ขอต้อนรับสู่โลกของนิยายยูริ เรื่องจากประสบการณ์ และทำนายดวงชะตา โดย นิ้วนาง-เดียนา-ลำดวนพยากรณ์
Group Blog
 
<<
ธันวาคม 2562
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
293031 
 
30 ธันวาคม 2562
 
All Blogs
 
Strawberry Kiss บทที่ 13 (YURI)

๑๓

 

ในคืนนั้นบุปผาได้โทรไปคุยกับเพื่อน หลังไม่ได้เจอกันหลายวัน คิดถึงเพราะเคยเจอหน้ากันทุกวันตอนอยู่ที่ทำงานเก่า

“งานใหม่เป็นไงบ้างคะ คุณผู้ช่วย?”

“งานน่ะโอเค แต่เจ้านายไม่ไหว กวนประสาทเกิน” สาวร่างเล็กเอ่ยปากบ่นออกมา หลังโดนเจตน์แกล้งจนเก็บอาการไว้ไม่อยู่

เธอขอลาออก แต่จันจิราไม่ยอมแถมยังท้าทายอีกต่างหาก

“พี่ไม่เคยคิดว่า น้องสาจะเป็นคนอ่อนแอแบบนี้นะคะ กะอีแค่โดนสบประมาทไม่กี่คำ ก็ยอมแพ้ง่ายๆ” สาวงามผุดยิ้มกวนๆ ที่ชวนให้คนมองเกิดโทสะ “ถ้าน้องสาคิดว่าตัวเองแน่จริง ก็ต้องพิสูจน์ค่ะ ไม่ใช่วิ่งหนี หรือน้องสาไม่แน่จริง?”

พอโดนพูดจาท้าทาย สาวร่างเล็กจึงหลุดปากโพล่งออกไป

“งั้นก็ได้ ฉันจะทำงานที่นี่ต่อ พอใจรึยัง?”

เจ้านายสาวคลี่ยิ้มบาง นัยน์ตาคู่สวยเป็นประกาย

“พอใจมากค่ะ”

เจตน์กับทิวาได้ยินแบบนั้น จึงถอนใจเบาๆ อย่างโล่งอก หากรสาเกิดลาออกขึ้นมาจริงๆ พวกเขาอาจจะถึงคราวเคราะห์แน่

รอดแล้วเรา...

“แต่ฉันยังไม่หายโกรธคุณหรอกนะคุณเจตน์” เสียงของผู้ช่วยสาวเอ่ยเย็นเยียบ ยืนกอดอก จ้องไปยังน้องชายฝาแฝดของหล่อน ปรายตาไปยังเลขาหนุ่มที่สมรู้ร่วมคิด “คุณก็ด้วย คุณทิวา”

พูดแล้วเธอก็เดินไปยังห้องผู้จัดการเพื่อสงบสติอารมณ์

งานเข้าแล้วฉัน!

เจตน์ได้แต่ยืนอึ้ง ไม่รู้จะทำยังไง มองไปยังพี่สาว เพื่อขอความช่วยเหลือ

คนสวยยักไหล่ แล้วเอ่ยปากไล่

“กลับไปทำงานเลยนายเจตน์ ไว้น้องสาใจเย็นๆ ค่อยง้อเถอะ ไปพูดตอนนี้เธอคงไม่ฟังหรอก” จันจิราถอนใจ “เรื่องวันนี้ ฉันต้องคิดบัญชีกับนายแน่ เตรียมตัวไว้ให้ดีเลย”

ผู้จัดการโรงแรมหน้าซีดเผือด ไม่กล้าเถียงแม้แต่คำเดียว เดินคอตกไปขึ้นรถ

หล่อนหันมาต่อว่าทิวา

“นายก็ด้วย ทำไมไม่ห้ามนายเจตน์”

หนุ่มแว่นได้แต่ยอมรับผิดโดยดี

“ขอโทษครับ”

ให้ตายเถอะ!

คนงามสบถในใจอย่างหงุดหงิด ไม่อยากให้น้องชายกับสาวที่ตนหมายปองขัดแย้งกัน เพราะมันจะกระทบกับความสัมพันธ์ในอนาคต

“ช่างเถอะ ไว้ฉันจะลองปรับความเข้าใจกับน้องสาเอง” จันจิราพูดทิ้งท้าย

“ขอบคุณครับ” ทิวาเอ่ยเสียงอ่อยๆ ไม่กล้าเข้าหน้าสาวร่างเล็กเท่าไหร่

ปกติก็เฟรนลี่ดีหรอก แต่บทจะโมโหขึ้นมานี่ น่ากลัวชะมัด!

ทั้งคู่จึงเดินกลับไปยังห้องทำงาน

ถ้าฉันโดนว่าแบบคุณรสา ฉันก็โกรธนะ แต่งานก็สำคัญ ฉันคงไม่ตัดสินใจลาออกง่ายๆ แบบเธอ

ทับทิมคิดบ่นในใจ ส่ายหัวกับเรื่องไม่เป็นเรื่อง ก่อนไปล็อคประตูหลัง เพื่อไม่ให้สองคนงานสาวเข้ามาเล่นจ้ำจี้ในห้องน้ำอีก ตามที่หล่อนกำชับไว้

รสายังคงปั้นปึ่งเย็นชาใส่ ไม่ยอมสนใจคำขอโทษของจันจิรากับทิวาตลอดทั้งวัน

 

“คุณจันน่ะเหรอ!” เพื่อนสาวถามน้ำเสียงแปลกใจ ไม่อยากจะเชื่อว่า ผู้หญิงสวยคนนั้นจะกวนประสาท

บุปผารู้จักจันจิรามาหลายปี ในฐานะลูกค้าประจำของบิดา เท่าที่เห็นหล่อนเป็นคนที่เรียบร้อย อ่อนโยน และสุภาพมากๆ

พระอาทิตย์ขึ้นทางตะวันตก? หรือว่าเพื่อนฉันเกิดเพี้ยน หลังไปทำงานใหม่ที่สวนโสภาคย์

“ก็ทั้งคุณจัน และน้องชายเธอด้วย”

“น้องชาย...หมายถึงคุณเจตน์น่ะเหรอ?”

“ใช่ ตานั่นกวนมากๆ ผู้ชายอะไรก็ไม่รู้ ชอบดูถูกผู้หญิง ทั้งที่เพิ่งเจอฉันด้วยซ้ำ” รสาบ่นยาวเหยียด ไม่สบอารมณ์มาก ที่โดนชายหนุ่มดูแคลนว่า มาทำงานที่นี่เพื่อหวังจับจันจิรา

ฉันไม่ได้จะจับพี่สาวเขาสักหน่อย พี่สาวเขาต่างหาก ที่ไล่จีบฉันทุกวี่ทุกวัน

“เขาดูถูกยังไง?” เพื่อนถามอย่างใคร่รู้

เธอเคยเจอเขาหลายครั้ง แต่ไม่รู้สึกว่าเจตน์เป็นคนไม่ดี ที่สำคัญคือ เขาหน้าตาดีมาก เหมือนจันจิราในเวอร์ชั่นผู้ชาย

เจตน์เป็นผู้ชายในฝันของสาวๆ หลายคน ซึ่งบุปผาก็เป็นหนึ่งในนั้นด้วย แต่เธอไม่กล้าแสดงออกมาว่าชอบเขา ได้แต่ปั้นหน้านิ่งๆ ทั้งที่ใจสั่นไม่น้อยเวลาคุยกับเจตน์

คิดไม่ถึงว่า เพื่อนฉันจะไม่สนใจพี่น้องคู่นี้ แบ่งภูมิต้านทานคนหล่อคนสวยมาให้ฉันบ้างสิ

บุปผาคิดขำๆ ขณะฟังเพื่อนสาธยาย เรื่องที่เจตน์แกล้งปลอมตัวมาทดสอบตนว่า เห็นแก่เงินขนาดไหน พอฟังไปคิดตามไปเธอก็อดฉุนขึ้นบ้างไม่ได้

ในฐานะผู้หญิงคนหนึ่ง เธอไม่คิดว่าสาวทุกคนจะเห็นแก่เงินแบบที่เขาเข้าใจ

...เว้นแต่จะมีอาชีพอย่างว่า

หากจะเลือกคนรัก บุปผาคิดว่า ความรักคือสิ่งสำคัญอันดับแรกที่ต้องพิจารณา อุปนิสัยและความเข้ากันได้เป็นอันดับสอง ฐานะการเงินเป็นเรื่องถัดไป

เจอครั้งแรกทำกันแบบนี้ สมควรแล้วที่รสาจะโมโหเดือด เป็นฉันก็คงตบะแตกเหมือนกัน

“คุณเจตน์ทำกับแกเกินไปนะ” เธอเข้าข้างเพื่อนหลังฟังเรื่องจบ

“พูดใส่ร้ายขนาดนั้น แล้วขอโทษไม่กี่คำ มันใช่เหรอ?” รสาพูดใส่อารมณ์ ยังคงไม่หายโกรธง่ายๆ

เพื่อนสนิทชินกับนิสัยของอีกคน จึงไม่พูดอะไรมาก นอกจากเออออ แล้วปล่อยสาวหน้าแขกให้อารมณ์เย็นไปเอง แต่ไม่แน่ใจว่า คราวนี้จะใช้เวลากี่วัน เพราะเจตน์ดันไปกระตุกปุ่มศักดิ์ศรีของรสาเข้าเต็มๆ

..ดีแค่ไหนที่ไม่โดนตบหน้าหัน

ต่อไปคุณเจตน์คงเข้าหน้ารสาไม่ติด ...ดีไม่ดีคุณจันจะพลอยซวยไปด้วย

บุปผานึกเหนื่อยแทนสองพี่น้อง กลัวว่ารสาอาจจะเปลี่ยนงานเร็วกว่าที่ตั้งใจไว้ตอนแรก

“แล้วแกคิดจะทำยังไง? อย่าบอกนะว่าจะลาออกจริงๆ”

ถ้าลาออกได้ ฉันคงทำไปแล้ว เฮ้อ!

สาวร่างเล็กถอนใจ

“ก็คงต้องทำงานต่อไปก่อน ฉันเพิ่งทำที่นี่ได้ไม่นาน ขืนลาออกมีหวังแม่โกรธฉันแน่ แถมจะมองหน้าคุณจุรีกับป้าทองไม่ติด”

หญิงสาวไม่อยากให้สองบ้านต้องขัดแย้งกันเพราะตน ส่วนหนึ่งคือเกรงใจคุณจุรีเจ้าของเรือนเทวัญ แต่ยังคงนึกหมั่นไส้สองพี่น้องอยู่

“อือ ฉันก็คิดแบบนั้น” เพื่อนสาวบอก “อีกอย่างงานที่มีเงินเดือนดีๆ แถวนี้ หาไม่ง่ายเลย”

เพราะงานที่เงินดีเงินสูง...ส่วนใหญ่เป็นงานไม่ดี เช่น ในคลับ ในบาร์ ซึ่งบุปผาไม่อยากเอ่ยพาดพิง รู้แก่ใจว่า หัวเด็ดตีนขาดคนอย่างรสาไม่มีวันทำงานในที่อโคจรแบบนั้นแน่

“ก็คงงั้น” สาวหน้าคมบ่นงึมงำ “แล้วแกเป็นยังไงบ้าง?”

“ก็เรื่อยๆ นะ แต่ช่วงนี้ลูกค้าหลายคนเล่ากันว่า พวกลูกหนี้เสี่ยวิชัยโชคดียิ่งกว่าถูกหวยซะอีก”

โชคดีแบบไหน?

“ยังไง?” รสาถามอย่างสนใจ

“ได้ประนอมหนี้น่ะสิ บางคนได้ลดดอกเบี้ยด้วย กลยุทธ์ซื้อเสียงเลือกตั้งล่วงหน้าของทางนั้นชัดๆ” บุปผาสรุป ตามที่ได้ยินจากบิดา “ในตลาดลือกันให้แซ่ดว่า เสี่ยวิชัยจะลงสมัครเป็นนายกเทศมนตรี”

“แบบนี้ก็แย่น่ะสิ ขืนได้คนแบบนี้เข้ามาบริหาร กินงบประมาณแหลกราญแน่” สาวร่างเล็กกล่าวอย่างกังวล หลังเห็นตัวอย่างเลวๆ ของนักการเมืองในรอบหลายปีมาไม่น้อย

“ไม่อยากจะคิด ขืนได้คนโกงมาเป็นนายกฯ บ้านเราคงแย่แน่”

สองสาววิจารณ์เรื่องเสี่ยวิชัยต่ออีกนิดหน่อย จ้อไม่นานก็เลิกคุย เพื่อเข้านอน

หลายวันผ่านไป รสาปรับตัวเข้ากับการทำงานที่สวนโสภาคย์ได้มากขึ้น โดยมีสาวสวยทำหน้าที่รับส่ง และสอนงานด้วยตนเอง เรียกว่าตัวแทบจะติดกันตลอด

แต่เธอยังทำหน้านิ่งใส่เจ้านายสาว จนอีกฝ่ายอ่อนใจที่จะง้องอน ร่างบางจึงเปลี่ยนกลยุทธ์มายั่วเย้ากวนประสาทบ้าง บางขณะก็เอาใจใส่ดูแลห่วงใยแบบที่สาวหน้าแขกไม่เคยได้รับจากใครมาก่อน รวมถึงแสดงท่าทางหวงก้าง กันท่าไม่ให้ใครมาจีบเธอ

โดยเฉพาะกุ้งที่เป็นไม้เบื่อไม้เมากันสุดๆ

สาวร่างเล็กยังไม่ยอมหายโกรธสองพี่น้อง พาลไปถึงทิวาด้วยในฐานะผู้สมรู้ร่วมคิด

เจตน์พยายามง้อโดยการส่งกุหลาบช่อโตมาวันละช่อ แต่รสาก็ไม่สนใจส่งให้ทับทิม จัดแจกันตั้งไว้ที่ห้องโถงรับแขก จนมีเสียงลือกันไปทั่วสวนโสภาคย์ว่า ‘คุณเจตน์กำลังจีบรสา’

กุ้งนึกกระวนกระวายใจไม่น้อย เข้าใจว่าผู้จัดการโรงแรมจีบรสาเหมือนกัน ซึ่งนับเป็นคู่แข่งที่น่ากลัว เพราะเขามีเกือบทุกอย่างเหนือกว่าตน ไม่ว่าจะฐานะการเงิน หน้าที่การงาน หรือชื่อเสียง

ฉันจะไปสู้กับคุณเจตน์ได้ยังไงฟ่ะ...ชวดแน่กุ้งเอ๊ย!

สาวเท่รู้สึกหมดอาลัยตายอยาก เห็นแววอกหักโบกเรียกแต่ไกล จึงฟุบหน้ากับโต๊ะ

“บ้าชะมัด!”

ผึ้งที่ทำงานห้องเดียวกันถามอย่างเป็นห่วง

“เป็นอะไรกุ้ง ไม่สบายเหรอ?”

“อือ อกหัก”

สาวแว่นทำหน้าเบื่อหน่าย เพราะได้ยินคำนี้จากปากของอีกฝ่ายบ่อยมาก ก่อนคิดประชดในใจ

คนสวยอยู่ตรงหน้าตั้งคน ทำไมไม่รู้จักมอง...ซื่อบื้อ

 

แต่ผู้ที่ไม่พอใจเรื่องนี้มากที่สุดคือ...จันจิรา

“นายเจตน์!” หล่อนเรียกชื่อน้องชายฝาแฝดเสียงเข้ม ผ่านมือถือราคาแพง หลังอีกคนส่งดอกไม้มาติดกันสามวัน

“มีอะไรครับพี่จัน?”

“ไม่ต้องส่งดอกไม้มาให้น้องสาแล้วนะ”

“ทำไมล่ะครับ?” เสียงทุ้มต่ำถามกลับมา

“น้องสาเป็นของฉัน นายห้ามจีบ เข้าใจไหม?” ร่างบางประกาศออกไปอย่างชัดเจน

คนอะไรหึงกระทั่งน้อง...เชื่อเขาเลย

“ผมไม่ได้จีบคุณรสา ผมแค่พยายามขอโทษต่างหาก” น้องชายรีบบอก ไม่อยากให้อีกฝ่ายเข้าใจผิด

“ไม่ต้องส่งดอกไม้มาอีก ที่นี่มีดอกไม้เยอะพอแล้ว?” จันจิราเน้นเสียงเข้ม

“โอเคครับ” เจตน์ยอมแพ้ ก่อนถามสถานการณ์ปัจจุบัน “แล้วคุณรสาหายโกรธรึยังครับ?”

“ก็ยังน่ะสิ ยังดีที่ยอมคุยด้วยบ้าง ขี้งอนเหลือเกิน” สาวงามเล่าอย่างอ่อนใจ ไม่รู้จะงัดตำราไหนไปง้อดี เพราะปกติจันจิราไม่ค่อยจะเจอใครงอนใส่แบบนี้

เฮ้อ! น่าปวดหัวชะมัด

นานๆ จะเจอคนที่ไม่ยอมอ่อนข้อให้พี่จัน คุณรสาไม่ธรรมดาเลยนะเนี่ย

แฝดคนน้องอดประหลาดใจไม่ได้ เพราะเท่าที่ผ่านมา ไม่ค่อยจะเจอใครทำแบบนี้กับพี่สาว

“ผมก็ไม่รู้จะทำยังไงเหมือนกัน ไม่คิดเลยนะครับว่า เธอจะใจแข็งขนาดนี้ ขอโทษนะครับที่ทำให้ยุ่งยาก”

“รู้ก็ดี แต่ไม่เป็นไรหรอก ฉันรู้ว่านายหวังดีกับฉัน” พี่สาวเข้าใจเจตนาของเขา ที่คิดทดลองใจของรสา เพราะความเป็นห่วงตน กลัวจะถูกหลอก “ฉันจะหาทางปรับความเข้าใจกับน้องสาเอง”

“ครับ ขอบคุณครับ”

 

ไม่สน

เพียรตามหยอดตามจีบทุกค่ำเช้า

ทว่าเจ้าใจแข็งพี่ไห้โหย

เฝ้าตามตื้อตามง้อจนแรงโรย

พยายามโปรยเสน่ห์...เธอไม่สน.

 

พนักงานหลายต่อหลายคนสังเกตเห็นว่า เจ้านายสาวง้อและแจกขนมจีบเธออยู่ พยายามเอาใจอีกฝ่ายสารพัดเพื่อให้หายโกรธ คนอื่นจึงพากันซุบซิบ มีทั้งคนมองว่าน่ารัก และยังมีอีกจำนวนไม่น้อยที่คิดต่างมองแล้วขัดหูขัดตา

แฟนคลับหลายคนของร่างบางร้อนใจ หึงหวงจนควันออกหู มีคนใจกล้าอยากรู้ขนาดหนัก บุกมาหาหล่อนถึงห้องทำงานในบ่ายวันหนึ่ง

“มีอะไรเหรอ?” จันจิราถามคนงานสาวที่เจอหน้าอยู่บ่อยๆ แต่จำชื่อไม่ได้

“คุณจันคะ จริงหรือเปล่าคะ เรื่องที่คุณจัน เอ่อ กำลังดูใจกับใครบางคนอยู่?” คนงานสาวหน้าตาจิ้มลิ้มเอ่ยปากถามตรงๆ

รู้จากไหนมา?

ร่างบางขมวดคิ้วเรียวอย่างไม่สบอารมณ์นัก

“นั่นมันเรื่องส่วนตัวของฉัน ฉันจะคบกับใคร รักกับใคร ไม่ใช่ธุระของเธอเลยนะ กลับไปทำงานซะ” คนสวยพูดดุๆ “ถ้าไม่พอใจฉัน หรือไม่อยากทำงานที่นี่ ยื่นใบลาออกก็ได้นะ แล้วแต่เธอ”

คุณจันขาอย่าทำหน้าดุแบบนี้สิคะ ฉันไม่ได้อยากไปจากคุณ แค่อยากให้สนใจกันหน่อยก็เท่านั้นเอง

“ขะ ขอโทษค่ะ ขอตัวก่อนนะคะ”

คนงานสาวทำหน้าหงอย แต่ไม่วายส่งสายตาอาฆาตผู้ช่วยสาว แล้วออกจากห้องผู้จัดการด้วยความเร็วระดับพายุ

นี่ก็แฟนคลับอีกคน เสน่ห์เยอะเหลือเกิน เชอะ!

รสาตวัดสายตาคู่คมมองไปทางสาวร่างบาง แล้วก้มหน้าทำงานตรงหน้าต่อ

อย่าเข้าใจพี่ผิดนะคะ

จันจิราอดกังวลใจไม่ได้ ลุกไปหาเธอที่โต๊ะทำงาน แล้วรีบแก้ตัวพัลวัน

“น้องสาคะ พี่ไม่เกี่ยวนะคะ เธอมาเอง พี่ไม่เคยคิดอะไรด้วยเลยสักนิด”

ร้อนตัวล่ะสิ คนเจ้าชู้

สาวผมยาวแปลความหมายไปอีกทาง

“นั่นมันเรื่องของคุณค่ะ อยากโปรยเสน่ห์ไปทั่วก็แบบนี้ โดนซะบ้างก็ดีนะคะ” อีกคนต่อว่าเสียงเย็น

“โหย! พี่เปล่าทำอะไรแบบนั้นนะคะ เธอคิดไปเอง พี่สนใจแค่น้องสาคนเดียว เชื่อพี่สิคะ” เจ้านายสาวเว้าวอนสุ้มเสียงอ่อนหวาน ทำตาปรอยๆ ดูน่าสงสาร

รสาทำไม่รู้ไม่ชี้ แต่ว่าในใจมีความสุขอย่างบอกไม่ถูก ที่ได้ยินคำพูดอ้อนๆ ของอีกฝ่าย

คุณกำลังทำให้ฉันใจอ่อน แต่ฉันไม่รีบหรอกนะ อยากดูต่อไปอีกนานๆ ว่าคุณจะดีจริงหรือแค่ดีชั่วคราว

สาวหน้าแขกอยากรู้จักหล่อนให้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ แล้วค่อยมาตัดสินใจอีกที การเลือกคนรักจำเป็นต้องศึกษาอีกฝ่ายอย่างถี่ถ้วน จะได้ไม่เสียใจภายหลัง

ซึ่งสาวสวยก็เหมือนจะเข้าใจความคิดของรสา จึงไม่เร่งร้อนหรือบีบบังคับแต่อย่างใด แค่ยกมือสะกิดไหล่คนนั่งเบาๆ แบบอ้อนๆ

“น้องสาคะ”

“มีอะไรอีกคะ?” ร่างเล็กถามเสียงดุๆ ที่เจ้านายสาวตอแยกวนใจไม่ยอมเลิก

“เดี๋ยวพี่พาไปที่หนึ่ง รับรองว่าน้องสาต้องชอบแน่”

เธอทำหน้าสงสัย

“ไปไหนคะ?”

“ตามมาก็รู้เองค่ะ”

สาวสวยจูงมือผู้ช่วยสาวออกจากห้องทำงาน ขึ้นรถไฟฟ้าขับไปที่โรงเรือนแห่งหนึ่ง ซึ่งเป็นอาคารที่รสาไม่เคยเข้าไป

สุดยอด!

“สตอเบอรี่!” สาวร่างเล็กยิ้มกว้างเกลื่อนหน้า หัวเราะร่าเริงแบบเด็กๆ หลังเห็นต้นไม้ที่ตนชอบทานมากปลูกเต็มอาคารหลังนี้ โดยแบ่งปลูกเป็นแถวๆ ละเป็นร้อยต้น เกือบสิบแถว บางต้นมีลูกสีแดงสดน่าทานมาก “นี่นะเหรอความลับของคุณ?”

“ใช่ค่ะ ถ้าอยากทานก็เด็ดได้เลยนะคะ” หล่อนเอ่ยอนุญาต พร้อมส่งตะกร้าใบย่อมให้เธอรับไปถือ “พี่เพิ่งลองปลูกไม่นานค่ะ นี่เพิ่งออกลูกรุ่นที่สอง ลูกโตกว่าคราวก่อนหน่อยนึง”

เก่งชะมัดผู้หญิงคนนี้

นึกชมอีกคนในใจ

“ขอชิมหน่อยนะคะ” รสาเด็ดลูกโตสีแดงที่อยู่ใกล้ๆ ยกขึ้นจ่อปากจะกัด แต่สาวงามดึงมือไว้

“ถึงที่นี่จะปลูกด้วยปุ๋ยอินทรีย์ ไม่มีสารพิษ แต่ก็ไม่ถึงกับสะอาดซะทีเดียว น้องสาเด็ดให้พอทาน เอาไปล้างแล้วค่อยทานนะคะ” เจ้านายสาวอธิบายเสียงนุ่มนวล

สาวร่างเล็กผงกหัวเข้าใจ

“ก็ได้ค่ะ”

หลังเด็ดผลไม้ใส่ตะกร้าจนพอใจ นำไปล้างจนสะอาด ทั้งสองก็ไปนั่งรับประทานบนเสื่อที่มุมหนึ่งของสวนแห่งนั้น โดยมีคนงานสองสามคนมองดูอยู่ห่างๆ

...ดูแล้วไม่ต่างจากการปิคนิคนัก

“ลูกนี้หวานมาก” จันจิราเอ่ยขึ้น หลังกัดผลไม้ไปหนึ่งคำ

“อืม ลูกนี้ก็อร่อยค่ะ” รสาบอกขึ้นบ้าง

เธอชอบทานสตอเบอรี่มานานมาก แต่จำไม่ได้ว่า เริ่มชอบตั้งแต่เมื่อไหร่?

“ไหนพี่ขอชิมลูกนั้นบ้างสิคะ?” สาวสวยเอ่ยปากขอ แต่อีกคนทำหน้ายุ่งมองแบบแปลกๆ “แลกกันก็ได้ค่ะ”

“คุณนี่กี่ขวบแล้ว แลกของกิน ทำเป็นเด็กไปได้” ผู้ช่วยสาวส่ายหน้า ยกสตอเบอรี่ในมือขึ้นกัด เฉสายตามองไปรอบสวนอย่างมีความสุข

แต่หล่อนไม่ยอมแพ้ เขยิบหน้ามาใกล้ ดึงมือเธอจ่อปากตัวเอง แล้วกัดซ้ำรอยเดียวกัน...เหมือนจูบทางอ้อม

เชื่อเขาเลย!

รสาทำตาโต ชักมือกลับทันที

จูบตรงๆ ไม่ได้ อ้อมๆ ก็ยังดี

จันจิราเคี้ยวตุ้ยๆ พลางยิ้มเจ้าเล่ห์ไปด้วย สายตาจ้องไปยังเรียวปากรูปกระจับของเธอ เหมือนเป็นเป้าหมายที่อยากจะลิ้มลองนักหนา

“อร่อยค่ะ อร่อยมากๆ”

“กัดของฉันทำไมเนี่ย ของคุณก็มี” สาวหน้าแขกโวยวายแก้เก้อออกมา ใบหน้าแดงเข้มเขินอาย รู้สึกเหมือนโดนขโมยจูบ หัวใจสั่นระริกแทบจะกระโดดออกมาเต้นนอกเนื้อ

ร้ายกาจ!

สาวงามส่งสายตาพราวระยับให้ผู้ช่วยสาว

“ของน้องสาน่าอร่อยนี่คะ พี่เลยอยากชิม”

“คุณนี่ขี้โกงจริงๆ”

“เปล่าขี้โกงนะคะ ถ้าน้องสาอยากได้ของพี่แค่บอกค่ะ พี่พร้อมจะแบ่งให้ บริการป้อนด้วยก็ได้” น้ำเสียงหยอกยั่ว

“ไม่ต้องเลยค่ะ ฉันทานเองได้” รสาค้อนกับข้อเสนอประหลาดๆ นั้น แล้วนึกขึ้นมาได้ “คุณรู้ได้ไงว่าฉันชอบสตอเบอรี่มากคะ?”

“เราเคยนั่งทานด้วยกันแบบนี้นี่คะ...ตั้งหลายครั้ง” จันจิราเล่ายิ้มอ่อนโยน

“เหรอคะ” เธอทำหน้ายุ่งอีกรอบ แล้วเอ่ยเสียงอ่อย “ขอโทษทีที่ฉันจำเรื่องพวกนั้นไม่ได้เลยค่ะ”

“ไม่เป็นไรหรอกค่ะ น้องสาไม่ผิด” หล่อนส่ายหน้าน้อยๆ ยกแขนขึ้นโอบไหล่อีกคน “เรามารื้อฟื้นความสัมพันธ์กันใหม่ ดีไม่ดีครั้งนี้เราอาจพัฒนาความสัมพันธ์ให้ลึกซึ้งไปกว่าเดิมอีก”

“ลึกซึ้ง?” สาวร่างเล็กทำหน้าไม่เข้าใจ

“ใช่ค่ะ แบบว่าพัฒนาจากคนรู้จัก ไปเป็นคนรัก อะไรแบบนั้น-” คนงามพูดไม่ทันจบประโยค ก็ร้องลั่น “โอ๊ย” หลังโดนเล็บแหลมจิกเข้าที่ต้นแขนซึ่งโอบเธอ จนต้องรีบชักแขนออกอย่างเร็ว

“ในหัวคุณนี่คิดแต่อะไรแบบนั้นหรือไง ทะลึ่ง!” อีกคนต่อว่า แล้วหยิบผลไม้สีสดกัดอีกคำ

“พี่คิดกับน้องสาคนเดียวนี่คะ” จันจิราทำหน้าจ๋อยๆ

คนฟังขมวดคิ้ว แต่ไม่คิดอยากต่อปากต่อคำเรื่องนั้น

“ไม่ต้องพูดมากเลย ทานสตอเบอรี่ไปค่ะ”

“ถ้าไม่อยากให้พี่พูดมาก น้องสาก็ป้อนพี่สิคะ นะคะ” สาวงามส่งสายตาท้าทาย

อยากให้ป้อนใช่ไหม...ได้

รสาอดหมั่นไส้ไม่ได้ จึงหยิบผลไม้สีสวยขึ้น

“อ้าปากสิคะ กว้างๆ นะคะ”

จันจิรายิ้มพอใจ อ้าปากขึ้น แต่แล้วก็ต้องสำลัก เมื่อโดนผลไม้ลูกนั้นยัดปาก

ผู้ช่วยสาวหัวเราะร่วน แล้วแลบลิ้นให้อย่างสะใจ

“สมน้ำหน้า”

“ใจร้ายมาก” สาวสวยพึมพำ ไม่กล้าพูดอ้อนเธอไปหลายชั่วโมง

...แต่หล่อนมั่นใจแล้วว่า เวลานี้รสาหายโกรธตนแล้ว

OoXoO

ขอบคุณที่กรุณาติดตาม ขอบคุณสำหรับคอมเม้นท์ และทุกๆ หัวใจนะคะ ^^

ตอนนี้พี่จันพยายามง้อน้องสาเอามากๆ ถึงจะเจ็บตัวนิดหน่อย แต่นับว่าคุ้มค่าที่ง้อได้สำเร็จ ในตอนหน้าจะมีเรื่องเครียดๆ เข้ามา แต่จะเป็นเรื่องอะไรนั้น ต้องติดตามกันต่อค่ะ...เรื่องนี้อัพจบตอน 17 นะคะ 

ใครอยากอ่านฉบับเต็ม โหลดซื้อได้ที่ MEB ลิงค์ขวามือบนค่ะ

ไรท์ขอกล่าวสวัสดีปีใหม่ล่วงหน้า ขอให้ท่านนักอ่านมีความสุขมากๆ พบแต่เรื่องดีๆ ทำอะไรก็สำเร็จ สุขภาพแข็งแรงกันตลอดปีค่ะ

เจอกันปีหน้านะคะ 

นาง ^^

OoXoO




Create Date : 30 ธันวาคม 2562
Last Update : 30 ธันวาคม 2562 17:51:31 น. 0 comments
Counter : 770 Pageviews.

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

BlogGang Popular Award#20


 
นิ้วนาง-เดียนา
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 7 คน [?]




งานเขียนทั้งหมดใน blog นี้ สงวนลิขสิทธิ์ตามกฎหมาย พระราชบัญญัติ พ.ศ.2537 ห้ามนำไปพิมพ์ เผยแพร่ หรือลอกไปกระทำการใดๆ ก็ตาม หากผู้ใดกระทำการผิด เจ้าของ blog จะเอาผิดท่านตามกฏหมาย ได้ทุกกรณี


Friends' blogs
[Add นิ้วนาง-เดียนา's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.