พฤษภาคม 2561

 
 
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
15
16
17
18
21
22
23
24
28
31
 
 
All Blog
เสียงที่เราต้องรับฟัง
เราคือวัฐจักรของตัวเราเอง การรับฟังเสียงจากภายในเพียงอย่างเดียวอาจไม่สามารถทำให้เรารับรู้หรือมองเห็นความจริงที่แท้จริงได้เพราะเสียงจากภายในที่เราได้ยินนั้นมาจากความต้องการอยู่ในขอบเขตของความสะดวกสบายและขอบเขตของความเคยชินเก่าๆ และ ความไม่ต้องการออกจากขอบเขตของความสะดวกสบายและขอบเขตของความเคยชินเก่าๆที่ยืนอยู่บนฐานของพลังงานบวกและพลังงานลบที่ไม่สมดุลย์ของเราเอง ซึ่งภายในสิ่งที่เราต้องการนั้นจะมีสิ่งที่เราไม่ต้องการรวมอยู่ด้วยเสมอและภายในสิ่งที่เราไม่ต้องการจะมีสิ่งที่เราต้องการรวมอยู่ด้วยเสมอเช่นเดียวกัน ทั้งสิ่งที่เราต้องการและไม่ต้องการภายในจะถูกแสดงออกภายนอกพร้อมๆกันจากการพูดการบอกกล่าวการวิพากษ์วิจารณ์การแสดงความคิดเห็นต่างๆและการกระทำในรูปแบบต่างๆโดยที่เราคิดและเข้าใจไปเองว่านั่นคือสิ่งที่เราแสดงออกไปเพื่อเป็นสัญญาณที่บอกว่าคนอื่นทำสิ่งที่ไม่ถูกต้องและจะต้องปรับปรุงเปลี่ยนแปลงการกระทำนั้น แต่จริงๆแล้วคำพูดต่างๆที่เราแสดงออกจากตัวเราคือ เสียงอีกหนึ่งเสียงที่เราจะต้องรับฟังและนำมาแก้ไขปรับปรุงเพราะเราคือ วัฏจักรของตัวเราเอง เราคือคนที่จะได้รับผลจากความคิดความรู้สึกและการกระทำของเราเอง เราคือผู้รับส่งสารของตัวเราเอง ทั้งความคิดคำพูดและการแสดงออกต่างๆที่เราแสดงออกไปล้วนมาจากความต้องการและไม่ต้องการของเราที่บ่งบอกความเป็นตัวเราทั้งสิ้น เราคือคนที่จะต้องแสดงความเคารพและแสดงความรับผิดชอบต่อความต้องการและความไม่ต้องการของเราเองและต้องทำให้สิ่งนั้นเกิดขึ้นด้วยตัวของเราเอง การแสดงออกของเราไม่ได้หมายความว่าคนอื่นจะเป็นอย่างที่เราคิดและทำ แต่หมายความว่าเราเป็นอย่างที่เราคิดและทำ When you judge another, you do not define them, you define yourself

เราคือวัฐจักรของกันและกัน การรับฟังเสียงผู้อื่นหรือเสียงที่เกิดขึ้นจากสถานการณ์ภายนอกทั้งหมดไม่ว่าสถานการณ์นั้นจะมาจากที่ใดเรื่องใดก็ตามทุกสิ่งทุกที่ทุกคนทั่วโลกที่อาศัยอยู่บนโลกนี้คือ เสียงที่เราต้องรับฟัง ไม่มีอะไรที่เป็นความบังเอิญ ทุกสิ่งที่เกิดขึ้นมีเหตุและผลในตัวของมันเอง ทุกความคิดทุกการกระทำที่เราแสดงออกไปจะมีอีกสิ่งหนึ่งที่ซ่อนอยู่ในอีกสิ่งหนึ่งเสมอ ยกตัวอย่างเช่น เราคือพ่อแม่ของลูก และเราก็คือลูกของพ่อแม่ เราคือครูของนักเรียน และเราก็คือนักเรียนของครู เป็นต้น เราคือ2in1 ของตัวเองและของกันและกัน ซึ่งภายในสิ่งที่เราต้องการนั้นจะมีสิ่งที่เราไม่ต้องการรวมอยู่ด้วยเสมอและภายในสิ่งที่เราไม่ต้องการจะมีสิ่งที่เราต้องการรวมอยู่ด้วยเสมอเช่นเดียวกัน ทั้งสิ่งที่เราต้องการและไม่ต้องการภายในจะถูกแสดงออกภายนอกพร้อมๆกันจากการพูดการบอกกล่าวการวิพากษ์วิจารณ์การแสดงความคิดเห็นต่างๆและการกระทำในรูปแบบต่างๆเพื่อเป็นสัญญาณที่บอกว่าเราหรือผู้อื่นทำสิ่งที่ไม่ถูกต้องและจะต้องปรับปรุงเปลี่ยนแปลงการกระทำนั้นเพราะเราคือวัฐจักรของกันและกัน ทั้งความคิดความรู้สึกและการกระทำที่เราแสดงออกไปจะมีผลทั้งตัวเราเองและผู้อื่น เราคือผู้รับส่งสารของกันและกัน ทั้งความคิดคำพูดและการแสดงออกต่างๆที่เราและผู้อื่นแสดงออกไปล้วนมาจากความต้องการและไม่ต้องการของเราและผู้อื่นที่บ่งบอกความเป็นตัวเราและบ่งบอกความเป็นตังของผู้อื่น เราคือคนที่จะต้องแสดงความเคารพและแสดงความรับผิดชอบต่อความต้องการและความไม่ต้องการของตัวเราเองและของกันและกัน การแสดงออกของเราอาจหมายความว่าคนอื่นเป็นอย่างที่เราคิดและเราก็เป็นอย่างที่เราคิดว่าคนอื่นเป็นด้วยเหมือนกัน When you judge another, you define them and you define yourself

มนุษย์ไม่ได้มีมนุษย์คนอื่นเพื่อที่จะให้คนอื่นมาแสดงความเคารพและแสดงความรับผิดชอบต่อความต้องการและความไม่ต้องการของเรา แต่เรามีคนอื่นเพื่อการเรียนรู้และพัฒนาตัวเองและเรียนรู้และพัฒนาซึ่งกันและกันเพราะเราไม่สามารถเรียนรู้จากการคิดและทำด้วยตัวเองเพียงลำพังได้ เราจำเป็นต้องพึ่งผู้อื่นเพื่อช่วยให้เราสามารถมองเห็นภาพที่ชัดเจนยิ่งขึ้นในตัวของเราเองและของผู้อื่น ในขณะเดียวกันผู้อื่นก็จำเป็นต้องพึ่งเราเพื่อช่วยในการมองเห็นภาพที่ชัดเจนยิ่งขึ้นเช่นกัน เราพึ่งพาอาศัยกันและกันเพราะเราคือ วัฏจักรของกันและกัน เราคือกระจกเงาของกันและกัน เรามาจากที่เดียวกันและเราก็กลับคืนสู่ที่เดียวกัน เราคือคนคนเดียวกันที่แยกออกเป็นสองเพื่อการเรียนรู้และการพัฒนาที่สมบูรณ์แบบ การเดินเข้าออกระหว่างวัฏจักรของตัวเราเองและ วัฏจักรของกันและกัน ไม่ได้เป็นไปเพื่อการเล่นเกมซ่อนหาอย่างที่เราทำกับตัวเองและผู้อื่นเพียงเพราะความต้องการอยู่ภายใต้ความสะดวกสบายและความเคยชินเก่าๆของตัวเราเอง แต่การเดินเข้าออกระหว่างวัฏจักรของตัวเราเอง และ วัฏจักรของกันและกัน คือ กระบวนการของการเรียนรู้และพัฒนาตัวเองและการเรียนรู้และพัฒนาซึ่งกันและกันเพื่อนำพาตัวเองและโลกเข้าสู่อารยธรรมที่สมบูรณ์แบบ A Perfect Civilization

***มนุษย์ทุกคนเกิดมาพร้อมกับความไม่สมดุลย์ในตัวของพลังงานบวกและความไม่สมดุลย์ในตัวของพลังงานลบ การที่คนเราพยายามใช้ชีวิตอยู่ภายใต้ความไม่สมดุลย์ของเราเองโดยปฏิเสธการเรียนรู้และพัฒนาความไม่สมดุลย์ที่เรามีอยู่คือ การเกิดเพื่อเป็นสะพานให้ผู้อื่นก้าวเดิน แต่ไม่ยอมเดินก้าวข้ามสะพานของตัวเองและของผู้อื่น คนที่พยายามเรียนรู้และพัฒนาความไม่สมดุลย์ของตัวเองคือ การเกิดเพื่อเป็นผู้เดินก้าวข้ามสะพานของตัวเองและของผู้อื่น



Create Date : 26 พฤษภาคม 2561
Last Update : 29 พฤษภาคม 2561 9:02:01 น.
Counter : 487 Pageviews.

0 comments
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

สมาชิกหมายเลข 3784113
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 5 คน [?]



จุกมุ่งหมายคือ การรู้แจ้งเห็นจริงในฐานะมนุษย์ปุถุชนคนธรรมดาคนหนึ่ง

There is no way to happiness, happiness is the way.

การปิดทองหลังพระ ถ้าเราไม่หยุดปิด วันหนึ่งทองก็จะล้นมาด้านหน้าพระเอง

คำพูดที่ปราศจากการกระทำนั้นได้ตายไปแล้ว