ตุลาคม 2563

 
 
 
 
1
2
3
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
23
24
25
26
27
28
29
31
 
All Blog
เป็นเช่นข้าสิ...คืองาม จิ่วลู่เฟยเซียง เขียน

11/7/2019
 


 

เป็นเช่นข้าสิ...คืองาม 

จิ่วลู่เฟยเซียง เขียน  อาจือ แปล 

สำนักพิมพ์อรุณ  ในเครืออมรินทร์ 

345 บาท  372 หน้า 



#แปลจีน #นิยายแปล #นิยายชายหญิง #เป็นเช่นข้าสิคืองาม #จิ่วลู่เฟยเซียง #อรุณ #รีวิวนิยาย #ออโอ


 

หลังปก 

 

เมื่อองค์หญิงแห่งต้าถังและองครักษ์หลบหนีการไล่ล่าจนตกหน้าผา วิญญาณของทั้งคู่ก็ข้ามกาลเวลานับพันกว่าปีมาสู่ยุคปัจจุบันในร่างของนักศึกษามหาวิทยาลัย...ที่นี่ทั้งสองพบความเปลี่ยนแปลง และต้องปรับตัวกับสิ่งใหม่ ๆ มากมาย  หลี่หยวนหยวนพบว่าทัศนะของผู้คนในยุคนี้แตกต่างจากยุคของเธออย่างใหญ่หลวง โดยเฉพาะทัศนะเรื่องความงาม! แต่ในโลกที่ทำให้เธอรู้สึกแปลกแยกนี้ โชคดีที่เธอยังมีเยี่ยนซือเฉิง องครักษ์ที่คอยอยู่เคียงข้างเธอเสมอมา และโดยไม่ทันรู้ตัว เมล็ดพันธุ์ที่หล่อเลี้ยงอยู่ในหัวใจมากกว่าสิบปีก็งอกงามกลายเป็น...ความรัก! 

 

"ซือเฉิง ขอบคุณนายจริง ๆ ที่คอยอยู่เคียงข้างฉัน” 

“ซือเฉิงต่างหากที่ต้องขอบคุณที่มีองค์หญิงอยู่เคียงข้าง” 

“ซือเฉิง” 

“พ่ะย่ะค่ะ” 

“ฉันชอบนาย” … 

 

ไม่ง่ายเลยที่องค์หญิงผู้สูงศักดิ์จะบอกรักองครักษ์ และยากยิ่งกว่าที่องครักษ์แสนซื่อผู้มองต่ำต้อยจะกล้ารับรักองค์หญิง 

 

สี่ปีในรั้วมหาวิทยาลัย ท่ามกลางกระแสสังคมยุคใหม่ กับทัศนะสองโลกที่แตกต่าง  

ความรักระหว่างองค์หญิงกับองครักษ์จะเป็นจริงได้หรือไม่ 





 

คุยกันหลังอ่าน 

 

เห็นปกครั้งแรกนี่แบบ... หา เอาจริงดิ แล้วองค์ประกอบภาพมันประหลาดด้วยไง จะมีภาพของหวานก็ภาพของหวานสิ ทำไมมีตัวการ์ตูนจิ๋วลอยอยู่ตรงนั้น.. พอจับหนังสือจริง ได้พิจารณาใกล้ ๆ ถึงพอเข้าใจแนวคิด เขาต้องการให้เจ้าจิ๋วนั่นปักอยู่บนไอศกรีม อารมณ์พวกแท่งที่ปักขนมน่ะ แต่คราวนี้จิบิตัวใหญ่กว่าถ้วย เลยดูไม่สมดุล แล้วลายเส้นก็ไม่ค่อยไปด้วยกันกับแนวนี้ด้วยเลยไปกันใหญ่ 

 

กลับมาที่เนื้อหานิยาย เรื่องนี้เป็นแนวทะลุมิติอีกแล้วค่ะ แต่จะกลับกับกระแสหลักทั่วไป คือเอาตัวละครจากอดีตทะลุข้ามเวลามาปัจจุบันแทน แถมไม่ได้มาแค่คนเดียว แต่มาเป็นแพ็กคู่ คือองค์หญิงกับองครักษ์ของเจ้าหล่อน ในช่วงเวลาแห่งความเป็นความตาย จิตของทั้งคู่ก็เปลี่ยนมาอยู่ในร่างของคนที่ชื่อเดียวกันในยุคปัจจุบัน ซึ่งเจ้าของร่างเดิมก็เป็นนักศักษาอยู่ในมหาวิทยาลัยเดียวกัน 

 

แน่นอนว่าพอมีอะไรที่ผิดที่ผิดทางมันก็จะมีความป่วนตามมาด้วยเสมอ สองหัวย่อมดีกว่าหัวเดียว แต่เรื่องชวนหัวที่เกิดก็จะยกกำลังตามไปด้วย 

 

เดิมหลี่หยวนหยวนเป็นองค์หญิงที่ร่างกายไม่แข็งแรง จะกินโน่นก็ถูกห้าม ทำนี่ก็โดนห้าม นางเลยยินดีมากที่เข้ามาอยู่ในร่างกายของหญิงสาวที่แข็งแรง และอุดมสมบูรณ์มากคนหนึ่ง 

 

ค่ะ องค์หญิงกลายเป็นหญิงอ้วนไปแล้ว แต่นางภูมิใจกับร่างกายตนเองมาก  

 

ส่วนซือเฉิงองค์รักษ์นั้น เมื่อองค์หญิงว่าดี เขาก็เห็นดีด้วยไปหมด  

 

องค์รักษ์ย่อมไม่ยอมห่างจากเจ้านาย ซือเฉิงตามติดหลี่หยวนหยวนเป็นเงาตามตัว ทุกคนที่รู้จักจึงเข้าใจว่าทั้งคู่เป็นแฟนกัน 

 

เลยกลายเป็นภาพที่หนุ่มหล่อมาดดี ทูนหัวทูนเกล้าหญิงอ้วนหน้าตาไม่โดดเด่นคนหนึ่งให้ทุกคนตะลึง 

 

เรื่องเปิดมาตลกนะคะ แต่โอว่าแนวหลักเป็นแนวโรแมนติกมากกว่า เป็นความหวานแบบไม่ฉูดฉาด ไม่มีฉากหวือหวาให้ตื่นตา องค์หญิงอยากทำอะไร องครักษ์ก็พยายามทำตามพระประสงค์ทุกอย่าง 

 

และองค์หญิงอาจดูเป็นตัวโจ๊กในช่วงแรก แต่ตัวตนของนางก็ยังคงเป็นองค์หญิงคนหนึ่ง มองโลกอย่างคนเหนือกว่า ชินชากับการโดนประคบประหงม เท่าทันมารยาคน  ตื่นตากับโลกกว้างใหญ่ที่ไม่เคยพบ  

 

ซึ่งสิ่งเหล่านี้เมื่อมาอยู่ในโลกปัจจุบันก็มีทั้งคุณและโทษ หลี่หยวนหยวนจึงต้องค่อย ๆ เรียนรู้และปรับตัว เช่นเดียวกับซือเฉิง แรกเริ่มหลี่หยวนหยวนแค่ไม่ต้องการโดนมองแปลก ๆ ต่อมาจึงค่อย ๆ เข้าใจช่องว่างที่พวกเขาสองคนเหลื่อมล้ำกัน และนางก็พยายามลดช่องว่างของความไม่เท่าเทียมนี้ลง แม้องครักษ์อย่างซือเฉิงจะไม่เต็มใจแม้แต่น้อย 

 

ระหว่างสองคนนี้จริง ๆ มีเรื่องราวมากมายที่บ่มเพาะกันมานาน แต่ต่างคนต่างไม่รู้ ต่างไม่สนใจ เมื่อมาอยู่ในโลกปัจจุบัน กลายเป็นว่าความรู้สึกที่เคยอยู่ลึกมาก ๆ นั้น เริ่มเติบโตให้เห็น 

 

เรื่องก็จะมีความละเอียดอ่อนซ่อนอยู่ตรงนั้นตรงนี้ จะเนิบ ๆ หวานนวล ๆ  

 

ฉากในเรื่องเป็นช่วงมหาวิทยาลัย มีชมรม มีเพื่อนนักศึกษา การเรียน การสอบ กิจกรรม มีช่วงวัยที่เต็มไปด้วยสีสันและไม่มีความรันทดอะไรนักค่ะ 

 

โดยรวมโอก็ชอบค่ะ เป็นเรื่องที่อ่านได้สบาย ๆ และก็รู้สึกดีเรื่องหนึ่งเลย แต่ตัวโอเองอาจจะติดประเด็นเรื่องที่ซือเฉิงเป็นองครักษ์ที่ทำทุกอย่างให้องค์หญิงจนดูเหมือนความเป็นตัวของเขามันจางไป มันยังมีช่องว่างที่โอมองว่าองค์หญิงยังสามารถพยายามเพื่อซือเฉิงได้มากกว่านี้ อย่างตอนที่ซือเฉิงเทียวไปเทียวมาหลายชั่วโมงเพื่อองค์หญิง หรือที่เขาแบกองค์หญิง แต่ก็ไม่ใช่ว่าองค์หญิงไม่ดีนะคะ หลี่หยวนหยวนเป็นคนที่ดีคนหนึ่งเลย นางก็พยายามปรับตัว และหลายเรื่องมันไม่ใช่ว่าบอกจะเปลี่ยนก็จะเปลี่ยนได้ทันที มันเป็นเรื่องต้องใช้เวลา ต้องใช้ความเข้าใจ นับจากตอนแรกถึงตอนท้าย ทั้งสองคนมีพัฒนาการการที่ดี โดยรวมโอพอใจนะ 

 

3.5 ดาว 



 


 

หลี่หยวนหยวนช่วยโจวฉิงดู แล้วหันกลับไปเลือกชุดสวย ๆ อีกครั้ง หลังจากที่ลองเอาชุดมาทาบกับตัวหลายชุด ในที่สุดนางก็ทำใจแล้วว่า เสื้อผ้าของที่นี่เล็กเกินไป นางใส่ไม่ได้... 

 

แต่แบบเสื้องามจริง ๆ หากเป็นเมื่อก่อนข้าย่อมใส่ได้แน่นอน... 

 

หลี่หยวนหยวนส่วยหน้า พลางมองตัวเองในกระจกแต่งตัวบานใหญ่ เสื้อยืดแขนสั้นกับกางเกงยีน เป็นชุดที่เรียบง่ายมาก ทว่าเรือนร่างนี้ช่างงดงามยิ่งนัก หน้าท้องเป็นส่วนที่นูนเด่นที่สุดของร่างกาย จากลำคอไปจนถึงข้อเท้าสามารถลากเป็นเส้นโค้งครึ่งวงกลมสวยงามสมบูรณ์แบบ แม้คนที่นี่อยู่เสมอว่าความกลมกลึงนั้นไม่ชวนมอง แต่หากพิจารณาตามความงามแบบขนบนิยม หลี่หยวนหยวนก็ไม่รู้สึกว่าเรือนร่างของตนในขณะนี้มีปัญหาแต่อย่างใด 

 

นางคิดว่าตนจะต้องปรับตัวเรื่องการใช้ชีวิตเพื่อให้อยู่รอดในโลกยุคนี้ ทว่านางไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนแปลงตนเองตามทัศนะความงามของผู้อื่น 

 

ร่างกายแข็งแกร่ง สุขภาพแข็งแรง ใบหน้ามีราศีแห่งความสมบูรณ์พูนสุข นี่เป็นสิ่งที่นางเฝ้าปรารถนามาตลอด แต่กลับไม่เคยได้มา เพราะฉะนั้นเมื่อสวรรค์ได้ประทานสิ่งนี้แก่นางแล้ว นางย่อมต้องดูแลทะนุถนอมเป็นอย่างดี นางควรจะเด็ดเดี่ยวแน่วแน่ และไม่โลภมากจนเกินไป 

 

หน้า 89  บทที่ 12 

 


 

หากอยู่ในต้าถัง นางย่อมไม่มีวันประสบเหตุการณ์เช่นนี้ สามัญชนคนใดจะอาจหาญปฏิเสธไมตรีที่องค์หญิงหยิบยื่นให้ แม้ว่านางจะไม่ใช่องค์หญิงที่หวงตี้ทรงโปรดปรานก็ตาม 

 

แต่เมื่ออยู่ที่นี่ เหตุการณ์เช่นนี้ย่อมเกิดขึ้นได้ 

 

และที่ยิ่งกว่านั้นคือ นางมิได้เตรียมใจที่จะถูกปฏิเสธเช่นนี้มาก่อน ทั้งนางก็ไม่รู้ว่าจะใช้วิธีการใดบีบบังคับให้เสี่ยวพั่งยอมรับน้ำใจนาง 

 

ข้าไม่มีกองทหารองครักษ์ จึงมิอาจจับตัวเขาได้ ข้าไม่มีจวนองค์หญิง จึงมิอาจกักขังเขาไว้ได้ ข้าไม่มีแม้กระทั่งเงินทองและรูปโฉมอันงดงาม จึงมิอาจล่อลวงเขาได้ 

 

หลังจากใช้ชีวิตอยู่ที่นี่มาได้ระยะหนึ่ง แม้จะรู้ว่าสถานะของตนต่างไปจากเมื่อก่อน นางเริ่มถือของเอง เริ่มเรียนรู้ที่จะพูดจาเช่นคนที่นี่ เริ่มไปเข้าเรียนและไปโรงอาหารคนเดียวโดยไม่มีเยี่ยนซือเฉิง แต่ภายในใจนางยังคงรู้สึกว่าตนแปลกแยกจากผู้อื่น นางรู้สึกว่าตนเองชอบที่นี่ ด้วยเหตุนี้นางจึงยอมลดเกียรติของตนด้วยความเต็มใจ 

 

คิดไม่ถึงว่าในสายตาของผู้อื่น นางมิได้ “ลดเกียรติ” แต่อย่างใด ข้าก็เหมือนกับคนทั่วเป็น เป็นเพียง... 

 

หญิงอ้วนธรรมดา ๆ คนหนึ่ง 

 

นี่เป็นครั้งแรกที่หลี่หยวนหยวนรู้สึกตัวอย่างแท้จริงว่า นางแสนจะธรรมดา 

 

ไม่ว่าใครก็ปฏิเสธข้าได้ ไม่มีผู้ใดเห็นว่าคำสั่งของข้าเป็นสิ่งที่ต้องกระทำตาม 

 

รวมไปถึง...ซือเฉิงด้วย 

 

หน้า 118-119  บทที่ 15 

 


 

“ซือเฉิง ข้าคิดว่าเราจะต้องใช้ชีวิตในโลกยุคนี้ต่อไป ดังนั้นเราจำเป็นต้องปรับเปลี่ยนความเคยชินหลายอย่าง” หลี่หยวนหยวนเอ่ยด้วยท่าทีเคร่งขรึมจริงจัง “เริ่มจากการเดินเป็นอย่างแรก” 

 

“เปลี่ยน?” เยี่ยนซือเฉิงไม่เข้าใจ 

 

“ใช่ ต้องเปลี่ยนความเคยชินที่มีอยู่เดิมทั้งหมด ไม่ว่าจำเป็นคำเรียกขาน คำพูดคำจา การกระทำ รวมไปถึงความคิดอ่าน ต้องเปลี่ยนทั้งหมด หากเปลี่ยนภายในวันพรุ่งนี้ไม่ได้ ก็ใช้เวลาปรับเปลี่ยนสักปีสองปี” หลี่หยวนหยวนเอ่ย “ข้าจะใช้ชีวิตอยู่ที่นี่ ย่อมต้องปรับตัวให้เข้ากับที่นี่” 

 

“องค์หญิง?” 

 

เยี่ยนซือเฉิงไม่เข้าใจ เหตุใดเรื่องราวที่เกิดขึ้นวันนี้จึงทำให้หลี่หยวนหยวนคิดจะเปลี่ยนแปลงตัวเองเพื่อปรับตัวให้เข้ากับสังคมที่นี่ 

 

แต่เมื่อเห็นว่านางมิได้เศร้าเสียใจกับเรื่องที่เกิดขึ้น เขาจึงคลายใจลงบ้าง 

 

“ซือเฉิง เจ้ากับข้าต้องเปลี่ยนด้วยกันทั้งคู่” หลี่หยวนหยวนเอ่ยด้วยน้ำเสียงหนักแน่นราวกับแม่ทัพที่กำลังจะออกศึก 

 

เยี่ยนซือเฉิงมองใบหน้าด้านข้างนาง เขาอดยิ้มน้อย ๆ ออกมาไม่ได้ 

 

“พ่ะย่ะค่ะ กระหม่อมจะทำตามพระบัญชาอย่างเคร่งครัด” 

 

“ผิดแล้ว คำพูดนี้ก็ต้องเปลี่ยนด้วย” 

 

“ได้” เยี่ยนซือเฉิงเงี่ยหูฟัง ข้าง ๆ ทั้งสองมีนักศึกษาชายคนหนึ่งกำลังพูดกับแฟนสาวด้วยสีหน้าเอือมระอา “ได้ ๆ ๆ จะฟังเธอทุกอย่างเลย” เยี่ยนซือเฉิงมองหลี่หยวนหยวนพลางเอ่ยเบา ๆ “ได้ จะฟังเธอทุกอย่างเลย” 

 

หลี่หยวนหยวนหัวเราะชอบใจ 

 

หลังจากนั้นนักศึกษาชายที่อยู่ข้าง ๆ ก็ถูกแฟนสาวตี “นายดูแฟนคนอื่นเขาสิ ดูสิว่าเขาอ่อนโยนแค่ไหน” 

 

“โอย แล้วทำไมเธอไม่ดูบ้างล่ะว่าแฟนเขาเรียบร้อยขนาดไหน” 

 

หน้า 120-121  บทที่ 16 
 




 

มีที่อ่านติด ๆ นิดหน่อย 


 

หน้า 131 “ฉันว่าเธอชอบหมอนั่น แต่ถึงหมอนั่นจะอ้วนก็ไม่ได้มีสเปคแบบนาย นายต้องคอยระวังหลี่หยวนหยวนเอาไว้บ้างนะ เกิดถูกสวมเขาคงจะฮาน่าดูชม!” 

หลี่หยวนหยวนชอบ 'หมอนั่น'
แต่
'หมอนั่น' อ้วน + ไม่ได้มีสเปคที่ชอบหญิงอ้วน
ก็ควรระวัง

น่าจะเป็น >> “ถึงหมอนั่นจะอ้วนแล้วก็ไม่ได้มีสเปคแบบนาย แต่นายก็ต้องคอยระวัง...” มากกว่านะคะ 


 

หน้า 205  

จางหนานใช้ปากกาวงเนื้อหาบทความพลางเอ่ยอย่างไม่ใส่ใจ “เยี่ยนซือเฉิงดีกับเธอมาก เธอ...” เขาถอนใจครั้งหนึ่ง “เธอก็ควรซื่อสัตย์กับเขาหน่อย” 

หลี่หยวนหยวนเข้าใจความหมายของเขาทันที 

เมื่อก่อน “หลี่หยวนหยวน” เคยชอบจางหนาน และอาจเคยบอกรักเขามาแล้ว แม้จะถูกปฏิเสธ แต่ “หลี่หยวนหยวน” ก็ยังชอบจางหนานอยู่ โดยที่จางหนานอาจไม่รู้ วันนี้เธอเอาบทความที่มีจุดผิดมากมายมาให้เขาช่วยแก้ ไม่ว่าดูอย่างไรบทความนี้ก็ไม่น่าจะเขียนโดยคนที่สอบเข้าเรียนในสถาบันแห่งนี้ได้ ดังนั้นจางหนาานคงจะคิดว่าเธอหาโอกาสมาใกล้ชิดกับเขาแน่นอน ด้วยเหตุนี้เขาจึงพูดอย่างอ้อมค้อมว่า เยี่ยนซือเฉิงดีกับเธอมาก 

 

ประโยค “เธอก็ควรซื่อสัตย์กับเขาหน่อย” มันเป็นคำพูดตรง ๆ ซึ่งขัดกับตอนท้ายที่บอกว่าพูดอย่างอ้อมค้อม เพราะฉะนั้น “เธอก็ควรซื่อสัตย์กับเขาหน่อย” น่าจะเป็นประโยคที่หลี่หยวนหยวนเข้าใจเองทันที (ไม่ใช่ประโยคที่จางหนางพูด)

น่าจะตัดลงมาอีกบรรทัดหนึ่ง แบบนี้ >>

จางหนานใช้ปากกาวงเนื้อหาบทความพลางเอ่ยอย่างไม่ใส่ใจ “เยี่ยนซือเฉิงดีกับเธอมาก เธอ...” เขาถอนใจครั้งหนึ่ง  

“เธอก็ควรซื่อสัตย์กับเขาหน่อย” 

หลี่หยวนหยวนเข้าใจความหมายของเขาทันที 

 

 



 




 



Create Date : 30 ตุลาคม 2563
Last Update : 30 ตุลาคม 2563 10:24:11 น.
Counter : 1297 Pageviews.

0 comments

ผู้โหวตบล็อกนี้...
คุณสองแผ่นดิน, คุณnewyorknurse

ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

ออโอ
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 49 คน [?]



โอเป็นคนชอบอ่านหนังสือมาก อ่านได้ทุกแนว เสาะแสวงหาเรื่องสนุกๆ แนวใหม่ๆ ตลอด หลายเรื่องไม่มั่นใจก็ค้นหารีวิว ถ้าชอบถ้าใช่ก็ลอง ลองแล้วชอบแล้วประทับใจก็อยากบอกต่อ บางครั้ง อ่านครั้งแรกรู้สึกอย่างนี้ อยากเก็บไว้เพื่อเป็นเรื่องราว บันทึกไว้กันลืม กลับมาย้อนอ่านก็จะได้รู้ว่า ครั้งหนึ่งที่เราเคยอ่าน เรารู้สึกอย่างนี้ เวลาผ่านไป เมื่อกลับมาอ่านอีกครั้ง ก็อาจจะได้มุมมองใหม่ๆ มากยิ่งขึ้น "ขอให้ทุกคนสนุกกับการอ่าน" รู้สึกดีที่โลกนี้มีหนังสือ-โอ
New Comments