ซี่โครงหมูตุ๋นดอกไม้จีน
ต้มหน่อไม้จีนหมูสามชั้น คากิตุ๋นยาจีนและต้มเค็มปลาตะเพียนค่ะ
ปลายสุดของเคาน์เตอร์ตรงกลางนี้ก็จะเป็นเมนูกับข้าวข้าวต้มกุ๊ย ซึ่งอิชั้นโปรดมากค่ะ และที่นี่ก็มีให้เลือกโคตรเยอะ แฮปปี้สุดๆ 
มาดูกันโดยละเอียดนะฮับ ว่าเค้ามีอะไรให้เลือกกันบ้างค่า
เซ็ตแรกประกอบด้วย หัวไชโป๊ว ถั่วทอด และเต้าหู้ยี้ (อันหลังนี่อร่อยมากๆ)
หนำเลี้ยบ ปลาข้าวสาร และหมูหยอง
ชุดต่อไปค่ะก็ประกอบไปด้วย
ผักกาดดอง กระเทียมโทนดอง กุนเชียง
หมูแผ่นและกุ้งแก้วค่ะ
เซ็ตสุดท้ายของโซนนี้ ได้แก่
ปลาเค็ม (ใช้ปลาดีค่ะ ชอบ) ยำผักกาดดอง
ใบปอและกานาฉ่ายค่ะ
มาที่อีกฝั่งกันแล้วนะคะ ฝั่งนี้ก็จะมีทั้งไข่เค็ม และไข่เยี่ยวม้าพร้อมเครื่องยำ(ซึ่งเราได้เอาเครื่องยำตรงนี้มาใช้กับปลาเค็ม อาหย่อยยยย)
ตามด้วยยำหอยแครงและยำกั้งดองฮับ
เป็ดพะโล้ ไส้หมูพะโล้ ไก่อบซีอิ๊วแต้จิ๋ว พร้อมน้ำจิ้มและเครื่องเคียงค่ะ
จากนั้นก็ไปที่มุมของหวานและผลไม้กันบ้างนะฮ้าบบบบ
ผลไม้มีสี่ชนิดพร้อมพริกเกลือค่ะ
ขนมหวานก็มีทั้งไทยๆ และเค้กแบบฝาหรั่งนะฮับ (มุมซ้ายบนนี่ ตอนอิชั้นมาตัก ไม่มีแล้วค่ะ หมดไวโฮก เลยไม่รู้ว่าคืออะไร อร่อยหรือไม่)
น้ำแข็งไสและเครื่องพร้อมน้ำเชื่อม น้ำลำไยและน้ำแดงนะคะ
มีลอดช่องสิงคโปร์ด้วยนะคะ ต้องเติมน้ำเชื่อมเองนะคะ (อันนี้น้องชื่นฝากมา ฮา)
และไอศกรีมมีสองรสค่ะ
ในส่วนของเครื่องดื่มน้ำอัดลมที่รวมในบุฟเฟท์จะแยกออกมาจากไลน์หลักนะคะ แต่อยู่ใกล้ๆ กันนั่นแหละค่ะ
มาดูกันว่าวันนั้นได้กินอะไรกันไปบ้างนะฮับ
อันดับแรกก็ตักข้าวต้มเผือกมาพร้อมกับข้าวต้มกุ๊ยก่อนเลย
เราชอบข้าวต้มเผือกมากนะคะ อร่อยดีค่ะ แต่อ้นบอกว่าเหมือนกินบัวลอย (ซะงั้น ไม่มีสุนทรียะเลยตานี่) ส่วนตัวกับข้าวต้มกุ๊ย ที่อร่อยเด่นมากในความรู้สึกเราคือ ปลาเค็ม (เนื้อปลาดี แน่นนุ่มแบบที่ควรเป็น ถ้าเอาเครื่องยำมายำด้วยจะยิ่งฟินมาก) และเต้าหู้ยี้ก็ใช้เต้าหูยี้ดีค่ะ กุนเชียงก็โอ ส่วนอื่นๆ ก็มาตรฐานนะคะ
ต่อไปค่ะกับยำหอยแครงและยำกั้งดอง
ยำหอยแครงโออยู่ค่ะ แต่ปกติเรากินแซ่บกว่านี้ (นึกถึงหอยจันทร์ผา ณ เพชรบุรีกันเลยทีเดียว) ส่วนยำกั้งดอง เราว่ากินยากไปหน่อยง่ะค่ะ แต่ถ้าใครโปรดก็คงชอบอะนะคะ แหะๆ
ต่อไปกับห้าเซียนน้ำแดง
วัตถุดิบโอเคนะคะ แต่รสชาติของน้ำแดง เราชอบรสแบบหนักแน่นเข้มข้นกว่านี้ ของที่นี่รสออกเบาๆ กว่าที่เราชอบหน่อยน่ะค่ะ
อ้อ ลืมบอกไป บนโต๊ะจะมีแผ่นสีๆ แบบนี้ให้เราไปใช้ในการสั่งอาหารบางเมนูด้วยนะคะ
แอบเก็บภาพของคนอื่นว่าเค้ากินอะไรกันบ้างมาให้เพื่อนบล็อกดูนะฮับ
อันนี้ของคุณอ้น จัดเต็มมากกกกกกกกกก
พอดีเราตักข้าวต้มมันมากินกับกับข้าวต้มกุ๊ยเพิ่ม เลยแอบชิมไข่เจียวหอยเชลล์ไปคำหนึ่ง เค็มพอควรนะคะ แต่กำลังอร่อยถ้ากินกับข้าวต้มค่ะ ถ้ากินเปล่าๆ จะเค็มไป แต่เมนูอื่นๆ ไม่ว่าจะไข่เจียวหอยนางรมหรืออื่นๆ ไม่ได้ชิมนะคะ ไปอ่านรีวิวที่บล็อกคุณอ้นแทนแล้วกันเนาะ แฮ่...
มากินของตัวเองบ้างค่ะ เราตักไส้หมูพะโล้มาพร้อมกับทำยำปลาเค็มและหมูหยองนะคะ
ไส้หมูโอนะคะ อร่อย ไส้ไม่มีกลิ่นเลย ทำมาได้ดีค่ะ ยำปลาเค็ม อร่อยอยู่แล้วนะคะ อิอิ ส่วนข้าวต้มรอบนี้ลองข้าวต้มข้าวกล้องค่ะ แล้วเราก็เอากุ้ยช่ายขาวให้ผัดด้วยค่ะ รสชาติดีค่ะ ทำมากำลังอร่อยเลย
ส่วนอันนี้ของเหมียว nanareview ค่ะ จะเห็นว่าเจ้าตัวมิกซ์มาหลายอย่างมากค่ะ
จากนั้นทางรร.ก็เชิญเชฟอ๊อด สมพงษ์มาพูดคุยกันค่ะ เชฟอยู่ที่นี่กุมภาปีหน้าก็ครบสามปีแล้วค่ะ เชฟเล่าเรื่องหลายอย่างให้เราฟังนะคะ ไม่ว่าจะเป็นบางเมนูนี่ทำไมถึงเปลี่ยนไม่ได้เลย ไม่ว่าจะเป็นปลาตะเพียนต้มเค็ม โรตีกรอบ หรือแม้กระทั่งเต้าหู้ยี้ เพราะเคยเปลี่ยน ไม่มีบางเมนุพวกนี้ ปรากฏว่าโดนลูกค้าคอมเพลนค่ะ เพราะฉะนั้นบางเมนูต้องคงไว้ ส่วนเมนูที่เปลี่ยนได้ก็จะมีอยู่แค่สี่เมนูเท่านั้นนะคะ
นอกจากนั้นเสน่ห์อีกอย่างคือ สำหรับลูกค้าประจำเก่าแก่แล้ว พนักงานที่นี่จะจำได้เลยค่ะ อย่างบางคนพอเห็นลงจากรถนี่ต้องเตรียมทำผัดซีอิ๊วแห้งๆ เกรียมๆ ไว้แล้ว เป็นต้นค่ะ เรียกว่าที่นี่มีขาประจำเก่าแก่อยู่พอควรเลยหละค่ะ
แขกที่นี่ส่วนใหญ่จะเป็นวัยทำงานถึงสูงอายุนะคะ ไม่ค่อยมีวัยรุ่นเท่าไหร่ (ตอนเราไปเจอวัยรุ่นอยู่สองคนเอง) ทั้งที่จริงๆ โดยความเห็นส่วนตัวเรานะคะ ข้าวต้มอร่อยออกและเหมาะแก่การกินมื้อเย็นด้วย เบาๆ แต่ได้สารอาหารครบถ้วน แถมเป็นบุฟเฟท์ที่กินกันได้ทั้งครอบครัวน่ะ อย่างเวลาเราพาแม่ไปกินบุฟเฟท์อย่างอื่น แม่ก็จะกินได้ไม่เท่าไหร่เองค่ะ แต่ถ้ามาบุฟเฟท์แบบนี้นี่ แม่ต้องปลื้มแน่ๆ ค่ะ นี่เรายังว่าจะพาแม่ไปกินเองอีกรอบเลยค่ะ หาโอกาสก่อน อิอิ
ต่อไปค่ะกับหมูผัดมะระเต้าซี่กับต้มหน่อไม้จีนหมูสามชั้นนะคะ
รสชาติดีทั้งคู่เลยค่ะ ตัวหน่อไม้ก็ดี๊ดีอ้ะ กำลังกินเลย อร่อยดีงามค่ะ
จับฉ่าย ยังไม่เปื่อยมาก และรสชาติไม่ใช่แบบที่เรากินค่ะ ตะเพียนต้มเค็ม รสชาติดีนะคะ ก้างเยอะแต่บางส่วนก็เคี้ยวได้เลยค่ะ อร่อยดี
ต่อไปค่ะกับเป็ดย่าง หนึ่งวันจะมีแค่ 3 ตัวเท่านั้นค่ะ หมดแล้วหมดเลย เพราะงั้นต้องสั่งเอานะคะ ขอบอกว่าเป็ดนุ่มอร่อยมาก อร่อยคนละแบบกับเป็ดเอ็มเคค่ะ ขิงดองที่มาก็อร่อยนะคะ ไม่อยากให้พลาดถ้าไปกินที่ห้องอาหารนี้นะคะ (ถึงบอกว่าให้รีบไปตั้งแต่เปิดห้องอาหารเลยค่ะ แฮ่...)
ต่อไปกับเมนูที่ต้องเอาป้ายไปให้เจ้าหน้าที่ทำนะคะ หมี่ผัดกระเฉด..สำหรับเราไม่ชอบรสนี้ค่ะ มันมีรสชาติของซีอิ๊วมาง่ะค่ะ
ส่วนเย็นตาโฟ จัดเครื่องมาให้เต็มมาก เราสั่งแบบเส้นปลา รสชาติโอเคค่ะ วัตถุดิบทั้งเส้นปลา ลูกชิ้นปลา ลูกชิ้นกุ้งก็ดีด้วยนะคะ
ของหวานของเราบ้างค่ะ เราเลือกขนมปังน้ำแข็งไสราดด้วยเฮลส์บลูบอยกับนมข้นหวาน แน่นอนว่าอร่อยหวานชื่นใจฮ่ะ
ตัวสังขยาฟักทอง สังขยาเฉยๆ ค่ะ ฟักทองก็โอเค ส่วนขนมอีกตัว เฉยๆ เช่นกันนะฮับ
บัวลอยน้ำขิง ตัวบัวลอยนิ่มดีค่ะ แต่แป้งเยอะ ไส้น้อยไปหน่อย น้ำขิงนี่สามารถเลือกได้ว่าจะเอาน้ำขิงล้วนก็ได้นะคะ เราไม่ได้สั่งแบบนั้น แต่น้ำขิงเราว่าจางไปนิดค่ะ
เก็บตกอาหารคาวหวานของคนอื่นๆ มาให้ดูหน้าตานะคะตัวขาเป็ดนี่คุณอ้นบอกว่า เหมือนขาห่านเลยค่ะ ส่วนโรตีกรอบ เค้าบอกว่าทำได้กรอบดีกันนะคะ
ปิดท้ายกันด้วยการไปดื่มไวน์ที่ล็อบบี้เล้าจน์ของโรงแรม และรับเค้กกลับบ้านกันค่ะ ขอบคุณพี่เอิร์ธ ทีมพีอาร์ใจดีของโรงแรมเจ้าพระยาปาร์คมากๆ นะคะ ดูแลเป็นอย่างดีมากๆ ค่ะ ฟรุ้ตเค้กก็อร่อยมากๆ ค่ะ เอาให้ที่ออฟฟิศกินมีแต่คนชม
สรุปสำหรับที่นี่นะคะ ก็เป็นที่ที่มีชื่อเสียงมานานมากเรื่องข้าวต้มบุฟเฟท์ค่ะ เราเองเคยไปกินครั้งหนึ่งเมื่อสิบกว่าปีที่แล้ว แต่ไปตอนดึกแล้ว ไลน์มันดูไม่ค่อยดีแล้ว เลยไม่ได้ประทับใจอะไร แต่พอไปกินรอบนี้ เราค่อนข้างประทับใจนะคะ (หรือว่าแก่ขึ้นเลยเหมาะกับการกินแบบนี้..กร๊ากกกก) โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าไปห้าท่านจ่ายสี่ท่าน เราว่าคุ้มค่าอยู่ค่ะ แล้วก็มีวัตถุดิบหลายตัวที่ถ้าเราเลือกเมนูกินดีๆ ยังไงก็คุ้มราคาที่จ่าย
ตัวเลือกและความหลากหลายของอาหารก็ทำได้ดีนะคะ การบริการก็โอเคค่ะ ถึงจะไม่ได้บริการอะไรมาก แต่เรื่องการเคลียร์จานบนโต๊ะก็รวดเร็วดี
สรุป ถ้าใครชอบกินข้าวต้ม (เหมือนเรา) และกินได้เยอะ ที่นี่เป็นตัวเลือกหนึ่งที่ดีค่ะ
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
ผู้ติดตามบล็อก : 203 คน [
