Group Blog
 
All blogs
 
ชีวิตสะใภ้จีน 10 ปี เป็นสะใภ้ในครอบครัวคนจีน ต้องเจออะไรบ้าง ...







วันนี้แม่ออย be a super mom จะมาแฉชีวิตตัวเอง ฉลองเทศกาลตรุษจีนที่จะมาถึงนะคะ เป็นการบอกเล่าเมาท์มอย ว่าหน้าอินเตอร์ๆแบบนี้มาแต่งงานกับคนจีนได้อย่างไร และต้องเจออะไรบ้าง

จริงๆแล้วออยก็มีเชื้อสายจีนทางคุณปู่นะคะ อาก๋งเป็นคนจีนมาจากไหหลำ แต่ก็เสียไปตั้งแต่ออยยังไม่เกิด ก็เลยโตมาแบบไทยๆในต่างจังหวัด ไม่ได้มีอะไรเกี่ยวข้องกับจีนเลย

จนมีโอกาสได้เรียนภาษาจีน ตอนม.ปลาย เลือกเรียนเพราะคิดแค่ว่าจะสามารถนำทักษะภาษาไปประกอบอาชีพในอนาคต พอยิ่งเรียนก็ยิ่งชอบ ยิ่งรู้สึกรักในภาษาจีน ชอบอะไรที่เป็นจีนๆ เป็นวัยรุ่นทั่วไปคนนึงที่เป็นติ่งจีน บ้าเพลงจีน บ้าหนัง บ้าซีรี่ย์จีน

พอเข้ากรุงเทพมาเรียนต่อมหาวิทยาลัย ก็หาที่เรียนพิเศษภาษาจีน หาครูสอนภาษาจีน หาเพื่อนคนจีน ไว้ฝึกพูด ไปทำงานพาร์ทไทม์ ที่โรงเรียนสอนภาษาจีน ได้เจอคนมากขึ้น และได้เจอแฟนชาวจีน มาจากจีนแผ่นดินใหญ่เลย ไม่ใช่คนไทยเชื้อสายจีน ซึ่งก็คือสามีคนปัจจุบันนี่เองค่ะ

เค้าอายุมากกว่าออย 10 ปี ตอนนั้นออย 18 เขา 28 ก็ดูโอเคนะ บุคลิคเค้าดูไม่แก่เลย เราเองต่างหากที่เด็กเกินไป เราชอบสำเนียงที่เค้าพูด ชอบเวลาเค้าสอนเราพูดภาษาจีน ชอบที่เค้าตัวสูง ดูอบอุ่น อยู่ด้วยแล้วรู้สึกเป็นตัวของตัวเอง อยากเจอตลอด แทบไม่อยากห่างกันเลย

ไม่ถึงเดือนเราก็สนิทกัน คบกัน และแต่งงานกัน หลังจากที่รู้จักกัน แค่ 6 เดือน ที่แต่งเร็วอาจฟังดูแปลกๆ นะคะ และชีวิตสะใภ้จีนของออย ที่กำลังจะเล่าต่อไปนี้ ก็อาจจะไม่ดราม่าเหมือนหลายๆคู่ นะคะ

สาเหตุที่รีบแต่งเพราะ วีซ่าแฟนใกล้หมดอายุค่ะ ตอนนั้นติดกันมาก ไม่อยากให้เขากลับจีน ก็เลยตัดสินใจจดทะเบียนสมรสเพื่อทำเอกสาร วีซ่าภรรยาไทย 

เวลา 6 เดือนที่คบกัน รักหรือเปล่ายังไม่รู้ รู้แค่ว่าไม่อยากให้ห่างเลย อีกอย่างอารมณ์เด็กอายุ 18-19 ที่กำลังเรียกได้ว่า “ติดผู้ชาย” ต่อให้ใครมาพูดอะไรก็ไม่ฟังค่ะ

จำได้ว่า วันจดทะเบียนต้องให้ผู้ปกครองไปเซ็นยินยอมด้วย เพราะอายุไม่ถึง 20 เรื่องแต่งงาน พ่อแม่ออยก็ไม่ว่านะ น่ารักมากๆ ให้เราตัดสินใจเอง เลือกใช้ชีวิตเอง แต่ก็เรียกค่าสินสอดมาไว้ก่อน แม่บอกว่าถ้าเกิดเขามาหลอกหนู มาหลอกจดทะเบียน แล้วหนีไปทำอย่างอื่น จะได้มีตังค์ไว้ซื้อหนมกินเล่นแก้เซ็ง (แต่สุดท้ายออยก็เอาเงินนั้นจากแม่มาลงทุนทำธุรกิจ จนเจ๊ง ป่านนี้ก็ยังไม่ได้คืนแม่เลยค่ะ)

โชคดีที่ออยเจอผู้ชายที่ดี หลังจากจดทะเบียน เค้าก็อยู่กับเราเหมือนเดิม ไม่เคยทิ้งไปไหน ดูแลเรามากขึ้น รู้สึกรักกันมากขึ้น และเริ่มวางแผนอนาคตด้วยกัน

สำหรับผู้หญิงอย่างออย จริงๆก็เหมือนผู้หญิงทั่วไป ที่ฝันว่าจะได้ใส่ชุดเจ้าสาว อยู่ในงานแต่หรูๆ เหมือนที่เคยดูในละครนะ แต่พื้นฐานที่บ้านสามี ไม่ใช่คนจีนที่ร่ำรวย เป็นคนจีนชนบททางตอนเหนือ เข้ามาทำงานในเมืองหลวง ฐานนะพอๆกับเรา ไม่ได้รวยมาตั้งแต่เกิด ต้องดิ้นรนทำงานหนักเหมือนกัน ไม่ได้มีหน้ามีตาในสังคมอะไรมากมาย

บ้านออยกับบ้านสามีก็เลยไม่ซีเรียสเรื่องจัดงานแต่งงาน ออยก็คิดว่า ถ้าต้องกู้หนี้ยืมสินมาจัดงาน แล้วมันไม่สวยหรูอย่างในฝัน จะรู้สึกเฟล ความรู้สึกแย่ๆจะติดไปตลอดชีวิต ก็เลยเลือกไม่จัดงานแต่งดีกว่า

10 ปี ที่อยู่ด้วยกันแบบสามีภรรยา ก็อยู่ที่ไทยส่วนใหญ่ เราช่วยกันทำงาน เก็บเงิน ดาวน์บ้านหลังเล็กๆอยู่กันส่วนตัว พ่อแม่สามีก็อยู่ของเค้าที่จีน ก็เลยไม่ต้องข้องเกี่ยวกัน ไม่มีดราม่ากัน ออยก็ได้อยู่แบบไทยๆตามที่เคยชิน ไม่มีใครมาทำให้ลำบากใจค่ะ

อีกอย่างสามีออยเป็นคนจีนที่ไม่ได้รวย ไม่ได้มีสมบัติ ไม่มีธุรกิจ กิจการอะไร เราทำงานหาเช้ากินค่ำเหมือนกัน ฐานะพอๆกัน ที่ออยแต่งงานกับเค้า เพราะออยอยู่กับเค้าแล้วมีความสุข สบายใจ ไม่ได้หวังสบายหรือพึ่งพาอะไร ไม่ได้ขอเงินเค้าใช้ ไม่ได้อาศัยบ้านเค้าอยู่ และไม่ได้เรียกร้องอะไรจากสามีและที่บ้านเค้าเลย

จะมีอึดอัดใจบ้าง ก็ช่วงที่เราไปเยี่ยมบ้านเขาที่ปักกิ่ง ปี 2009 ต้องอยู่ด้วยกันเป็นเดือนๆ หลายๆอย่างที่ไม่คุ้นเคย อย่างเวลาเจอกับสะใภ้คนโต จะรู้สึกเหมือนตัวเองโดนจิกเบาๆ เหมือนโดนดูถูก เพราะเราเป็นคนไทย ตัวดำๆ ตอนนั้นยังเรียนไม่จบ ไม่มีงานทำ ยังไม่มีบ้าน ไม่มีรถ แต่จริงๆแล้วเค้าอาจจะดูถูกเราจริงๆ หรือไม่ก็ได้ ตอนนั้นออยอายุ 21-22 ความคิดยังเด็กๆอาจจะคิดมากไปเองก็ได้ พอกลับมาอยู่ไทยก็จบ เราไม่ได้เก็บมาเป็นปัญหา ตั้งใจเรียนให้จบ หางานทำ สร้างอนาคตกันต่อไป

ส่วนพ่อแม่ และพี่ๆของสามี เค้าก็ดีกับเรานะ แต่อาจจะจุ้นจ้านวุ่นวายเยอะไปหน่อย ตามนิสัยและวัฒนธรรมคนจีน แรกๆอึดอัดมาก ยิ่งตอนปี 2013 ที่พ่อแม่เขา มาเยี่ยมลูกชายเขาที่ไทย พักอยู่บ้านเรา ประมาณ ครึ่งปี ตอนนั้นออย 25 กำลังเป็นสาว กำลังใช้ชีวิตสนุกกับการทำงาน งานกำลังไปได้สวย แต่พ่อแม่เค้ากลับมาเร่งให้เรามีลูก อยากอุ้มหลานเร็วๆ

สามีก็มีพูดบ่อยๆว่า ที่บ้านยังไม่มีหลานชายไว้สืบทอดตระกูลเลย พี่ชาย ก็มีลูกสาว อยู่ที่ปักกิ่ง มีลูกได้คนเดียว ก็เหลือเค้านี่แหละ เค้าเองก็อยากมีลูก ให้พ่อแม่เค้าอุ้ม และไว้สืบทอดตระกูลเหมือนกัน

ถามว่าอยากมีลูกไหม ออยก็อยากมีนะ แต่ตอนนั้น อยากทำงานสร้างเนื้อสร้างตัวมากกว่า รู้สึกอึดอัด ที่พ่อแม่เค้ามาเร่ง และน้อยใจสามีนิดๆ เพราะพลานคิดไปว่า มาแต่งงานกับเรา เพื่อหวังจะมีทายาทเท่านั้นหรอ สมบงสมบัติอะไรก็ไม่มี จะอะไรหนักหนา ช่วงนั้นก็เลยทะเลาะกันบ่อยมากๆค่ะ

แต่ก็เหมือนที่บ้านสามี และตัวสามีเอง ไม่ได้จะอะไรกับเรามากเรื่องลูก แค่บ่นว่าอยากได้อยากมีเร็วๆ เค้าไม่มีสิทธิ์มาบังคับกดดันเราอยู่แล้ว เพราะอย่างที่บอก ออยไม่เคยเรียกร้องอะไรจากเค้าเลย และเค้าก็ยังชื่นชมเราในด้านของการงานอยู่ 

ออยรู้สึกว่าใช้ชีวิตในการทำงานเต็มที่แล้ว พร้อมมีลูก ตอนอายุ 28 ถึงแม้ว่าจะมีอุปสรรค คือออยมีปัญหามีบุตรยาก แต่ในเมื่อตัดสินใจว่าจะมีลูกแล้ว เราทั้งสองคนก็สู้ สุดท้ายก็ได้ลูกชาย ด้วยการทำเด็กหลอดแก้วค่ะ

ที่บ้านสามียินดีเป็นอย่างมาก สามีก็ดูมีความสุขมาก ออยก็มีความสุขที่สามารถให้กำเนิดอีก1ชีวิตได้ และมีความสุขที่ได้เห็นทุกคนมีความสุข ออยลาออกจากงานมาเพื่อเลี้ยงลูกด้วยตัวเอง พ่อแม่สามีก็มาอยู่ด้วยที่ไทย ตั้งแต่ก่อนคลอด เพื่อช่วยกันดูแลเด็กอ่อนค่ะ

ตอนแรกนึกภาพไม่ออกว่าจะใช้ชีวิตอยู่กับพ่อแม่สามีได้อย่างไร ความคิดในการเลี้ยงลูกก็ไม่เหมือนกัน คงต้องมีสงครามกันแน่ๆ แต่มันก็ดีกว่าที่คิดไว้เยอะเลยค่ะ เค้าดีมากๆ ให้เราเลี้ยงลูกเราในแบบของเรา ไม่มาจุ้นจ้านเลย ช่วยเตรียมอาหาร ทำงานบ้าน และเอาลูกไปดูให้ เวลาเรามีงาน หรือออกไปทำธุระให้ตลอด ไม่เคยบ่นไม่ว่าอะไรออยเลย 

จะมีก็แต่โอ๋หลานเยอะไปหน่อย แต่เราก็เข้าใจว่าเค้ารัก เค้าเห่อหลานชาย ออยก็ปล่อยๆไป ไม่เก็บมาเป็นปัญหาค่ะ ปัจจุบันลูกชายคนโต ขวบครึ่งแล้ว และคนที่สอง ในท้องอีก 8 เดือน เค้าก็ยังอยู่ที่ไทย ช่วยออยดูแลลูก ดูแลบ้านมาตลอด ออยคงจะเหนื่อยมากๆ ถ้าไม่มีพ่อแม่สามีมาช่วย 

ความอึดอัดที่ต้องอยู่กับครอบครัวคนจีน เริ่มหายไป อาจเพราะเราก็เป็นแม่คนแล้ว ปรับตัวได้มากขึ้น ความคิดก็เริ่มโตขึ้นแล้ว แยกแยะได้แล้วว่าอะไรควรใส่ใจ อะไรไม่ควรเก็บมาใส่ใจ 

ในอนาคตลูกๆเราก็อาจจะต้องเข้าเรียนที่จีน อาจจะต้องขอรับความช่วยเหลือจุนเจือจากญาติๆที่จีน เราควรจะเลิกความคิดต่อต้านแบบเด็กๆได้แล้ว จะไทยหรือจีน เราก็คือครอบครัวเดียวกันแล้ว ทุกวันนี้ก็แทบลืมไปเลยค่ะ ว่าตัวเองเป็น”สะใภ้จีน” แค่เปิดใจให้กว้าง และเป็นตัวของตัวเองต่อไปค่ะ





บลอกอื่นๆ
Smileyเส้นทางการเข้าสู่หน่วยผู้มีบุตรยาก โรงพยาบาลศิริราช
Smileyเล่าประสบการณ์ วันฉีดเชื้อ (IUI) ที่หน่วยผู้มีบุตรยาก ร.พ.ศิริราช
Smileyบันทึกอัพเดทอาการ และสรุปผลการฉีดเชื้อ iui ครั้ง
Smileyสรุปผล ฉีดเชื้อ iui รอบ2 ไข่โตช้า เชื้อก็น้อย ไม่มีอาการคนท้อง ความหวังเลือนลาง
Smileyสรุปผล ฉีดเชื้อ iui รอบ3 ไข่เล็กขนาดนี้ ผนังก็บาง หมอยังให้ฉีด เพลียจะหวัง
Smileyคุณหมอให้ฉีดเชื้อ (IUI) รอบ4 ถ้าไม่ติดจะทำเด็กหลอดแก้ว (IVF) ให้ต่อเลย
Smileyiui รอบ 4 ต้องยกเลิก เพราะไข่หาย!!! ไข่ไม่โต!!!
Smileyประสบการณ์เก็บไข่ ทำเด็กหลอดแก้ว(IVF) ที่หน่วยผู้มีบุตรยาก โรงพยาบาลศิริราช
Smileyเล่าประสบการณ์ ใส่ตัวอ่อน สรุป อัพเดทอาการ และค่าใช้จ่ายในการทำเด็กหลอดแก้ว IVF โรงพยาบาลศิราราช
Smileyสรุป อัพเดทอาการ และค่าใช้จ่ายในการทำเด็กหลอดแก้ว IVF โรงพยาบาลศิราราช
Smileyผลตรวจเลือด 15วัน หลังใส่ตัวอ่อน ระยะบาสโตซิส 1 ตัว เกรด B
Smileyทำเด็กหลอดแก่ว (IVF) : เตรียมตัว กระตุ้นไข่อย่างไร ให้ได้ไข่เยอะ ดี มีคุณภาพ
Smiley11 วิธีปฏิบัติตัวหลังใส่ตัวอ่อน ให้ติด IVF เด็กหลอดแก้ว ร.พ.ศิริราช




Create Date : 06 กุมภาพันธ์ 2562
Last Update : 7 กุมภาพันธ์ 2562 15:26:51 น. 1 comments
Counter : 8830 Pageviews.

 
ขอบคุณออย มากเลยนะคะที่แชร์ประสบการณ์
พอดีหนูก็คุยกับคนจีนอยู่เหมือนกัน คือวางอนาคตกันบ้างแล้ว แต่กลัวว่าจะสื่อสารกับเขาไม่ได้อ่ะค่ะ
ตอนนี้หนู17เขา26 เขาเป็นคนนิสัยดีมากๆเลยค่ะแต่กลัวว่าวันนึงไปเจอครอบครัวเขา กลัวว่าเขาจะไม่ชอบอ่ะค่ะ


โดย: พอส IP: 27.55.90.232 วันที่: 13 เมษายน 2563 เวลา:16:50:13 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

BeeryKiss
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 81 คน [?]








New Comments
Friends' blogs
[Add BeeryKiss's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.