ยามใกล้ค่ำ ข้างบึงน้ำด้านใต้ของบ้านป่าเป็นจุดหนึ่งที่ชอบไปนั่งมองฟ้า
และเงาไม้ในบึง นึกถึงครั้งหนึ่งที่เคยมีใครคนนั้นนั่งมองอยู่ด้วยกัน
แต่วันนี้ได้แค่นึกถึง ก็ไม่ได้เศร้าหรอก มันผ่านจุดนั้นไปนานแล้ว

เพียงแต่บางยามเย็นเมื่อฟ้าคลุ้มฝน ใจก็อาจหวั่นไหวหม่นหมอง

ด้วยแสงสีและมุมเงาแปรไปทุกนาที

บางครั้งก็นึกว่า บางความรักก็เหมือนน้ำกับฟ้าที่ไม่มีวันพบกัน

หรือจะพบกันบ้างก็เพียงเงาฟ้าบนผิวน้ำ

ที่แม้เพียงกรวดก้อนเล็กๆ ตกกระทบก็หวั่นไหวพร่าเลือน

อนิจจา



ฟ้าคลุ้มฝน
(BSO Plays Suntaraporn
ราตรีนี้มืดไม่เห็นเพ็ญโสมส่อง
ดารามิผ่องมืดมัวทั่วมุม
ร้อนรนหมองไหม้เหมือนไข้รุม
ฟ้าดำมิดมืดเหมือนม่านคลุม
อกเรียมยิ่งคลุ้ม...กลุ้มรัญจวน
อัมพรสะท้อนดังครืน
ดังใจสะท้านสะอื้น
คงช้ำกล้ำกลืนปั่นป่วน
ฟ้าร่ำไห้เหมือนใจร่ำหวน
เปรียบหัวใจเรียมป่วน
พี่ครวญฟ้าครวญตรมใจ
เมื่อยามฝนตกหัวอกยิ่งคลุ้มคลั่ง
ดุจดังฉันหลั่งน้ำตาไหล
นิจจาโอ้ฟ้ายังร้องไห้
โถตัวข้าหรือจะทนได้
เศร้าใจให้ฝืนชื่นบาน
ฟ้าแลบดูแวบวับ
แปลบปลาบต้องหลับตา
เหมือนดังนภาร้าวราน
ตัวพี่ร้าวอุราช้านาน
ด้วยความรักทรมาน
อกเอ๋ยยิ่งคิดยิ่งร้าว...ราน
รักกำซ่านทรวงใน


