ทางสายกลาง space time ปี 2019 ในระดับควอนตัม

ทางสายกลาง space time (everything) มาจากหลักการทำงานของพลังงานกล ในทางฟิสิกส์ซึ่งประกอบด้วยพลังงานศักย์และพลังงานจลน์ที่มีแหล่งต้นกำเนิดมาจากสองแหล่งด้วยกันคือ
1. ความเป็นขั้วโลกเหนือขั้วโลกใต้ที่มี/เป็น/อยู่และไม่มี/ไม่เป็น/ไม่อยู่ของขั้วบวกขั้วลบของกันและกัน+วงจรของการหมุนรอบและดึงดูดตัวเองและกันและกันของขั้วบวกขั้วลบที่หมุนและดึงดูดเข้าหากันและไปในทิศทางเดียวกันและหมุนและดึงดูดเข้าหากันและไปในทิศทางที่ตรงกันข้ามกันและหรือกลับด้านกัน
2. ความเป็นแม่เหล็กขั้วคู่ที่อยู่ภายในขั้วโลกเหนือและขั้วโลกใต้+วงจรของการหมุนรอบและดึงดูดตัวเองและกันและกันของแม่เหล็กขั้วคู่ที่อยู่ภายในขั้วโลกเหนือและขั้วโลกใต้ที่หมุนและดึงดูดเข้าหากันและไปในทิศทางเดียวกันและหมุนและดึงดูดเข้าหากันและไปในทิศทางที่ตรงกันข้ามกันและหรือกลับด้านกันทำให้เกิดเป็นปฏิทรรศน์ฝาแฝด (Twin paradox) และปฏิทรรศน์ paradox หรือ ความใช่และไม่ใช่+ความมี/เป็น/อยู่และไม่มี/ไม่เป็น/ไม่อยู่ของสรรพสิ่ง everything (มากและน้อย)+ความมีและไม่มี (เร็วหรือช้า) ของเวลา space time ในสิ่งเดียวกันในเวลาเดียวกัน—-> สิ่งเดียวกันใช่และไม่ใช่สิ่งเดียวกันในเวลาเดียวกัน —-> ในเวลาเดียวกันใช่และไม่ใช่เวลาเดียวกันในเวลาเดียวกัน

ปฏิทรรศน์ฝาแฝด (Twin paradox) และปฏิทรรศน์ paradox ไม่ได้มีสถานะและสภาวะของความหมายและกระบวนการทำงานที่ขัดแย้งกันอยู่ภายในกันและกันเท่านั้น แต่ยังมีสถานะและสภาวะของความหมายและกระบวนการทำงานที่ขัดแย้งกันอยู่ภายในตัวเองด้วยเช่นเดียวกันกับทุกสรรพสิ่งที่จะมีสถานะและสภาวะของความหมายและกระบวนการทำงานที่มีความขัดแย้งกันอยู่ภายในตัวเองและภายในกันและกัน ซึ่งความขัดแย้งใช่และไม่ใช่ขัดแย้งภายในตัวเองและภายในกันและกัน แต่คือความพยายามในการผลักและดันตัวเองและกันและกันในการเดินเข้า-เดินออกจากอดีตไปสู่อนาคต หรือ ความพยายามในการเดินเข้า-เดินออกจากสถานะและสภาวะที่ตัวเองมีอยู่/เป็นอยู่ไปสู่สถานะและสภาวะของการไม่มีอยู่/ไม่เป็นอยู่และนำสถานะและสภาวะของความไม่มีอยู่/ไม่เป็นอยู่มาสู่สถานะและสภาวะของความมีอยู่/เป็นอยู่วนเวียนไปมาทำให้เกิดเป็นวงจรหรือวัฏจักรหรือค่าอนันต์ที่มีและไม่มีวันสิ้นสุดของสถานะและสภาวะซึ่งมีการซ้อนทับและไม่ซ้อนทับ พัวพันและไม่พัวพันกันอยู่ภายในตัวเองและอยู่ภายในกันและกัน ยกตัวอย่างเช่น ความเร่งและความเฉื่อย ปลายด้านหนึ่งของความเร่งคือความเฉื่อย และในขณะเดียวกันและหรือในทางกลับกันปลายด้านหนึ่งของความเฉื่อยก็คือความเร่ง ความเร่งคือความเร่ง ความเฉื่อยคือความเฉื่อย ความเร่งใช่และไม่ใช่ความเฉื่อย และความเฉื่อยใช่และไม่ใช่ความเร่ง อีกตัวอย่างหนึ่งเช่น ความคิดและความรู้สึก หรือ ความรู้สึกและความคิด ปลายด้านหนึ่งของความคิดคือความรู้สึก และในขณะเดียวกันและหรือในทางกลับกันปลายด้านหนึ่งของความรู้สึกคือความคิด ความรู้สึกคือความรู้สึก ความคิดคือความคิด ความรู้สึกใช่และไม่ใช่ความคิด และความคิดใช่และไม่ใช่ความรู้สึก
- ภายในสมองของมนุษย์จะมีทั้งส่วนบนและส่วนล่าง ด้านขวาและด้านซ้าย/หน้าและหลัง/สมองใหญ่และสมองน้อย/ความคิดและความรู้สึก/ความรู้สึกและความคิด/กึ่งความคิดกึ่งความรู้สึก/กึ่งความรู้สึกกึ่งความคิด ซึ่งจะมีสถานะและสภาวะที่ซ้อนทับและไม่ซ้อนทับ พัวพันและไม่พัวพันกันอยู่ในสิ่งเดียวกันในเวลาเดียวกัน—-> สิ่งเดียวกันใช่และไม่ใช่สิ่งเดียวกันในเวลาเดียวกัน —-> ในเวลาเดียวกันใช่และไม่ใช่เวลาเดียวกันในเวลาเดียวกัน ซึ่งความคิดและความรู้สึก หรือ ความรู้สึกและความคิดจะมีกระบวนการทำงานที่เหมือนและแตกต่างกัน ภายในความเหมือนจะมีทั้งความเหมือนและแตกต่างกัน และในขณะเดียวกันและหรือในทางกลับกันภายในความต่างก็จะมีทั้งความต่างและความเหมือนอยู่ในเดียวกันในเวลาเดียวกัน—-> สิ่งเดียวกันใช่และไม่ใช่สิ่งเดียวกันในเวลาเดียวกัน —-> ในเวลาเดียวกันใช่และไม่ใช่เวลาเดียวกันในเวลาเดียวกัน—->ใช่คือใช่ ไม่ใช่คือไม่ใช่ ใช่คือไม่ใช่และไม่ใช่คือใช่

ทางสายกลาง (เก่า) หมายถึง การใช้ธรรมชาติของมนุษย์คือ ความต้องการความสะดวกสบายเพื่อทำให้เกิดสถานะและสภาวะของการตรัสรู้ หรือ สถานะและสภาวะของความเป็นสุญญากาศขึ้นกับทางสายกลาง/ความสะดวกสบาย ผู้ปฏิบัติจำเป็นต้องยอมละทิ้ง ไม่ยึดติดและปล่อยวางธรรมชาติของตัวเอง (โลก) เพื่อเข้าสู่การปฏิบัติที่ไม่สุดโต่งไปในทางอุดมการณ์ใดอุดมการณ์หนึ่งเกินไป (ไม่สะดวกสบายเกินไปและไม่ลำบากเกินไป ) การไม่ยึดถือสุดทางทั้ง 2 ได้แก่ อัตตกิลมถานุโยค คือ การประกอบตนเองให้ลำบากเกินไป กามสุขัลลิกานุโยค คือ การพัวพันในกามในความสบาย ดังนั้นทางสายกลาง (เก่า) จึงเหมาะสำหรับผู้ออกบวช เนื่องจากสถานะและสภาวะของการออกบวชหรือผู้ออกบวชคือ การไม่ยึดติด การยอมละทิ้งและปล่อยวางความสะดวกสบายที่เป็นก่อเกิดของความรักโลภโกรธหลงในอดีตและที่จะเกิดขึ้นในอนาคตโดยการใช้ชีวิตอย่างมีสติอยู่กับปัจจุบันที่ไม่สะดวกสบายเกินไปและไม่ลำบากเกินไป=ไม่การยึดติด เมื่อไม่ยึดติดก็สามารถปล่อยวางและละทิ้งได้ เมื่อปล่อยวางและละทิ้งได้ความรักโลภโกรธหลงก็ไม่เกิด

ทางสายกลาง space time ปี 2019 ในระดับควอนตัม หมายถึง การเข้าถึงธรรมชาติของมนุษย์+การเข้าถึงธรรมชาติของธรรมชาติที่อยู่ภายในและภายนอกของมนุษย์ (โลก) เพื่อใช้เป็นเครื่องมือในการปฏิบัติเพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูลความรู้ระหว่างสิ่งมีชีวิตกับสิ่งไม่มีชีวิตแต่มีชีวิตผ่านการใช้ช่องว่างระหว่างสรรพสิ่งและเวลา ซึ่งเกิดจากความมี/เป็น/อยู่และไม่มี/ไม่เป็น/ไม่อยู่ของพลังงานบวก ลบ คูณ หาร โดยผ่านทางช่องว่างระหว่างความคิดและความรู้สึก และหรือ ความรู้สึกและความคิด+ช่องว่างระหว่างความมีและไม่มี (เร็วหรือช้า) ของเวลา ซึ่งทั้งหมดจะมีในส่วนของการซ้อนทับและไม่ซ้อนทับ พัวพันและไม่พัวพันกันอยู่ของพลังงานบวก ลบ คูณ หาร ซึ่งถือเป็นสิ่งเดียวกันที่ใช่และไม่ใช่สิ่งเดียวกันในเวลาเดียวกันคือ เป็นเลขคณิตมูลฐานเหมือนกัน แต่เป็นเลขคณิตมูลฐานที่ให้ผลแตกต่างกัน —-> ในเวลาเดียวกันใช่และไม่ใช่เวลาเดียวกันในเวลาเดียวกัน และนำไปสู่ความเป็นบวกคือบวก ลบคือลบ คูณคือคูณ หารคือหาร หรือ บวกซำ้คือคูณ ลบซำ้คือหาร คูณคือการบวกซ้ำ หารคือการลบซ้ำ ส่วนกลับของการคูณคือการหาร หรือ ความใช่คือใช่ ไม่ใช่คือไม่ใช่ ใช่คือไม่ใช่และไม่ใช่คือใช่ ทางสายกลาง space time ปี 2019 จึงเหมาะสำหรับบุคคลทั่วไป เนื่องจากสถานะและสภาวะของบุคคลทั่วไปจะมีสองสถานะและสองสภาวะคือ
1. มีความต้องการที่จะใช้ชีวิตอยู่บนพื้นฐานของความสะดวกสบายและความเคยชินเก่าๆ หรือ การใช้ชีวิตอยู่กับอดีต-ปัจจุบัน
2. มีความต้องการที่จะใช้ชีวิตเดินออกจากความสะดวกสบายและความเคยชินเก่าๆ หรือ ใช้ชีวิตโดยการนำเอาอนาคตมาเป็นปัจจุบัน

***เรากำลังใช้ชีวิตภายนอกและภายในอยู่ภายในทางสายกลาง space time ที่โลกภายนอกคือ ภาพสะท้อนของโลกภายใน และในขณะเดียวกันและหรือในทางกลับกันโลกภายในคือ ภาพสะท้อนของโลกภายนอก เรา(โลก)คือ ทุกสิ่งทุกอย่างของตัวเอง แต่เรา(โลก)ไม่ใช่สิ่งใดเลยของตัวเอง

Create Date : 01 พฤศจิกายน 2562 Last Update : 13 พฤศจิกายน 2562 14:38:02 น. Counter : 696 Pageviews.		0 comments
Share Tweet