บันทึกดาราเร้นฟ้า  ตอน หยกเพลิงน้ำค้าง 

เยว่หวา เขียน 

สำนักพิมพ์รอยอักษร 

พิมพ์ครั้งที่ 1  กรกฎาคม 2563 

250 บาท  314 หน้า 

#นิยายแต่ง #นิยายชายหญิง #บันทึกดาราเร้นฟ้า #หยกเพลิงน้ำค้าง #เยว่หวา #รอยอักษร #รีวิวนิยาย #ออโอ

หลังปก 

"เอ้อฉิงซวง" ศิษย์เพียงคนเดียวของ "ตำหนักเหนือเทวะ" 

สถานที่ซึ่งรวบรวมสมบัติวิเศษทั่วหล้าไว้ 

สมบัติที่มีแต่เจ้าตำหนัก "เว่ยซือไฉ" ครอบครองได้ผู้เดียว 

อาจารย์หวงแหนสมบัติเพียงใด เอ้อฉิงซวงล้วนทราบดี 

แต่แม้ทราบกระจ่าง วันหนึ่ง...นางกลับพลั้งมือทำ "หยกเพลิงน้ำค้าง" เสียหาย! 

หยกเพลิงน้ำค้าง...สมบัติซึ่งมีแค่ชิ้นเดียวในโลก! 

เอ้อฉิงซวงต้องรีบแก้ปัญหาโดยเร็วที่สุด ก่อนโดนขับไล่จากตำหนัก 

นึกไม่ถึง ผู้ช่วยเหลือกลับมาในคราบของบุรุษผู้หนึ่ง 

"ชิวหยางจื้อ" จอมยุทธ์ภายใต้สังกัดสำนักคู่แค้นของตำหนักเหนือเทวะ 

การดิ้นรนครานี้จะมอบผลลัพธ์ที่ยุ่งยากปานใด 

ไม่มีใครล่วงรู้...จนกว่าจะถึงบรรทัดสุดท้าย... 

คุยกันหลังอ่าน 

นิยายจีนคนไทยแต่ง เจ้าของผลงานเดียวกับ ‘ลางรักเล่ห์ร้าย’ ‘ลวงตาฤๅลวงใจ’ ‘จ้างหัวใจไว้จับรัก' และ ‘คู่เล่ห์เคียงรัก’ โดยสิตานั่นเองค่ะ สำหรับเล่มนี้ โอได้รับความกรุณาจากคุณสิตามอบให้อ่านค่ะ โอ้เอ้เถลไถลอยู่พักใหญ่กว่าจะมาอ่าน (มัวแต่ไปอ่านนิยายวายค่ะ เอิ๊ก) เรื่องนี้เธอบอกว่าเป็นแนวกึ่งกำลังภายในอะไรงี้ ซึ่งพออ่านจริง มันไม่ได้เป็นแนวต่อสู้ฟาดดาบสับกระบี่ชิ้งชิ้งโชะนะคะ (ภาพในหัวโอก่อนอ่านเป็นงี้เลย) ตัวเรื่องหลักเกี่ยวกับของวิเศษที่อาจารย์ของนางเอกเก็บไว้เป็นคลัง ๆ และความวิเศษนี้เองที่ทำให้เกิดเรื่องวุ่นวายตามมา ที่ทำให้ประหลาดใจอีกอย่างคือ มันเป็นแนวสืบสวนซะด้วย ไม่ได้ตั้งตัวเลยว่าจะมาแนวนี้ แต่ก็สมกับเป็นผลงานของเธอ เรื่องก่อน ๆ ก็เป็นแนวรักปนสืบสวนเหมือนกันค่ะ 

อ้อ เห็นคำว่า ‘ตอนหยกเพลิงน้ำค้าง’ แสดงว่ามันต้องมีตอนอื่นสิอย่างนี้ คุณสิตาเธอว่าเป็นเรื่องในอนาคตที่ยังไม่แน่นอน (ประมาณว่าเขียนกำกับไว้เผื่อ ๆ ก่อน) สำหรับเรื่องนี้จบในตัวไม่ค้างแน่นอน ยืนยันมาอย่างหนักแน่น ซึ่งพอโออ่านจบ โอก็ขอยืนยันอีกคน ว่าไม่ค้างค่ะ 

เอ้อฉิงซวง นางเอก เป็นศิษย์เพียงคนเดียวของเจ้าตำหนักเหนือเทวะอย่างเว่ยซือไฉ พูดอย่างนี้แล้วฟังดูดี แต่จริง ๆ แล้ว ที่เว่ยซือไฉเลื่อนสาวใช้หน้าห้องอย่างเอ้อฉิงซวงมาเป็นศิษย์ ก็เพื่อเป็นคนคอยรับหน้าบรรดาแขกที่มาขอหยิบยืมของวิเศษเพียงเท่านั้น 

ตำหนักเหนือเทวะขึ้นชื่อว่าเป็นสถานที่ที่รวบรวมของวิเศษในใต้หล้าไว้มากที่สุด แต่เจ้าตำหนักคนปัจจุบันอย่างเว่ยซือไฉนั้นไม่ใช่คนที่ใจบุญสุนทานอะไร ตอนนี้เพียงแค่ใช้เวลาวัน ๆ ไปกับการชื่นชมของวิเศษของตนก็ไม่ว่างไปสนใจคนอื่นแล้ว เขาไม่แยแสคนที่มาอ้อนวอนขอความช่วยเหลือ ยิ่งไม่สนใจศิษย์เพียงคนเดียวอย่างเอ้อฉิงซวงที่ต้องคอยรับหน้าที่ที่ไม่มีใครอยากทำ อย่างการคอยปฏิเสธแขกที่มาขอเข้าพบ 

แม่ทัพจี๋และฮูหยินเป็นแขกรายล่าสุด พวกเขาต้องการขอยืมหยกเพลิงน้ำค้างเพื่อช่วยชีวิตธิดาที่ป่วยด้วยโรคประหลาดของพวกเขา ก่อนหน้านี้พวกเขาเพิ่งสูญเสียบุตรชายไป จึงหวังสุดใจว่าจะสามารถยื้อชีวิตธิดาที่ป่วยด้วยโรคเดียวกันนี้ได้ เอ้อฉิงซวงเป็นเด็กกำพร้า อานุภาพพลังของบิดามารดาจึงทำให้นางใจอ่อนในที่สุด เอ้อฉิงซวงจึงรับปากว่าจะไปพูดกับอาจารย์ให้ 

แต่แน่นอนว่าอาจารย์ของนางปฏิเสธ เอ้อฉิงซวงต่อหน้ารับฟังอาจารย์ แต่พอลับหลังก็ไปเลยจ้า นางมีกุญแจคลังเก็บของวิเศษอยู่แล้ว ก็เลยสามารถแอบเอาหยกเพลิงน้ำค้างออกจากคลัง ไปให้แม่ทัพจี๋และฮูหยินช่วยชีวิตบุตรสาว 

จริง ๆ การใช้หยกเพลิงน้ำค้างเพื่อรักษานี่ไม่ได้ทำให้ตัวหยกเสียหาย แค่ทำให้หยกเสียคุณสมบัติไป และต้องใช้เวลาหลายสิบปีเพื่อสะสมพลังใหม่อีกครั้ง เอ้อฉิงซวงคิดว่าเมื่อเทียบกับชีวิตคน ระยะเวลาหลายสิบปีนั้นก็คุ้มค่า เจตนาเดิมของเอ้อฉิงซวงจึงต้องการแค่หยิบยืมไปชั่วคราวเท่านั้น อีกทั้งนางก็ยังมองโลกในแง่ดีว่าเดิมทีอาจารย์ไม่ใช่เป็นคนใจไม้ไส้ระกำ รออาจารย์อารมณ์ดี ๆ ค่อยไปสารภาพก็ไม่สาย เอ้อฉิงซวงคิดในแง่ดี 

แง่ดีเกินไป  

จนลืมนึกถึงปัจจัยมากมายที่สามารถทำให้เรื่องราวพลิกผัน 

อย่างการที่การหยิบยืมแลกเปลี่ยนชั่วคราวนั้นไม่เป็นไปดังที่นางคิด 

หรืออย่างการที่หยกเพลิงน้ำค้างแตกหักออกเป็นสองส่วน 

ในตอนที่ใจของเอ้อฉิงซวงคิดไปในทางย่ำแย่ที่สุด พระเอกก็ออกโรงจ้า 

แถ่น แถ่น แท้น 

ขอแนะนำให้ทุกคนรู้จัก จอมยุทธ์ชิวหยางจื้อ พระเอกของเรื่องค่า 

ชิวหยางจื้อไม่ใช่คนแปลกหน้าสำหรับเอ้อฉิงซวง เขาเป็นแขกจอมดื้อด้านของตำหนักเหนือเทวะ เพราะเขาตามตื๊อขอพบอาจารย์ของนาง แม้ว่านางจะทำหน้าที่ปฏิเสธอย่างแข็งขันตลอดมา เขาก็ไม่ยอมถอดใจ ชิวหยางจื้ออยากให้เว่ยซือไฉแต่งบทกวีให้อาจารย์ของเขา แต่เรื่องนี้เป็นไปไม่ได้อย่างสิ้นเชิง เพราะสำนักที่ชิวหยางจื้ออยู่เป็นคู่แค้นกับสำนักเหนือเทวะ 

ตอนที่เอ้อฉิงซวงมองไม่เห็นทาง ชิวหยางจื้อก็สร้างทางรอดให้นางใหม่สายหนึ่ง แม้นางจะไม่อยากติดหนี้เขา แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าทางนี้เป็นทางรอดเดียวของนาง 

เขาเสนอให้นำหยกเพลิงน้ำค้างที่แตกหักนั้นไปให้ช่างแกะสลักตาเดียวนามว่าจ้าวถวนแกะซะ ไหน ๆ หยกก็แตกแล้ว ก็ทำให้สวยไปเลยสิ อีกทั้งจ้าวถวนก็เป็นคนที่เว่ยซือไฉอยากได้สมบัติฝีมือเขา แต่ยังไม่เคยมีอยู่ในครอบครอง 

ซึ่งการจะให้จ้าวถวนยอมแกะสลักนั้น มีหนทางเดียวคือต้องให้ชิวหยางจื้อออกหน้า เพราะเขามีบุญคุณต่อจ้าวถวน 

ทางรอดของเอ้อฉิงซวงสายนี้แลกเปลี่ยนกับการที่นางยอมให้เขาเข้าพบอาจารย์ เอ้อฉิงซวงตกลง พวกเขาจึงออกเดินทางไปหาช่างแกะสลักตาเดียวจ้าวถวน 

เมื่อไปถึง ปัญหาต่อมาก็คือ ถึงช่างมีใจอยากแกะให้ แต่ก็แกะไม่ได้ เพราะขาดเครื่องมือคู่ใจ ซึ่งเครื่องมือนั้นซุกซ่อนในรูปแกะสลักของอาจารย์ของจ้าวถวนอีกทีหนึ่ง  

รูปสลักนั่นเอ้อฉิงซวงรู้ดีว่าอยู่ที่ไหน แต่ปัญหาต่อมาก็คือ พอไปถึงที่หมาย รูปสลักก็โดนขโมยไปแล้ว 

ถึงตอนนี้ เอ้อฉิงซวงกับชิวหยางจื้อไม่มีทางเลือกอื่น นอกจากวางแผนหาทางจับขโมย 

เพื่อหารูปสลัก 

เพื่อขโมยรูปสลักอีกต่อ  

เพื่อเอาเครื่องมือที่อยู่ที่รูปสลักไปให้ช่างตาเดียวแกะหยก เพื่อไปคืนเว่นซือไฉ ทำให้เว่ยซือไฉไม่โกรธเอ้อฉิงซวงมากเกินไป และเพื่อให้ชิวหยางจื้อได้โอกาสพบเว่ยซือไฉ เพื่อขอให้เว่ยซือไฉแต่งบทกวีมอบให้อาจารย์ของเขา 

อุปสรรคซ้อนเป็นชั้น เรื่องก็จะซ้อนเป็นชั้น ๆ ด้วยประการฉะนี้  

นางเอกเรื่องนี้ฉลาดค่ะ จะใช้ไหวพริบในการแก้ปัญหาหลายครั้ง อย่างฉากแรกเปิดตัวช่วงที่นางเอกแอบเอาหยกไปให้แม่ทัพจี๋รักษาลูกสาว ช่วงนี้โอชอบมาก เป็นช่วงเปิดที่คิดว่าสนุกและชวนติดตาม เห็นการชิงไหวชิงพริบ ซึ่งเราจะได้เห็นแบบนี้อีกช่วงที่เดินทาง และช่วงตามล่าหาสมบัติที่ถูกขโมยไป  นางเอกต้องอาศัยชิ้นส่วนและเบาะแสที่ถูกทิ้งไว้เพื่อหาสมบัติ (ซึ่งก็คือรูปสลักนั่น) กลับมาให้ได้ โอชอบช่วงที่นางเอกแก้เกมเฉพาะหน้า อ่านแล้วรู้สึกตื่นเต้นดี แบบอู้หูอ้าหา อะไรงี้ ซึ่งมันเป็นความรู้สึกที่ควรจะเกิดเมื่ออ่านเรื่องที่มีการชิงไหวชิงพริบพลิกแพลงไปตามสถานการณ์ ส่วนพระเอกจะเป็นสายหนุน คอยต่อสู้ช่วยเหลือนางเอก ไม่ก็โดนนางเอกใช้ไปสืบหาเบาะแสเพราะพระเอกจะเคลื่อนไหวได้สะดวกรวดเร็วกว่า 

ความสัมพันธ์ของคู่นี้เริ่มต้นกันแบบไม่ชอบหน้ากันเท่าไร คือนางเอกเป็นฝ่ายที่ไม่ชอบพระเอกน่ะ เพราะรู้สึกว่าพระเอกเป็นจอมตื๊อ แถมยังเป็นจอมยุทธ์อนาถา จนกรอบมาก (จนจริงจ้า ไม่ได้ปลอมตัวมาทำตัวจน) แต่พออยู่ด้วยกัน ผจญภัยเจอปัญหา ช่วยเหลือยามคับขัน ก็เห็นนิสัยใจคอกัน ผูกพันกันมา ก่อเป็นความรัก พระเอกพอรู้ตัวว่ารักก็สู้ไม่ถอยเพื่อนางเอก ต้องไม่ลืมว่าเขาเป็นจอมตื๊อนะ 

นางเอกเรื่องนี้รักอาจารย์มาก นางก็จะมีความรู้สึกผิดปนอยู่ตลอดว่าเป็นเพราะตัวเองถึงทำใหอาจารย์ลำบาก ซึ่งส่วนนี้โอมองว่าเป็นทั้งข้อดีและข้อด้อยของเรื่อง ข้อดีก็ตรงเป็นการสร้างเงื่อนไขและอุปสรรคให้ตัวละคร ข้อด้อยก็คือ เพราะเรื่องค่อนข้างเล่าแบบกระชับ จะเล่าถึงความสัมพันธ์ศิษย์อาจารย์แบบเป็นประโยคแทรกตัดตอนมาสั้น ๆ เราจะไม่เห็นความผูกพันว่าทำไมนางเอกถึงรักอาจารย์ขนาดนี้นะ ความเข้าใจของเราที่มีต่อความรู้สึกของนางเอกนั้นจึงไม่เท่ากัน ก็เลยทำให้อาจจะไม่ค่อยเข้าถึงในจุดนี้  

สำหรับชื่อเรื่อง บันทึกดาราเร้นฟ้า ในเรื่องหมายถึงการที่เว่ยซือไฉเปรียบการค้นพบความลับของของวิเศษเหมือนการพบดาราที่เร้นอยู่บนฟ้า 

โดยรวมเป็นเรื่องที่รวมทั้งแนวยุทธภพมีสำนัก มีของวิเศษ มีการสืบสวนไขคดี และมีการชิงไหวชิงพริบ มีเรื่องความรักของพระนางแทรกมาด้วย อ่านเพลินทีเดียวค่ะ 3.5 ดาว 

เรื่องนี้ได้รางวัลชนะเลิศ โครงการอ่านเอาก้าวแรก รุ่นที่ 2 ด้วยค่ะ 

สามารถอ่านตัวอย่างได้ที่นี่ คลิก

มีทั้งแบบเล่มและอีบุ๊ก
สั่งซื้ออีบุ๊กทาง Meb คลิก
ติดตามนักเขียนเพื่อทักทาย ให้กำลังใจ หรือสั่งซื้อหนังสือฉบับรูปเล่ม ที่เพจ สิตา/เยว่หวา/สำนักพิมพ์รอยอักษร หรือพิมพ์ @sita.writer ในช่องค้นหา หรือ คลิก

e-book ค่ะ