Group Blog All Blog
|
ตำรับรักชายากระทะเหล็ก เจี่ยนอิง เขียน ตำรับรักชายากระทะเหล็ก เจี่ยนอิง เขียน Breadcrumbs แปล สำนักพิมพ์เหลียนฮวา ในเครือบงกช 320 บาท 342 หน้า หลังปก จินถงหรุ่ยได้ข้ามมิติมาถึงสมัยต้าฉีซึ่งสถาปนาแคว้นด้วยอาหารอย่างไม่คาดฝัน โชคดีที่ปะป๊าผู้เป็นเชฟชื่อดังในยุคปัจจุบันเคี่ยวเข็ญให้เธอมีฝีมือทำอาหารเลิศล้ำ ทำให้เปิดกิจการขายของกินที่นี่หาเงินได้มากมาย จนแม้แต่ญาติชั้นดีของพ่อแม่ในยุคนี้ยังอยากจะมาขอแบ่งกำไร แต่ด้วยหัวคิดสมัยใหม่เธอจึงใช้ปังตอไล่ตะเพิดไปจนหมด ส่วนเริ่นหรงเจินคนที่เธอกับพ่อเก็บกลับมาจากพงหญ้าข้างทาง ตอนแรกเธอนึกว่าเขาเป็นคนใบ้ที่ขาพิการสองข้าง ต่อมาจึงรู้ว่าเขาถูกโจรภูเขาสกัดจุดไว้ พอจุดคลายก็ย่อมกลับมาเป็นปกติ เพียงแต่เขาพิลึกจริงๆ ทั้งที่อาหารของเธอได้รับการถ่ายทอดมาจากปะป๊า แต่เขาทำท่าเหมือนเคยกินมาก่อนแล้ว มิหนำซ้ำยังเฝ้าเรียกตัวเองว่าท่านอ๋องน้อยทั้งวันทั้งคืน เขาชอบฝันกลางวันเสียจริง แต่ว่า หึ...หัวเราะไม่ออกแล้วสิ เพราะฝ่าบาท ฝ่าบาททรงมาตามเขาแล้ว! คุยกันหลังอ่าน นางเอกเรื่องนี้เป็นลูกสาวของเชฟชื่อดัง มีพรสวรรค์ด้านการทำอาหาร วันหนึ่งเกิดเหตุแผ่นดินไหว เธอได้ทะลุมิติ วิญญาณมาเข้าร่างสาวชาวบ้านในสมัยต้าฉี ซึ่งรุ่งเรืองเฟื่องฟูและให้ความสำคัญกับอาหารเป็นอย่างมาก จะว่าเป็นโชคดีในโชคร้ายก็ว่าได้ สาวชาวบ้านคนนั้นชื่อจินถงหรุ่ย แม้ฐานะยากจน แต่ครอบครัวอบอุ่น มีพ่อแม่ที่เอาใจใส่ มีน้องชายที่น่ารัก น่าเสียดายที่พ่อแม่เป็นคนซื่อและหัวอ่อน จึงโดนญาติพี่น้องเอาเปรียบเสมอ นางเอกซึ่งตอนนี้สวมรอยเป็นจินถงหรุ่ยแล้วจึงคิดว่าปล่อยให้เป็นแบบนี้ต่อไปไม่ได้ ต้องเอาความสามารถด้านการทำอาหารของตนเองมาใช้เพื่อยังชีพครอบครัว จึงเริ่มดำเนินการเปิดกิจการขายอาหารขึ้น ระหว่างนั้นนางเอกก็ไปพบพระเอกซึ่งโดนโจรภูเขาสกัดจุดทำให้พูดไม่ได้ เคลื่อนไหวก็ไม่ได้ อยู่ข้างทาง จึงเก็บกลับมาด้วย ครอบครัวของจินถงหรุ่ยเป็นคนดี ถึงจะยากไร้แต่ก็มีจิตใจเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ ดูแลพระเอกเหมือนเป็นคนในครอบครัว เดิมทีพ่อของจินถงหรุ่ยต้องเป็นคนอุ้มลูกชายที่เดินไม่ได้ ตอนนี้ก็เลยลามมาถึงคอยอุ้มพระเอกไปไหนมาไหนในบ้านด้วย จากตอนแรก ใจที่ต่อต้านและหยิ่งทะนงในศักดิ์ศรีของพระเอกจึงไหวเอนเพราะน้ำใจของคนในครอบครัวนี้ โดยเฉพาะกับนางเอก พระเอกเห็นนางเอกชอบทำอาหาร เชื่อมั่นฝีมือทำอาหารของตน เป็นคนมีไหวพริบ สดใส และกล้าหาญ ก็เริ่มหลงรัก ไม่อยากจากไป ด้านนางเอก ฝีมือการทำอาหารของจินถงหรุ่ยซึ่งอยู่ ๆ ก็พลิกจากหน้ามือเป็นหลังมือนั้น นางอ้างว่าฝันเห็นเทพเจ้าเต่ามาสอนให้ ครอบครัวซึ่งหัวอ่อนอยู่แล้วนั้นเชื่ออย่างง่ายดาย มีเพียงพระเอกคนเดียวที่ไม่เชื่อ นางเอกจึงคอยระวังตัวจากพระเอก หลังจากจุดใบ้ที่โดนกดไว้คลายออก พระเอกแนะนำตัวว่าเขาคือ อ๋องน้อยแห่งจวนจิ่งชิงอ๋อง แต่ไม่มีใครในครอบครัวนางเอกที่เชื่อเลย จึงได้แต่โมโหระคนจนใจ กลายเป็นเรื่องตลกชวนหัวที่นางเอกเอามาล้อเล่น ว่าถ้าท่านเป็นอ๋องน้อย ข้าก็เป็นพระชายาน้อย กลายเป็นชื่อเรียกล้อกันเล่นของทั้งคู่ไป เมื่อกิจการขายอาหารเป็นไปด้วยดี ญาติซึ่งเคยตั้งแง่ก็เริ่มเข้าหา อยากได้ผลประโยชน์ นางเอกจึงต้องเป็นตัวตั้งตัวตีป้องกัน ไม่ให้พ่อแม่ที่หัวอ่อนยอมโดนโขกสับขูดรีดไป ซึ่งอุปสรรคเหล่านี้ก็มีมาเรื่อย ๆ ในรูปแบบต่าง ๆ กัน ด้านพระเอกเองก็คอยช่วยระวังอยู่ข้าง ๆ ส่งเสริมและเสนอแนะเพื่ออุดช่องโหว่ที่นางเอกเผลอ มั่นใจแล้วว่านางเอกคือคนที่ตนรัก เหลือแค่แสดงท่าทีให้นางเอกรู้ ตอบรับ และยอมไปเมืองหลวงกับตน +++ เรื่องอบอุ่น อ่านแล้วมีความสุข ครอบครัวของนางเอกในโลกใหม่เป็นคนดีที่น่าสงสาร แต่ความดีของพวกเขาก็ค้ำจุนจิตใจเราได้จริง ๆ เวลาทำอาหาร นางเอกทำอย่างตั้งใจ มุ่งมั่น และมีความสุข พระเอกหลงรักนางเอก ก็รู้ใจเร็ว และไม่หวั่นเกรง พระนางคอยสนับสนุนส่งเสริมซึ่งกันและกัน สิ่งที่ส่งผ่านมาถึงคนอ่านอย่างเราจึงมีแต่พลังบวก อุปสรรคในเรื่องที่ควรจะส่งพลังลบแก่เราจึงโดนพลังบวกเหล่านั้นกลบหายไป เพราะเราเชื่อว่าพลังบวกเหล่านี้จะพาพวกเขาผ่านทุก ๆ อุปสรรคไปได้ เรื่องไม่ได้ใหญ่โต ไม่ได้มีการห้ำหั่นชิงอำนาจ ไม่ได้มีความเจ้าแผนการล้ำลึก เป็นเรื่องราวความอบอุ่นของครอบครัว ความรักของหนุ่มสาว และอาหาร เท่านี้เอง เราจะเห็นความตั้งใจของผู้เขียนที่เอาใจใส่ เล่ารายละเอียดการทำอาหารแต่ละเมนูของนางเอกไม่รู้จักเหน็ดจักเหนื่อย อ่านไปท้องร้องไป ในเรื่องกินกันอย่างเอร็ดอร่อย นอกเรื่องก็กลืนน้ำลายต่อไป ชอบวิธีคิดของนางเอกที่เอาการสอนของปะป๊าในยุคปัจจุบันมาปรับใช้รับมือแต่ละสถานการณ์ ซึ่งมันไม่ได้ลึกลับ แต่เรียบง่ายและใช้ได้จริง นอกจากเล่าเรื่องการทำอาหาร การบุกเบิกกิจการร้านอาหารของนางเอก และการเอาชนะปัญหาเครือญาติที่คาราคาซังแล้ว ก็ยังมีปริศนาที่ใส่มาตั้งแต่ต้นเรื่อง ว่าในเมนูอาหารในยุคปัจจุบันที่นางเอกทำนั้น มีอาหารที่พระเอกเคยกินเมื่อครั้งอยู่ในเมืองหลวงอยู่ ซึ่งจะเฉลยเหตุผลว่าคืออะไรนั้น ต้องติดตามในเรื่องนะคะ สรุปคือโออ่านแล้วรู้สึกถึงพลังบวก ชอบในจุดจุดนี้ ส่วนที่คิดว่าผู้เขียนยังทำได้ไม่ค่อยดีคือการเข้าถึงอารมณ์ตัวละครและเชื่อมโยงส่งต่อให้ผู้อ่าน เรื่องก็เลยไม่ค่อยละเมียดละไม มีความฉึบฉับ ปุบปับระหว่างฉาก ซึ่งถูกชดเชยด้วยความสดใสของเนื้อเรื่องอีกที 3 ดาว เรื่องนี้มี e-book ด้วยค่ะ
คุณข้าวปั้น โอว่ารูปผู้หญิงบนปกสวยนะคะ สมส่วน รายละเอียดดี แต่การจัดภาพหน้าปก จัดตัวหนังสือ การใช้สี ฟอนต์ ไม่สวยเลย ตอนแรกโอไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเหลียนฮวามุมบนซ้ายคือชื่อสำนักพิมพ์ เพราะฟอนต์เดียวกันหมด ไม่มีรูปแบบเฉพาะ ตัวหนังสือสีเขียวบนปกก็ไม่เข้ากับสีของภาพผู้หญิงหรือพื้นหลัง และค่อนข้างเชยด้วย
ดีใจที่ชอบเหมือนกันค่ะ ขอบคุณคุณ haiku ที่โหวตให้ด้วยค่ะ โดย: ออโอ วันที่: 19 กุมภาพันธ์ 2562 เวลา:15:25:46 น.
|
โอเป็นคนชอบอ่านหนังสือมาก อ่านได้ทุกแนว เสาะแสวงหาเรื่องสนุกๆ แนวใหม่ๆ ตลอด หลายเรื่องไม่มั่นใจก็ค้นหารีวิว ถ้าชอบถ้าใช่ก็ลอง ลองแล้วชอบแล้วประทับใจก็อยากบอกต่อ บางครั้ง อ่านครั้งแรกรู้สึกอย่างนี้ อยากเก็บไว้เพื่อเป็นเรื่องราว บันทึกไว้กันลืม กลับมาย้อนอ่านก็จะได้รู้ว่า ครั้งหนึ่งที่เราเคยอ่าน เรารู้สึกอย่างนี้ เวลาผ่านไป เมื่อกลับมาอ่านอีกครั้ง ก็อาจจะได้มุมมองใหม่ๆ มากยิ่งขึ้น "ขอให้ทุกคนสนุกกับการอ่าน" รู้สึกดีที่โลกนี้มีหนังสือ-โอ
| ||||||||||
เสียดาย ปกไม่ค่อยสวยดึงดูดใจเท่าไหร่
ขอบคุณสำหรับรีวิวค่ะ