สำหรับโปรแกรม Cultural Kaleidoscope มีหลายโปรแกรมด้วยกันที่น่าสนใจนะคะ นอกจากการเที่ยวสวน Nan Lian แบบมีไกด์แล้ว ก็มีพวกเรียนคลาสเกี่ยวกับชาจีน คลาสยาจีน การนั่งเรือสำเภา Duk Ling (อันนี้เสียคนละ 50 เหรียญฮ่องกง สองร้อยห้าสิบบาทโดยประมาณค่ะ) การชงชาแบบจีน การทำขนมเปี๊ยะ ฯลฯ

ซึ่งแต่ละโปรแกรมก็มีเซตว่ามีวันไหนบ้างนะคะ ไม่ได้มีทุกวัน หากคิดจะร่วมกิจกรรม ควรเช็ควันของแต่ละกิจกรรมและเซ็ตโปรแกรมก่อนค่ะ ไม่อย่างนั้นอาจพลาดได้ง่ายๆ



ถ้าสนใจสามารถไปดูรายละเอียดได้ที่ลิงค์นี้ค่ะ

//www.discoverhongkong.com/eng/things-to-do/cultural-tours.html

จากนั้นก็จะผ่านท่าเรือสตาร์เฟอร์รี่ ที่จะนั่งข้ามไปฝั่งเกาะฮ่องกงได้ค่ะ

เข้าไปข้างใน ทางด้านซ้ายมือจะมีที่กดบัตรคิวนะคะ กดได้เลย แล้วก็รอคิวเรียกค่ะ













ระหว่างรอก็ซุกซน ดูของที่การท่องเที่ยวฮ่องกงขายค่ะ ราคาก็โอเคนะคะ

จากนั้นก็เดินลัดเลาะมาทางเพนนินซูล่าเพื่อลง MTR ไปวัด Wong Tai Sin ต่อค่ะ มีกำลังก่อสร้างรร.(มั้ง) อยู่ด้วยค่ะ

ดูจากผัง ก็ต้องออกที่ exit B3 ค่ะ














ออกประตูบีสามปุ๊บ มองไปทางขวาก็จะเจอทางเดินเข้าวัดเลยค่ะ













ระหว่างการเดินก็จะมีแม่ค้าพ่อขายมาขายพวกธูปค่ะ แต่เราจะไม่ซื้อก็ได้เพราะข้างในวัดก็มีขายนะคะ

ผ่านประตูแรกซึ่งเป็นซุ้มประตูหินก่อน












ลอดประตูหินนี้ไปปุ๊บ เลี้ยวซ้ายแล้วก็จะเป็นประตูของวัดอีกประตูหนึ่ง











ซึ่งตรงประตูนี้จะมีที่หยอดให้ทำบุญก่อนเข้าด้วย ตามศรัทธาค่ะ













เข้าไปจะเจอป้ายนี้ก่อนเลยค่ะ (แพนด้าบอกหน่อยจิว่าเค้าเขียนว่าอะไร แหะๆ)

เนี่ยค่ะ จากรูปนี้จะเห็นว่าเค้าปิดซ่อมบางส่วนอยู่












จากนั้นเราก็เดินลึกเข้าไป ลึกเข้าไปเรื่อยๆ ก็เจออาคารนี้ เช่นเดิม แพนด้า - อ่านชื่อรู้มั้ยอ้ะว่าเป็นอาคารอะไร

จากนั้นหันหน้าเข้าอาคารหลักที่ไว้รูปท่านหวังต้าเซียนเมื่อกี๊ เดินไปทางซ้ายมือ จะมีซุ้มประตูนี้ให้เดินเข้าไปค่ะ

เดินเลาะทางเดินที่มีหลังคาคลุมไปเรื่อยๆ ค่ะ ระหว่างนั้นก็เก็บรูปไปเรื่อยเปื่อย

มีเก๋งจีน มีบึงน้ำ หินสูงที่ปล่อยน้ำลงมาเป็นน้ำตกเล็กๆ ค่ะ ก็ตามแบบสวนจีนน่ะแหละนะคะ

แล้วในที่สุดเราก็พบป้ายบอกทางไปยังสิ่งที่เราหาอยู่นั่นก็คือ กำแพงมังกรที่เลียนแบบจากวังหลวงที่ปักกิ่งนั่นเอง

และแล้วในที่สุดก็เจอกำแพงมังกรจนได้ค่ะ แต่..เล็กอ้ะ ทว่า..เอาฟระ เค้าบอกพลาดไม่ได้

ก็ถ่ายรูปมาให้ดูหน่อยแล้วกันค่ะ

แล้วเราก็เลยได้รู้ว่าเออ..ตรูย้อนศรเค้านี่หว่า เหอๆ (เพราะป้ายนี้มันเป็นทางเข้าอะค่ะ)

เราก็นั่ง MTR ไปที่ Diamond Hill ออก C2 ค่ะ












ก็จะเจอห้าง Plaza Hollywood อย่างในรูป ก็เลี้ยวขวาไปค่ะ













ก็จะเจอถนนตัดผ่านหน้าเลย พร้อมกับป้ายบอกให้เดินไปทางซ้ายค่ะ



















เดินเลาะไปทางซ้ายตามถนนเรื่อยๆ ค่ะ จะมีป้ายติดที่เสาบอกด้วย ไม่หลงแน่ๆ













จนเจอแยกไฟแดงนี้ ก็ข้ามถนนไปทางขวามือค่ะ

นี่ค่ะประตูทางเข้า เข้าไปก็เดินไปตามทางอีกประมาณ 100 เมตรค่ะ

เดินเข้าประตูไป เลี้ยวซ้าย เจอป้อมสีเขียวๆ นี่ เข้าไปถาม เค้าก็บอกว่าให้ไปนั่งรอตรงเก้าอี้ที่ยูผ่านมาเมื่อกี๊น่ะแหละ














ก่อนจะเดินออกไปก็เหลียวขวาไปเก็บภาพทางเดินเข้านิดหนึ่ง

แต่ภายในนั่นห้ามถ่ายภาพเลยไม่ได้เอารูปมาฝากกันนะคะ ถ่ายได้แต่ภายนอกค่ะ

แล้วก็พาไปดูอาคารสีทอง ไฮไลท์ของที่นี่ บอกเปรียบเทียบเรื่องของสีในการสร้างอาคารและสะพาน และลักษณะของสะพานทั้งสองฝั่ง ที่เปรียบเหมือนพระจันทร์ - พระอาทิตย์ กลางวัน - กลางคืนค่ะ(ขอเสริมด้วยรูปส่วนตัว จะได้เห็นสีสะพานกับอาคารชัดขึ้นนะคะ)

ในสระน้ำนี่ก็มีปลาคาร์ฟเยอะมากๆ ค่ะ มีตัวหนึ่งเหมือนๆ จะสีทองเลยสวยเชียว









จากนั้นไกด์พาไปที่อาคารซึ่งเป็นที่เก็บหินแปลกๆ สวยงามค่ะ ตรงด้านนอกของอาคารนี้ก็จะเป็นต้นบอนไซด้วย

จากนั้นก็พาเดินไปที่ทางออก บรรยายปิดท้ายนิดหน่อย ก็ปรบมือ ขอบคุณกันไป

เราจะให้ทิป แต่เค้าไม่ยอมรับค่ะ เค้าบอกว่างานนี้เป็นงานอาสาสมัคร ก็เลยขอถ่ายรูปกับเค้าพร้อมกับป้ายชื่อเค้ามาเป็นที่ระลึกค่ะ





เห็นป้ายข้างบนแล้วเลยนึกออกว่าเค้าชื่อคุณหยางค่ะ

ปิดท้ายรีวิวนี้ไว้ด้วยอาคารไฮไลท์ของที่นี่นะคะ















สรุปแล้วเป็นสองสถานที่ที่จะได้บรรยากาศอีกแบบของฮ่องกงค่ะ