ขอต้อนรับสู่โลกของนิยายยูริ เรื่องจากประสบการณ์ และทำนายดวงชะตา โดย นิ้วนาง-เดียนา-ลำดวนพยากรณ์
<<
กรกฏาคม 2561
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
293031 
 
25 กรกฏาคม 2561
 
 
ก็ว่าจะไม่รัก Just You บทที่ ๙ (Yuri)



ฉันมันก็แค่สาวเฉิ่มเชยจะมีอะไรคู่ควรกับคุณ...ฝันกลางวันแท้ๆ

กรองแก้วนึกตัดพ้อต่อว่าตัวเองอย่างน้อยอกน้อยใจไม่มีกระจิตกระใจจะกินข้าว ฝืนใจตักเข้าปากได้ไม่กี่คำก็วางช้อนส้อม

“ทำไมไม่กินน่ะ ข้าวยังเหลือตั้งเยอะ”ศักดิ์สิทธิ์อดถามขึ้นไม่ได้ ด้วยอีกฝ่ายเคยพูดบ่อยๆเวลาลูกค้าทานอาหารเหลือทิ้งเยอะ

“กินทิ้งกินขว้างแบบนี้สงสารชาวนาชะมัด”

เธอเคยว่าแต่เขา...ทว่าวันนี้สาวแว่นก็เป็นซะเอง

“ตื้นตันใจน่ะ อิ่มจนกินไม่ลงเลย”หญิงสาวตอบเสียงเคร่งขรึม

ที่แท้ก็คิดมากเรื่องนั้น

เขาเดาได้ทันทีว่า เพื่อนรักกังวลเรื่องอะไรอยู่...เรื่องรุ่นพี่สุธาสินี

“ใครจะว่าอย่างไร แกก็อย่าไปสนใจสิห้ามปากคนได้ที่ไหน”

สาวแว่นเข้าใจคำพูดของเพื่อนชาย ก่อนทอดถอนหายใจยาว

“ฉันรู้แต่ฉันไม่ได้เป็นผู้เสียหายคนเดียวนะ” เธอกังวลไม่อยากให้หล่อนพลอยชื่อเสียงด่างพร้อยไปด้วยต่างหาก

“ห่วงตัวเองก่อนเถอะ ฉันกลัวแต่ว่า แฟนคลับของพี่สุจะตามมาถลกหนังหัวแกมากกว่า”ศักดิ์สิทธิ์เตือนอย่างเป็นห่วง ไม่อยากจะคิดเลยว่าชีวิตจะตื่นเต้นเร้าใจขนาดไหนที่เป็นศัตรูกับนักศึกษาสาวเกินครึ่งของมหาวิทยาลัย...หากเลือกได้ หัวเด็ดตีนขาดเขาก็ไม่ทำเด็ดขาด กลัวตาย

กรองแก้วแค่นหัวเราะ มองเป็นเรื่องตลกร้ายมากกว่า

“ไม่ต้องห่วงหรอกเรื่องนั้น คุณเขาคงไม่ตาต่ำเลือกฉันอยู่แล้ว” 

ถึงฉันจะไม่สวยเหมือนดาวคณะแต่ฉันไม่ใจง่ายหรอกนะ

“ดูถูกตัวเองไปหรือเปล่า” เขาเอ่ยค้าน ไม่อยากได้ยินคำพูดดูถูกดูแคลนตัวเอง “ถ้าแกถอดแว่นแต่งหน้าแต่งตาหน่อย รับรองว่ามีคนมองแกจนเหลียวหลังแน่”

ในสายตาฉัน แกสวยไม่แพ้รัศมีแขเลยด้วยซ้ำ

ศักดิ์สิทธิ์คิดแบบนั้นมาตลอดแต่ไม่กล้าพูดออกไปดังๆ

หญิงสาวส่ายหน้าไม่เห็นด้วยกับความคิดของเพื่อนรักไม่อยากให้คนอื่นมาหลงใหลรูปลักษณ์ภายนอก ซึ่งเป็นสิ่งไม่จีรังยั่งยืนผ่านไปไม่นานก็เสื่อมโทรม

สาวแว่นอยากให้คนนั้นรักเธอ ที่เป็นเธอต่างหากเพียงแต่ไม่รู้ว่า เมื่อไหร่ถึงจะเจอคนผู้นั้น...ยากยิ่งกว่าถูกล็อตเตอรี่รางวัลที่หนึ่งเสียอีก

“ฉันอยู่แบบนี้ก็ดีอยู่แล้วทำไมต้องหาเหาหาเห็บใส่หัวด้วย”

“แกก็เป็นซะแบบนี้ แม่คนรักสงบ...ตายล่ะ”เพื่อนชายพูดประชด นึกเบื่อกับนิสัยดื้อรั้นเอาแต่ใจไม่เคยเปลี่ยน

สาวแว่นหัวเราะร่วน

“ฉันว่าแกขี้บ่นขึ้นเยอะเลยนะศักดิ์บ่นเก่งยิ่งกว่าพ่อฉันอีก”

เฮ้ย! ไม่ขนาดนั้นซะหน่อย

ชายหนุ่มส่งค้อนให้อีกฝ่าย

“ฉันไม่มีทางสู้อาเกริกได้หรอกนั่นท่านปรมาจารย์เลยนะ”

กรองแก้วหัวเราะเสียงดัง อารมณ์ที่ขุ่นมัวเบาบางลง

“รีบทานเลย เดี๋ยวเข้าเรียนไม่ทัน”

“ครับผม” เขาแกล้งพูดเสียงเข้มแข็งไม่ต่างจากทหารกล่าวกับผู้บังคับบัญชา

กวนประสาท

สาวร่างเล็กส่ายหน้า ยกแก้วน้ำขึ้นดื่มชำเลืองมองเพื่อนสมัยเด็กที่กำลังเคี้ยวตุ้ยๆ แข่งกับเวลา แล้วซ่อนยิ้มในหน้าเมื่อย้อนคิดถึงหลายเหตุการณ์ที่ผ่านมา ไม่ว่าจะดีหรือร้าย อีกคนมักจะอยู่เคียงข้างเธอเสมอจึงอดนึกซาบซึ้งขึ้นมาในใจ กับความสัมพันธ์ดีงามที่ตีมูลค่าไม่ได้

ขอบใจนะศักดิ์...ขอบใจที่ไม่เคยทิ้งกัน

ช่วงบ่าย สุธาสินีแทบไม่มีสมาธิกับการเรียนนักใจลอยไม่อยู่กับเนื้อกับตัว สมองเอาแต่คิดถึงเรื่องของกรองแก้วด้วยหวังว่าอีกฝ่ายจะยกโทษให้ และไม่เว้นระยะห่างไปมากกว่านี้ หล่อนไม่รู้ว่าจะง้อสาวแว่นอย่างไรเลยด้วยซ้ำคิดแล้วก็รู้สึกหนักใจ ด้วยปกติก็ไม่ใช่พวกง้อคนเก่งอยู่แล้ว มีแต่คนอื่นมาตามตื๊อมาง้อเสียมากกว่า

สาวร่างสูงขยับข้อมือมองเวลาเกือบจะทุกห้านาทีอย่างหงุดหงิด นึกอยากจะให้หมดชั่วโมงเรียนเร็วๆ

ทำไมวันนี้เวลามันเดินช้าชะมัด

พรรณรายสังเกตเห็นอาการผิดปกติของสุธาสินี ซึ่งปกติจะตั้งใจเรียนมากกว่าเพื่อนจึงกระซิบถามชายหนุ่มที่นั่งติดกัน

“ไอ้คุณสุมันเป็นอะไรของมัน?ดูวอกแวกมาก”

จะเรื่องอะไรล่ะ หุหุ

โชติโรจน์ยักไหล่ ยิ้มเจ้าเล่ห์ที่มุมปากก่อนหันไปกระซิบตอบ

“น้องแก้ว”

หา!

เธอทำหน้าตื่น จ้องหน้าเพื่อนเหมือนถามย้ำว่า ‘แน่ใจเหรอ

หนุ่มหล่อพยักหน้าน้อยๆ แทนคำตอบว่า ‘ใช่’ ก่อนหันกลับไปสนใจอาจารย์ผู้สอนต่อ

ทำไมสุต้องแคร์น้องแก้วขนาดนี้?

พรรณรายทำหน้าสับสนด้วยไม่คิดว่าเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อกลางวันเป็นเรื่องใหญ่โตอะไรนักเพราะไม่ใช่ความผิดของสาวสวยแม้แต่น้อย

สิ่งที่ทำให้แปลกใจมากกว่าก็คือหลังหมดชั่วโมงเรียน สุธาสินีเก็บของอย่างรวดเร็ว เหมือนมีธุระเร่งร้อน

“ฉันไปก่อนนะ พรรณ โรจน์”

“รีบไปไหนเหรอเพลย์เกิร์ลสาวถามอย่างอยากรู้อยากเห็น

“เอ่อฉันว่าฉันจะไปขอโทษน้องแก้วน่ะ แล้วก็ต้องไปว่ายน้ำต่อ” หล่อนตอบไม่เต็มเสียงนัก

“รีบไปเถอะ” รองประธานหนุ่มเอ่ยปากไล่

“พรุ่งนี้เจอกัน” สาวสวยโบกมือให้กับเพื่อนทั้งสอง หมุนตัวแล้วก้าวยาวๆ ออกจากห้องไป

จะรีบไปตามควายหรือไงฟ่ะ

พรรณรายอดคิดแบบนั้นไม่ได้ หลังเห็นภายในห้องเรียนไม่มีคนอื่นอยู่อีกนอกจากเราสองคน จึงถามเพื่อนชาย

“ตกลงไอ้สุมันคิดยังไงกับน้องแก้วกันแน่

“จะไปรู้เหรอ” เขาไม่คิดพูดอะไรจนกว่าจะแน่ใจกว่านี้ โดยแอบหวังว่า หล่อนสนใจเธอจริงๆไม่ใช่แค่เรื่องพนันขันต่อ

สาวเท่เม้มเรียวปาก หลังพบข้อชวนสงสัยมากมาย

“ฉันว่ามันแปลกๆ อยู่นะ”

“แปลกยังไง

“ก็ตั้งแต่โดนยายแขบอกเลิกไอ้สุมันไม่ซึมเลยน่ะสิ ไม่เหมือนคนอกหักสักนิด ทั้งๆ ที่คบกันตั้งนาน ไม่แปลกได้ไง”พรรณรายว่าตามที่สังเกตเห็น

“ก็แค่ทนคบรู้อยู่แล้วว่าต้องเลิกไม่ช้าก็เร็ว คงทำใจได้มั้ง” ชายหนุ่มตอบเสียงเยาะนิดๆ

เขารู้นานแล้วว่า สาวร่างสูงไม่มีความสุขในการคบหากับรัศมีแขเท่าไหร่บทสรุปไม่ต่างจากความสัมพันธ์ครั้งอื่นนัก เริ่มต้นหวานแหวว จากนั้นค่อยๆ จืดจางเหือดแห้งลงตามลำดับ

“มันก็จริง” เพลย์เกิร์ลพยักหน้าเห็นด้วยประกอบกับเคยได้ยินมาว่า รัศมีแขแอบนอกใจเพื่อนสนิทหลายครั้งแต่ไม่กล้าเล่าให้สุธาสินีฟัง แต่เชื่อว่าหล่อนคงพอรู้ เพียงแต่ไม่พูดออกมาตามนิสัยของคนแสนดี

‘คนดีกับคนโง่แยกยากเพราะต่างกันแค่เส้นบางๆ’ นักปราชญ์หลายคนเคยพูดเช่นนั้น หากเธอโดนสวมเขาแบบเพื่อนรัศมีแขคงได้รับผลตอบแทนอย่างสาสม ไม่ได้มาลอยหน้าลอยตาพูดฉอดๆ แบบนี้แน่

เป็นฉันหน่อยไม่ได้

“แล้วที่แกเห็น เรื่องน้องแก้วกับสุคืบหน้าไปถึงไหนแล้วล่ะ

โชติโรจน์ส่ายหัว

“ไม่ถึงไหนหรอก แค่ไม่ตีกันก็บุญแล้วคุยกันได้ดีๆ ไม่กี่คำ”

แย่กว่าที่คิด!

คนฟังทำหน้าไม่อยากเชื่อ ปกติสาวๆ อ่อนระทวยเป็นเทียนโดนไฟลนยามอยู่พูดคุยหรืออยู่ใกล้ชิดสุธาสินี ขนาดเธอเคยเสียความมั่นใจไปพักใหญ่หลังจีบสาวแพ้หล่อนมาแล้วหลายหน จนถึงกับเอ่ยปากว่า

“ห้ามแย่งคนเดียวกัน”

ซึ่งร่างสูงโปร่งก็รับปาก

“นึกไม่ถึงว่า ดูอ่อนๆแบบนี้จะเคี้ยวยาก”

ชายหนุ่มหัวเราะหึๆ

“ไม่ใช่แค่เคี้ยวยากธรรมดานะแกแต่คนเคี้ยวฟันจะหักด้วยน่ะสิ” ชายหนุ่มประเมินสถานการณ์ไม่ถูกว่าผลลัพธ์จะเป็นอย่างไร ได้แต่คอยลุ้นอยู่ห่างๆ “แต่แบบนี้ก็ดีแล้วล่ะสุจะได้มีอะไรทำ ชีวิตจะได้มีรสชาติ”

“มีรสชาติเกินล่ะสิไม่ว่า ลิ้นพองปากเจ่อแน่”

สองเกลอหัวเราะออกมาพร้อมๆ กันรู้สึกคิดถูกมากที่ท้าพนันให้หล่อนจีบกรองแก้ว

สุธาสินีตรงดิ่งไปยังห้องเรียนของน้องสาว ที่อยู่คนละอาคารซึ่งเลิกเรียนในเวลาเดียวกัน เพื่อพบกับกรองแก้ว ก่อนที่จะไปทำงานพิเศษ

หวังว่าคงจะทันนะ

แอบลุ้นในใจ ทว่าเมื่อไปถึงห้องเรียนโผล่หน้าเข้าไปมอง พบเพียงเสาวรสกับเพื่อนไม่กี่คนกำลังเก็บของ นึกเสียดายอย่างสุดซึ้งทั้งที่รีบเต็มที่จนเหงื่อแตกพลั่กเต็มหน้า

ไม่ทันเหรอเนี่ย แย่จัง!

“พี่สุมีอะไรหรือเปล่าคะเสาวรสถามพี่สาว ด้วยความแปลกใจ ที่เห็นพี่สาวปรากฏตัวในสภาพเหนื่อยหอบบ่งบอกว่าน่าจะมีธุระด่วน

“พี่มาหาน้องแก้วน่ะ”

“แก้วออกไปแล้วค่ะ”

“ไปไหนพอรู้ไหมน้ำเสียงกระวนกระวายใจไม่น้อย

“ไม่ทราบค่ะ” น้องสาวตอบตามตรงแล้วนึกอะไรขึ้นมาได้จึงพูดต่อ “เดี๋ยวเสาเขียนถามศักดิ์ให้แล้วกัน”

“ขอบใจนะ”

เสาวรสหยิบมือถือมากดเขียนหาเพื่อนชายด้วยติดต่อง่ายกว่ากรองแก้ว ที่ใช้มือถือล้าสมัยรุ่นพระเจ้าเหา ไม่นานชายหนุ่มก็เขียนตอบกลับมาเธอจึงเงยหน้าบอกคำตอบกับพี่สาว

“ศักดิ์ก็ไม่รู้เหมือนกันค่ะวันนี้วันหยุดของแก้ว”

“แย่จัง” หล่อนพึมพำออกมา“แล้วจะทำยังไงดี

มีเรื่องอะไรหรือเปล่าเนี่ย?

น้องสาวขมวดคิ้ว รับรู้ได้ถึงความผิดปกติของพี่สาว

“หนูกลับก่อนนะ สวัสดีค่ะพี่สุ”เพื่อนคนหนึ่งของน้องสาวเอ่ยลา

“สวัสดีค่ะ” สาวสวยทักทายตอบพร้อมยิ้มให้

หลังเก็บของเสร็จ เสาวรสกับพี่สาวเดินไปคุยไป จึงรู้เรื่องรัศมีแขอาละวาดกลางโรงอาหารเมื่อกลางวันเธอฟังแล้วส่ายหน้ากับพฤติกรรมของแฟนเก่าพี่สาว ที่พาลเกเรเสียจนแทบไม่เหลือความน่ารัก

เลิกไปแล้ว ยังมาทำเป็นหมาหวงก้างอีกน่าเบื่อจริงๆ

“พี่ควรจะทำยังไงดีเสา?” สุธาสินีไม่รู้จะหันหน้าไปพึ่งใครดี จึงปรึกษาน้องสาว

“พี่สุควรรีบปรับความเข้าใจกับแก้วโดยเร็วที่สุด”

“แล้วจะให้พี่พูดอะไรน้ำเสียงเต็มไปด้วยความลังเล

“พูดอะไรก็ได้ที่อยู่ในใจพี่สุพูดตามที่รู้สึกจริงๆ” เสาวรสแนะนำ

สาวร่างสูงเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย

“อะไรก็ได้

“ใช่ค่ะ แค่พี่สุเป็นตัวของตัวเองแสดงความจริงใจออกไป เสาเชื่อว่าแก้วต้องรับรู้ได้ค่ะ”เธอมั่นใจว่า สาวร่างเล็กไม่ใช่คนที่ไร้เหตุผล

“พี่จะลองดูแล้วกัน” สุธาสินีรับคำ ก่อนถามต่อ “เสารู้จักบ้านน้องแก้วไหม ร้อนใจอยากปรับความเข้าใจกับกรองแก้วโดยเร็ว

“แป๊บนะคะ ขอหาก่อน” น้องสาวหยิบมือถือมาหาข้อมูลแล้วกดส่งไปยังมือถือของพี่สาว

ติ๊ง!

เสียงสมาร์ทโฟนดังขึ้น หล่อนเปิดดูเป็นแผนที่ระบุตำแหน่งถนน และบ้านเลขที่ชัดเจน ยิ้มสวยออกมา แล้วเอ่ยขอบคุณอีกฝ่าย

“แท๊งกิ้วนะน้องรัก”

“ยินดีค่ะคุณพี่แล้วเจอกันที่บ้านนะคะ”

“โอเค”

สองพี่น้องแยกย้ายไปยังพาหนะของตน เสาวรสกลับบ้าน

ร่างสูงตั้งใจจะแวะไปบ้านกรองแก้วก่อน หล่อนรู้สึกตื่นเต้นขึ้นมากะทันหันที่ต้องไปหาเธอถึงบ้านซึ่งไม่รู้ว่า ตนจะโดนต่อว่าหรือเย็นชาใส่มากกว่าเดิม?...แค่คิดก็เหนื่อยใจไม่น้อย

“ขอโทษออกไปตรงๆ เลยแล้วกัน ไม่เห็นจะยากอะไรสุธาสินีทำได้อยู่แล้ว” พูดปลุกปลอบตัวเองแบบนั้น ก่อนขับรถออกไป

OoXoO

ขอบคุณที่กรุณาติดตาม

E-book โหลดซื้อได้ MEB ลิงค์ขวามือบน หนังสือสั่งจองได้ถึง 10 สิงหาคมค่ะ

นาง ^^

OoXoO




Create Date : 25 กรกฎาคม 2561
Last Update : 25 กรกฎาคม 2561 13:30:53 น. 0 comments
Counter : 599 Pageviews.

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 
 

นิ้วนาง-เดียนา
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 7 คน [?]




งานเขียนทั้งหมดใน blog นี้ สงวนลิขสิทธิ์ตามกฎหมาย พระราชบัญญัติ พ.ศ.2537 ห้ามนำไปพิมพ์ เผยแพร่ หรือลอกไปกระทำการใดๆ ก็ตาม หากผู้ใดกระทำการผิด เจ้าของ blog จะเอาผิดท่านตามกฏหมาย ได้ทุกกรณี


[Add นิ้วนาง-เดียนา's blog to your web]

 
pantip.com pantipmarket.com pantown.com
pantip.com pantipmarket.com pantown.com