ทำไมเราถึงมองไม่เห็นความจริง(สัจจะ)ที่อยู่ตรงหน้า?
การที่คนเรามองเห็นความจริงที่คลาดเคลื่อนเป็นเพราะ 1. เราเอาสิ่งที่เกิดขึ้นในอดีตมาผูกเข้ากับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน 2. เราเอาความคาดหวังที่อยากให้เกิดขึ้นในอนาคตมาผูกเข้ากับเหตุการณ์ในปัจจุบัน ทั้งสองกรณีคือตัวแปรสำคัญที่ทำให้เรามองไม่เห็นความจริง(สัจจะ)ที่อยู่ตรงหน้าและนี่คือเหตุผลที่ทำให้ในเวลาที่เราต้องการค้นหาความจริง(สัจจะ)ที่อยู่ตรงหน้าเราต้องมองลึกเข้าไปในความจริงที่เกิดขึ้นตรงหน้า "ผลเกิดจากเหตุและเหตุก็ทำให้เกิดผล" ไม่มีหนึ่งก็ไม่มีสองไม่มีสองก็ไม่มีสาม ทุกสิ่งทุกอย่างบนโลกนี้ล้วนมีส่วนเชื่อมโยงถึงกัน ไม่มีอะไรหรือใครที่สามารถมีชีวิตอยู่โดยไม่ต้องอาศัยพึ่งพาสิ่งอื่นหรือคนอื่น ในเวลาที่เราขับรถออกจากบ้าน เราไม่สามารถนำที่จอดรถไปด้วยกับเราได้ ดังนั้นเราจึงต้องไปอาศัยที่จอดรถของคนอื่น และในทางกลับกันเมื่อคนอื่นขับรถออกจากบ้าน คนอื่นก็ไม่สามารถนำที่จอดรถไปด้วยได้ คนอื่นก็อาจจะต้องมาจอดรถหน้าบ้านเรา ถ้าเรามองว่านี่คือส่วนหนึ่งของการใช้ชีวิตโดยไม่เอาเหตุการณ์ในอดีตหรือความคาดหวังในอนาคตเข้ามาผูกเข้ากับเหตุการณ์ในปัจจุบันเราก็จะไม่รู้สึกเป็นทุกข์ เราอาจจะรู้สึกหงุดหงิดขัดเคืองบ้าง ซึ่งความรู้สึกหงุดหงิดขัดเคืองก็เป็นส่วนหนึ่งของการใช้ชีวิต ถ้าเราไม่เพิ่มเชื้อฟืนเข้าไปในกองไฟ ไม่นานกองไฟก็จะมอดไปเอง เราไม่สามารถเปลี่ยนแปลงคนอื่นได้ แต่เราสามารถทำให้ตัวเราเองมีความสุขมากกว่าความทุกข์ได้
ความรู้สึกรักโลภโกรธหลงคือส่วนหนึ่งของการใช้ชีวิต ดังนั้นเราไม่มีความจำเป็นที่จะต้องละทิ้งความรู้สึกรักโลภโกรธหลง สิ่งที่เราต้องทำคือทำให้ความรู้สึกรักโลภโกรธหลงเกิดความสมดุลย์ในตัวของมันเอง
ความทุกข์กับความสุขคือ สิ่งที่มนุษย์ปั้นแต่งปรุงแต่งขึ้นมาจากความคิดความรู้สึกและการกระทำของเราเอง เมื่อเราสามารถปั้นแต่งปรุงแต่งความทุกข์ความสุขได้ เรากสามารถไม่ปั้นแต่งไม่ปรุงแต่งได้เช่นกัน อะไรที่เราสามารถเรียนรู้ได้ เราก็สามารถไม่เรียนรู้ได้เช่นกัน สิ่งที่ไม่ได้เกิดขึ้นโดยบังเอิญจึงไม่อาจหายไปด้วยความบังเอิญได้เช่นเดียวกันกับสิ่งที่มนุษย์พยายามสร้างสรรค์ขึ้นมาให้เป็นความบังเอิญก็ไม่อาจนับเป็นความบังเอิญได้ ไม่มีอะไรที่เป็นความบังเอิญหรือเหตุบังเอิญ ทุกสิ่งทุกอย่างล้วนมีที่มาที่ไป การพบกันระหว่างคนสองคนหรือมากกว่าสองคนขึ้นไปทุกคนจะต้องมีสิ่งใดสิ่งหนึ่งที่เชื่อมโยงถึงกัน ดังนั้นทุกคนจึงมีส่วนที่จะต้องแสดงความรับผิดชอบในส่วนของตัวเองด้วยกันทั้งสิ้น
*ฟังเพลงเพื่อฟังเพลง อย่าฟังเพลงโดยเอาสิ่งที่เกิดขึ้นและจบไปแล้วในอดีตเข้าไปผูกกับเพลงที่ฟัง
ผู้ติดตามบล็อก : 5 คน [